พันธะมังกร เหนือชะตาฟ้า บทที่ 7
"ข้าเป็นหมอ" เหลียนฮวาตอบสั้นๆ ก่อนจะเดินปรี่เข้าไปคุกเข่าลงข้างคนเจ็บโดยไม่รอคำอนุญาต "ข้าต้องดูแผลเดี๋ยวนี้" หัวหน้าทหารมองหน้ากับลูกน้อง "ปล่อยเขา ดูท่าเขาจะช่วยได้" ลูกน้องคนหนึ่งพูด "แต่ท่านสือจิ้ง ถ้าเขาเป็นสายลับล่ะ?" สือจิ้ง (หัวหน้าทหาร) ส่ายหน้า "ดูสภาพสหายเรา ถ้าไม่ช่วย เขาตายแน่"
เขายื่นมือไปปลดผ้าพันแผลเก่าออกอย่างรวดเร็ว กลิ่นเหม็นเน่าคละคลุ้งปะทะจมูกทันทีที่ผ้าหลุดออก เผยให้เห็นบาดแผลฉกรรจ์ที่น่าจะเกิดจากคมดาบ ปากแผลเปิดอ้า ขอบแผลบวมเป่งเป็นสีม่วงคล้ำ และเต็มไปด้วยหนองข้นสีเหลืองปนเขียว ‘แย่กว่าที่คิด’เขาพึมพำในใจ ขณะที่หยุนหลิงยืนมองจากไกล สีหน้าซีด
"ต้องเอาหนองออกและตัดเนื้อตายทิ้งให้หมด ก่อนที่พิษจะแล่นเข้าสู่หัวใจ" เหลียนฮวาเงยหน้าขึ้นสบตากับหัวหน้าทหาร ดวงตาของเขาสงบนิ่งแต่แฝงไปด้วยอำนาจบางอย่าง "ก่อไฟ ต้มน้ำให้เดือดที่สุดเท่าที่จะทำได้ เอาผ้าสะอาดทั้งหมดที่มีมาให้ข้า และข้าต้องการสุราที่แรงที่สุดที่พวกท่านมี" สือจิ้งพยักหน้า "ฟังเขา! เราต้องช่วยสหาย"
เหล่าทหารมองหน้ากันเลิ่กลั่ก พวกเขาไม่เคยเจอหมอที่ไหนสั่งการฉะฉานและดูน่าเชื่อถือเท่านี้มาก่อน แม้จะยังไม่คลายความสงสัยทั้งหมด แต่เมื่อเห็นสภาพของสหายที่ใกล้ตายเต็มที พวกเขาก็ไม่มีทางเลือกอื่น "ทำตามที่เขาบอก!" หัวหน้าหน่วยสั่งการเด็ดขาด
ทหารที่เหลือจึงรีบแยกย้ายกันทำงานอย่างรวดเร็ว ไม่นานนัก กองไฟก็ถูกจุดขึ้น หม้อเหล็กสำหรับเดินทางถูกนำมาต้มน้ำจนเดือดพล่าน เหลียนฮวานำมีดพกสั้นที่ติดตัวมาเสมอจุ่มลงไปในน้ำเดือดเพื่อฆ่าเชื้อ ก่อนจะรับขวดสุรามาจากทหารนายหนึ่ง เขาเปิดจุกแล้วราดลงบนคมมีดอีกครั้งเป็นการฆ่าเชื้อซ้ำซ้อน จากนั้นจึงราดสุราที่เหลือลงบนบาดแผลของผู้ป่วยโดยตรง "อ๊ากกกกก!" เสียงร้องโหยหวนดังลั่นป่า ชายที่นอนหมดสติถึงกับสะดุ้งสุดตัวด้วยความเจ็บแสบ หยุนหลิงสะดุ้งตาม "น่ากลัวจัง..."
"จับตัวเขาไว้ให้แน่น! อย่าให้ดิ้น!" เหลียนฮวาสั่งเสียงเฉียบขาด ทหารสองนายรีบเข้ามาจับแขนและขาของสหายตนไว้มั่น "ทนหน่อยสหาย!" หนึ่งในทหารพูดปลอบ
จากนั้น การรักษาที่น่าหวาดเสียวที่สุดเท่าที่เหล่าทหารเคยเห็นก็เริ่มต้นขึ้น เด็กหนุ่มที่ดูบอบบางราวกับจะปลิวลมใช้มีดเล่มนั้นกรีดเปิดปากแผลอย่างมั่นคงไม่มีการสั่นไหว เขาค่อยๆ เลาะและขูดเอาหนองกับเนื้อเยื่อที่ตายแล้วซึ่งเป็นแหล่งเพาะเชื้อโรคออกอย่างใจเย็น ทุกการเคลื่อนไหวของเขาแม่นยำและเด็ดเดี่ยว ไม่มีความลังเลแม้แต่น้อย เลือดสีคล้ำไหลทะลักออกมาพร้อมกับหนอง แต่เขาก็ยังคงทำต่อไปอย่างสงบ สือจิ้งมองอย่างทึ่ง "มือเขาไม่สั่นเลย...เหมือนเคยผ่านสนามรบมา"
เวลาผ่านไปราวหนึ่งเค่อ (15 นาที) ที่ยาวนานราวกับชั่วนิรันดร์ ในที่สุดเหลียนฮวาก็หยุดมือ บาดแผลบัดนี้ดูสะอาดขึ้นมากแม้จะน่ากลัวก็ตาม เขาใช้ผ้าสะอาดชุบน้ำต้มสุกเช็ดคราบเลือดรอบๆ ก่อนจะหยิบสมุนไพรสองสามชนิดที่เขาจำได้จากความทรงจำของเหลียนฮวาว่ามีฤทธิ์สมานแผลและฆ่าเชื้อมาบดรวมกันแล้วพอกลงบนแผลสด ก่อนจะพันทับด้วยผ้าสะอาดอีกชั้นหนึ่งอย่างแน่นหนา หยุนหลิงเดินเข้ามาใกล้ "เสร็จแล้วเหรอ? เขาจะรอดไหม?" เหลียนฮวาพยักหน้า "ถ้าดูแลดี จะรอด"
เมื่อเสร็จสิ้นทุกอย่าง หน้าผากของเหลียนฮวาก็ชื้นไปด้วยเหงื่อ แต่ลมหายใจของเขายังคงสม่ำเสมอ เขาหันไปมองชายที่เพิ่งได้รับการรักษา แม้จะยังไม่ได้สติ แต่สีหน้าดูผ่อนคลายลง อาการตัวสั่นเริ่มทุเลา
เหล่าทหารที่มุงดูอยู่ต่างกลืนน้ำลายดังเอื๊อก พวกเขามองเหลียนฮวาด้วยสายตาที่เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง จากความระแวงสงสัย กลายเป็นความทึ่งและนับถืออย่างสุดหัวใจ พวกเขาเคยผ่านสนามรบมานับครั้งไม่ถ้วน เห็นหมอสนามมาก็มาก แต่ไม่เคยมีใครที่มีวิธีการรักษาที่น่าทึ่งและได้ผลรวดเร็วเช่นนี้มาก่อน "นี่...หมอเทวดาจริงๆ" ทหารคนหนึ่งพึมพำ
"ขอบคุณ...ขอบคุณท่านหมอเทวดา!" หัวหน้าทหารทรุดกายลงคุกเข่าข้างหนึ่งต่อหน้าเหลียนฮวา "ท่านช่วยชีวิตสหายของข้าไว้ บุญคุณครั้งนี้...พวกข้าจะไม่มีวันลืม!" สือจิ้งพูดด้วยน้ำเสียงซาบซึ้ง ลูกน้องคนอื่นๆ คุกเข่าตาม "ท่านหมอ เราจะตอบแทนอย่างไรดี?" เหลียนฮวามองภาพนั้นนิ่งๆ ก่อนจะถอนหายใจออกมาเบาๆ ดูเหมือนว่าชีวิตใหม่ที่เขาไม่เคยต้องการนี้...เพิ่งจะนำพาเรื่องวุ่นวายครั้งใหญ่มาให้เขาเสียแล้ว หยุนหลิงยิ้ม "คุณชายเก่งจริงๆ แต่เราควรกลับหมู่บ้านไหม? ทหารพวกนี้ดูน่ากลัว" เขาพยักหน้า แต่ในใจรู้ว่าการพบครั้งนี้จะเปลี่ยนทุกอย่าง
