บทที่4.ต่อ

ห้องๆ นี้เชื่อมติดกับห้องนอนใหญ่ของบ้าน ซึ่งก็คือห้องของชายหนุ่ม ถัดไปนั้นจะเป็นห้องของน้องสาวของชาคริตที่เธอยังไม่เคยเห็นหน้า แต่รู้ว่าเธอชื่อ ชาครียา อายุ 19 ปี ตอนนี้กำลังเรียนอยู่ต่างประเทศ ทั้งห้องมีเพียงเสียงเพลงไทยเดิมบรรเลงโดยเครื่องดนตรีไทยพลิ้วไหวไพเราะจนรติมาแทบจะเคลิบเคลิ้มหลับไป ถ้าเสียงดังทรงอำนาจของชาคริตไม่ดังขึ้นเสียก่อน

“ฉันจะนอนแล้ว..” เขาพูดเรียบๆ แต่คนฟังนี่สิหัวใจเต้นกระหน่ำแทบทะลุออกมานอกอก แต่ก็พยายามใจแข็งจับมือหนานั้นให้เดินกลับไปยังห้องนอนและเขาก็เดินตามเธอไปโดยดี

“ความจริงแล้วฉันเดินกลับห้องเองได้”

“น้องมดรู้ค่ะ แต่ว่าให้น้องมดพาไปดีกว่านะคะ”

เธอกล่าวเบาๆ เมื่อพาเขาเดินมาล้างมือและทำธุระส่วนตัวในห้องน้ำ หญิงสาวบีบยาสีผันใส่หลอดให้เขาและยื่นแก้วน้ำให้เขาบ้วนปาก จากนั้นก็เช็ดหน้าเช็ดปากให้เขาอย่างอ่อนโยน จึงพาเขามานอนแล้วก็ห่มผ้าให้เป็นอันสิ้นสุดกระบวนการดูแลประติมากรหนุ่ม

“ฉันไม่ชอบห่มผ้านอน มันอัดอัด” เขาพูดเสียงห้วนๆ เหมือนเด็กเด็กเกเร แล้วรั้งผ้าห่มออกจากตัวและทำท่าว่าจะถอดกางเกงที่ตนสวมใส่อยู่

“เดี๋ยวๆ ค่ะ คุณชาคริตจะทำอะไรคะ”

“อ้าว ก็ฉันบอกแล้วไม่ใช่เหรอว่าฉันไม่ชอบใส่เสื้อผ้านอน ที่ฉันใส่กางเกงไปห้องปั้นก็เพราะฉันไปทำงาน แต่ตอนนี้ฉันจะนอนแล้ว เสื้อผ้ามันก็ไม่จำเป็น”

“ตะ แต่ น้องมด เอ่อ...” หญิงสาวอึกอักหน้าแดงก่ำ หากเขามองเห็น เขาก็คงจะเห็นว่าเธอไม่ได้แดงแค่ใบหน้าแต่เป็นแดงไปทั้งตัว

“หรือว่าเธอมีปัญหา...ฉันง่วงแล้ว ถึงแม้ฉันจะมองไม่เห็นแต่ฉันรู้ดีว่าตอนนี้มันจะเที่ยงคืนแล้ว”

มันก็จริงอย่างที่เขาว่า รติมามองดูนาฬิกาเรือนเล็กที่ผนังซึ่งดูแล้วมันก็คงเป็นอีกหนึ่งผลงานปั้นของเขาเป็นแน่ งานปูนปั้นนูนต่ำรูปนางฟ้าถือดวงแก้ว และภายในดวงแก้วนั้นก็เป็นนาฬิกาซึ่งบอกว่า อีกเพียง 5 นาทีก็จะเที่ยงคืนแล้ว...

“ผู้หญิงนี่เรื่องมาก งี่เง่าทุกคน” ชายหนุ่มตัดบทเสียเองแล้วตวัดผ้าห่มคลุมร่างแกร่งของตนอย่างไม่สบอารมณ์นัก ในขณะที่รติมาทำอะไรไม่ค่อยถูกเมื่อ คืนนี้เธอต้องนอนร่วมห้องกับเขา แม้ว่าเธอจะนอนบนฟูกนุ่ม อีกฟากหนึ่งของเตียงก็ตาม แต่การนอนร่วมห้องกับชายหนุ่มทั้งเนื้อทั้งตัวนั้น จะไม่ให้หวั่นไหวเลยก็ไม่ได้ แม้ว่าเขาจะมองไม่เห็นแต่เสน่ห์ของชาคริตนั้นไม่ได้มืดดับตามไปด้วย และมันก็สั่นคลอนหัวใจดวงน้อยของเธอให้หวั่นไหวได้ไม่ยาก...

“เอาล่ะน้องมด นอนได้แล้วนี่ก็จะเที่ยงคืนแล้ว เธอจะถ่างตาอยู่แบบนี้ก็ไม่มีประโยชน์หรอก...”

หญิงสาวบอกตัวเองก่อนจะพยายามหลับตาลงและบอกตัวเองให้หลับเสีย หลังจากที่นอนตะแคงกายมองดูร่างที่หลับใหลอยู่บนเตียงกว้างอย่างหวั่นระแวงจนหลับไปในที่สุด

ณ มุมหนึ่งของสถานเริงรมย์กลางเมืองท่องเที่ยวอันลือชื่อของนักท่องราตรีทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติแห่งหนึ่งบนเกาะอันงดงาม ในฟากฝั่งทะเลใต้ที่เต็มไปด้วยรีสอร์ตและโรงแรมหรูระดับห้าดาว ร่างสองร่างที่กำลังเริงรื่นอยู่ท่ามกลางนักท่องราตรีซึ่งเต้นรำกันอย่างสนุกสนานนั้น กำลังกอดเกี่ยวกันแนบสนิทชิดเชื้อแทบจะเป็นคนๆ เดียวกันทั้งยังกอดจูบกันโดยที่ไม่ได้สนใจใครรอบกายเลยแม้แต่นิดเดียว

“เรากลับขึ้นห้องกันดีกว่าไหมครับที่รัก” เดม่อน หนุ่มตาน้ำข้าวชาวฝรั่งเศสกระซิบเสียงพร่าชิดแก้มนวล ที่แต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางราคาแพงลิบอย่างหิวกระหายในรสสวาท ที่เขาคาดว่าจะได้รับจากเรือนร่างงดงามของหญิงสาวตรงหน้าที่เพิ่งจะพบกันวันนี้ไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา

“แหมจะดีเหรอคะ แล้วริต้าจะไว้ใจคุณได้แค่ไหนกัน”

พริมรตาเอ่ยเสียงพร่าเย้ายวนมือเรียวไม่หยุดลูบไล้อกกว้างที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อแข็งแรงที่เธอแสนจะตื่นเต้นเมื่อคิดว่าอีกไม่นานเธอจะได้ลูบไล้และทำมากกว่าลูบๆ คลำๆ ร่างกายอันแสนทรงเสน่ห์ของเขา

“ผมต่างหากที่ไม่อาจจะไว้ใจคุณ เพราะกลัวคุณไม่เลือกผม”

“แหม ขนาดนี้แล้วริต้าจะไม่เลือกคุณได้อย่างไรล่ะคะก็คุณช่างมีเสน่ห์น่าหลงใหลจนริต้ายอมคุณหมดใจขนาดนี้”

“ปากหวานจังที่รัก ผมอยากรู้จังว่าคุณจะหวานไปทั้งตัว เหมือนปากคุณรึเปล่า”

“ถ้าอยากรู้ว่าริต้าหวานไหมคุณก็ต้องชิมริต้า...ทั้งตัว แล้วล่ะคะ”

พริมรตากล่าวด้วยน้ำเสียงแสนจะเซ็กซี่ พลางชม้ายตามองเขาอย่างเชิญชวนเปิดเผย แล้วคนทั้งคู่ก็จับจูงกันออกมาจากผับอย่างรีบร้อนเมื่อสบโอกาสเหมาะ ที่จะสานต่อความสัมพันธ์ให้แนบชิดมากกว่าเดิม

เดม่อนไม่รอช้าชายหนุ่มกระชากชุดสวยออกจากร่างขาวนวลของพริมรตาอย่างรวดเร็วเมื่อทั้งสองเข้ามาอยู่ในห้องพักสุดหรู หญิงสาวหัวเราะอย่างถูกใจเมื่อสามารถยั่วยวนชายหนุ่มที่เธอพึงใจให้ลุ่มหลงในเสน่ห์ของตนได้ หญิงสาวแอ่นอกรับการฟอนเฟ้นของเขาอย่างเต็มใจ มือเรียวสอดเสยเรือนผมสีทองของเขาอย่างรัญจวน เมื่อชายหนุ่มดูดกลืนยอดทรวงสีน้ำตาลอมแดงที่ไหวระริกอยู่ตรงน้าอย่างหื่นหิว ลิ้นร้อนๆ ไล้เลียดูดดึงยอดอกสาวอย่างเมามันอีกมือ ก็บีบเคล้นทรวงอวบใหญ่อย่างถูกใจในขนาดที่เกินมาตรฐาน

“โอว เดม่อน คุณทำให้ริต้าคลั่ง อ๊า...”

“คุณก็เหมือนกันทีรัก สวยเหลือเกิน” เดม่อนตะลึงมองร่างขาวโพลนอวบอิ่มไปด้วยส่วนสัดเร้าใจของพริมรตาอย่างตื่นตะลึง นับได้ว่าเธอเป็นหญิงสาวอีกคนที่สวยถูกใจเขาและเขาก็หลงใหลเธอมากในตอนนี้ ชายหนุ่มเพล์บอยนักรักไม่รอช้าปลดเปลื้องเสื้อผ้าออกจากร่างแกร่งของตนอย่างเร่งรีบแล้วกระโจนเข้าหาร่างงามที่นอนระทวยมองเขาอย่างเชื้อเชิญ ชายหนุ่มบดจูบริมฝีปากระเรื่ออย่างเร่าร้อนและเธอก็ตอบสนองกลับมาร้อนแรงพอๆ กัน ริมฝีปากสาวไต่เลาะเล็มไปตามผิวกายแข็งแรงของชายหนุ่มอย่างช่ำชอง ดวงตางามเหลือบมองชายหนุ่มที่เธอผลักให้อยู่ใต้ร่างอย่างยั่วยวน เมื่อเธอเจอจุดหมายที่ค้นหาพริมรตาก็ยิ้มอย่างพอใจแล้วแลบลิ้นออกมาไล้เลียความแข็งแกร่งของชายชาตรีที่กอบกุมด้วยสองมือแทบไม่มิดอย่างหิวโหยส่งผลให้เดม่อนครางเสียงดัง มือหนาเอื้อมมากดศีรษะทุยสวยให้ขยับตามแรงอารมณ์ อีกข้างก็เอื้อมมาบีบเคล้นอกอวบอย่างเมามันพร้อมกับบดขยี้ปลายถันด้วยความซ่านกระสันในอารมณ์