Ep.9
เช้าวันต่อมา
“”ก๊อก ก๊อก ก๊อก ตื่นได้แล้วนี่คุณนอนบ้านคนอื่นแล้วจะนอนกินบ้านกินเมืองหรือไง””
ปรินทร์ยืนเคาะประตูห้องของปิ่นมุกเพราะคิดว่าเธอนอนตื่นสาย ป่านนี้ยังไม่ออกจากห้องแต่กลับตรงกันข้ามเพราะคนในห้องตื่นไปทำงานครัวช่วยยายมาลัยตั้งแต่ตี 5 แล้ว
ละม่อม : คุณปรินทร์เรียกหาคุณปิ่นมุกหรอคะ
ปรินทร์ : ใช่น่ะสิ ป่านนี้นอนยังไม่ตื่นไม่เคยมีคนสอนหรอว่าอยู่บ้านคนอื่นอย่านอนกินบ้านกินเมือง
ละม่อม : คุณปิ่นมุกเธอตื่นไปช่วยงานครัวกับคุณหญิงตั้งแต่ตี 5 แล้วนะคะ
ปรินทร์ : ว่าไงนะ
ละม่อม : คุณปิ่นมุกเธอตื่นตั้งแต่เช้าแล้วค่ะ
“”ปรินทร์ขา มายืนทำอะไรตรงนี้คะ ลงไปทานข้าวกันค่ะเดี๋ยวคุณไปทำงานสายนะ””
เสียงของวุ้นทำให้ปรินทร์ต้องหยุดความคิดทุกอย่าง แล้วหันไปหาเธอ
ปรินทร์ : ครับ แล่ววันนี้คุณมีถ่ายละครเช้าหรอ ให้ผมไปส่งไหม
วุ้น : มีถ่ายเช้าค่ะ แต่รินทร์ไม่ต้องไปส่งนะคะ เดี๋ยวคนที่กองเห็นวุ้นขี้เกียจตอบคำถาม
ปรินทร์ : แต่เรื่องอื่นที่คุณไปถ่ายผมก็เคยไปส่งนะ ทำไมเรื่องนี้
วุ้น : ก็เรื่องนี้มีแต่ทีมงานคอยจับตามองวุ้นไม่อยากเป็นข่าว ไปทานข้าวกันดีกว่าค่ะ
ปรินทร์ : งั้นก็ตามใจคุณแล้วกัน
ปรินทร์กับมุกลงมาทานข้าวตามปกติทุกวัน แต่ที่ไม่ปกติคือมีคนมานั่งทานด้วยคือปิ่นมึกตอนแรกเธอจะขอไปทานในครัวกับละม่อมเพราะกลัวเจ้าของบ้านหาว่าตัวเองจุ้นจ้านเเต่ยายมาลัยให้เธอมานั่งทานที่นี่ด้วย
วุ้น : เธอมานั่งทานข้าวตรงนี้ได้ยังไง ทำไมไม่ไปทานในครัว
ปิ่นมุก : ฉันไปทานในครัวก็ได้ค่ะ
ยายมาลัย : เรื่องอะไรยายให้หนูมาทานที่นี่ ใครที่ไหนก็ไม่มีสิทธิ์ออกคำสั่งกับคนของฉัน
วุ้น : แต่ว่าคุณยายคะ เธอเป็นคนนอก
ยายมาลัย : ใครบอก หนูมุกคือคนที่มาอุ้มท้องหลานฉัน เพราะฉะนั้นเค้าก็ควรมีสิทธิ์ที่จะนั่งทานข้าวกับฉัน เธอมีปัญหาอะไรไหม
ปิ่นมุก : ไม่เป็นไรค่ะคุณยาย มุกไปทานกับพี่ละม่อมได้
ปรินทร์ : นั่งทานที่นี่แหละ เอาเถอะวุ้นยังไงเค้าก็ไม่ได้มาอยู่ในฐานะแม่บ้านที่ต้องไปนั่งทานข้าวในครัว
วุ้น : วุ้นขอตัวค่ะ ไม่กินแล้ว
