พันธะรักเมียแต่ง+พยศรักคนถ่อย

56.0K · จบแล้ว
ณิการ์
55
บท
4.0K
ยอดวิว
9.0
การให้คะแนน

บทย่อ

แฟนเก่าก็ตัดไม่ขาด แล้วเมียแต่งก็ทำให้หวั่นไหว "คริษฐ์" เริ่มไม่แน่ใจแล้วว่าตัวเองรู้สึกยังไงกับเมียแต่งอย่าง "ลัลนา" +++++ “นาจะหย่าค่ะ” เธอเอ่ยอย่างเด็ดขาดต่างจากครั้งก่อนแล้วยกมือปาดเช็ดน้ำตาเดินออกไปจากห้อง ส่วนคนที่ถูกขอหย่าแต่งตัวเสร็จแม้ไม่เรียบร้อยดีเท่าไหร่นักก็วิ่งตามภรรยาออกไปโดยไม่สนใจผู้หญิงบนเตียงที่หลับนอนกับตนในคืนที่ผ่านมา “ฟังฉันก่อนนา ฉันอธิบายได้” เขาวิ่งมาคว้าจับข้อมือเล็กดึงรั้งไว้ แต่เธอสะบัดทิ้งพร้อมหยุดเท้าที่เดินแล้วหันมาตอบสวนกลับ “พรุ่งนี้เจอกันที่หน้าสำนักงานเขตค่ะ คุณไม่รักนา นาเข้าใจ แต่ก็ควรจะไว้หน้านาบ้าง คุณพาเธอมาทำเรื่องอุบาทว์บนเตียงของเราได้ยังไงกันคุณคริษฐ์ ทุเรศที่สุด!” เธอผิดเองที่ปล่อยให้เขาอยู่บ้านคนเดียวนานเดือนกว่าและไม่แปลกที่ผู้ชายที่เซ็กซ์จัดอย่างเขาจะพาเจติยามาทำเรื่องต่ำทรามแบบนี้ แต่มันไม่ควรเป็นบนเตียงนอนของเธอกับเขา มันควรเป็นที่อื่นไม่ใช่ในบ้านหลังนี้ “ฉันไม่หย่า! ยังไงฉันก็ไม่หย่า ได้ยินไหม” คริษฐ์ตอบกลับพร้อมยื่นมือจะจับมือเล็ก แต่เธอดึงมือหนี +++++ “ยะ...ยอมแย้ว ยอมแย้ว คิก...” ก็หนวดเคราของพ่อถูไถตามหน้าจนจั๊กจี้จนทนไม่ไหว “หึหึ...รู้ซะบ้างว่าเนี่ยใคร พ่อทำให้คชาเกิดมา คชาต้องสำนึกในบุญคุณเข้าใจไหม” คริษฐ์ให้ลูกชายนั่งตักตนเมื่อภรรยาเอาขาทั้งสองลงไปหย่อนกับพื้นเหมือนเดิม “แต่ผมกินนมแม่นา” หนูน้อยตอบกลับ “แต่พ่อกินนมแม่นาของเราก่อนเรา” คริษฐ์ตอบกลับลูกชาย “พี่คริษฐ์พอแล้ว เลิกแกล้งลูกได้แล้วค่ะ” ลัลนาบอกสามีเมื่อสองพ่อลูกเริ่มทะเลาะกันและต่อไปก็จะแย่งเธอว่าเธอเป็นของตนบ้างล่ะ “เมียพ่อขอหรอกนะเลยไม่อยากรังแก” คริษฐ์พูดแล้วก็หยิกแก้มกลมๆ ลูกหยอกอย่างหมั่นไส้ “แม่ผมขอเหมือนกันหรอกจึงยอมปล่อยพ่อ ชิ!” แล้วคชาก็กอดอกมองเบือนไปทางอื่น

นิยายรักโรแมนติก

พันธะรักเมียแต่ง - 1

ทันทีที่พิธีแต่งงานและจดทะเบียนส่งตัวเข้าหอเสร็จสรรพ เจ้าบ่าวก็หายตัวไปจากบ้านไม่มีใครติดต่อได้ แล้วเธอควรรู้สึกยังไงทั้งๆ ที่วันนี้เป็นวันสำคัญของตนและเขา แต่เขากลับไม่อยู่หายตัวออกไปจากห้องหอทันทีเมื่อพ่อกับแม่ส่งตัวให้พรเสร็จ เขาก็คุยโทรศัพท์แล้วออกไปทันทีด้วยความเร่งรีบไม่พูดจากับเธอสักคำว่าจะไปไหน มีเรื่องอะไรด่วนกว่าคืนแรกของการแต่งงานอีกล่ะ และใครกันที่โทรมาหาเขา

ลัลนา มากมีทรัพย์ หรือนา วัย 26 ปี วันนี้เธอได้ทำการเปลี่ยนนามสกุลมาใช้ของสามีเป็นธรรมวิเศษ สามีของเธอก็คือนายคริษฐ์ ธรรมวิเศษ วัย 33 ปี ทายาทคนโตของไร่องุ่นธรรมวิเศษ พ่อกับแม่ของเธอและพ่อกับแม่ของเขาเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่สมัยเรียนและให้คำมั่นสัญญากันว่าหากมีลูกสาวลูกชายจักให้แต่งงานกัน ซึ่งตอนนี้เธอกับเขาก็ได้แต่งงานกันตามคำมั่นสัญญาของพวกท่านแล้ว แม้วันนี้พ่อของคริษฐ์จะไม่อยู่แล้วก็ตาม จริงอยู่เขาไม่ได้ ‘รัก’ เธอ แต่สำหรับเธอแล้วมันคือความ ‘รัก’ เป็นรักแรกเจอและเป็นความรักในเงามาตลอด 10 กว่าปีแล้วก็ว่าได้

“นาไม่ควรคาดหวังไปมากกว่านี้ใช่ไหมคะคุณคริษฐ์” เธอพึมพำกับตัวเองพร้อมกับลุกขึ้นจากเตียงนอนนุ่มที่โรยไปด้วยกลีบกุหลาบสีแดง สีชมพูและขาวปะปนกันเป็นรูปหัวใจสองดวงบนเตียง

“นารู้แต่แรกแล้วว่าคุณคริษฐ์ไม่รู้สึกอะไรกับนา กลับ ‘เกลียด’ นาเสียด้วยซ้ำที่ตกลงแต่งงานกับคุณ” เธออยากเข้มแข็งแต่ก็ยากเหลือเกิน มือน้อยยกมือขึ้นปาดป้ายเช็ดน้ำตาที่กำลังไหลรินอาบเปื้อนแก้มแล้วสูดลมหายใจเข้าเต็มปอดให้กำลังใจตัวเองก่อนจะเดินไปผลัดเปลี่ยนชุดอาบน้ำนอนในคืนเข้าหอที่ไร้เงาเจ้าบ่าวร่วมเตียงด้วย

คริษฐ์นั่งเฝ้ารออยู่หน้าห้องฉุกเฉินรอจนเจ้าหน้าที่เปิดประตูออกมาแล้วคุณหมอก็บอกว่าคนที่ถูกส่งตัวมานั้นปลอดภัยแล้วเขาก็โล่งอก เขารีบวิ่งไปเกาะขอบเตียงที่เจ้าหน้าที่เข็นออกมาจากห้องแล้วเดินตามไปยังห้องพักฟื้นโดยมีญาติของหญิงสาวเดินตามไปด้วย

“ขอโทษที่น้าโทรไปรบกวนคริษฐ์นะลูก แต่น้าไม่รู้จะโทรหาใครแล้ว น้ากลัว กลัวมากตอนเข้าไปในห้องเห็นยายแจนน้ำลายฟูมปาก” นางบอกชายหนุ่มเสียงสั่นเครือ

“ไม่เป็นไรหรอกครับน้านิ่ม น้านิ่มคิดถูกแล้วที่โทรหาผม ที่น้องแจนเป็นแบบนี้ก็เพราะผม ดีที่เราพามาล้างท้องทัน” เขาบอกท่าน

“น้าขอโทษคริษฐ์อีกครั้งนะลูกที่รบกวนวันสำคัญของเราแบบนี้ แล้วตอนออกมาเจ้าสาวของคริษฐ์ไม่โกรธเหรอลูก”

“ไม่ต้องห่วงหรอกครับ ตอนนี้คนที่เราต้องห่วงคือน้องแจนมากกว่า” เขาจัดการเรื่องค่ารักษาพยาบาลและที่พักให้เจติยาทุกอย่าง เจติยาเป็นน้องสาวของเพื่อนสนิทของเขา แต่ว่าเพื่อนสนิทได้จากไปเมื่อแปดปีก่อน เขาจึงรับอาสาดูแลครอบครัวของเพื่อนต่อ ให้บ้านพักและให้อาชีพกับสองแม่ลูกและส่งเจติยาเรียนจนตอนนี้เรียนจบบัญชีมาช่วยงานที่ไร่องุ่นของตนเอง

“ขอบคุณคริษฐ์มากนะลูกที่ดีกับเราสองแม่ลูก”

“น้านิ่มกับน้องแจนเป็นครอบครัวของผมเหมือนกันนะครับ ผมบอกแล้วไงว่าผมจะดูแลน้านิ่มกับน้องแจนเอง ผมสัญญากับไอ้เชนยังไง ผมก็จะทำแบบนั้นครับ จนกว่าน้านิ่มกับน้องแจนจะไม่ต้องการผมแล้ว” เขาบอกท่าน

“คริษฐ์กลับบ้านเถอะลูก ทางนี้น้าจัดการเอง”

เมื่อมาถึงห้องพักฟื้น นางก็เอ่ยบอก ส่วนเจ้าหน้าที่พอย้ายผู้ป่วยนอนบนเตียงเสร็จก็พากันออกไปจากห้อง

“ไม่เป็นไรครับ ผมจะอยู่กับน้านิ่ม รอจนกว่าน้องแจนจะตื่น” เขายังไม่อยากกลับไปเจอหน้าเจ้าสาว ไม่อยากกลับไปอยู่ในห้องที่น่าอึดอัดนั้น

“งั้นก็ตามสบายเถอะ” แล้วนางก็มองดูลูกสาวที่หลับสนิทบนเตียงแล้วมองชายหนุ่มที่ยืนอยู่ข้างเตียงลูกสาว หากว่าคริษฐ์ไม่แต่งงานตามคำสั่งเสียของพ่อที่จากไป คนที่เป็นเจ้าสาวของชายหนุ่มในวันนี้คงเป็นลูกสาวนาง เพราะคริษฐ์กับเจติยาคบหากันมาได้ห้าปี แต่ทุกอย่างมันต้องจบลงเมื่อก่อนพ่อของคริษฐ์จากไปนั้นได้สั่งเสียไว้และคริษฐ์ก็รับปากจะทำตาม และนั่นคือสาเหตุที่ทำให้เจติยาคิดสั้นในวันนี้ เพราะยอมรับความจริงไม่ได้