Ep.8
ห้องนั่งเล่น
ปรินทร์ : พ่อครับ แม่ครับ
ท่านไพศาล : อ้าว มากันแล้วหรอไม่เห็นบอกล่วงหน้าเลย
คุณนายเอื้อดาว : นั่นน่ะสิ ไม่โทรมาบอกแม่ล่ะลูกจะได้ทำกับข้าวไว้รอ
ปิ่นมุก : คุณท่านสวัสดีค่ะ สวัสดีค่ะคุณ….
… : ฉันชื่อวุ้น ภรรยาของผู้ชายที่ยืนอยู่ข้างเธอ
ปรินทร์ : นี่วุ้นภรรยาผม คุณต้องมาอุ้มบุญเเทนเค้า แล้วห้ามพูดเรื่องของวุ้นเป็นอันขาด ถ้าคุณปริปากพูดครอบครัวคุณเดือดร้อนแน่
ปิ่นมุก : ค่ะ
หญิงสาวมีคำถามในหัวที่ผุดขึ้นมา ในเมื่อมีเมียแล้วมาจ้างเธออุ้มบุญทำไม แถมเธอยังคุ้นหน้าภรรยาของผู้เป็นนายจ้างอีกด้วย….
ปรินทร์ : ละม่อม พาเธอไปดูห้องนอน
ละม่อม : ค่ะ
วุ้น : เดี๋ยว ฉันขอคุญกับเค้าเป็นการส่วนตัว ตามฉันมา
วุ้นเดินนำหน้าปิ่นมุกออกไปยังสวนข้างบ้านที่ถูกตกแต่งไว้อย่างเรียบหรูสบายตา
วุ้น : เธอรู้ใช่ไหม เธอมาที่นี่ในฐานะอะไร
ปิ่นมุก : ทราบดีค่ะ
วุ้น : ฉันเป็นคนที่หวงพื้นที่ส่วนตัว ของส่วนตัว ทุกอย่างที่เป็นของฉัน ฉันไม่ต้องการให้ใครมาก้าวก่ายมากเกินไป ปรินทร์ก็เหมือนกัน
ปิ่นมุก : ถ้าคุณหมายความว่าฉันจะล้ำเส้นกับคุณปรินทร์ คุณวางใจได้เลยค่ะ เพราะมันจะไม่เกิดขึ้น ฉันเเค่ต้องทำในหน้าที่ของฉันให้เสร็จสมบูรณ์ก็แค่นั้น
วุ้น : ก็ดี หลังจากเธอคลอดลูกฉันกับปรินทร์ เธอจะไสหัวไปไหนก็ไป
ปิ่นมุก : แต่คุณปรินทร์แจ้งไว้ว่าฉันจะต้องอยู่เลี้ยงลูกของเค้าอีก 3 ปีค่ะ
วุ้น : เธอว่ายังไงนะ
ปินมุก : ฉันต้องอยู่เป็นพี่เลี้ยงให้ลูกของคุณกับคุณปรินทร์อีก 3 ปี ตามข้อตกลงค่ะ
วุ้นชักสีหน้าไม่พอใจก่อนที่จะเดินกลับเข้ามาในห้องนั่งเล่น โดยมีปิ่นมุกเดินตามมาห่างๆ
วุ้น : รินทร์ นี่มันอะไรกันทำไมยายนี่ต้องอยู่เลี้ยงลูกของเราอีก 3 ปี
ปรินทร์ : ก็แค่ให้เป็นพี่เลี้ยงน่ะวุ้น เพราะแค่การอุ้มบุญ 9 เดือน ไม่รู้คุ้มกับหนี้ที่จะยกให้ไหม
วุ้น : แต่พี่เลี้ยงเราหาเอาก็ได้นี่คะ
คุณนายเอื้อดาว : ถ้าจะให้ถูกเธอควรพูดว่า ลูกของเราวุ้นเลี้ยงเองก็ได้มากกว่านะ
วุ้น : ไม่ได้หรอกค่ะ วุ้นมีคิวถ่ายละครยาวเหยียดเลย
คุณนายเอื้อดาว : ถ้าแบบนั้นเธอก็ควรอยู่เฉยๆ
วุ้น : แต่นี่มันลูกของวุ้น
คุณนายเอื้อดาว : แต่แม้แต่เวลาเธอยังหามาดูแลลูกไม่ได้เลย ถ้าจะทำได้แค่ให้เค้าเกิดมาจากไข่ของเธอเพียงอย่างเดียว แล้วเรียกตัวเองว่าแม่ผู้ประเสิรฐอย่าทำ
“”นี่ฉันไปบ้านสวนแค่ 5 วัน เกิดเรื่องอะไรขึ้นอีก เสียงดังไปถึงข้างนอกเลย””
คุณนายเอื้อดาว : คุณแม่ กลับมาทำไมไม่บอกคะดาวได้ไปรับ
คุณนายเอื้อดาวถามคำถามกับผู้เป็นแม่ หรือยายมาลัย ด้วยอารมณ์ที่สงบลง
ยายมาลัย : ฉันน่ะกลับเองได้ แต่ฉันถามว่าเกิดอะไรขึ้น แล้วแม่หนูคนนี้คือใคร
ปิ่นมุก : สวัสดีค่ะ
ปรินทร์ : นี่ปิ่นมุกครับ แม่อุ้มบุญลูกของผม
ยายมาลัย : มาถึงจุดนี้จนได้สินะ แล้วนี่ก็คงเป็นเรื่องที่ทำให้แกโวยวายสินะดาว
คุณนายเอื้อดาวเงียบไม่ได้ตอบอะไรกับผู้เป็นแม่ ยายมาลัยก็เป็นอีก 1 คนที่ไม่เห็นด้วยกับการใช้คนมาอุ้มท้องลูกของหลานชาย แต่เค้าก็ไม่ได้มีปากมีเสียงอะไรเพราะตัวเองเป็นผู้ใหญ่ที่สุดในบ้านทำได้แค่เคารพการตัดสินใจของเจ้าตัว ที่สำคัญเค้าเองก็ไม่ชอบวุ้นหลานสะไภ้เอามากๆ
วุ้น : แค่อุ้มท้อง จะอะไรกันนักหนาคะ ถ้ารอให้วุ้นท้องบอกได้คำเดียวเลยว่าไม่มีวันนั้น วุ้นขอตัวไปทำงานค่ะ
หญิงสาวเดินออกไปด้วยท่าทีไม่พอใจ ที่ทุกคนในบ้านเอาเเต่ไม่เข้าใจเธอ
ท่านไพศาล : เอาล่ะครับคุณแม่ ไหนๆทุกอย่างก็เกิดแล้ว
ยายมาลัย : ฉันน่ะไม่เห็นด้วยหรอกนะ แต่ฉันไม่ขอก้าวก่าย หนูชื่ออะไรจ้ะ
ปิ่นมุก : ปิ่นมุกค่ะ
ยายมาลัย : น่าตาย่ารักจิ้มลิ้มเชียวไม่น่ามาเจอเหตุการณ์แบบนี้เลย
ปรินทร์ : ผมขอตัวไปทำงานก่อนนะครับ ส่วนเธออยู่ที่นี่ก็อย่าทำตัวจุ้นจ้านวุ่นวาย ฉันไม่ชอบ ผมไปนะครับ
หลังจากทุกคนแยกย้ายละม่อมสาวใช้ของบ้านก็พาเธอมายังห้องนอน
ละม่อม : ขาดเหลืออะไรบอกได้นะคะคุณมุก
ปิ่นมุก : ขอบใจจ่ะ ฉันลงไปช่วยในครัวได้ไหม
ละม่อม : ได้ค่ะ เดี๋ยวละม่อมขอตัวก่อนนะคะ
หลังจากละม่อมออกไปปิ่นมุกก็ทิ้งตัวลงบนที่นอน นี่เเค่วันเเรกที่เค้าเข้ามาทุกอย่างยังดูวุ่นวายขนาดนี้ แถมเมียคุณปรินทร์ก็ยังแสดงท่าทางไม่พอใจเธออย่างเห็นได้ชัดอีก ปิ่นมุกถอนหายใจออกมายาวๆ ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ทักเข้ากลุ่มไลน์เพื่อนของเธอ
(ปิ่นมุก : พวกมึงงง)
(บาส : ยังมีชีวิตอยู่อีกหรอมึงอะ กว่าจะติดต่อได้)
(ปิ่นมุก : เมื่อคืนใครปล่อยกูกลับมากับตานี่)
(มิ้ง : ก็เค้ามาถึงแล้วไม่ฟังใครเลย ใครจะกล้าหือวะเค้าทำไรมึงหรือเปล่า)
(ปิ่นมุก : เปล่า แต่ตาบ้านนี่พากูเข้าบ้านแล้ว มาวันแรกก็สัมผัลได้ถึงสงครามจากเมียเค้าเลย)
(เนสท์ : เมีย? มีเมียเเล้วจะมาให้มึงอุ้มบุญลูกทำไม ทำไมไม่ให้เมียท้องเอง)
(มิ้ง : เออบ้าปะวะ)
(ปิ่นมุก : จากที่กูเห็นเมียตาบ้านี่ดูไม่อยากท้องเอามากๆเลยว่ะ)
(บาส : ก็คงเป็นพวกรักสวยรักงามแหละวะ แต่เอาตรงๆนะกูก็ไม่เข้าใจนางอยู่ดี นางไม่ได้ว่าอะไรมึงใช่ไหม)
(ปิ่นมุก : เรียกกูไปคุยส่วนตัว แล้วประกาศตัวประมาณว่าหวงผัว แลดูไม่ชอบกูมากจ่ะ)
(เนสท์ : แล้วมึงจะอยู่ได้ไหมวะ)
(ปิ่นมุก : อยู่ไม่ได้ก็ต้องได้ปะวะ กูไม่ได้มีอะไรกับผัวนางค่อนข้างเกลียดขี้หน้าด้วยซ้ำ)
(บาส : มีอะไรก็ทักมานะมึง สถานการณ์แลดูไม่เอื้อ)
(ปิ่นมุก : โอเคมึง)
หลังจากคุยกับเพื่อนเสร็จหญิงสาวก็ผล็อยหลับไปด้วยอาการเพลีย ตืนมาอีกทีเกือบเที่ยงเลยตัดสินใจลงมาข้างล่าง
ยายมาลัย : หนู เป็นไงลูกห้องพออยู่ได้ไหม
ปิ่นมุก : อยู่ได้ค่ะคุณยาย
ยายมาลัย : ถ้าเหงาไม่มีอะไรทำก้ฒาหายายนะ ยายก็คนแก่ขี้เหงา มานั่งนี่มาลูก ถักไหมพรมเป็นไหม
ปิ่นมุก : พอได้ค่ะ หนูเคยถักกับคุณแม่
ยายมาลัย : ยายรู้เรื่องของหนูจากลูกสาว ไม่คิดว่าจันทราจะมีลูกสาวสวยขนาดนี้
ปิ่นมุก : ขอบคุณค่ะ
ยายมาลัย : อยู่ที่นี่ก็ทำตัวตามสบายนะลูก ไม่ต้องสนใจตาปรินทร์กับเมียมัน มีอะไรก็มาบอกยาย ยายจัดการให้
ปิ่นมุกยิ้มให้ยายมาลัยอย่าเป็นมิตรก่อนจะนั่งลงถักไหมพรมกับคุณยาย หลังถักไหมพรมเสร็จยายมาลัยก็พาไปนั่งเล่นที่สวน ทั้งสองคนคุยกันค่อนข้างที่จะถูกคอ ทำให้หญิงสาวคลายกังวลเรื่องการมาอยู่ร่วมกับคนที่นี่ไปได้ค่อนข้างมาก….