เมื่อวุ้นเห็นว่าคนตรงนี้ไม่มีใครเข้าข้างเธอแม้แต่สามี ยิ่งทำให้เธอรู้สึกไม่พอใจแล้วลุกออกไปจากโต๊ะอาหารพร้อมกับขับรถคันหรูออกจากบ้านด้วยความเร็ว
คุณนายเอื้อดาว : มีอะไรกันคะ
ยายมาลัย : จะอะไรนักหนานี่เมียแกไม่เห็นหัวฉันเลยหรอ แค่หนูมุกมากินข้าวด้วย มีสิทธิ์อะไรจะไม่พอใจ คนที่ไม่ควรนั่งทานที่นี่คือเมียแก หนูมุกตื่นมาช่วยฉันทำอาหารเเต่เช้า แต่เมียแกอยู่มาเป็นปีไม่เคยคิดจะลงมาทำ แกต้องปรามเมียแกบ้างนะ
ปรินทร์ : ขอโทษแทนวุ้นด้วยครับคุณยาย
คุณนายเอื้อดาว : ตัวปัญหาทุกเรื่องจริงๆ ฉันไม่เข้าใจเลยว่าเมียแกมีดีอะไร
ท่านไพศาล : เอาหน่าคุณสงสารไอ้รินทร์มัน มันเป็นคนกลาง เรามาทานข้าวกันดีกว่ามีแต่ของน่ากินทั้งนั้นเลย หนูมุกนี่ทำอาหารเก่งนะลูก
ไพศาลที่นั่งเงียบอยู่นานรีบพูดขึ้นเพื่อทำลายบรรยากาศมาคุภายในบ้าน ก่อนที่ทุกคนจะทานข้าวแล้วแยกย้ายกันไปทำงาน เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นยิ่งทำให้ปิ่นมุกรู้สึกว่าที่นี่ไม่เหมาะกับเธอแล้วจริงๆ แต่เธอกลับไม่เหลือทางเลือกอื่นให้เลือกนอกจากอดทนทำหน้าที่ของตัวเอง
ยายมาลัย : คิดอะไรอยู่หนูมุก
ยายมาลัยเดินมาหาปิ่นมุกที่กำลังนั่งเหม่ออยู่ในสวนพร้อมกับของว่างในมือ
ปิ่นมุก : เปล่าค่ะคุณยาย
ยายมาลัย : สายตาหนูนี่ปิดไม่มิดนะหนูมุก ถ้ากำลังกังวลเรื่องเมื่อเช้า หนูไม่ต้องคิดอะไรมากเลยนะ เชื่อยาย
ปิ่นมุก : ค่ะคุณยาย
ยายมาลัย : อะลองทานนี่ดีกว่ายายตั้งใจทำเลยนะ ลองชิมดูลูก
ปิ่นมุกรับขนมจากยายมาลัยมาลองทาน แปลกที่ขนมชิ้นนี้ที่เธอทานทำให้เธอคิดถึงบ้าน เพราะเป็นขนมชนิดเดียวกับที่แม่มักทำให้เธอทานเวลากลับจากทำงานเหนื่อยๆ
ปิ่นมุก : อร่อยมากเลยค่ะคุณยาย
ยายมาลัย : อร่อยก็ทานเยอะๆลูก เดี๋ยวยายจะเดินดูสวนทานนั้นหน่อยทานเสร็จอยากพักผ่อนก็ขึ้นไปพักนะลูกตื่นแต่เช้าแล้ว
ปิ่นมุก : ค่ะคุณยาย หนูขอเข้าบริษัทคุณเเม่หนูได้ไหมคะ
ยายมาลัย : ไปสิลูก ยายอนุญาต
ปิ่นมุก : แต่คุณปรินทร์
ยายมาลัย : ตารินทร์เดี๋ยวยายจัดการเอง หนูไปเถอะลูก
ปิ่นมุก : ขอบคุณนะคะคุณยาย
ปิ่นมุกขอบคุณผู้ใหญ่ด้านหน้าที่เมตตาเธอ เพราะขืนเธออยู่ที่นี่ไม่ได้ไปไหนมีหวังเธฮเหี่ยวตายแน่ๆ
เวลา 11:50 น.
ปรินทร์ Talk
ปรินทร์ : คุณยายครับปิ่นมุกไปไหนครับ
ยายมาลัย : ไปทำงานที่บริษัทเค้าสิ
ปรินทร์ : ใครให้ไปครับ ไม่เห็นเค้าขออนุญาตผมเลย
ยายมาลัย : ยายนี่แหละอนุญาต แกไม่ควรจะมาสั่งไม่ให้เค้าไปโน่นไปนี่ เค้าจะมาอุ้มบุญลูกแกก็จริง แต่เค้าไม่ใช่นักโทษของแก
ปรินทร์ : แต่เค้าก็ควรบอกผมบ้างนะครับยาย
ยายมาลัย : ยายก็บอกแกแล้วนี่ไง แกอะอยู่ห่างๆหนูมุกไว้เถอะ อย่าใกล้เกินเหตุเมียแกยิ่งเป็นโรคประสาทอยู่ด้วย ละม่อมฝากเก็บทีฉันจะไปนอน
ยายมาลัยพูดจบแล้วเดินขึ้นมาพักบนห้องโดยที่ปล่อยให้หลานชายยืนงงกับคำพูดของตัวเอง ปรินทร์เมื่อรู้ว่าปิ่นมุกอยู่ที่บริษัทก็เกิดความคิดที่จะไปตามเธอกลับ เพราะเค้าไม่ต้องการให้เธอทำอะไรนอกเหนือไปจากคำสั่งของเค้าเท่านั้น
บริษัท วัฒนาวงศ์ กรุ๊ป
ปรินทร์เดินเข้ามาในบริษัทโดยมีสายตาของพนักงานหลายคนมองเค้าเพราะไม่คุ้นหน้า
ปรินทร์ : สวัสดีครับ ผมมาพบคุณปิ่นมุกครับ
เค้าพูดกับพนักงานหน้าเค้าน์เตอร์ที่มองเค้าจนแทบจะกินเค้าเข้าไปทั้งตัว
พนักงาน : เชิญทางด้านนี้ค่ะ เดี๋ยวดิฉันพาไป
หนักงานสาวเดินนำหน้าปรินทร์ขึ้นมาถึงหน้าห้องของปิ่นมุกที่มีชื่อติดไว้ก่อนจะเคาะประตูเพื่อขออนุญาต แต่คนที่เดินเข้าไปกลับเป็นปรินทร์เพียงคนเดียว
ปิ่นมุก : คุณ คุณมาได้ไง
ปรินทร์ : ผมต้องถามคุณมากกว่ามาที่นี่ทำไม ขออนุญาตผมหรือยัง
ปิ่นมุก : ฉันขอคุณยายแล้วค่ะ
ปรินทร์ : แต่คนที่คุณควรขอคือผม
ปิ่นมุก : ขอโทษค่ะ ครั้งหน้าฉันจะขออนุญาตคุณ ถ้าไม่มีอะไรขอตัวทำงานนะคะ
ปรินทร์ : ไม่มีครั้งหน้า เพราะผมไม่อนุญาต
ปิ่นมุก : แต่คุณไม่ได้แจ้งไว้ตั้งแต่ที่เราตกลงกันนะคะ ฉันก็มีงานของฉันเหมือนกัน
ปรินทร์ : งานของคุณคือเตรียมตัวอุ้มท้องลูกของผมเท่านั้น กลับกับผมตอนนี้ เดี๋ยวนี้
ปิ่นมุก : ฉันคิดว่าคุณจะเป็นคนที่มีเหตุผลมากกว่านี้นะคะ แต่นี่อะไร
ปรินทร์ : ปิ่นมุก!!!
ปิ่นมุกไม่ตอบอะไรออกไปเพียงแต่นั่งทำงานของตัวเองต่อ การกระทำของเธอยิ่งทำให้คนตรงหน้าไม่พอใจก่อนที่จะออกคำสั่งอีกครั้ง
ปรินทร์ : เย็นนี้ผมต้องเจอคุณที่บ้าน ห้ามมีข้อแม้ไม่งั้นเราได้เห็นดีกัน
ปิ่นมุกได้ยินทุกคำพูดของปรินทร์แต่เลือกที่จะมองหน้าเค้านิ่งๆก่อนที่เจ้าของคำสั่งจะคว้าเสื้อสูทราคาแพงแล้วเดินออกไปจากห้องเธอ ปิ่นมุกถอนหายใจออกมายาวๆก่อนที่จะก้มหน้าก้มตาทำงานของตัวเองต่อ……
