บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 7 เจ้าสาวนอกหัวใจ

โรงแรมธีระ การ์เด้นท์ โรงแรมใหญ่ของตระกูลพัฒนไพบูลย์ บัดนี้คลาคล่ำไปด้วยแขกเหรื่อมากหน้าหลายตาที่มาร่วมงานแต่งบุตรชายคนเล็กของครอบครัว ธีรวัฒน์ พัฒนไพบูลย์ กับเจ้าสาวนิรนามซึ่งลือกันมาปากต่อปากว่าท้องก่อนแต่ง หรือคิดอยากจับเจ้านายหนุ่มของผู้ให้กำเนิดเพราะต้องการไต่เต้าในหน้าที่การงาน

“สวัสดีค่ะ” ภัทรสรเป็นฝ่ายกระพุ่มมือไหว้แขกที่เดินทางมาร่วมแสดงความยินดี ตลอดเวลาตั้งแต่งานเช้ามาจนถึงงานกินเลี้ยงตอนกลางคืน เจ้าบ่าวมีสีหน้าที่นิ่งขรึม ไม่แม้แต่จะมีรอยยิ้มผุดออกมา ร้อนจนพี่สาวต้องคอยมาสะกิดเตือนอยู่หลายครั้ง

“วิน ทำหน้าตาให้ดีๆ หน่อยสิ เดี๋ยวแขกในงานก็พากันนินทาเอาหรอก”

“เข้าใจแบบนั้นก็ดีแล้วครับพี่วีวี่ นี่ผมก็พยายามเต็มที่แล้ว” ธีรวัฒน์ตอบพี่สาว โดยไม่คิดจะหันมาชายตาแลคนข้างกายที่ได้ชื่อว่าเป็นเจ้าสาวของตัวเองสักนิด แม้วันนี้เธอจะอยู่ในชุดแต่งงานซึ่งงดงามราวกับเจ้าหญิง

“ไม่เอาน่าวิน” เวรุกาส่งเสียงปรามน้องชายเมื่อเหลือบไปเห็นวงหน้าสวยฉายแววเศร้าหมองกับคำพูดของผู้ชายที่ได้ชื่อว่าเป็นสามี

“ผมรู้แล้วครับพี่วีวี่ว่าต้องทำยังไง” ชายหนุ่มถอนหายใจ พยายามฉีกยิ้มออกมา แต่กลับเป็นรอยยิ้มที่ไม่น่ามองเลยสักนิด

“ยินดีด้วยนะคะวิน” เจ้าของร่างระหงในชุดราตรีสีแดงเพลิง ส่งยิ้มหวานมาแต่ไกลก่อนจะตรงเข้ามากล่าวคำทักทายด้วยถ้อยคำยินดี แม้จะเป็นแขกไม่ได้รับเชิญแต่เธอไม่แคร์ เพราะอยากเห็นหน้าผู้หญิงที่แย่งชิงของรักตนป

“ลูกพีช ผม...” ธีรวัฒน์พูดไม่ออก ได้แต่มองผู้หญิงตรงหน้าด้วยแววตาที่บ่งบอกว่าสุดแสนเสียดายแฟนสาวที่คบหามา

“เรายังเป็นเพื่อนกันได้ค่ะวิน” พิชญดาบอกกับ (อดีต)คนรัก ก่อนจะเบนสายตามายังหญิงสาวข้างกายแล้วฉีกยิ้มไปให้ ทว่านัยน์ตากลับไม่ได้ยิ้มตามไปด้วย “เจ้าสาวของวินสวยนะคะ”

“ลูกพีชเข้าไปในงานก่อนไหม” เจ้าของเสียงทุ้มพยายามตัดบทด้วยการเชิญให้เธอเข้าไปข้างใน เขาแคร์ความรู้สึกของเธอเกินกว่าจะให้มารับรู้เรื่องราวแบบนี้

“เดี๋ยวลูกพีชก็กลับแล้วค่ะ ขอคุยกับเจ้าสาวของวินแป๊บหนึ่งได้ไหมคะ”

“ผมว่า...” ธีรวัฒน์มีท่าทากระอักกระอ่วน จนกระทั่งแขกคนสำคัญแทรกขึ้นมาอีกครั้ง ดวงตาที่จับจ้องไปทางเจ้าสาวฉายแววแห่งความน่ากลัว ทว่าเธอกลับซ่อนมันไว้ได้เป็นอย่างดี “คงไม่รบกวนนะคะ ถ้าลูกพีชจะขอคุยกับคุณแนนเป็นการส่วนตัว”

“ได้ค่ะ” เจ้าสาวของงานตอบตกลงและเดินตามอีกฝ่ายมายังจุดปลอดคนซึ่งอยู่ทางด้านข้างลิฟต์ของโรงแรม ทันทีที่มาถึงพิชญดาก็มองหน้าเจ้าสาวคนสวยด้วยแววตาอาฆาต เธอต่างหากที่ควรจะเป็นฝ่ายยืนเคียงข้างเจ้าบ่าวในวันนี้ ไม่ใช่ผู้หญิงหน้าด้านตรงหน้า

“คุณลูกพีชมีอะไรจะคุยกับแนนเหรอคะ” คำถามมาพร้อมกับแววตาใสซื่อจนคนมองยิ่งมีอารมณ์โมโห

“แกจำเอาไว้นะ วินเป็นของฉัน แต่แกฉวยโอกาสแย่งไป แกมันหน้าด้าน” พิชญดาเปิดบทสนทนาด้วยน้ำเสียงเกรี้ยวกราด

“แนนทราบดีค่ะ” ภัทรสรตอบออกไปอย่างจริงใจ ทำไมเธอจะไม่รู้ว่าพ่อของลูกคบหาอยู่กับใคร ข่าวทางหน้าสังคมก็มีให้เห็นและเธอก็เข้าใจความรู้สึกลูกผู้หญิงด้วยกันดี

“วินไม่ได้รักแก วินรักฉัน แกได้ยินไหม”

“แนนทราบค่ะว่าคุณวินรักคุณ แต่ตอนนี้คนที่เขาแต่งงานด้วยคือแนนนะคะ” ในเมื่อเรื่องทุกอย่างมาถึงขนาดนี้ เธอจะขอปกป้องศักดิ์ศรีของตัวเองในฐานะแม่ของลูก

“ฉันเกลียดแกอีขี้ขโมย!” พิชญดาตะคอกเสียงดัง

“แนนขโมยใครมาไม่ได้หรอกค่ะคุณลูกพีช แนนขอตัวก่อนนะคะ” พูดจบร่างบางก็หันหลังกลับทันที เธอไม่เคยคิดจะแย่งใครมาเป็นของตัวเอง เพียงแต่สิ่งที่ผู้ใหญ่จัดการบานปลายมาจนเธอกลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้

“นังแนน...ถ้ามีแกต้องไม่มีฉัน!” คนถูกแย่งของรักมองตามแผ่นหลังบางไปด้วยความเคียดแค้นที่ฝังแน่นอยู่ในอก ให้รู้กันไปว่ามันจะทนได้สักกี่น้ำ

หลังจากงานเลี้ยงช่วงหัวค่ำเสร็จสิ้นมาถึงพิธีส่งตัวเจ้าบ่าว-เจ้าสาวเข้าห้องหอตามประเพณี ซึ่งสถานที่ที่ใช้เป็นเรือนหอคือบ้านของฝ่ายเจ้าบ่าว

“วิน ดูแลน้องดีๆ นะ แกแต่งงานมีครอบครัวแล้วอย่าใช้อารมณ์มากกว่าเหตุผล” ธีระตรงเข้าไปตบบ่าลูกชายพร้อมถ้อยคำฝากฝังตามประสาคนที่อาบน้ำร้อนมาก่อน

“ผมจะพยายามจำไว้ครับพ่อ” ธีรวัฒน์เริ่มอยากให้บรรยากาศน่าอึดอัดแบบนี้ผ่านไปเร็วๆ ว่าในงานยิ้มยากแล้ว มาเวลานี้เขาแทบจะไม่มีอารมณ์ยิ้มออกมาด้วยซ้ำ

“หนูแนนเองก็เหมือนกันนะ”

“ค่ะคุณลุง” สองมือเล็กกระพุ่มไหว้ชายสูงไหว้ตรงหน้าด้วยความนอบน้อม

“อย่าดื้อกับคุณวินนะแนน” ทันทีที่ผู้ให้กำเนิดพูดจบ ร่างบางก็โผเข้าไปหาอ้อมกอดของท่านแน่น อยากจะระบายทุกเรื่องราวให้ฟังถ้าทำได้

“แนนรักพ่อค่ะ พ่อมาเยี่ยมแนนบ้างนะคะ”

“ไม่เอาน่าแนน แกโตแล้วนะ แถมจะเป็นแม่คนแล้วด้วย ยังมาอ้อนพ่อเป็นเด็กๆ ไปได้” ประกิตหัวเราะขันๆ กับอาการออดอ้อนของบุตรสาว

“ดูแลพ่อด้วยนะนพ” ภัทรสรหันไปกำชับน้องชายที่ยืนอยู่ข้างบิดา

“ครับ พี่แนนไม่ต้องเป็นห่วง”

“นี่ร่ำลากันเสร็จหรือยัง ผมง่วงนอน” เจ้าบ่าวขัดขึ้นเมื่อเห็นหญิงสาวข้างกายเป็นลูกแหง่ติดพ่อ ฮึ! เด็กไม่รู้จักโต

“เอาล่ะ รีบไปนอนกันเถอะ” ธีระตัดบทในที่สุดเมื่อเห็นอาการของบุตรชาย ก่อนจะรีบพากันแยกย้ายลงไป ปล่อยให้เจ้าบ่าวและเจ้าสาวหมาดๆ ได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกันตามลำพัง

“ฉันมีเรื่องจะตกลงกับเธอ” ธีรวัฒน์พูดขึ้นหลังจากเห็นว่าร่างบางทำท่าจะเดินเลี่ยงเข้าไปในห้องน้ำ

“คุณวินมีเรื่องอะไรเหรอคะ?”

“ของทุกอย่างในห้องนี้ เธอห้ามยุ่งหรือห้ามแตะต้อง ถ้าฉันเห็นว่าเคลื่อนย้ายไปแม้แต่นิดเดียว ฉันไม่ปล่อยเธอไว้แน่” คนหวงของแบบไร้เหตุผลสั่งเสียงลอดไรฟัน ดวงตาคมฉายแววเอาเรื่องตลอดเวลา

“แนนทราบแล้วค่ะ” หญิงสาวถอนหายใจออกมา ตอบตกลงออกไปเพราะไม่อยากมีปัญหาอีก

“ทราบแล้วก็จำใส่สมองเอาไว้ด้วย”

ภัทรสรรีบเดินเข้าไปในห้องน้ำหลังจากชายผู้ได้ชื่อว่าเป็นสามีพูดจบ เธอไม่อยากยืนอยู่ให้เขาแผ่รังสีแห่งความเกลียดชังไปมากกว่านี้ พออาบน้ำเสร็จเรียบร้อยในระหว่างที่กำลังก้าวเท้าออกมาดวงตากลมก็เบิกกว้างขึ้นเมื่อเห็นร่างสูงใหญ่ยืนรออยู่ ดีที่เธอเอาเสื้อผ้าเข้าไปแต่งตัวข้างใน หญิงสาวรีบปรับสีหน้าให้เป็นปกติก่อนจะเดินไปนั่งลงบนเตียง กระทั่งสายตาเหลือบไปเห็นกรอบรูปถ่ายที่อยู่บริเวณหัวเตียง มือเล็กถือวิสาสะเอื้อมไปหยิบภาพนั้นขึ้นมาดู ภายในกรอบรูปดังกล่าวเป็นภาพสามีหมาดๆ ของเธอถ่ายคู่กับหญิงสาวคนรักเก่า ฝ่ายชายบรรจงหอมแก้มฝ่ายหญิงด้วยแววตาที่บ่งบอกว่ามีความสุขมากเพียงใด รอยยิ้มที่เธอไม่เคยได้เห็นแม้แต่วันนี้ซึ่งเป็นวันสำคัญ

“ทำอะไร? ฉันบอกแล้วใช่ไหมว่าไม่ให้แตะต้องของๆ ฉัน” เสียงตะคอกดังพร้อมกับใบหน้าถมึงทึงที่มองมา บ่งบอกให้รู้ว่าไม่พอใจที่เธอกำลังก้าวล้ำเส้นความเป็นส่วนตัวด้วยการหยิบภาพถ่ายระหว่างตนเองและแฟนสาวมาโดยไม่ได้รับอนุญาต

“คุณวินแต่งงานกับแนนแล้ว เก็บภาพรูปนี้ไว้ที่อื่นได้ไหมคะ” จะว่าตนเป็นผู้หญิงหน้าด้านก็ยอม แต่ใครเล่าจะทนเห็นภาพสามีตัวเองกับผู้หญิงคนอื่น เข้าใจดีว่าเป็นคนที่เขารัก แต่สำหรับเธอไม่ต่างกับมีดที่กรีดลงมากลางหัวใจ

“ฮึ! หน้าด้านเกินไปหรือเปล่าภัทรสร ลืมไปแล้วเหรอว่าฉันไม่ได้รักเธอ ที่ยอมแต่งด้วยเพราะถูกบีบบังคับ” ชายหนุ่มไม่สนหรอกว่าใครจะมองยังไง ในเมื่อนี่มันคือความรู้สึกจากก้นบึ้งของหัวใจ ไม่รักคือไม่รัก

“แนนไม่เคยลืมอยู่แล้วค่ะ แต่คุณวินเองควรจะให้เกียรติแนนไม่ใช่หรือคะ” หญิงสาวสวนกลับหป พยายามระงับอารมณ์และน้ำตาไม่ให้ไหลลงมาประจานความอ่อนแอต่อหน้าผู้ชายใจร้าย

“ส่งรูปนั้นมาให้ฉัน” ธีรวัฒน์คำรามเสียงต่ำ

นอกจากไม่ยอมคืนง่ายๆ ดวงตากลมยังจ้องกลับไปราวกับกำลังท้าทายในสายตาคนมอง มือหนาตั้งใจจะดึงกรอบรูปคืนมา ทว่ายังช้ากว่าอีกฝ่ายที่ขืนเอาไว้สุดแรง ไม่ยอมปล่อยง่ายๆ ตาประสาตาบ่งบอกให้รู้ว่าไม่มีใครยอมใครจนกระทั่ง...

เพล้ง!

เศษกระจกจากกรอบรูปที่กระจายอยู่บนพื้นก็ไม่เท่าแรงอารมณ์ที่ครุกรุ่นของธีรวัฒน์ เรือนร่างสูงใหญ่ย่างสามขุมเข้าหาภรรยานอกหัวใจด้วยดวงตาวาวโรจน์ มือหนาบีบลงไปบนไหล่กลมแน่น เธอกล้ามากที่ทำแบบนี้กับเขา

“ฉันเตือนเธอแล้วใช่ไหมว่าอย่ายุ่ง”

“แนนไม่ได้ตั้งใจค่ะคุณวิน แนนขอโทษ” ภัทรสรไม่ได้คิดจะทำแบบนี้จริงๆ รู้ดีว่าเขากำลังโกรธที่ทำของรักของหวงเสียหาย

“คำขอโทษของเธอมันทดแทนความรู้สึกฉันไม่ได้หรอก” นอกจากไม่รับคำขอโทษแล้วดวงตาคมเข้มยังจ้องกลับมาราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ

“ความรู้สึกของคุณกับความรู้สึกแนนไม่ต่างกันหรอกค่ะ แนนเป็นแม่ของลูกคุณไม่ใช่เหรอคะ คุณลูกพีชเธอเป็นอดีตไปแล้ว เป็นคนอื่นสำหรับคุณ” หญิงสาวตะโกนใส่หน้าสามีด้วยความเสียใจ ไม่รักกันเธอเข้าใจ แต่ทำไมต้องทำร้ายจิตใจซ้ำแล้วซ้ำเล่า หารู้ไม่ว่าคำพูดดังกล่าวทำให้คนฟังหมดความอดทนจนขาดสติถึงขนาดเงื้อมือขึ้นมากลางอากาศ

“คุณวินจะตบแนนเพราะไม่พอใจที่แนนว่าผู้หญิงที่คุณรักใช่ไหมคะ?” ภัทรสรหลับตาลง ถ้าผู้ชายตรงหน้ากล้าทำร้ายผู้หญิงที่อุ้มท้องเลือดเนื้อเชื้อไขของเขาได้ลงคอเธอก็จะยอม ยอมรับกับชะตากรรมอันน่าอดสูของตนเอง

“จำไว้ว่าอย่าปากดีกับฉัน” ร่างบางถูกผลักลงบนเตียงกว้างก่อนที่ร่างสูงใหญ่จะหุนหันออกไปจากห้อง ปล่อยให้ผู้หญิงที่ได้ชื่อว่าเป็นภรรยามองตามไปด้วยความเสียใจ นี่หรือวันแต่งงานและคืนเข้าหอ วันสำคัญที่สุดในชีวิตของลูกผู้หญิงซึ่งมีแต่น้ำตาและคำพูดที่เต็มไปด้วยความเกลียดชังจากผู้ชายที่ได้ว่าเป็น ‘สามี’

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel