บท
ตั้งค่า

บทที่ 7

เช้านี้ท้องฟ้าดูปลอดโปร่งไม่มีเค้าฝนเตรียมตัวก่อกวน หนุ่มหล่อลูกครึ่งไทยสเปนที่มีรูปร่างสูงใหญ่กำยำ รีบก้าวเท้าให้เร็วขึ้นด้วยความร้อนใจ มองเห็นบ้านไม้เรือนไทยที่ถูกออกแบบและตกแต่งอย่างสวยงามละเอียดอ่อน มีกลิ่นไอแบบไทยโบราณและผสมผสานแบบยุโรปไปในตัวตั้งตระหง่านอยู่ในกรอบสายตา ชายหนุ่มเปลี่ยนจากเดินเป็นวิ่งเหยาะๆ ซอยเท้าขึ้นบันได แล้วรีบปรี่ไปยังห้องนอนของบิดา

ลุยซ์ วราทิตย์ภราดร บุตรชายเพียงคนเดียวของอาทิตย์ ถลันไปนั่งที่ข้างเตียงแล้วมองสำรวจผู้เป็นพ่อด้วยความห่วงใย ก่อนจะเงยหน้าขึ้นสบตากับแพรสุดา หลานสาวคนเดียวของนมถวิล แม่นมสูงวัยที่ดูแลเขามาตั้งแต่แบเบาะจนรักและเคารพดุจมารดาอีกคน พร้อมกับหันไปมองสบตากับลูกชายของอาที่เพิ่งตามเข้ามาทีหลังด้วยความไม่เข้าใจ

“อ้าว ไหนแพรบอกว่าคุณลุงอาทิตย์ไม่สบายมาก ต้องการพบลุยซ์ด่วนไม่ใช่เหรอ แล้วทำไม...” กัมปนาทผู้มีศักดิ์เป็นหลานชายของอาทิตย์และเป็นลูกพี่ลูกน้องกับลุยซ์ เอ่ยถามด้วยความแปลกใจ

ก่อนนี้แพรสุดาได้ขอร้องให้เขาไปตามตัวลุยซ์มาจากในฟาร์ม พร้อมย้ำนักหนาว่าให้รีบมาพบอาทิตย์ที่ตอนนี้อาการป่วยกำลังแย่ลงมาก แต่พอมาถึงเรือนใหญ่ กลับพบว่าคนป่วยนั่งเอนกายกึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่บนเตียง ไม่ได้ทรุดหนักลงแต่อย่างใด

“ไม่มีอะไรหรอกเก่ง ลุงเป็นคนขอให้หนูแพรพูดไปแบบนั้นเอง” อาทิตย์อธิบายให้กัมปนาทเข้าใจ ก่อนจะหันไปสบตากับลูกชาย “ถ้าไม่ใช้วิธีนี้ ลุยซ์ก็คงไม่ยอมโผล่หน้ามาพบลุงหรอก”

“ถ้าพ่อจะพูดเรื่องเดิม ผมไม่อยากได้ยินอีกแล้วนะครับ” ดวงตาสีเทาทอดมองบิดาอย่างไม่สบอารมณ์

“ผมพูดไปหลายรอบแล้วว่าผมจะไม่มีวันไปตามหาผู้หญิงคนนั้น” ท้ายประโยคเสียงห้าวทุ้มยิ่งเพิ่มความดุดัน เขาผุดลุกขึ้นเต็มความสูง นั่นทำให้แพรสุดาที่ยืนอยู่ใกล้ๆ ดูตัวหดเล็กลงไปในพริบตา

“อย่าเพิ่งใจร้อนนะคะคุณลุยซ์ ลองฟังเหตุผลของคุณท่านก่อนดีไหมคะ” แพรสุดาเอ่ยเสียงนุ่มนวล

“ผมไม่อยากฟัง เรื่องของผู้หญิงคนนั้นมันผ่านไปนานเป็นสิบๆ ปีแล้ว ผใไม่อยากยุ่งเกี่ยวอีก”

“แล้วถ้ามันเกี่ยวกับความเป็นความตายของพ่อ ลุยซ์จะทำเพื่อพ่อไม่ได้เชียวเหรอ” อาทิตย์แทรกขึ้นด้วยสุ้มเสียงสั่นเครือ นั่นทำให้ทุกสายตาจับจ้องไปที่เขาในทันที

“พ่อหมายความว่ายังไง?” ลุยซ์หันมาถามเสียงเข้ม ดวงตาจ้องมองอย่างรอคอย

“พ่อ...” อาทิตย์ปากหนักขึ้นมาเสียดื้อๆ เขาหันไปสบตากับแพรสุดา ซึ่งมีหน้าคอยดูแลดุจพยาบาล ราวกับว่านั่นคือตัวช่วยเดียวที่จะช่วยอธิบายให้ลูกชายเข้าใจแทนได้ อันที่จริงแล้วเขายังไม่พร้อมจะบอกทุกอย่างในตอนนี้ เพราะไม่อยากให้อาการป่วยของตัวเองไปรบกวนจิตใจลูก แต่ก็ดันพลาดหลุดปากพูดออกไปเอาเสียได้

