บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 2 ผู้หญิงใจง่าย

“พี่แนน มากินข้าวด้วยกันสิครับ” ศิวะเอ่ยชวนหลังเห็นร่างบางกำลังเดินลงมาจากบันได ทันทีที่ชายสูงวัยเห็นหน้าบุตรสาวคนโตก็รีบลุกออกจากโต๊ะอาหารไปทันที เนื่องจากยังทำใจไม่ได้กับสิ่งที่เกิดขึ้น เพราะรักและตั้งความหวังกับลูกคนนี้ไว้มาก มากเสียจนกลายเป็นความผิดหวัง แต่ยังไงคนเป็นพ่อก็ไม่เคยเกลียดลูกได้ลงคอ เพียงแค่เวลานี้ยังโกรธและไม่พร้อมสนทนาด้วย

“พ่อคงเกลียดพี่มากเลยสินะนพ พี่มันเลวที่ทำให้พ่อต้องอายคนอื่น” ภัทรสรตัดพ้อด้วยความเสียใจไม่ต่างกันที่กลายเป็นตัวปัญหาของครอบครัว

“พี่แนนอย่าคิดมากนะครับ นพพร้อมรอคำตอบจากพี่แนนเสมอ นพไปทำงานก่อนนะครับ”

“ถ้าพี่พร้อมเมื่อไหร่ นพได้รู้แน่นอน พี่สัญญา” หญิงสาวส่งรอยยิ้มฝืนๆ ไปให้น้องชาย รู้สึกคิดไม่ตกกับชีวิตในวันข้างหน้าจนพาลนึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนั้น

เจ้าของร่างบางเดินตามผู้เป็นบิดาเข้ามาภายในคฤหาสน์หลังใหญ่ซึ่งปลูกบนเนื้อที่หลายไร่ ดูหรูหราและร่มรื่นเป็นธรรมชาติกลมกลืนกันอย่างลงตัว พอเดินเข้ามาถึงด้านในท่านก็พาเธอเข้ามายังหน้าห้องหนึ่งก่อนจะเคาะประตูและรอจนเจ้าของห้องอนุญาตให้เข้าไป ภาพที่ภัทรสรเห็นคือใบหน้าหล่อเหลาราวกับเทพบุตรนั่งรออยู่ก่อนแล้ว เธอยอมรับอย่างไม่อายว่าดวงตาคมเข้มที่จ้องมองมาทำให้รู้สึกประหม่าและเก้อเขินอยู่ในที

“คุณวินครับ ผมพายัยแนนมาทำความรู้จักครับ” ประกิตแนะนำลูกสาวให้เจ้านายหนุ่มได้รู้จัก ก่อนเจ้าตัวจะเข้าไปฝึกงานภายในบริษัทจากคำร้องขอของตน โดยไม่รู้เลยว่าอนาคตข้างหน้าจะมีอะไรเกิดขึ้น

“ไหนๆ ก็มาแล้ว ผมจะให้ลูกสาวคุณลองฝึกงานเล็กๆ น้อยๆ ก่อนแล้วกัน” ชายหนุ่มยิ้ม แต่เป็นรอยยิ้มที่ไม่น่ามองเอาเสียเลย มันเคลือบแฝงไปด้วยอะไรบางอย่าง

“ครับ...ถ้ามีอะไรผิดพลาด ผมยินดีให้คุณวินว่ากล่าวตักเตือนยัยแนนได้เลย” ชายสูงวัยถือโอกาสฝากฝังลูกสาวไปในตัวและไม่วายหันไปกำชับอีกครั้ง “เชื่อฟังคุณวินนะแนน พ่อมีธุระต้องไปทำต่อ” เพราะความไว้ใจทำให้ประกิตไม่นึกระแวงใดๆ ยอมปล่อยให้บุตรสาวอยู่ตามลำพังสองต่อสองกับผู้มีสถานะเป็นเจ้านายแต่อ่อนวัยกว่าหลายปี

“ค่ะพ่อ” ภัทรสรส่งยิ้มให้บิดาเป็นเครื่องยืนยันว่าจะไม่ทำให้ท่านต้องผิดหวัง

ภัทรสรยืนก้มหน้าหลบดวงตาคมที่มองมาอย่างเปิดเผย เธอพยายามทำเป็นไม่สนใจสายตาดังกล่าวนอกจากรอฟังคำสั่งเงียบๆ มือเล็กทั้งสองข้างประสานไว้ด้านหน้ากระโปรงทรงเอยาวพอดีเข่า ธีรวัฒน์ผุดรอยยิ้มบริเวณมุมปากเมื่อมองเห็นอีกฝ่ายสั่นราวกับลูกนกตัวน้อย

“มานี่สิแนน” ชายหนุ่มเรียกชื่อเล่นของเธอ

“ค่ะคุณวิน” เจ้าของชื่อขานรับแล้วเดินตรงไปหยุดยืนบริเวณใกล้ๆ

“ไหนลองพิมพ์งานให้ฉันหน่อย สักยี่สิบหน้า” พูดจบมือหนาก็เอื้อมไปหยิบเอกสารส่งให้แล้วเบนสายตาไปทางคอมพิวเตอร์แบบตั้งโต๊ะซึ่งอยู่ถัดไปอีกฝั่ง “เดี๋ยวเธอไปใช้คอมฯ เครื่องนั้นก็ได้”

“ได้ค่ะ” ภัทรสรพยักหน้ารับคำพร้อมกับเดินตรงไปทำหน้าที่ซึ่งได้รับมอบหมายอย่างเงียบๆ เป็นเวลาเกือบชั่วโมงที่คนทั้งคู่ต่างก็ตั้งใจทำหน้าที่ของตนเองโดยไม่ได้ปริปากสนทนากันแม้แต่ประโยคเดียว

“เสร็จแล้วค่ะ คุณวินจะให้แนนเซฟไว้ที่ไหนคะ?” เจ้าของร่างบางลุกขึ้นมาถามหลังพิมพ์งานเสร็จเรียบร้อย

“ส่งอีเมลมาให้ฉัน ขอบใจมาก” ธีรวัฒน์บอกอีเมลส่วนตัวให้หญิงสาวจัดการส่งมาให้ พร้อมๆ กันกับที่ร่างสูงใหญ่ลุกขึ้นไปยังโซฟาภายในห้องทำงาน ชายหนุ่มต้องการพักสายตาหลังจากนั่งอยู่บริเวณหน้าจอมานานหลายชั่วโมง

“ส่งเรียบร้อยค่ะ” หญิงสาวกล่าว พอหันไปก็พบว่าอีกฝ่ายเข้าสู่ห้วงนิทราไปเรียบร้อยแล้ว สองเท้าก้าวเข้าไปใกล้ๆ พร้อมกับนั่งลงข้างๆ มองใบหน้าหล่อเหลาด้วยแววตาชื่นชมอย่างเปิดเผย พอเห็นว่าอีกฝ่ายหลับสนิทจึงหยิบสมาร์ทโฟนออกมานั่งเล่นฆ่าเวลาจนเผลอหลับไปเช่นเดียวกัน เนื่องจากต้องตื่นแต่เช้าตามคำสั่งของบิดา

เกือบครึ่งชั่วโมงที่ภัทรสรรู้สึกได้ว่ามีมือหนากำลังลูบไล้อยู่บริเวณหัวไหล่กลมและกำลังจะลามมาถึงลำคอระหง เท่านั้นเจ้าของร่างบางจึงรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาด้วยอาการตกใจ

“คุณวิน” หญิงสาวหันไปเรียกชื่อคนที่กำลังใช้สายตามองมาด้วยความพิศวาสจนปิดไม่มิด

“ทำไม? เธอเองก็ชอบฉันไม่ใช่หรือไง”

“อะ...เอ่อ ไม่ใช่ค่ะ” คนถูกคุกคามปฏิเสธเสียงตะกุกตะกักไม่เป็นตัวเอง เธอยอมรับว่าผู้ชายตรงหน้าทั้งหล่อทั้งเก่งกระชากใจสาวๆ หลายคนให้ไปอยู่ในกำมือได้ไม่ยาก แต่การจู่โจมดังกล่าวก็เล่นเอาตั้งรับไม่ทัน

“อย่าปฏิเสธ ถ้าใจเราตรงกันจะรออะไร” สิ้นเสียงสองมือหนาก็รวบร่างบางเข้ามาในอ้อมกอดอย่างถือสิทธิ์

“คุณวิน อย่าค่ะ” มือเล็กดันแผงอกแข็งแกร่งราวกับกำแพงออก ริมฝีปากเปล่งวาจาปฏิเสธเสียงสั่น

“ไม่ปล่อย ฉันต้องการเธอ” นอกจากจะไม่ปล่อยง่ายๆ แล้ว ธีรวัฒน์ยังคงดื้อดึงและพยายามซุกไซ้ใบหน้าลงมายังซอกคอขาวเนียน ก่อนจะไล่ต่ำมายังทรวงอกอิ่มเกินตัว พอเห็นว่าเธอไม่ขัดขืนก็ยิ่งได้ใจ

“ปล่อยแนนนะคะคุณวิน” ภัทรสรสะดุ้งเฮือกเมื่อสัมผัสได้ว่าแผ่นหลังแตะลงบนโซฟานุ่ม

“อย่าทำเป็นไม่เคยไปหน่อยเลย สายตาเธอมันแสดงออกชัดเจนว่าชื่อชมฉันขนาดนี้” คนหลงตัวเองบอก มือยังคงวุ่นวายอยู่บนเรือนร่างนุ่มนิ่มไม่หยุด

“แนนชื่นชมคุณวินก็จริงอยู่ แต่แนนไม่ได้ต้องการให้คุณวินทำแบบนี้” เสียงหวานพยายามเกลี้ยกล่อมชายหนุ่มด้วยอาการหวาดกลัว

“สายไปแล้วคนสวย ตอนนี้อารมณ์ฉันมันเตลิดไปไกลแล้ว” เจ้าของเสียงทุ้มยังไม่ยอมปล่อยง่ายๆ มิหนำซ้ำยังใช้มือกระชากเสื้อเชิ้ตสีขาวบนร่างบางออกพรวดเดียวก่อนจะโยนมันทิ้งไปแบบไม่ไยดี ครู่ต่อมาบราเซียร์สีชมพูหวานก็ถูกปลดออกอย่างชำนาญจนปทุมถันทั้งสองข้างชูชันท้าทายสายตา

“อุ๊ย!” คนเสียเปรียบอุทานด้วยความตกใจ สองมือเล็กยกขึ้นมาบดบังสิ่งสวยงามด้วยความอายจนอีกฝ่ายนึกขำ

อื้อหือ นี่มันลูกส้มโอชัดๆ ธีรวัฒน์ครางฮืออยู่ในลำคอ

“ปิดทำไม ของสวยๆ งามๆ” สิ้นเสียงสองมือหนาก็จัดการรวบแขนเล็กทั้งสองข้างขึ้นไปเหนือศีรษะ บราเซียร์สีหวานถูกนำมาใช้เป็นพันธนาการไม่ให้หนีไปได้ง่ายๆ

ใบหน้าคร้ามคมก้มลงไปดูดดื่ม ฟ้อนเฟ้นปทุมถันทั้งสองข้างอย่างเมามัน ในขณะที่มืออีกข้างทำหน้าที่ปลดกระโปรงทรงเอสีดำลงมาตามปลีน่องสวยด้วยสายตาลามเลีย เมื่อเรือนร่างงามปรากฏแก่สายตา คนมองก็อดชื่นชมในใจไม่ได้ว่าเธอสวยเหลือเกิน สวยกว่าผู้หญิงทุกคนที่เคยเจอมาด้วยซ้ำ

“วันนี้ฉันจะร่วมรักกับเธอให้ถึงใจไปเลย” วาจาร้ายกาจถูกพ่นออกมาพร้อมกับผละไปปลดเปลื้องเสื้อผ้าของตนเองออกช้าๆ อย่างไม่รีบร้อน ไม่มีแม้แต่จุมพิตอ่อนโยนจะมอบให้ดั่งคนรักกัน

ภัทรสรใช้จังหวะดังกล่าวลุกพรวดขึ้น เตรียมตัวจะออกวิ่ง แต่สุดท้ายคนหื่นก็เหลือบมาเห็นแล้วตรงเข้าไปรวบร่างบางเอาไว้ได้ทัน

“ฤทธิ์เยอะนักนะ” ธีรวัฒน์คำรามเสียงต่ำ สายตาไม่ต่างไปจากหมาป่าที่กำลังสำรวจไปทั่วเรือนร่างของลูกแกะตัวน้อย

“อย่าทำอะไรแนนเลยนะคะ ถือว่าเห็นแก่พ่อแนน” คำอ้อนวอนหลุดออกมาจากริมฝีปากเล็กจนคนฟังแหงนหน้าหัวเราะราวกับเห็นเป็นเรื่องตลกเสียเต็มประดา

“พ่อเธอน่ะหรือ ฉันไม่สน ถ้าอยากได้อะไร ฉันต้องได้!” สิ้นเสียงคนเอาแต่ใจไม่ยอมปล่อยให้หญิงสาวใต้ร่างได้มีโอกาสอุทธรณ์ใดๆ อีก นอกจากจะดึงทึ้งปราการด่านสุดท้ายออกจากเรือนร่างงามราวรูปปั้นสลัก

“สวย” ธีรวัฒน์ชมเสียงพร่า แล้วก้มลงไปยังกลางร่างสาว จดจ่อใบหน้าอยู่บริเวณกลีบกุหลาบสีสด ปลายลิ้นอุ่นร้อนค่อยๆ แหวกไปยังกลุ่มเส้นไหมแล้วตวัดผ่านเข้าไปหารอยแยกท่ามกลางเสียงหวีดร้องและพยายามบิดกายออกห่าง

“อ๊ะ...คุณวิน”

“เธอจะคลั่งกว่านี้อีกแนนนี่ที่รัก” ชายหนุ่มยิ้มพอใจที่ทำให้อีกฝ่ายยอมสยบตนเองได้ จากนั้นนิ้วแกร่งก็กดคลึงลงไปบนจุดอ่อนจนเสียงหวานครวญครางออกมาไม่ขาดสาย

“คุณวินขา แนน...อ๊า”

“เธอชอบใช่ไหม ตอบ!” ให้มันรู้ไปว่าคนอย่างฉันจะทำให้เธอคลั่งไม่ได้

“ชะ...ชอบค่ะ” หญิงสาวหมดสิ้นความอาย ส่งเสียงตอบไปอย่างกระท่อนกระแท่นเพราะความเสียวซ่านที่กำลังก่อเกิด สองมือจิกลงไปบนเบาะโซฟาแน่นเพื่อระบายอารมณ์

ธีรวัฒน์อาศัยช่วงเวลานี้จดจ่อความแข็งขืนเข้าสู่เนินเนื้ออวบอูมเต็มแรง ก่อนใบหน้าหล่อเหลาจะเหยเกเมื่อพบกับหนทางอันแสนคับแน่นบวกกับเสียงหวีดร้องลั่นไปทั่วห้อง

“คะ...คุณวิน...แนนเจ็บ”

“อยู่นิ่งๆ แล้วฉันจะอ่อนโยนกับเธอ” เสียงทุ้มก้มลงมากระซิบบอก ให้ตายดิ้นเถอะ...มาถึงขนาดนี้แล้วเขาไม่มีทางหยุดมันง่ายๆ แน่

ริมฝีปากหยักโน้มลงมาจูบซับลงบนริมฝีปากเล็กเป็นการปลอบประโลมและช่วยให้เธอได้ลืมความเจ็บจากการเผชิญเซ็กซ์ในครั้งแรก เพียงชั่วครู่ชายหนุ่มก็จัดการฝังตัวตนเข้าไปพรวดเดียวจนร่างบางสะดุ้ง ส่งเสียงอู้อี้ประท้วงอยู่ในลำคอ รอจนเธอเริ่มปรับตัวได้จึงค่อยห่มสะโพกสอบเข้าหาช้าๆ แต่หนักแน่นก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นโหมเข้าใส่ด้วยความรุนแรง เร่าร้อน เสียงครางระงมของทั้งคู่บ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่ามีความสุขมากเพียงใด

“อ๊า...แน่นเหลือเกินแนนจ๋า” ธีรวัฒน์เรียกชื่อคนใต้ร่างเสียงหวาน พาเธอเข้าสู่วิมานหฤหรรษ์ ไม่ว่าตอนนี้เขาจะนำทางไปแห่งหนใดเธอก็ยินยอมพร้อมใจทั้งนั้น ขอแค่อย่าทิ้งกันไว้กลางทางเป็นพอ

สะโพกสอบห่มจังหวะในช่วงสุดท้ายรัวเร็ว เรือนร่างกำยำเริ่มกระตุกเกร็งพร้อมกับปลดปล่อยสายธารสีขาวขุ่นเข้าสู่ความนุ่มนิ่มคับแน่นจนหมดสิ้น ก่อนจะถอดถอนกายกอดร่างบางเอาไว้บนโซฟาที่คับแคบราวกับคู่รักที่รักกันมานานแสนนานมากกว่าคนที่เพิ่งเจอหน้ากันเป็นครั้งแรก

ไหล่กลมมนที่สั่นไหวด้วยแรงสะอื้นไห้ทำเอาธีรวัฒน์ส่งเสียงจิ๊ะจ๊ะในลำคอด้วยความขัดใจเมื่อเธอทำเหมือนจะเป็นจะตายที่ตกเป็นเมียเขา

“เธอจะร้องหาพระแสงอะไร หรือคิดจะเรียกร้องเงินจากฉัน”

“แนนไม่ได้คิดจะเรียกร้องอะไรค่ะ แต่ทำไมคุณต้องทำแบบนี้กับแนนด้วย” เธอต่อว่าอย่างเหลืออดที่เขาทำเหมือนตนเองเป็นฝ่ายผิด

“เราต่างก็มีความสุขด้วยกันทั้งคู่ หรือเธอจะเถียง”

“ความสุขกับผีน่ะสิคะ” ความเสียใจที่เกิดทำให้เสียงหวานตวาดออกไปทั้งน้ำตา เขาเป็นฝ่ายพรากพรหมจรรย์ของเธอไป หากมันเป็นความรักเธอจะไม่มีวันเสียใจสักนิด แต่นี่...เขาทำราวกับเธอเป็นเครื่องบำเรอความใคร่ พอเสร็จสมอารมณ์หมายก็ต่างคนต่างไป

“ถ้าเธอยังไม่เลิกปากดี อย่าหาว่าฉันไม่เตือน” ธีรวัฒน์คาดโทษด้วยน้ำเสียงจริงจัง

“คุณวินก็ดีแต่รังแกคนอ่อนแอกว่า”

“เธอมาติดกับฉันเอง อีกอย่างเธอก็ชอบฉันอยู่แล้วนี่” เขาไม่สนว่าใครจะมองว่าหลงตัวเอง มองปราดเดียวก็รู้แล้วว่าผู้หญิงในอ้อมกอดรู้สึกยังไงกับตน

“ทุเรศ! หลงตัวเอง” ภัทรสรก่นด่าออกไปอีกครั้ง เขาคงไม่มีทางรับผิดชอบในสิ่งที่เกิดขึ้น

“อ้อ...ไม่ต้องคิดจะจับฉันง่ายๆ ล่ะ เดี๋ยวแต่งตัวเสร็จแล้วเอาเงินไปซะ ถือเป็นค่าทำขวัญแล้วกัน” สิ้นเสียงผู้ชายใจร้ายทั้งคำพูดและการกระทำก็ลุกขึ้นเดินไปหยิบเช็คมาเขียนส่งให้หวังปิดปากในเรื่องดังกล่าว เธอเป็นแค่เหยื่อที่ผ่านเข้ามาในถนนโลกีย์ของเขา สิ่งใดที่ต้องการย่อมไม่มีทางหลุดมืออยู่แล้ว

“เลว คุณมันเลว อย่าหวังจะได้เจอกันอีกเลย” เสียงหวานบริภาษใส่หน้า ดวงตากลมจ้องมองด้วยอารมณ์ที่ทั้งโกรธทั้งเสียใจก่อนจะตัดสินใจลุกขึ้นแต่งตัว กลับออกจากคฤหาสน์หลังนั้นทันที ไม่แม้แต่จะสนใจเงินที่อีกฝ่ายเอามาฟาดหัว จบสิ้นกันทีผู้ชายสารเลว

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel