บทที่ 3 ภพ(พบ)เจอ
3 | ภพ(พบ)เจอ
"คุณหนูแน่ใจนะครับว่าจะไม่ให้ผมรอจนคลับปิด" เสียงเข้มของคนขับรถวัยกลางคนเอ่ยพรางมองรอบๆ คลับที่ตอนนี้เต็มไปด้วยผู้คนมากมาย
"แน่ใจค่ะลุงเอก ลุงเอกกลับได้เลยค่ะไวน์ขออนุญาตจากคุณแม่แล้วไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ" หญิงสาวเอ่ยด้วยรอยยิ้มหลังจากที่เดินเข้ามาด้านในคลับโดยมีคนรถเดินตามมาด้วยเนื่องจากได้รับคำสั่งของผู้เป็นนายว่าให้ตามเข้ามาส่งถึงด้านใน ซ้ำยังกำชับเป็นอย่างดีว่าให้ช่วยสอดส่องคนที่ไม่น่าไว้วางใจกับลูกสาวของตนอีกด้วย
"แต่คุณหญิงสั่งมาว่าให้ผมตามมาส่งคุณหนูถึงด้านในนะครับ แล้วนี่เพื่อนๆ ของคุณหนูอยู่ไหนล่ะครับ"
"อืม...เดี๋ยวไวน์ขอโทรหาเพื่อนก่อนนะคะ" มือเล็กหยิบโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋าแต่ทว่าไม่ทันที่เธอจะได้กดโทรเพื่อนสนิทที่กำลังนึกถึงก็เดินเข้ามาหาเธอพอดี
"ไวน์ มาแล้วเหรอ"
"ฉันกำลังจะโทรหาเธอพอดีเลย"
"สวัสดีค่ะลุงเอก นี่ลุงเอกมาส่งคุณหนูไวน์ถึงด้านในเลยเหรอคะเนี่ย" วาโยเอ่ยทักทายด้วยรอยยิ้ม เธอเคยพบเจอกับคนขับรถของไวน์อยู่บ่อยๆ เวลาที่เธอมักจะชวนเธอไปดูหนังตอนเลิกเรียนช่วงเย็น
"คุณหญิงท่านเป็นห่วงน่ะครับเลยให้ผมตามเข้ามาส่ง"
"เพื่อนไวน์มาแล้วค่ะ ลุงเอกกลับได้เลยนะคะ แล้วก็ฝากบอกคุณแม่ด้วยว่าไม่ต้องเป็นห่วง"
"ใช่ค่ะลุงเอก ไม่ต้องเป็นห่วงคุณหนูไวน์เลยนะคะ เพราะโยจะดูแลให้เอง"
"ครับๆ ถ้าอย่างนั้นผมขอตัวก่อนนะครับคุณหนู"
"ขับรถดีๆ นะคะลุงเอก" เสียงเล็กเอ่ยก่อนที่ชายวัยกลางคนจะเดินออกจากคลับไปในที่สุด
สายตาของวาโยหรี่มองเพื่อนสนิทและจับไหล่มนหมุนดูการแต่งตัวของเธออย่างพิจารณา
"หืม ชุดแซบอย่างที่ขอจริงๆ ด้วย" วาโยยกยิ้มอย่างพึงพอใจที่เห็นไวน์แต่งตัวตามที่เธอร้องขอ
เธอกำหนดไว้ว่าการเลี้ยงฉลองเรียนจบครั้งนี้จะต้องแต่งตัวให้แซบที่สุดแต่เธอไม่คิดเลยว่าคุณหนูไวน์ที่อยู่ในกรอบมาตลอดและเรียบร้อยเหมือนผ้าพับไว้จะยอมทำตามแบบนี้
"พี่แชมป์เกือบไม่ใช่มาแล้วรู้ไหม" หญิงสาวบ่นอุบเมื่อนึกถึงตอนที่มีปากเสียงกับพี่ชาย ทันทีที่เธอเดินออกจากห้องนอนก็พบกับสายตาคมของแชมเปญที่มองเธออย่างจับผิดแถมยังถูกซักถามราวกับผู้ต้องหาเสียอย่างนั้น
"พี่ชายเธอเนี่ยหวงน้องสาวชะมัด" วาโยส่ายหน้าพัลวันเนื่องจากเธอเองก็เคยพบเจอกับพี่ชายของไวน์อยู่บ่อยครั้งเลยรู้ดีว่าแชมเปญนั้นหวงน้องสาวเสียยิ่งกว่าอะไร
"ยืนคุยอะไรกันอยู่ตรงนี้ ทำไมไม่ไปที่โต๊ะล่ะ หืมยัยไวน์ ชุดเธอนี่ไม่เบาเลยนะ"
"ฉันสู้เธอไม่ได้เลยหวาน" ไวน์เอ่ยปนเสียงขำเมื่อเทียบชุดตัวเองกับเพื่อน แต่จริงอยู่ที่ว่าตามปกติแล้วเธอไม่เคยใส่ชุดวาบหวิวพวกนี้เลยด้วยซ้ำ อาจจะทำให้คนอื่นที่เห็นแปลกตาอยู่ไม่น้อย
"เราไปที่โต๊ะกันเถอะ เพื่อนคนอื่นๆ เริ่มมากันแล้ว"
ไวน์กับวาโยชวนเพื่อนสนิทเพียงไม่กี่คนเท่านั้นมาร่วมงานในวันนี้เนื่องจากพวกเธอไม่ได้รู้จักคนมากมายเลยทำให้มีเพื่อนสองสามคนเท่านั้น
"ว้าว! นี่ใช่คุณหนูไวน์ตัวจริงไหมเนี่ย" ทันทีที่เดินมาถึงเสียงเอ่ยแซวของเพื่อนๆ ที่โต๊ะก็ดังขึ้นพร้อมกับสายตาที่มองมายังคนตัวเล็กเป็นตาเดียว
"ตัวจริงเสียงจริงสิ หยุดแซวเลยฉันเขินนะ" หญิงสาวเอ่ยด้วยรอยยิ้มเขินก่อนจะนั่งลงที่โซฟาตัวยาวจนกระทั่งมีพนักงานเสิร์ฟวางแก้วเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เรียงรายครบทุกคนในโต๊ะ
"สวัสดีครับสาวๆ" เสียงทุ้มอันคุ้นหูทำให้คนตัวเล็กหันไปมองด้วยความแปลกใจ
"พี่เต!" เสียงเล็กเอ่ยขึ้นด้วยความตกใจเมื่อคนที่เอ่ยทักทายเธอนั้นคือเตโชรุ่นพี่ที่มหาวิทยาลัยซึ่งไม่ได้เจอกันมานานหลายปีแล้วแต่ในวันนี้กลับปรากฏตัวอยู่ตรงหน้าพวกเธอเสียได้
"มาทำอะไรที่นี่คะ! มาได้ยังไง แล้วมากับใครคะ" เป็นฝ่ายไวน์ที่ยิงคำถามรัวๆ ใส่ชายหนุ่มอย่างนึกดีใจ เธอไม่ได้เจอเตโชนานเกือบสามปีนับตั้งแต่ที่เขาเรียนจบมหาวิทยาลัย เธอเคยได้ยินมาบ้างว่าเตโชหันไปช่วยบริหารธุรกิจของครอบครัวแต่ก็ไม่ได้เจอหน้ากันเลยตั้งแต่ที่เขาเรียนจบ
"โอ้โห ใจเย็นนะครับ ถามพี่รัวๆ แบบนี้เลือกตอบไม่ถูกเลย"
"ไวน์ไม่เจอพี่เตนานมากเลยค่ะ นึกว่ากลายเป็นนักธุรกิจคิวทองไปซะแล้ว"
"ไปนั่งคุยกันหน่อยไหม วาก็มาด้วยนะ" เตโชพเยิดหน้าไปยังโต๊ะของตัวเองที่ตอนนี้วารีกำลังนั่งจิบเครื่องดื่มค็อกเทลไปพลางๆ
"จริงเหรอคะ พี่วามาด้วยเหรอโยฉันไม่เห็นรู้เลย"
"ก็เห็นบอกแค่ว่าจะมาไม่นานอะ แต่ก็ไม่คิดนะว่าจะมาเจอพี่เตที่นี่" วาโยหันไปมองคนตัวโตก่อนจะยักคิ้วให้ไปซึ่งแท้จริงแล้วเธอรู้มาตั้งแต่แรกว่าจะเจอเตโชและวารีพี่สาวของเธอที่นี่เนื่องจากได้ทำการนัดแนะมาก่อนหน้านั้นแล้ว
"ไปคุยกันที่โต๊ะพี่ดีกว่าไหม"
"อ่อ ได้ค่ะ เดี๋ยวฉันมานะ" ไวน์หันไปบอกกับเพื่อนสนิทอีกสามคนที่โต๊ะก่อนจะเดินตามเตโชไปที่โต๊ะของเขาซึ่งอยู่ไม่ไกลจากเธอมากนัก
ทันทีที่เดินไปถึงรอยยิ้มสดใสและเสียงของวารีก็เอ่ยขึ้น ผิดกลับวาโยที่กอดอกมองด้วยความเรียบนิ่ง
"ไวน์ลูก หืมแต่งตัวแซบเชียวน้า" ไวน์นั่งลงข้างกายของวารีพลางยิ้มเขินเมื่อถูกชม
"ไวน์ไม่รู้ว่าพี่วาจะมาด้วยนะคะเนี่ย แถมยังได้เจอพี่เตที่นี่อีก บังเอิญจังเลยนะคะ^^"
"ไม่ใช่เรื่องบังเอิญหรอก" เตโชเอ่ยไม่เต็มเสียงนักพลางหันหน้าออกแต่กลับถูกมือเล็กของวาโยตีแผละพร้อมกับมองตาแข็งใส่
"พี่เต เงียบไปเลยนะ"
"อะไรเหรอคะ เมื่อกี้พี่เตว่าไงนะคะ" คนตัวเล็กที่ได้ยินไม่ถนัดก็เอ่ยถามอีกครั้งด้วยความสงสัย
"ไม่มีอะไรหรอกครับ พี่ก็บ่นกับแม่ซื้อพ่อซื้อไปเรื่อย"
"แล้วนี่พี่เตยังไม่ได้เล่าให้ฟังเลยนะว่าหายไปไหนมา ไม่มาให้น้องเห็นหน้าเลย" วาโยเอ่ยเปิดประเด็นพลันทำให้ไวน์มองอย่างสนใจเพราะเธอเองก็อยากรู้เหมือนกันว่าหลังจากเรียนจบเตโชนั้นเป็นอย่างไรบ้าง
"ไม่รู้จริงดิ เล่นละครเก่งนะเนี่ย" เตโชยักคิ้วกวนๆ ส่งให้วาโยไปทำเอาอีกฝ่ายถึงกับต้องถลึงตาใส่และรีบหยิกไปที่แขนล่ำอย่างแรง
"พี่เต! อย่ากวนน้องได้ไหม เรากำลังทำตามแผนอยู่นะ!" วาโยเอ่ยกระซิบอย่างเหลืออด เธอทำลังทำตามแผนที่ได้วางไว้แต่เตโชกลับกวนประสาทเธอไม่หยุด ถ้าหากว่าเป็นเช่นนี้ต่อไปมีหวังแผนที่ได้วางไว้ล่มไม่เป็นท่าแน่ๆ
"สองคนนี้แปลกๆ นะคะเนี่ย มีอะไรหรือเปล่าคะ" ดวงตากลมมองวาโยและเตโชสลับไปมาอย่างนึกสงสัย เธอเห็นตั้งแต่เมื่อครู่แล้วเหมือนว่าทั้งสองคนกำลังมีความลับอะไรกันอยู่
"ไม่มีอะไรหรอกไวน์ไอ้พี่เตก็กวนประสาทไปงั้น นิสัยยังกวนเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน ถึงว่าสิไม่มีแฟนสักที"
"อ้าวเห้ยๆ พูดงี้ก็สวยดิ พูดดีๆ หน่อยครับน้องลม อย่างพี่เตโชไม่มีขาดหรอกเรื่องผู้หญิงน่ะ" เตโชรีบสวนกลับอย่างไม่ลดละเพราะเรื่องผู้หญิงเขาไม่เคยปล่อยให้ตัวเองต้องเหงาอยู่แล้วเพียงแต่ไม่ได้เปิดตัวเพราะยังไม่มั่นใจเท่านั้น
"โยชื่อโย! ไม่ได้ชื่อลม!" วาโยตอบกลับอีกครั้งอย่างไม่พอใจมี่ถึงแม่ว่าชื่อของเธอจะแปลว่าลมก็ตาม
"โอ๊ย! สองคนนี้จะทะเลาะอะไรกันเนี่ย วาปวดหัวแล้วนะ" วารีที่นั่งฟังทั้งสองคนทะเลาะกันอยู่นานสองนานก็ต้องออกปากห้ามเพราะทนนั่งฟังต่อไม่ไหว
"คิดถึงบรรยากาศเก่าๆ เลยนะคะ ที่ห้องชมรมในมหาวิทยาลัย" ไวน์เอ่ยด้วยรอยยิ้มพลางนึกถึงอดีตเมื่อตอนเลิกเรียนที่เธอจะชอบแวะไปที่ห้องชมรมที่ทั้งพิภพ วารี วาโย และเตโชชอบมานัดคุยกันเรื่องงานของมหาวิทยาลัยอยู่บ่อยๆ
แต่หลังจากที่พิภพและเตโชเรียนจบต่างคนก็ต่างแยกย้ายเธอมักจะนัดเจอกับวารีและวาโยที่โรงอาหารของคณะวิศวะฯ แทน ส่วนห้องชมรมที่เคยเป็นห้องประจำก็แปรเแลี่ยนเป็นห้องทำกิจกรรมของนักศึกษาคนอื่นไปเสียแล้ว
"แล้วคิดถึงพี่ภพบ้างไหมไวน์" วาโยเอ่ยถามเพื่อนสนิททำให้คนตัวเล็กได้สติหลุดออกจากภวังค์ความคิดในอดีต
ไวน์คลี่ยิ้มก่อนจะส่ายหน้าเบาๆ จริงอยู่ที่ในใจของเธอนึกถึงพิภพอยู่ตลอด แต่ถ้าหากมีโอกาสได้เจอกันอีกครั้งเธอคงทำตัวไม่ถูกเป็นแน่
"ไม่หรอก จะคิดถึงทำไมล่ะ"
แต่ทว่า...ราวกับล่วงรู้ความคิดภายในใจของเธอ ร่างสูงในความคิดหยุดยืนอยู่ทางด้านหลังของคนตัวเล็กก่อนเขาจะค่อยๆ เดินเข้ามาที่โต๊ะและนั่งลงที่ฝั่งตรงข้ามของเธอ
ดวงตาหวานเบิกกว้างตกใจเมื่อคนในความคิดตอนนี้ได้ปรากฏตัวอยู่ตรงหน้าเธอแล้ว ใบหน้าที่ไม่ได้แตกต่างจากเดิมตั้งแต่คบกันเลยแม้แต่น้อยพลันทำให้คนตัวเล็กเผลอจ้องมองใบหน้าหล่อเหลาอย่างไม่รู้ตัวเอง
วาโยและเตโชต่างยกยิ้มอย่างพึงพอใจเพราะทั้งสองคนได้วางแผนไว้แล้วตั้งแต่ต้นว่าจะให้พิภพได้มาเจอกับไวน์ที่นี่
"พี่ภพ! พี่ภพมาได้ยังไงคะ! ทะ...ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่ได้ล่ะ" วารีร้องขึ้นและมองพิภพด้วยความตกใจ เธอไม่รับรู้ถึงแผนการที่วาโยคนเป็นน้องสาวได้วางไว้มาก่อนเลยทำให้ตกใจที่ได้พบเจอเขาเช่นนี้
"ตกใจอะไรขนาดนั้น ทำหน้าเหมือนกับเห็นผี" พิภพขำออกมาเมื่อเห็นสีหน้าของวารีที่มองเขาอย่างตกใจราวกับเห็นผี
"ก็วาตกใจ รู้ว่าพี่ภพกลับมาจากต่างประเทศแล้วแต่ไม่คิดว่าพี่ภพจะมาที่นี่ อะไรกันคะเนี่ยทำไมวาไม่รู้เลยล่ะคะ"
วาโยและเตโชต่างก็ยกมือลูบใบหน้าและถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่เนื่องจากไม่ได้บอกกับวารีก่อนว่าจะทำการวางแผนให้ทั้งสองคนได้มาเจอกันที่นี่ แต่อีกใจก็รู้ดีว่าวารีนั้นเป็นคนที่เก็บความลับไม่เก่งเกรงว่าจะทำให้แผนแตกเปล่่าๆ
"ไวน์ขอตัวกลับไปที่โต๊ะก่อนนะคะ" เสียงเล็กเอ่ยก่อนจะรีบลุกออกจากโต๊ะไปในที่สุด เธอไม่คิดเลยว่าจะเจอกับพิภพที่นี่ตอนนี้เพราะเธอยังไม่พร้อมที่จะเจอหน้าเขา!
เธอยังจดจำคำพูดของเขาได้เป็นอย่างดี และยังจำฝังลึกจนถึงทุกวันนี้ ทว่าคำพูดเจ็บปวดของเขากลับไม่ได้ทำให้เธอรู้สึกโกรธเกลียดเขาเลย หนำซ้ำยังรู้สึกคิดถึงและโหยหาเขาเสียมากกว่า
ไวน์เดินไปตรงไปยังห้องน้ำซึ่งระหว่างทางเดินก็มีผู้คนมากมายที่กำลังสนุกสนานกับเสียงเพลงภายในคลับ ผิดกับเธอที่ตอนนี้สับสนมึนงงไปหมด
แต่ทว่า...
หมับ!
"อ๊ะ!" คนตัวเล็กร้องขึ้นเมื่อถึงมือหนาของใครคนหนึ่งคว้าหมับเข้าที่แขนเล็กของเธออย่างแรงจนเธอต้องนิ่วหน้าด้วยความเจ็บ
"จะไปไหนจ๊ะน้องสาว" เสียงมึนเมาของชายหนุ่มเอ่ยพร้อมกับดึงร่างบางให้เข้าใกล้จนทำให้ได้กลิ่นเครื่องดื่มจากตัวของอีกฝ่าย
"อ๊ะ...ปล่อยฉันนะ!" ไวน์ออกแรงต้านและพยายามผลักไสคนตรงหน้าออกด้วยแรงทั้งหมดที่มีแต่ด้วยแรงอันน้อยนิดกลับไม่สามารถสู้แรงของชายตรงหน้าได้เลย
"ไปนั่งกับพี่ไหม พี่ให้ทิปหนักเลยนะคนสวย"
"ปล่อยฉัน! ฉันไม่ใช่ผู้หญิงอย่างว่านะ!" ไวน์ฝืนสุดแรงแต่ก็ไม่เป็นผล เธอพยายามทุกวิถีทางเพื่อให้หลุดพ้น
จนกระทั่ง...
พลั่ก!
ร่างของชายตรงหน้าถูกผลักออกไปจนเซถลาล้มลงไปกับพื้นอย่างแรงทำให้ไวน์รีบหันไปมองบุคคลที่เข้ามาใหม่ด้วยความตกใจ
"พะ พี่ภพ..." เสียงเล็กเอ่ยแผ่วและมองคนตัวโตข้างกายด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย
"มึงเป็นใครวะ! มาเสือกทำไม!"
"กูก็เป็นพ่อมึงไง!" พิภพตอบกลับไปทันควันอย่างนึกโมโหทำให้อีกฝ่ายลุกขึ้นจากพื้นและตรงเข้ามากระชากคอเสื้อพิภพอย่างเอาเรื่อง
"มึงเป็นใครวะ! คิดว่าแน่มากหรือไง!"
"เมาแล้วก็กลับไปอย่ามาทำตัวรุ่มร่าม ไม่อย่างนั้นกูจะให้การ์ดมาลากคอมึงออกไป!!" พิภพกดเสียงต่ำพร้อมกับกระชากคอคนตรงหน้าอย่างไม่ลดละเพราะเขาเองก็จะไม่ยอมให้เช่นกัน
พลั่ก!
"ฝากไว้ก่อนนะมึง!" อีกฝ่ายผลักพิภพออกก่อนจะเดินหันกลับไปเมื่อตอนนี้เริ่มมีผู้คนให้ความสนใจกับพวกเขามากขึ้นแล้ว
พิภพผ่อนลมหายใยออกมาพลางระงับอารมณ์ความโกรธของตัวเองเอาไว้ ใบหน้าหล่อหันไปมองคนตัวเล็กตั้งแต่หัวจรดเท้าพลันทำเอาอีกฝ่ายถึงกับชักสีหน้าไม่พอใจ
"ทำไมถึงแต่งตัวแบบนี้"
"ขอบคุณที่ช่วยนะคะ" ไวน์ไม่ได้ตอบคำถามพิภพแต่อย่างใด เธอเอ่ยขอบคุณก่อนจะหมุนตัวกลับไปที่โต๊ะของเธอทันทีทิ้งให้พิภพทอดมองแผ่นหลังเนียนเดินจากไปด้วยสายตาเรียบนิ่งแต่เต็มไปด้วยความรู้สึกมากมายที่ไม่สามารถเอ่ยออกมาได้
"หนูไวน์..." พิภพเอ่ยเสียงแผ่วเมื่อหญิงสาวเดินจากไป เขาอยากจะดึงคนตัวเล็กเข้ามากอดแต่กลับทำอย่างนั้นไม่ได้ เขาคิดถึงและโหยหาเธอมากกว่าสิ่งใด
วันเวลาไม่อาจย้อนหวนสิ่งต่างๆ กลับมาได้...แต่เขาจะพาเธอกลับคืนสู่อ้อมกอดของเขาอีกครั้ง
