บทที่ 2 ภาพวันวาน
2 | ภาพวันวาน
ปัจจุบัน
ท้องฟ้าโปร่งพร้อมกับลมพัดผ่านพลันทำให้กระโปรงนักศึกษาพลิ้วไหวตามแรงลมจนต้องรีบทาบแขนและนำกระเป๋าผ้าสีหวานมาปิดเอาไว้ ใบหน้าหวานแก้มออกสีแดงระเรื่อมองไปยังบอร์ดโฆษณาหน้าตึกคณะอักษรศาตร์ที่มีประกาศติดไว้อยู่มากมาย แต่ทว่าสายตากลับจดจ้องที่กระดาษสีเทาอ่อนแผ่นหนึ่งที่ถูกปิดทับด้วยประกาศมากมายจนแทบมองไม่เห็น
มือเล็กเอื้อมไปหยิบกระดาษแผ่นนั้นออกมาก่อนจะไล่อ่านทุกตัวอักษรด้วยความสนใจ ใบหน้าเรียบนิ่งเริ่มแปรเปลี่ยนแทนที่ด้วยรอยยิ้มกว้างเมื่อรู้สึกสนใจกับประกาศใบนั้นนั้น
"รับสมัครนักเขียนหน้าใหม่ที่พร้อมจะมาเป็นครอบครัวเดียวกันกับ ReadGun" เสียงเล็กเอ่ยพึมพำตามตัวอักษรที่ได้อ่าน แต่ทว่าดวงตาหวานต้องเบิกกว้างและรีบพับกระดาษเก็บใส่กระเป๋าของตัวเองทันทีเมื่อเห็นรถยนต์คันหรูสีดำเงาจอดเทียบฟุตบาทตรงหน้าเธอ
"รอนานไหมลูก รถติดมากๆ เลย" อรทัยหญิงวัยกลางคนเอ่ยถามลูกสาวคนเล็กด้วยใบหน้าเป็นกังวล
"ไม่นานเลยค่ะแม่" หญิงสาวตอบกลับด้วยรอยยิ้มกว้างก่อนจะเดินขึ้นรถไปในที่สุด
"สอบวันสุดท้ายแล้วใช่ไหมลูก"
"ใช่ค่ะ^^"
"แล้วไม่ไปฉลองกับเพื่อเหรอ เรียนจบทั้งทีนะลูก"
"ไวน์กำลังจะบอกคุณแม่พอดีเลยค่ะ โยชวนไปเลี้ยงฉลองที่คลับพรุ่งนี้ค่ะ คุณแม่อนุญาตไหมคะ" ไวน์เอ่ยถามคนเป็นแม่พรางเม้มปากแน่นอย่างรอคำตอบ
"ไปสิลูก แม่ไม่ว่าอะไรอยู่แล้ว" ว่าแล้วก็ลูบที่เรือนผมนุ่มของลูกสาวคนเล็กอย่างเบามือ เป็นการเลี้ยงฉลองที่ลูกสาวคนเล็กเรียนจบทั้งทีมีหรือที่เธอจะไม่อนุญาต
"แต่ว่ามีดื่มด้วยนะคะแม่...คือ...ไวน์ขอนอนค้างกับโยได้ไหมคะ" คนตัวเล็กก้มหน้าลง เธอไม่เคยออกไปฉลองกับเพื่อนที่คลับและส่วนเครื่องดื่มมึนเมาก็เคยดื่มเพียงแค่หนึ่งครั้งเมื่อตอนเลิกรากับแฟนคนแรกเมื่อสามปีที่แล้วเท่านั้น แม้ว่าคนเป็นแม่จะเอ่ยปากอนุญาตแล้วแต่เธอก็อยากจะถามเพื่อความแน่ใจอีกครั้ง
"ดื่มด้วยเหรอลูก อืม..." หญิงวัยกลางคนทำหน้าครุ่นคิดไปชั่วครู่ขณะที่กำลังขับรถไปตามทางข้างหน้าช้าๆ
"...ก็ได้จ้ะ แต่หนูไวน์ต้องดูแลตัวเองนะลูก แม่เป็นห่วง"
"ค่ะคุณแม่ ไวน์จะดูแลตัวเองอย่างดีค่ะ^^" ไวน์ตอบรับคำด้วยความดีใจ นี่เป็นครั้งแรกที่เธอจะได้ออกไปสังสรรค์กับเพื่อนทั้งยังได้นอนค้างข้ามคืนกับเพื่อนสนิทอย่างวาโยอีกด้วย
"แล้วคิดไว้รึยังเรียนจบจะทำอะไร" ประโยคนั้นของคนเป็นแม่ทำเอาคนตัวเล็กถึงกับหุบยิ้มลงทันที
ร่างบางผ่อนลมหายใจออกมาเบาๆ ก่อนจะงเยหน้าขึ้นมองตนข้างกายด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย เธอมีบางอย่างที่อยากจะพูดออกไปแต่กลับไม่กล้าที่จะพูดมันออกมา
"เอ่อ...ยะ ยังเลยค่ะแม่"
"แม่อยากให้ไวน์มาช่วยงานที่บริษัท พี่แชมป์กำลังต้องการเลขาอยู่พอดี ถ้าไวน์อยาก..."
"ไวน์ยังไม่พร้อมเลยค่ะแม่ ไวน์เพิ่งเรียนจบเอง ไวน์ขอคิดดูก่อนนะคะ" หญิงสาวเอ่ยปฏิเสธทันควันเมื่อนึกถึงธุรกิจที่บ้าน
ครอบครัวของเธอนั้นเปิดโรงทำไวน์ซึ่งเป็นบริษัทที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศและยังเป็นบริษัทไวน์ที่ส่งออกไปยังต่างประเทศรายใหญ่ที่สุดในเอเชีย จนตอนนี้มีบริษัทย่อยมากกว่าสามสิบสาขาทั่วประเทศ
แต่เด็กสาวที่เรียนจบคณะอักษรศาสตร์อย่างเธอกลับไม่ได้ชื่นชอบที่จะสานต่อธุรกิจของครอบครัวแต่อย่างใด เธอใฝ่ฝันและชื่นชอบที่จะเป็นนักเขียนตั้งแต่วัยเด็ก เธอไม่เคยปรึกษาเรื่องนี้กับใครนั้นเป็นเพราะเธอใจไม่กล้าพอที่จะบอกกับพวกท่าน
รถยนต์คันหรูสีดำเงาขับเข้ามาจอดในบ้านหลังใหญ่ที่บริเวณด้านหลังเป็นโรงไวน์และโกดังเก็บสินค้าที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ทันทีที่รถขับเทียบจอดหน้าประตูเหล่าแม่บ้านก็รีบวิ่งออกมาช่วยเปิดประตูรถและถือข้าวของที่อยู่ในรถพัลวัน
"เดี๋ยวช่วยเอาข้างของเข้าไปในบ้านทีนะจ๊ะ ฉันซื้อขนมมาฝากด้วยเอาไปแบ่งกันนะ"
"ค่ะคุณอร" เสียงหัวหน้าแม่บ้านวัยกลางคนเอ่ยอย่างนอบน้อมก่อนจะหันไปมองและบอกกับเหล่าสาวใช้เพื่อให้ทำตามคำสั่ง
"แล้วคุณพ่อกลับมาจากประชุมหรือยังคะแม่" ไวน์เอ่ยถามคนเป็นแม่พรางมองไปยังลานจอดรถที่ตอนนี้มีรถยนต์ของคนอื่นจอดอยู่
"แล้วนั่นรถใครเหรอคะ มีแขกเหรอคะแม่"
"เป็นรถของเพื่อนพี่แชมป์จ้ะลูก อืม...ชื่ออะไรนะแม่เองก็จำไม่ได้ เอ..."
"ยืนคุยอะไรกันครับสองแม่ลูก ทำไมไม่เข้าไปด้านในล่ะ" แชมเปญที่เดินมาพร้อมกับเพื่อนสนิทเอ่ยขึ้นก่อนจะเข้าไปหาคนเป็นน้องสาวและวางมือลงบนเรือนผมนุ่มด้วยความเอ็นดู
"ตัวแสบ สอบเสร็จแล้วใช่ไหมเนี่ย"
"อื้อ พี่แชมป์! อยากยุ่งกับผมไวน์สิคะผมไวน์ยุ่งหมดแล้วเนี่ย" หญิงสาวยู่หน้าและออกปากบ่นอุบอย่างไม่พอใจแต่กลับไม่ได้ทำให้แชมเปญหยุดการกระทำนั้นลงเลยหนำซ้ำยังลงมือยีหัวน้องสาวพร้อมกับหัวเราะชอบใจเสียอีก
"อย่าแกล้งน้องสิลูก สองคนนี้ทำไมชอบตีกันตลอดเลย แล้วดูซิเนี่ยอายเพื่อนบ้าง" อรทัยหันไปยิ้มกับชายหนุ่มร่างสูงที่กำลังยืนยิ้มขำเมื่อเห็นสองพี่น้องกำลังหยอกล้อกันตามประสา
"ฮึ่ย! พี่แชมป์นะพี่แชมป์"
"งั้นคุยกันตามสบายเลยนะลูก เดี๋ยวแม่ไปเตรียมขนมกับน้ำหวานมาให้" อรทัยเอ่ยด้วยรอยยิ้มยินดีก่อนจะเดินเข้าไปในครัวเพื่อจัดเตรียมของว่างให้กับหนุ่มสาว
"จำเพื่อนพี่ได้ไหมเนี่ยตัวแสบ"
"ใครเหรอคะ" คนตัวเล็กมองหน้าพี่ชายสลับกับอีกฝ่ายด้วยความสงสัย
"โธ่ ลืมพี่จริงๆ สินะหนูไวน์" ชายหนุ่มหัวเราะออกมาเมื่อเห็นหน้าตาใสซื่อของหญิงสาวจนคนที่ยิ้มตามออกมาไม่ได้
"แหะๆ ไวน์ขอโทษจริงๆ นะคะ แต่ไวน์จำไม่ได้เลยค่ะ เอ่อ...เป็นเพื่อนพี่แชมป์สมัยเรียนเหรอคะ"
"พี่กรเองครับ พอจำได้ไหม"
"พี่กร...กรเหรอ พี่กร..." ไวน์เอ่ยพึมพำกับตัวเองพรางมองคนตรงหน้าอย่างใช้ความคิด เธอรู้สึกคุ้นชื่อและเริ่มคุ้นกับใบหน้าอีกฝ่ายขึ้นมาบ้างแต่พยายามนึกยังไงก็นึกไม่ออกสักที
"เพื่อนไอ้ภพไง ภพแฟนเก่าเราไง" ประโยคนั้นทำเอาคนตัวเล็กถึงกับต้องเบิกตากว้างและจำคนตรงหน้าได้ทันที เธอเคยเห็นเขาอยู่บ่อยๆ เมื่อตอนอยู่ปี1
"พี่กร! ไวน์จำได้แล้วค่ะ" ไวน์เอ่ยเสียงดังแต่ไม่นานกลับต้องหันไปมองขวางใส่คนเป็นพี่ชายอย่างเอาเรื่อง
"แต่ทำไมต้องพูดถึงพี่ภพด้วยล่ะคะ"
"อุ้ย! แทงใจดำเด็กน้อย" แชมเปญโยกศีรษะของน้องสาวเบาๆ พร้อมกับทำหน้าล้อเลียน แชมเปญและพิภพนั้นรู้จักกันตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัย แม้ว่าจะไม่ได้สนิทสนมอยู่กลุ่มเดียวกันแต่ก็ยังทักทายกันตามประสาเพื่อนที่ชอบเตะฟุตบอลหลังเรียนอยู่บ่อยๆ
"ได้ข่าวว่าไอ้ภพมันกลับมาจากต่างประเทศแล้วนะ เห็นว่ามันกำลังก่อตั้งบริษัทอยู่แต่ไม่รู้ว่าธุรกิจอะไร"
หญิงสาวที่มองด้วยความเรียบนิ่งแต่ในใจกลับรู้สึกเจ็บปวด อยู่ๆ ภาพความทรงจำในวันวานก็ย้อนหวนกลับเข้ามาอีกครั้ง ภาพระหว่างเธอและพิภพยังคงตราตรึงอยู่ในใจของเธอไม่เลือนหายไปไหน และสิ่งที่เธอจำได้ฝังลึกก็คือคำบอกเลิกอันแสนเจ็บปวดของเขา
'เราเลิกกันเถอะไวน์'
'ทะ...ทำไมล่ะคะพี่ภพ'
'เราอยู่ห่างกันขนาดนี้เราจะคบกันได้ยังไง'
'มันไม่ใช่อุปสรรคเลยนะคะพี่ภพ ถึงแม้ว่าพี่ภพจะอยู่ต่างประเทศแต่เราก็ยังคบกันได้นะคะ ไวน์รอพี่ได้นะ แค่สามปีเอง ไวน์รอได้ค่ะพี่ภพไม่ต้อง...'
'เราเลิกกันเถอะ' พิภพเอ่ยย้ำคำนั้นขึ้นมาอีกครั้งด้วยน้ำเสียงหนักแน่นและจริงจังขณะคุยกันผ่านวิดีโอในคอมพิวเตอร์
พิภพต้องไปเรียนต่อที่ต่างประเทศเป็นเวลาสามปีหลังจากเรียนจบปริญญาตรี ซึ่งเป็นเวลาเพียงหนึ่งเดือนเท่านั้นปัญหาเรื่องความรักระหว่างสองคนก็เกิดขึ้นจากระยะทางและความห่างไกลจนทำให้ทั้งสองคนต้องเลิกลาจากกันไปในที่สุด
"แล้วมันไม่ทำธุรกิจที่บ้านมันเหรอวะ พ่อมันดุจะตาย"
ไวน์ดึงสติกลับมาสู่โลกความเป็นจริง ถึงแม้ว่าเธอจะเจ็บปวดกับความรักครั้งแรกแต่เธอก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเธอนั้นยังเฝ้ารอและคิดถึงเขาอยู่ตลอด
"ไวน์ขอตัวก่อนนะ" หญิงสาวเดินผ่านชายหนุ่มทั้งสองคนและขึ้นไปยังชั้นบนของบ้านทันที
ขาเล็กรีบก้าวเข้าไปในห้องนอนใหญ่ที่ถูกตกแต่งด้วยข้าของเครื่องใช้สีหวานเหมือนกับเจ้าของ พลันเมื่อเข้าไปอยู่ในเซฟโซนหญิงสาวละทิ้งทุกสิ่งอย่างก่อนจะล้มตัวลงนอนฟุบใบหน้าหวานกับหมอนนุ่ม
"ยัยไวน์ แกจะนึกถึงเขาไม่ได้นะ" เสียงเล็กอู้อี้กับหมอนใบใหญ่ เธอนึกหงุดหงิดตัวเองที่ในหัวตอนนี้ดันนึกถึงแต่ภาพความทรงจำดีๆ ระหว่างเธอและพิภพไม่หยุด
ครืด...ครืด...
เสียงโทรศัพท์ของไวน์ดังขึ้นทำให้เธอหลุดจากภวังค์และดีดตัวขึ้นจากเตียงไปหยิบโทรศัพท์ที่อยู่ในกระเป๋าผ้าสีหวานออกมา รอยยิ้มหวานปรากฏขึ้นเมื่อพบว่าปลายสายที่โทรเข้ามานั้นคือเพื่อนสนิทต่างคณะของเธอ
"ว่าไงคะคุณวาโย" เสียงเล็กพรางปรับน้ำเสียงให้เป็นปกติ
(ถึงบ้านหรือยังไวน์)
"ถึงแล้ว นี่โยฉันขอคุณแม่เรื่องงานเลี้ยงพรุ่งนี้แล้วนะ คุณแม่อนุญาตด้วยแหละ"
(จริงเหรอ! โอ๊ยดีใจอะ ที่ฉันโทรมาก็เพราะจะถามเธอเรื่องนี้แหละ)
"เออนี่โย ฉันขอถามอะไรหน่อยสิ...เอ่อ..." หญิงสาวเอ่ยอย่างชั่งใจเธออยากถามเพื่อนสนิทเรื่องของพิภพแต่ก็ไม่รู้ว่าควรจะถามออกไปดีไหม เพราะเรื่องระหว่างเธอและเขานั้นก็จบกันไปนานหลายปีแล้ว
(เรื่องอะไรเหรอ)
"คือ...เอ่อ...เรื่องพี่ภพ..."
(โย! แม่เรียกลงไปกินข้าว!!)
เสียงตะโกนเรียกดังเข้ามาในสายทำให้ไวน์ต้องหยุดบทสนทนาลง เธอเม้มปากและกำมือตัวเองเอาไว้แน่น ยิ่งนึกถึงเรื่องพิภพก็ยิ่งทำให้เธอไม่เป็นตัวของตัวเองทุกที
(ไวน์ เมื่อกี้เธอว่าไงนะฉันได้ยินไม่ได้ถนัด เรื่องของใครเหรอ)
"เอ่อ...ปะ เปล่าหรอก ไม่มีอะไร"
(งั้นเหรอ ถ้าอย่างนั้นแค่นี้ก่อนนะพี่วาเรียกแล้วอะ)
"จ้ะ ไว้คุยกันนะโย บาย" เสียงเล็กตอบกลับไปก่อนจะผ่อนลมหายใจออกมา ในใจก็นึกอยากทุบตีตัวเองแรงๆ ไม่รู้ว่าทำไมถึงต้องไปนึกถึงคนๆ นั้นอีกด้วยทั้งที่เขาทำให้เธอเจ็บปวดขนาดนี้
"ไวน์นะไวน์ เธออย่านึกถึงเขาสิ คนใจร้ายคนนั้นน่ะ ห้ามเลยนะ ห้ามนึกถึงเขาอีกเข้าใจไหม!"
หญิงสาวล้มตัวลงนอนบนเตียงอีกครั้งพรางพร่ำบอกกับตัวเองซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่าไม่ให้คิดถึงเรื่องราวในอดีต ถึงแม้ว่าเธอจะมีความทรงจำดีๆ มากมายระหว่างเธอและพิภพแต่ในเมื่อเลิกลากันแล้วเธอก็ไม่ควรกลับไปนึกถึงเขาอีก
"เห้อ...คงไม่ได้เจอกันหรอก เขาคงอยู่ในกรุงเทพฯ ใส่สูทผูกไทเป็นผู้บริหารไปแล้วมั้ง" คนตัวเล็กหลับตาพริ้มบนเตียงนุ่ม เสียงเล็กเสียงน้อยในวันวานวนกลับเข้าสู่โสตประสาทพลันทำให้เธอยิ้มกว้างออกมาไม่รู้ตัว
'ทำไมถึงทำหน้าเครียดแบบนั้นล่ะคะพี่ภพ คิ้วขมวดจนผูกกันเป็นโบว์แล้วนะคะ' มือเล็กแนบอิงที่ใบหน้าหล่อเหลาและนั่งลงที่เก้าอี้ข้างกายของพิภพ
'เหนื่อยจังเลย' เสียงทุ้มเอ่ยก่อนจะเอนศีรษะพิงกับไหล่มนอย่างออดอ้อน
พิภพกำลังอ่านหนังสือเล่มหนาสำหรับเตรียมสอบมิดเทอมที่กำลังจะถึงอีกไม่กี่วันข้างหน้า แม้ว่าเดิมทีพิภพจะเป็นคนเรียนเก่งเกรดเฉลี่ยอยู่ในท็อปสามของชั้นปีแต่อย่างไรแล้วเขาก็มักจะอ่านหนังสือทบทวนอยู่เสมอ
'เหนื่อยก็พักก่อนสิคะ ทำหน้ายุ่งแบบนี้เดี๋ยวไม่หล่อนะ'
'ไม่หล่อแล้วหนูไวน์จะไม่รักพี่เหรอคะ' ใบหน้าหล่อเหลาสบสายตาหวานพลันทำเอาคนตัวเล็กถึงกับต้องคลี่ยิ้มกว้างออกมา
ถึงแม้ว่าในสายตาของคนอื่นพิภพจะดูเป็นคนที่จริงจังและเข้มงวดกับทุกๆ เรื่อง แต่พอเวลาอยู่กับเธอเขาก็ไม่ต่างอะไรกับลูกแมวตัวน้อยเลยสักนิด
เธอนั้นเถียงขาดใจเลยว่าพิภพของเธอนั้นน่ารักและใจดีกับเธอที่สุด