“คุณลุยซ์มัวแต่สนใจงานในฟาร์ม กว่าจะกลับมาที่เรือนใหญ่ก็ดึกมากทุกวัน เลยคงยังไม่ทราบใช่ไหมคะว่าเมื่อไม่กี่วันก่อน คุณหมอยงยศได้มาพาตัวคุณท่านไปตรวจละเอียดที่โรงพยาบาล ที่คุณท่านมีอาการเหนื่อยง่าย ไม่มีแรง แล้วก็หน้ามืดเป็นลมอยู่บ่อยๆ มันเป็นอาการของโรคลิ้นหัวใจรั่วค่ะ ตอนแรกอาการยังไม่รุนแรงมาก รักษาด้วยการให้ยาขับปัสสาวะเพื่อให้หัวใจทำงานได้อย่างเต็มที่ค่ะ แต่ผลตรวจล่าสุดอาการของคุณท่านเริ่มไม่ค่อยดี คุณหมออยากให้เข้ารับการผ่าตัดซ่อมแซมลิ้นหัวใจภายในสามเดือนค่ะ ถ้าไม่อย่างนั้นจะทำให้เกิดภาวะหัวใจล้มเหลวเสียชีวิตได้ค่ะ” แพรสุดาอธิบายอย่างละเอียด ตามคำพูดของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านศัลยกรรมทรวงอก หลอดเลือดและหัวใจ

“ลิ้นหัวใจรั่ว!” ลุยซ์ทวนอย่างไม่อยากเชื่อ เขาทำหน้าถมึงทึง ยกมือขึ้นเท้าเอวแล้วเดินวนไปวนมา

“แพรขอโทษนะคะที่ไม่ได้บอก คุณท่านไม่อยากให้คุณลุยซ์ไม่สบายใจน่ะค่ะ”

“แล้วที่มาบอกตอนนี้ เพราะต้องการให้ฉันทำในสิ่งที่พ่อต้องการอย่างนั้นสินะ” ชายหนุ่มกระตุกยิ้มรู้ทัน “โรคลิ้นหัวใจรั่วไม่ได้ร้ายแรงขนาดนั้น สมัยนี้การผ่าตัดพัฒนามาไกลมาก ผ่าตัดแบบแผลเล็กใช้เวลาฟื้นตัวแค่ไม่นาน พ่ออย่าเอาเรื่องนี้มาบีบบังคับผมเลยจะดีกว่า” เขาไม่ใช่คนโง่ พอรู้เกี่ยวกับสิ่งรอบตัวอยู่บ้างจึงงัดเหตุผลนี้มาโต้ตอบ

“ใช่ พ่อก็โชคดีมากที่รักษาได้ด้วยวิธีผ่าตัดซ่อมแซ่มลิ้นหัวใจ ไม่ต้องถึงขั้นผ่าตัดเพื่อเปลี่ยนใหม่ แต่พ่อจะไม่ยอมเข้ารับการผ่าตัดเด็ดขาด...จนกว่าจะได้พบแม่ของลูกอีกครั้ง” อาทิตย์ยืนยันชัดเจน ไม่เคยคิดมาก่อนเหมือนกันว่าตัวเองจะกลายเป็นคนดื้อรั้นเอาตอนแก่

แต่จะให้ทำอย่างไรได้เล่า... ความโหยหาที่มีต่อแม่ของลูกมายาวนานนับสิบปี บีบบังคับให้อาทิตย์ต้องกลายเป็นคนเอาแต่ใจ ก่อนนี้เขาเคยขอร้องลุยซ์ให้ช่วยไปตามหาแม่ที่ประเทศสเปนมาแล้วครั้งหนึ่ง แต่นอกจากจะปฏิเสธอย่างหัวเสียแล้ว ลุยซ์ก็เอาแต่ขลุกอยู่ในฟาร์มจนแทบไม่ได้พบหน้ากันอีก

“อะไรนะ!” ลุยซ์จ้องบิดาอย่างโกรธเคือง “นี่พ่อเห็นผู้หญิงเลวๆ คนนั้นดีกว่าชีวิตตัวเองเหรอครับ”

“อย่าก้าวร้าวนะลุยซ์ ถึงยังไงอานิก้าก็เป็นแม่ของลูกนะ”

อาทิตย์ปรามลูกชายอย่างใจเย็น

“ผู้หญิงแบบนั้นผมไม่นับว่าเป็นแม่! แล้วถ้าพ่ออยากเจอเธอนักละก็ เชิญไปตามหาเอาเองเถอะครับ ผมไม่มีวันยอมลดตัวไปเกลือกกลั้วกับคนพรรค์นั้นหรอก” เป็นการปะทะทางอารมณ์ที่ดุเดือดและไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ถึงแม้ว่าลุยซ์จะเป็นคนแข็งกระด้างและปากร้าย แต่เขาก็ไม่เคยแสดงความก้าวร้าวอย่างนี้สักครั้ง ช่วยไม่ได้จริงๆ ที่ผู้เป็นพ่อทำให้โทสะของเขาพลุ่งพล่านเกินจะทนไหว

“นี่แก!...”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel