พันธะรักเมียแต่ง - 3
“ไปนะสร้อย” ลีลาเอ่ยแล้วก็ควงแขนสามีเดินขึ้นรถที่คนขับรถเปิดประตูรอ
“เดินทางปลอดภัยนะ” สร้อยเอ่ย
“เดินทางปลอดภัยนะคะ” คนางค์เอ่ยพร้อมยกมือไหว้ลาทั้งสอง
สร้อยกับคนางค์ ลูกสาวคนเล็กยืนมองรถยนต์ของจักษ์กับลีลาแล่นห่างออกไปจนลับตาถึงพากันหมุนตัวเดินเข้าไปในบ้าน
พอหมอมาตรวจดูอาการของเจติยาเสร็จ หล่อนก็อ้อนให้คริษฐ์อยู่ดูแลตัวเองต่อ และแน่นอนว่าคริษฐ์ปฏิเสธไม่ได้ด้วยเป็นห่วงและสงสารกลัวว่าหญิงสาวจะคิดสั้นอีก ซึ่งเพราะตัวเขา เธอถึงเป็นแบบนี้
“พี่ขอโทษแจน”
“ไม่เป็นไรค่ะ แจนรู้ว่าพี่คริษฐ์ไม่ผิด แต่แจนผิดเองที่รักพี่คริษฐ์มากจนทำใจรับเรื่องของพี่กับผู้หญิงคนนั้นไม่ได้ อึก! ฮือ...” แล้วเธอก็ปล่อยเสียงสะอื้นไห้ออกมาจนคริษฐ์ต้องลุกจากเก้าอี้มาโอบกอดปลอบเจ้าหล่อน
“ชูว์...ไม่ร้องนะคนดีของพี่ แจนฟังพี่นะ พี่ไม่ได้รักผู้หญิงคนนั้น คนที่พี่รักคือแจน แต่...” เขายังพูดไม่ทันจบ เสียงเล็กดัดจริตสั่นเครือก็ดังขึ้น
“ฮือ...แจนรู้ค่ะ พี่คริษฐ์เป็นลูกที่ดีของคุณนายสร้อย แต่แจนอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีพี่คริษฐ์ อย่าเลิกกับแจนเลยนะคะ ฮือๆๆ”
“แต่พี่แต่งงานกับเธอแล้วนะแจน พี่ทำร้ายแจนไม่ได้ พี่ไม่อยากให้แจนตกเป็นขี้ปากคนงานในไร่และคนรู้จักเรา เราเป็นพี่น้องกันได้นะครับคนดีของพี่”
“ฮือๆๆ ไม่ค่ะ แจนไม่อยากเป็นพี่น้อง” เจติยาดื้อไม่ยอมท่าเดียว
คริษฐ์จนปัญญาได้แต่เอี้ยวหน้าหันไปมองแม่ของอดีตแฟนสาวทางด้านหลังแล้วท่านก็ลุกจากโซฟาเดินมาหา
“ออกจากโรงพยาบาลค่อยคุยกันดีกว่าลูก เมื่อคืนคริษฐ์ก็อยู่ดูแลเราทั้งคืนเลยนะ” นิ่มบอกลูกสาว
“จริงเหรอคะแม่ พี่คริษฐ์ดูแลแจนทั้งคืนไม่ได้กลับไปหาเจ้าสาวของเขาใช่ไหมคะ”
เธอผละเงยหน้าที่ซบท้องคริษฐ์ออกมาแล้วผละปล่อยมือที่กอดเอวสอบมาปาดป้ายเช็ดน้ำตาที่เปื้อนสองแก้มออกทิ้ง และยิ่งแม่พยักหน้าตอบยืนยัน หล่อนก็ยิ่งดีใจเมื่อได้รู้ว่าตนเองสำคัญกว่าเจ้าสาวของชายหนุ่มและยิ่งไปกว่านั้นเขาทิ้งคืนที่สำคัญกับลัลนามาหาตนเองแบบนี้ก็ยิ่งสะใจที่ได้ทำให้เจ้าสาวของคริษฐ์เจ็บปวดกับคืนส่งตัวเข้าหอ
“น้าว่าสายแล้ว คริษฐ์กลับบ้านไปอาบน้ำเปลี่ยนชุดดีกว่าไหมลูก” นิ่มบอกชายหนุ่ม
“ก็ดีเหมือนกันครับ แจน...พี่กลับก่อนนะ เดี๋ยวตอนเย็นพี่จะมาอยู่เฝ้าเราเหมือนเดิม” เขาบอกเธอและนั่นก็ทำให้เจติยายิ้มและพยักหน้ารับรู้ แม้จะไม่พอใจที่จะปล่อยเขากลับไปหาภรรยาที่บ้าน แต่เขาก็บอกจะมาหาตนตอนเย็นและเธอก็เชื่อเขา เพราะขนาดเมื่อคืนเขายังทิ้งเจ้าสาวอยู่ห้องหอคนเดียวมาแล้ว คืนนี้ก็อีกเช่นกัน
“แจนจะรอพี่คริษฐ์นะคะ”
“ครับ แจนก็พักผ่อนนะ อย่าทำอะไรแบบเมื่อคืนอีกรู้ไหม พี่เป็นห่วง ถ้าแจนไม่อยู่แล้วพี่กับน้านิ่มจะทำยังไง”
“แจนจะไม่ทำอะไรโง่ๆ แบบนั้นอีกแล้วค่ะ”
“สัญญานะครับ”
“สัญญาค่ะ” สัญญาแต่ใช่ว่าอนาคตเธอจะรักษาสัญญา เพราะมันคือทางเดียวที่จะเรียกร้องความสนใจจากคริษฐ์ได้
“ผมไปนะครับน้านิ่ม ผมฝากดูแลแจนด้วยนะครับ”
“ขอบคุณนะคริษฐ์ เดี๋ยวยัยแจน...น้าจะดูแลเอง อีกอย่างแจนมันก็ลูกสาวน้า ไม่ต้องฝากน้าหรอก ยังไงน้าก็ต้องดูแลอยู่แล้ว”
“ครับ ไปแล้วนะแจน” แล้วเขาก็เดินออกจากห้องพักฟื้นไปทิ้งเหลือสองแม่ลูกอยู่กันตามลำพัง
“ฉันบอกแม่แล้วไงว่ายังไงฉันก็สำคัญกับพี่คริษฐ์” พอเหลือกันสองคน เจติยาก็เอ่ยกับคนเป็นแม่
“แม่อยากให้แกตัดใจและทำใจยอมรับนะแจน ตอนนี้คริษฐ์ก็แต่งงาน จดทะเบียนสมรสแล้ว”
“ใช่ว่าจะหย่าไม่ได้สักหน่อย ฉันจะนอนแล้วแม่” แล้วเจติยาก็ล้มตัวลงนอนหันหลังให้คนเป็นแม่
เฮ้อ!
นางนิ่มได้แต่ส่ายหน้าให้กับความคิดของลูกสาว นางไม่เข้าใจจริงๆ ทำไมลูกสาวถึงไม่ยอมรับความจริงว่าตอนนี้คริษฐ์ไม่ใช่ของตนแล้วและคริษฐ์ก็ไม่ได้เลือกตนเองเป็นครอบครัว
