บท
ตั้งค่า

บทที่3.จบตอน

“เธอกำลังทำอะไร รติมา”

เสียงห้าวๆ ดังขึ้นข้างหลังทำให้เธอตัวแข็งทื่อ ไม่กล้าหันกลับมามองด้วย กลัวว่าตนจะเจอร่างเปลือยเปล่าของเขาเพราะเธอเป็นคนที่เอาผ้าขนหนูเข้าไปในห้องน้ำเพียงผืนเดียว และเขาก็คงยังไม่มีเสื้อผ้าใส่เป็นแน่ เขาเดินมาหยุดข้างหลังเธอและใกล้เสียจนเธอได้กลิ่นสบู่หอมจากกายเขาและลมหายใจที่เป่ารดต้นคอระหง

“ว่าไง ฉันถามทำไมไม่ตอบ”

“คือ.. คือน้องมดกำลังหาเสื้อผ้าให้คุณชาคริตใส่นอนอยู่ค่ะ”

เธอตอบเบาๆ รู้สึกเกร็งขึ้นมาทันทีที่รับรู้ว่าเธอและเขาใกล้ชิดกันเพียงใด เมื่อร่างเย็นๆ เพราะเพิ่งอาบน้ำของเขาสัมผัสกับต้นแขนเนียนที่โผล่พ้นเสื้อยืดตัวสวย และคำตอบที่ได้นั้นก็ยิ่งทำให้เอออยากจะเป็นลม

“ฉันไม่ใส่เสื้อผ้านอน เธอต้องรู้ไว้ซะ”

“อะ อะไรนะคะ”

“ฉันคิดว่าฉันตอบชัดเจนแล้วนะ เอาล่ะช่วยทาแป้งฝุ่นให้ฉันทีอย่าช้า และอย่ามาทำให้อารมณ์ที่เริ่มจะดีของฉันมันเสียอีกครั้งเพราะเธอ”

เขาบอกเธอด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ใบหน้าก็ไม่แตกต่างกันหญิงสาวค่อยๆ หันมาก็รู้สึกโล่งใจเพราะอย่างน้อยเขาก็ยังคงใช้ผ้าขนหนูผืนโตพันรอบเอวสอบอยู่ ทำให้เธอไม่ต้องกังวลว่าจะเจออะไรต่อมิอะไรของเขา รติมาเอาผ้าขนหนูเนื้อนุ่มซับตามตัวใหญ่โตของคนเจ้าอารมณ์จนแห้งด้วยหัวใจหวิวระรัว

มือบางสั่นระริกขณะโรยแป้งฝุ่นลงบนมือและค่อยๆ ลูบเนื้อแป้งฝุ่นเนียนละเอียดลงบนผิวเนื้อแกร่งสีอำพันงดงาม และมันเป็นความรู้ใหม่ของเธอว่าเขาก็ใช้แป้งฝุ่นสำหรับเด็กเหมือนกัน และที่สำคัญชาคริตใช้แป้งเด็กยี่ห้อเดียวกับเธอสีด้วย กลิ่นหอมอ่อนๆ เหมือนผลเบอร์รี่นั้นช่วยให้รติมาผ่อนคลายลงได้บ้าง ทำให้เธอไม่เกร็งเกินไปตอนที่ลูบไล้เนื้อแป้งฝุ่นลงบนแผ่นอกที่มัดๆ และแผ่นหลังกว้าง

“เสร็จแล้วค่ะ” เธอเอ่ยเบาๆ พลางถอยห่างเขาไปราวหนึ่งช่วงแขนเหมือนกับกลัวว่าเขาจะทำอะไรเธอกระนั้น และแอบพ่นลมหายใจเบาๆ อย่างโล่งอกที่งานชิ้นนี้ของเธอสำเร็จลงด้วยดี...

“ฉันหิวแล้ว...” ชาคริตบอกเธอเมื่อยอมสวมกางเกงขาก๊วยเนื้อนุ่มซึ่งเธอหาเพิ่งหาเจอ ร่างสูงเดินตัวตรงไปยังโต๊ะตัวเล็กริมระเบียงกว้าง ซึ่งสามารถมองเห็นบริเวณสวนสวยที่ตกแต่งไว้อย่างงดงามราวสวนสวรรค์ได้เกือบทั้งหมด และส่วนประกอบที่ใช้ตกแต่งสวนนั้นก็มีทั้งงานศิลปะงานหินทรายกับงานกระเบื้องดินเผาเป็นหลัก หญิงสาวมองนางอัปสรที่ถือคนโทซึ่งมีน้ำพวยพุ่งลงสู่สระว่ายน้ำใสแจ๋วกลางสวนด้วยความชื่นชม นางอัปสรนั้นงามนัก อีกทั้งตุ๊กตาน่ารักๆ ซึ่งวางประดับตามโคนต้นไม้นั้นด้วยก็น่ารักน่าชังเสียจริง ซึ่งเธอรู้มาว่าเขากับน้องสาวเป็นคนออกแบบและตกแต่งกันเอง

รติมาจัดแจงยกอาหารซึ่งแม่บ้านนำมาให้ตามเวลาที่ชาคริตตั้งกฎเกณฑ์ไว้พอดิบพอดี แล้วจัดแจงให้เขานั่งพร้อมทั้งรินน้ำไว้คอยท่า ชายหนุ่มนั่งรับประทานอาหารเงียบๆ ทั้งที่ยังคงนุ่งเพียงกางเกงขาก๊วยตัวเดียวแล้วเขาก็ยังทำตัวปรกติอีกด้วย รติมาเสียอีกที่หน้าร้อนผ่าว หน้าแดงแล้วแดงอีกอยู่อย่างนั้น

“นั่งลงสิ จะยืนอยู่ทำไม” จู่ๆ เขาก็เอ่ยขึ้น ทำให้คนที่มันขัดเขินอยู่ในภวังค์สะดุ้งเฮือกเพราะตื่นตกใจ

“คือ...น้องมด”

“ฉันไม่ชอบคนพูดติดอ่าง และไม่ชอบพูดอะไรซ้ำซาก ฉันบอกให้ทำอะไรก็ทำตามนั้นอย่าขัดแล้วก็เลิกทำตัวเหมือนมดขี้ตื่นเสียที น่ารำคาญ...”

“ตะ แต่ว่า น้องมด”

“นั่งลงแล้วทานข้าวเสีย หรือว่าเธอรังเกียจที่จะนั่งกินข้าวกับคนตาบอดอย่างฉัน” ชาคริตพูดเสียงดังเต็มไปด้วยอารมณ์ที่เริ่มจะเกรี้ยวกราด

“เปล่าๆ นะคะ น้องมดแค่กลัวว่ามันจะไม่เหมาะสม คุณเป็นเจ้านายน้องมดจะนั่งทานข้าวร่วมโต๊ะก็กระไรอยู่”

“แต่นี่คือคำสั่ง และต่อไปนี้เธอต้องกินข้าวเป็นเพื่อนฉันทุกๆ มื้อ ห้ามขัดและห้ามไปกินข้าวกับคนอื่นหากฉันไม่อนุญาต อย่าลืมว่าเราจะทะเบียนสมรสกันแล้ว เธอไม่ใช่แค่ลูกจ้างเข้าใจไหม”

“เข้าใจค่ะ...” หญิงสาวรับคำเสียงค่อนข้างเบาแล้วนั่งลงตรงข้ามกับเขา และมันก็เหมาะเจาะเหลือเกินที่มีเก้าอี้สองตัวพอดี รติมาตักข้าวใส่จานและนั่งรับประทานอาหารมื้อแรกในบ้านประติมาไพบูลย์ด้วยความอึดอัดเล็กน้อย หากเขาจะใส่เสื้อผ้าบ้างเธอก็คงไม่รู้สึกแบบนี้หรอก รติมาแอบบ่นในใจขณะตักข้าวใส่ปาก ทั้งสองนั่งรับประทานอาหารเย็นด้วยกันไปเงียบๆ ไม่มีเสียงพูดคุยมีเพียงเสียงช้อนกระทบจานเบาๆ ในตอนนี้เองรติมาก็ได้รู้ว่าเธอนั้นหิวเพียงใด เพราะอาหารตรงหน้านั้นหมดเกลี้ยงภายในเวลาไม่นาน และดูเหมือนชาคริตเองก็รับประทานข้าวจนเกลี้ยงจานเช่นเดียวกัน

“ขอบใจ...”

“คะ ขอบใจน้องมดทำไมคะ” เธอถามเขาขณะลุกเก็บจาน

“ก็ขอบใจที่นั่งกินข้าวเป็นเพื่อนฉัน”

“อ๋อ ค่ะ ไม่เป็นไรน้องมดยินดีค่ะ”

“ถ้าอย่างนั้นลืมซะว่าฉันพูดมัน ไปทำหน้าที่ของเธอให้เรียบร้อยแล้วก็เตรียมที่หลับที่นอนเสีย แล้วก็อย่ากวนใจฉัน”

เขาพูดสั้นๆ เมื่อรับประทานอาหารเรียบร้อยแล้วก่อนเขาจะเดินไปอีกห้องหนึ่งซึ่งเชื่อมต่อกันด้วย ไม้เท้าขาว อย่างคล่องแคล่วแล้วปิดประตูใส่หน้าเธอเสียงดังเป็นการตัดบทสนทนา และย้ำว่า ห้ามรบกวน... ( ไม้เท้าขาว คือ ไม้เท้าซึ่งเป็นสัญลักษณ์สากลของคนตาบอด หมายความว่า เมื่อเราเห็นบุคคลใดที่ใช้ไม้เท้าขาวเดินอยู่ไม่ว่าที่ไหน เมื่อไหร่ก็ตาม เราจะทราบได้ทันทีว่าบุคคลผู้นั้นเป็นคนตาบอด ไม้เท้าขาวมีหลายชนิด และทำจากวัสดุที่แตกต่างกัน ไม้เท้าที่ดีควรมีน้ำหนักเบา แข็งแรง และมีความยืดหยุ่น เมื่อโค้งหรืองอขณะใช้แล้วคืนรูปเอง ความยาวของไม้เท้าจะไม่เท่ากัน จะยาวเท่าไรขึ้นอยู่กับผู้ใช้ว่าสูงเท่าไร ก้าวยาวหรือสั้น และช่วงไหล่กว้างหรือแคบ แต่ขนาดมาตรฐานที่ใช้ทั่วไป คือ ควรสูงจากพื้นถึงลิ้นปี่ของผู้ใช้)

“เฮ้อ เอาใจยากจริงๆ แล้วทีนี้จะทำไงต่อไปล่ะน้องมด เธอจะอดทนได้แค่ไหน แล้วคืนนี้จะเป็นอย่างไรหนอ...” หญิงสาวพึมพำกับตัวเอง

รติมาเดินมาหาแม่จิตที่อยู่เรือนคนรับใช้ซึ่งไม่ไกลจากตึกใหญ่นัก และเมื่อบรรดาคนรับใช้ในบ้านเห็นเธอเต็มๆ ตาต่างก็พากันมองเธอด้วยความทึ่ง ชื่นชมในความสวยน่ารักของหญิงสาวซึ่งส่งยิ้มผูกมิตรมาให้ บางคนคลางแคลงสงสัยในตัวเธอและบางคนก็ไม่ชอบหน้าเธอ โดยเฉพาะคนรับใช้ที่ชื่อ กุ๊บกิ๊บ รูปร่างอ้วนท้วนเทอะทะ ผมหยิกหย็องตัวดำ

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel