บท
ตั้งค่า

บทที่3.

“เธอตัดสินใจได้ดีมาก รติมา..” น้ำเสียงนั้นฟังดูเย็นชาและเหยียดหยามนัก หากแต่รติมาก็ทำได้เพียงยืนนิ่งอยู่ตรงหน้าเขา

“แต่ฉันต้องการความมั่นใจว่าเธอพร้อมจะทำตามข้อตกลงจริงๆ เธอจะต้องจดทะเบียนสมรสกับฉัน คอยดูแลฉันอย่างใกล้ชิด สัญญาทั้งหมดระหว่างเรา ฉันเท่านั้นที่มีสิทธิ์ยกเลิกสัญญาหรือหย่าขาดจากเธอไม่ว่าฉันจะมองเห็นหรือไม่ก็ตาม”

“คือ แล้วดิฉันเอ่อ...” รติมาอยากจะถามเขาว่า แล้วเธอและเขาจะต้องอยู่ด้วยกันแบบสามีภรรยาจริงๆ หรือไม่

“เธอจะถามฉันว่า ฉันจะใช้สิทธิ์ของสามีด้วยรึเปล่าใช่ไหม หึหึ”

“...” รติมานิ่งอึ้งเมื่อเขาพูดเหมือนมานั่งอยู่ในใจเธอใบหน้านวลร้อนผ่าวด้วยความอับอาย

“ตามสัญญาฉันก็ระบุนี่ว่าฉันมีสิทธิ์ทุกอย่าง”

“แต่ว่า มัน...มันมากเกินไปน้องมดเสียเปรียบ...” หญิงสาวแย้งอย่างลืมตัว

ชาคริตยกยิ้มในใจ รติมาไม่ใช่คนหัวอ่อนอย่างที่คิด เธอคิดเป็นและรู้ว่าตนเองต้องเจอกับอะไร แต่เธอก็ยังจะยอมรับข้อเสนอของเขาแม้จะแย้งเขาอย่างเสียไม่ได้ก็ตาม เขาไม่เข้าใจเลยว่าหญิงสาวที่เขาไม่สามารถมองเห็นได้ว่ามีหน้าแบบไหนนั้น เธอกำลังคิดอะไรอยู่ ทำไมถึงได้ยอมสองแม่ลูกนั่นขนาดนี้ ซ้ำยังจะยอมทำสัญญากับเขาทั้งๆ ที่รู้ว่าตนเองเสียเปรียบ

“ทำไมน่ะเหรอ เพราะว่า ป้าของเธอเอาเงินจากฉันไปสิบล้าน ตอนที่ฉันเสนอให้ป้าเธอส่งลูกสาวมารับใช้ฉัน แล้วยังบอกให้ฉันสามารถทำอะไรกับเธอก็ได้ เพื่อไม่ให้เอาเงินสิบล้านคืน พอไหมเหตุผล”

“ไม่จริง ทำไมคุณป้าต้องทำแบบนั้นด้วย”

“ก็เพราะป้าเธอโลภมากอย่างไรล่ะ แล้วยังเห็นแก่ตัวมากๆ ด้วย ว่าไหม”

ชาคริตพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา ใบหน้าหล่อเหลานั้นเฉยสนิทไม่แสดงอารมณ์ใดๆ ออกมา แน่นอน เขารู้ว่าอย่างไรเสียเขาก็ได้เปรียบทั้งขึ้นทั้งล่อง คุณพริ้งหักหลังเขาด้วยการเอาเงินจากเขาไปสิบล้าน ซ้ำยังส่งคนอื่นมาแทนเพื่อให้ลูกสาวของตนพ้นความรับผิดชอบ ซึ่งความจริงแล้วเขาไม่จำเป็นต้องให้เงินคุณพริ้งก็ได้เพราะเขาเป็นฝ่ายเสียหาย เขาต่างหากควรจะได้ค่าเสียหายจากคุณพริ้งแต่คนอย่างชาคริตไม่ได้คิดแค่นั้น บริษัทออกแบบตกแต่งภายในของบิดารติมานั้นต่างหากที่เขาสนใจ บริษัทนั้นมั่นคงเพราะมีหุ้นส่วนที่จริงจังกับการทำงานและมีคนเก่งมีฝีมือบริหารจัดการ แม้ที่ผ่านมาคุณพริ้งจะไม่ได้ใส่ใจมันนัก แต่มันก็สร้างกำไรอย่างงามให้กับคุณพริ้ง แต่ช่วงหลังๆ มานี้มันเริ่มซวนเซเล็กน้อยและเขาก็ต้องการมัน และคนโลภอย่างคุณพริ้งก็ต้องตกลงยกมันให้เขาด้วยจำนวนเงินแค่สิบล้าน

“ในนั้นระบุด้วยไม่ใช่หรือว่าหากเธอตกลงตามข้อเสนอของฉัน บ้านอรุณวลัยก็จะกลับไปเป็นของเธอ”

“ค่ะ ดิฉันรู้ แต่ว่า ข้อที่บอกว่าคุณสามารถให้ฉันทำอะไรก็ตามใจคุณ ซึ่งข้อนี้มัน เอ่อ ฉัน...”

หญิงสาวอึกอัก ก็สัญญาข้อนี้มันทะแม่งๆ หากเขาต้องการให้เธอทำอะไรที่ไม่ดี เธอจะทำอย่างไร อย่างเช่น... หญิงสาวหน้าแดงขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ จะไม่ให้เธอคิดไปไกลได้อย่างไรล่ะ

“ไม่ต้องห่วง ฉันไม่ให้เธอทำอะไรที่ผิดศีลธรรมหรือไม่ดีแน่นอน เพียงแต่ตอนนี้ฉันยังคิดไม่ออก เอาไว้ฉันคิดออกฉันจะบอกเอง แล้วตกลงเธอจะเซ็นสัญญารึยัง ถ้าพร้อมแล้วก็เรียกคุณประเสริฐเข้ามา...”

ชาคริตตัดบทแล้วนั่งลงบนเก้าอี้ทำงานตัวใหญ่โดยไม่สนใจจะพูดกับเธออีก

รติมาถอนใจอย่างหนักอึ้ง สัญญาของเขานั้นไม่เท่าไหร่ แต่การจดทะเบียนสมรสกับเขานี่สิ มันแสนจะหนักใจนัก แต่ทะเบียนสมรสแลกกับบ้านและเงินอีกจำนวนหนึ่งที่ชาคริตระบุในสัญญานั้นมันก็ทำให้เธอต้องคิด ใช่ว่าเธออยากจะได้เงินหรือโลภมากอย่างคุณพริ้ง แต่เพราะมันหมายถึงชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของทุกคน รวมทั้งเธอยังได้บ้านซึ่งเป็นของเธอคืนมาเป็นของตนเองจริงๆ ...

เธอถูกเลี้ยงมาโดยแม่จิตตั้งแต่สามขวบซึ่งแม่จิตนั้นก็เสมือนแม่คนที่สองของเธอเลยก็ว่าได้ และยังมีคนรับใช้อีกสามคนที่ยังคงรักภักดีต่อบิดามารดาของเธอ แม้ว่าท่านทั้งสองจะจากโลกนี้ไปแล้วกว่าสิบปี แต่คนเหล่านั้นก็ช่วยเหลือดูแลเธอมาอย่างดี แม้เธอจะถูกกดขี่ข่มเหงจากสองแม่ลูกก็ตาม แต่พี่จู๊บแจงพี่จอย และพี่แสง ต่างก็คอยดูแลทายาให้เธอเสมอยามได้รับแผลฟกช้ำจากสองแม่ลูกเมื่อเธอทำอะไรไม่ถูกใจ ยามป่วยไข้แม่จิตก็คอยดูและป้อนยาป้อนน้ำไม่ต่างจากมารดา ที่คอยดูแลลูกน้อยโดยไม่นึกรังเกียจ ทั้งๆ ที่เธอได้เปลี่ยนสถานะจากลูกของผู้เป็นนาย เป็นเพียงคนอาศัยพวกเขาจะไม่ดูแลเธอก็สามารถทำได้ หากแต่พวกเขากลับปฏิบัติต่อเธอราวกับไข่ในหิน เธอจะปล่อยให้พวกเขาลำบากได้หรือ จะปล่อยให้บ้านหลังงามของเธอถูกขายทอดตลาดแล้วให้ผู้มีพระคุณของเธอต้องลำบากได้หรือ หญิงสาวถอนใจยอมรับสภาพความเป็นไปของตนอย่างจำนน...

“คุณชาคริตจะให้ดิฉันเริ่มงานวันนี้เลยหรือคะ” เธอถามตาโต มองคนตาบอดรูปหล่ออย่างกังขาเมื่อการจดทะเบียนสมรสต่อหน้าเจ้าหน้าที่จากสำนักงานเขตพื้นที่ สิ้นสุดลงอย่างเรียบง่าย รติมาก็เจอกับฤทธิ์เดชประติมากรหนุ่มหล่อทันที ใช่แล้ว.. สิ่งที่เธอจะต้องทำต่อไปนี้มันเป็นงานๆ หนึ่งซึ่งเธอจะต้องรับผิดชอบไปจนกว่าเขาจะมองเห็น แม้จะจดทะเบียนสมรสกันแต่เธอกับเขาก็มีสถานะเสมือนลูกจ้างกับนายจ้าง มิใช่สามีภรรยา

“ใช่ ทำไม หรือว่าเธอมีปัญหา ในสัญญาก็บอกอยู่แล้วว่า ฉันสามารถกำหนดวันเวลาที่จะให้เธอทำหน้าที่ของเธอได้ทุกเมื่อ และหากเธอมีปัญหาฉันสามารถยกเลิกสัญญาได้ทันที หรือว่าเธอไมได้อ่าน”

เสียงนั้นเพิ่มองศาความฉุนเฉียวมากขึ้นจนรติมาตัวสั่นเพราะอัดอั้นโกรธกรุ่นขึ้นมานิดๆ และเธอกลัว?

“เอ่อ คือ...” ตอนนี้รติมากลายเป็นคนติดอ่างสมองไม่สั่งการชั่วคราว ในวันนี้เธอรู้สึกว่าเธอไม่สามารถพูดจาได้คล่องแคล่วหรือคิดอะไรได้ดีเหมือนกับทุกๆ วันที่ผ่านมา ทั้งๆ ที่เธอนั้น เรื่องความคิดอ่านก็ไม่เป็นสองรองใคร

“เธอเป็นโรคติดอ่างเหรอ” นั่นไง เธอถูกเจ้านายหมาดๆ ว่าเข้าให้แล้ว

“ปละ เปล่าค่ะ เพียงแต่ดิฉันคิดว่า คุณจะให้เวลาฉันเริ่มงานพรุ่งนี้เสียอีก” เสียงหวานแผ่วพลิ้วเอ่ยเบาๆ

“แล้วตกลงเธอจะเอาอย่างไร จะเริ่มวันนี้ แล้วทุกอย่างเป็นไปตามสัญญา หรือจะเริ่มพรุ่งนี้แล้วทุกอย่างโมฆะ”

“คือ...”

“ฉันไม่ชอบผู้หญิงอย่างพวกเธอก็แบบนี้ล่ะ ทำเป็นอ่อนแอเปราะบางและชอบเรียกร้องความสนใจด้วยท่าทางอินโนเซ้นต์คิดอ่านเหมือนเด็กสามขวบ แต่จริงๆ แล้วร่าน แบให้ไม่เลือก”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel