บทที่ 3 ข้อตกลง
หลังจากพ้นร่างกำยำของลูคัสได้ไม่กี่นาที ยูกินะกวาดสายตามองรอบห้อง เพื่อต้องการหนีจากสถานการณ์ในตอนนี้ เธอจะไม่ยอมถูกขังเป็นรอบที่สองอีกเด็ดขาด
หญิงสาวแบกร่างไร้เรี่ยวแรงไปยังระเบียง ใบหน้างดงามก้มมองพื้นเบื้องล่างด้วยความรู้สึกหวาดเสียว
“สูงจัง” ถึงกระนั้นไม่ยอมแพ้เด็ดขาด เธอหมุนตัวกลับเข้าด้านในห้อง แล้วกระชากผ้าปูกับผ้าม่านพร้อมนำมาต่อกัน จากนั้นผูกกับราวเหล็กระเบียง
“เท่านี้ก็น่าจะพอแล้ว” นัยน์ตาคู่งามมองผลงานตัวเองพลางเผยยิ้มอ่อน จากนั้นหย่อนผ้าลงจากระเบียง เธอค่อย ๆ ไต่ลงข้างล่างอย่างระมัดระวัง
อีกมุมหนึ่งของคฤหาสน์ ลูคัสลงบันไดมายังชั้นล่างด้วยสีหน้าไม่สบอารมณ์ เหตุการณ์เมื่อสักครู่ทำเขาหัวเสียยิ่งนัก
“เป็นอะไรหรือเปล่าครับ ท่าทางไม่ค่อยดีเลย” เสียงของลูกน้องคนสนิททำมาเฟียหนุ่มหลุดจากภวังค์
“จะอะไรอีกล่ะ...” พูดไม่ทันจบประโยค เขานึกบางอย่างขึ้นได้จึงรีบวิ่งขึ้นบันไดไปยังชั้นบน ลีวายตามหลังเจ้านายหนุ่มไปติด ๆ
“หายไปไหน” ทันทีที่เปิดประตูเข้าไปก็พบกับความว่างเปล่า ที่ไร้ร่างของคนตัวเล็กจึงรีบยกเท้าใหญ่ไปยังระเบียง
“หยุดเดี๋ยวนี้นะยูกิ” เสียงทุ้มตะโกนบอกคนตัวเล็ก ที่วิ่งไปทางประตูรั้วขนาดใหญ่
“ผมจะรีบไปตามจับมาเดี๋ยวนี้เลย” คนรู้งานอย่างลีวายรีบผละออกจากห้องและมุ่งหน้าไปยังจุดหมาย
“แสบชะมัดยูกิ คอยดูนะฉันจะเอาคืนเธอให้สาสมที่สุด” เขากำมือหนาเข้าหากันแน่นอย่างโมโห ก่อนเดินออกจากห้องเพื่อลงไปยังชั้นล่าง เป็นจังหวะเดียวกันลีวายพายูกินะเข้ามาในห้องโถง
“ปล่อยนะ” หญิงสาวส่งเสียงร้องดังโวยวายลั่นห้อง ทั้งดิ้นสุดฤทธิ์เพื่อหวังให้หลุดพ้นจากการเกาะกุมของลีวาย
“เธอทำฉันไว้แสบมากนะยูกิ” เขาเดินไปหยุดตรงหน้าคนตัวเล็กพลางบีบปลายคางมนอย่างแรง
“ฉันเจ็บนะ”
“แค่นี้ไม่ตายหรอก” สายตาคมกริบจ้องมองเธอด้วยสายตาเหยียดหยาม
ครั้งหนึ่งเธอคือผู้หญิงที่เขารักมาก ทว่าตอนนี้มีเพียงความเกลียดชังที่จะมอบให้เธอเท่านั้น
“ฉันเกลียดคุณ” เน้นเสียงหนัก ๆ หวังให้คนตัวโตได้ยินเต็มสองรูหู
“ฉันยิ่งกว่าเกลียดเธอเสียอีก อยากจะฆ่าให้ตายด้วยซ้ำ”
“เอาเลยสิ! คุณอยากจะทำอะไรก็รีบทำเลย อย่าเอาแต่พูดอย่างเดียว” ยูกินะตะโกนบอกมาเฟียหนุ่มอย่างท้าทาย
คำพูดกับท่าทีของคนตัวเล็ก ส่งผลให้ลูคัสเดือดก่อนคว้าปืนจากลูกน้องที่อยู่บริเวณนั้นและนำมาจ่อศีรษะเธอ
“หุบปากซะ! ถ้าเธอยังอยากมีชีวิตรอด” ตะคอกใส่กรอบหน้างามดังสนั่น ทำคนอยู่ตรงนั้นต่างหวาดกลัวกับท่าทางของลูคัส ส่วนยูกินะข่มตาลงด้วยความรู้สึกปวดใจ พยายามบอกตัวเองไม่ให้สั่นไหว ต่อให้อีกคนคิดจะฆ่าเธอขึ้นมาจริง ๆ
“พาไปขังบนห้องซะ คราวนี้อย่าให้หนีอีกละกัน”
“ครับ” ลีวายรับคำสั่งเสร็จก็พายูกินะขึ้นไปบนห้องทันที
นัยน์ตาดำขลับมองตามหลังคนทั้งสองจนลับหาย ก่อนจะคืนปืนให้แก่ลูกน้องและเดินขึ้นบันไดไปชั้นบนเนื่องจากมีเรื่องจะคุยกับเธอ
“เรียบร้อยดีไหม” ชายหนุ่มเดินมาหยุดหน้าห้อง ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกันลีวายออกมาพอดี
“ครับ”
“ขอบใจมาก” ตบบ่าแกร่งอีกฝ่ายเบา ๆ และดันประตูเข้าด้านใน ซึ่งสภาพของเธอในตอนนี้ คือนั่งบนพื้นโดยข้อเท้าถูกล่ามโซ่ไว้กับขาเตียง
ยูกินะตวัดสายตามองคนมาใหม่ แล้วเบือนหน้าไปทางอื่น ราวกับไม่อยากสนใจเขา
“หมดฤทธิ์แล้วเหรอ” เอ่ยขึ้นอย่างเยาะเย้ยพลางก้าวเท้ามาหยุดตรงหน้าเธอ
“...” ไม่มีเสียงตอบกลับจากริมฝีปากอวบอิ่ม เธอทอดสายตามองวิวข้างนอกอย่างเหม่อลอย
“ไม่ได้ยินที่ฉันถามเหรอ” เขากดเธอนอนลงกับพื้นพรมและตรึงแขนเรียว
“ได้ยิน” เอ่ยบอกเสียงแผ่วเบา บัดนี้ในใจของเธอปวดร้าวเหลือเกิน ไม่สามารถอธิบายออกมาเป็นคำพูดได้เลยเหมือนมีก้อนจุกติดตรงลำคอ
“แล้วทำไมไม่ตอบ”
ใบหน้าหวานค่อย ๆ หันมาเผชิญหน้ากับเขา แววตาที่มองเขาช่างว่างเปล่าเหลือเกิน ซึ่งคาดเดาไม่ได้เลยเธอกำลังคิดอะไรอยู่
“คุณอยากจะฆ่าฉันก็ทำเลยสิ ฉันเองก็เหนื่อยเหมือนกัน”
“อย่ามาทำอาลัยตายอยากแบบนี้นะ คนที่ตั้งใจจะฆ่าคนอื่นแบบเธอ แค่นี้ยังเทียบไม่ได้กับสิ่งที่ฉันต้องเจ็บปวด”
เรื่องราวในอดีตผุดขึ้นในหัวของเขา ยิ่งทำให้แค้นเคืองต่อยูกินะมากขึ้นกว่าเดิม
“งั้นรีบฆ่าฉันเลยสิ” บางทีการตายสำหรับเธออาจจะเป็นทางออกที่ดีที่สุดก็ได้ พอคิดได้ดังนั้นก็รู้สึกโล่งอก
“เธออยากตายที่นี่จริงเหรอ แล้วคนที่เธอรักล่ะ”
ถ้อยคำของเขาทำให้หญิงสาวชะงัก ก่อนนึกถึงใบหน้าของมารดาที่ยังคงกำลังรอคอยเธอ
สีหน้าของคนตัวเล็กขณะนี้ เผลอทำลูคัสคิดไปว่าเธอกำลังคิดถึงชายอื่น นั่นเลยทำให้เขารู้สึกโกรธและโมโห
“ถ้าเธออยากกลับไปหาคนที่เธอรักมากขนาดนั้น ก็ยอมมาเป็นของเล่นฉันซะ แล้วฉันจะยอมไว้ชีวิตเธอ”
“พูดอะไรของคุณ” คนตัวเล็กเบิกตาโพลง คาดไม่ถึงอีกคนจะพ่นคำหยาบแบบนั้นออกมา
“ทำไม”
“รู้ตัวหรือเปล่าพูดอะไรออกมา”
“รู้สิ” เหยียดยิ้มพร้อมกับกวาดสายตามองตามเรือนร่างงดงาม เขาไม่สนสักนิดเธอจะรู้สึกยังไง นอกจากอยากย่ำยีอีกคนให้เจ็บช้ำเหมือนกับสิ่งที่เขาเคยเจอ
“คุณมันทุเรศที่สุด”
หลายปีที่ไม่ได้เจอกัน เขาเปลี่ยนไปมากทำเอาลืมไปเลยว่าในอดีตเขาเคยอ่อนโยน
ลูคัสโน้มหน้าคมคายเข้าใกล้เธอ ยูกินะเบิกตากว้างอย่างตกตะลึง อยู่ ๆ เขาแนบริมฝีปากหยักลงบนกลีบปากอวบอิ่ม ซึ่งเธอไม่ทันตั้งตัวสักนิด
“อื้อ” เธอพยายามจะเบือนหน้าหลบการจู่โจมของเขา แต่ทำไม่สำเร็จ เพราะเขาหลอกล่อด้วยจูบแสนหวาน ก่อนจะเปลี่ยนเป็นดิบเถื่อนและรุนแรง ไม่มีความปรานีแม้แต่น้อย
ชายหนุ่มกัดริมฝีปากนุ่มหนึ่งที และถอนจูบออกอย่างช้า ๆ จากนั้นกระซิบบอกข้างใบหูขาวสะอาด
“ผู้หญิงอย่างเธอมีดีก็แค่ร่างกายนี่แหละ”
“ลูคัส!!” หันขวับมองคนตัวโต เธอออกแรงผลักเขาพร้อมง้างมือจะฟาดแก้มสาก ลูคัสไหวตัวทันจึงคว้าข้อมือเล็กไว้
“อย่าคิดนะว่าฉันจะยอมให้เธอตบฉันเป็นครั้งที่สอง”
“ไอ้เลว!”
“หญิงร้ายกับชายเลว เธอว่าเหมาะสมดีไหม” เขารู้สึกสะใจเหลือเกินได้เห็นท่าทีไม่พอใจของอีกคน
“จำไว้...”
ชายหนุ่มไม่ปล่อยให้เธอพ่นประโยคใด เอื้อมมือขวาปิดปากนุ่มและยกมือซ้ายรั้งท้ายทอยเล็ก
“ถ้าอยากมีชีวิตรอดก็ยอมมาเป็นของเล่นฉันซะ”
“ถ้าฉันตอบว่าไม่ คุณจะทำอะไรฉัน” เธอแกะมือหนาออกและตอกกลับคนเหนือร่าง
“งั้นอย่าหวังว่าคืนนี้จะมีชีวิตรอด เพราะฉันไม่ปล่อยให้คนไร้ประโยชน์อยู่เฉย ๆ”
“ลูคัส” เธอกัดฟันเรียกชื่อเขาด้วยแววตาแข็งกร้าว
“คิดดี ๆ ล่ะยูกิ ยังไงร่างกายนี้ก็เป็นของเธอ แค่ยอมมาเป็นของเล่นฉันไม่นานหรอกดีกว่าต้องตายเปล่า ๆ”
ดวงตากลมโตชำเลืองมองหน้าคมคาย ก่อนจะคิดทบทวนกับถ้อยคำนั้นอย่างถี่ถ้วน
“ว่าไงยูกิ สรุปตกลงไหม”
“นานแค่ไหน” ถ้าเป็นหนทางเดียวที่จะสามารถมีชีวิตรอดและกลับไปหาแม่ได้ ก็ยอมทั้งนั้นเพราะไม่อาจทิ้งให้แม่โดดเดี่ยวตามลำพัง
“จนกว่าฉันจะเบื่อ” ประโยคสั้น ๆ ทำคนตัวเล็กเดือด
“มันไม่นานเกินไปเหรอ” เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงไม่สบอารมณ์
“พูดเหมือนกับว่าฉันหลงใหลในตัวเธอนักแหละ”
“แล้วมันไม่ใช่เหรอ” ถามขึ้นอย่างคนเหนือกว่า เธอมั่นใจว่าอีกคนยังคงหลงเหลือเยื่อใยต่อกัน ไม่อย่างนั้นคงไม่เสนออะไรแบบนี้ขึ้นมา
“ไม่ใช่!! ฟังนะยูกิ ฉันแค่อยากเล่นสนุกกับร่างกายเธอ อย่าคิดนะว่าฉันยังชอบเธออยู่ ความรู้สึกของฉันที่มีต่อเธอในตอนนี้เต็มไปด้วยความขยะแขยง ฉันแค่อยากเห็นเธอแตกสลายไปก็เท่านั้น”
“เข้าใจแล้ว” เธอรวบแรงทั้งหมดผลักเขาออกห่าง
“เตรียมตัวให้พร้อมละกัน แล้วอย่าคิดที่จะหนีอีกเด็ดขาดแผลฉันหายเมื่อไรเจอกัน” เขาพูดทิ้งท้ายไว้เท่านั้นและจากไปทันใด ทิ้งคนตัวเล็กมองตามหลังด้วยความรู้สึกสับสน
“แต่ฉันยังรักคุณเหมือนเดิมนะลูคัส” เสียงหวานเอ่ยขึ้นขณะมองไปที่ประตูซึ่งเพิ่งพ้นกายแกร่งได้ไม่กี่นาที
