บทที่ 2 ความจำเป็น (3)
“สะดวกยิ่งกว่าสะดวกซะอีก เรื่องเด็กไม่ใช่ปัญหาใหญ่สำหรับฉันเลย เพราะยังไงเธอก็จ้างพี่เลี้ยงมาเลี้ยงเจ้าหนูเดวิดอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ”
ขวัญชีวาพยักหน้าน้อยๆ “ขอคิดดูก่อนก็แล้วกัน”
“ไม่เห็นมีอะไรต้องคิดเลย เธอย้ายมาอยู่กับฉัน เวลาไปทำงานจะได้สะดวกยิ่งขึ้น” เบอร์นาร์ดหาแรงจูงใจเพิ่มอีกข้อ
ขวัญชีวาชำเลืองตามองเบอร์นาร์ดอีก “ถามจริงที่ชวนๆ นี่มีแผนการอะไรซ่อนอยู่หรือเปล่า?”
“แผนอะไร ไม่มีทั้งนั้นแหละ” เบอร์นาร์ดจีบปากจีบคอตอบ
ขวัญชีวานิ่วหน้าก่อนขยับตัวเพื่อหันมามองเบอร์นาร์ดอย่างจริงจัง “ถ้าฉันไปอยู่ด้วยจริง แกกับแฟนจะมีปัญหากันมั้ยล่ะ?”
“ไม่มีหรอก ตอนนี้ฉันโสดย่ะ ที่ชวนเพราะฉันไม่อยากอยู่คนเดียว บอกตรงๆ พออยู่คนเดียวมันฟุ้งซ่านน่ะ เหงาด้วย” เบอร์นาร์ดสารภาพไปตามตรง สีหน้าเศร้าลง
“เออไม่ต้องบรรยายมาก เห็นภาพแล้ว ว่าแต่ชวนฉันไปอยู่ด้วยแบบนี้ ไม่กลัวฉันปล้ำเอาหรือไง?” หญิงสาวถามอย่างสนุกปาก เพราะบรรดาเพื่อนในกลุ่มเธอจะสนิทกับซินเทีย และเบอร์นาร์ดมากที่สุด
“กล้าถามนะยะ”
ขวัญชีวาหัวเราะ “ต้องถามเพื่อความรอบคอบไว้ก่อนไง”
“ถ้าเธอหน้ามืดจะปล้ำกะเทยทำสามีก็เอาสิ แต่บอกไว้ก่อนฉันยังเวอร์จิ้นนะ ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยเสียตัวให้ผู้หญิงคนไหนมาก่อนเลย” เบอร์นาร์ดทำท่าสะดีดสะดิ้ง
ขวัญชีวาหัวเราะเสียงดัง “มีแต่เสียตัวให้ผู้ชายล่ะสิ”
“เออสิ เบื่อคนรู้ทันจังเลย” เบอร์นาร์ดยอมรับตรงๆ
ขวัญชีวาหัวเราะพลางส่ายหน้า “โอ๊ย เสียดายของว่ะ ไม่รู้จะเกิดเป็นผู้ชายทำไม”
“ฉันก็เกิดมาเพื่อให้ชะนีอย่างแกอิจฉาเล่นไง”
ขวัญชีวาอมยิ้ม “ถ้าแกเป็นผู้ชายเต็มตัวมันก็น่าปล้ำอยู่หรอก แต่ปัญหาคือแกไม่ใช่ผู้ชายนี่สิ ต่อให้ฉันเมาจนหัวราน้ำยังไงฉันก็ข่มขืนแกไม่ลงว่ะ”
เบอร์นาร์ดหัวเราะแล้วเปลี่ยนเรื่องคุย “เออว่าจะถาม เมื่อคืนก่อนที่ผับจะปิด ฉันเห็นผู้ชายคนนึงที่หน้าเคาน์เตอร์ เขามาจีบเธอเหรอ?”
“ใครเหรอ?” ขวัญชีวานิ่วหน้า เพราะคืนที่ผ่านมามีลูกค้าหน้าตาดีมานั่งหน้าเคาน์เตอร์เพื่อชวนเธอคุยและรวมถึงชวนเธอไปออกเดทหลายราย
“ก็ผู้ชายหล่อๆ ที่เทเหล้าลงพื้นน่ะ”
พอเบอร์นาร์ดบอกรายละเอียดขวัญชีวาก็นึกออกทันทีว่าเป็นใคร “ก็แค่พวกเศรษฐีงี่เง่าน่ะ อย่าไปสนใจเลย”
“แหม หล่อซะขนาดนั้นไม่สนใจไม่ได้หรอก ทั้งหล่อ ทั้งสมาร์ต ดูดี กะเทยอย่างฉันยังหวั่นไหวเลย”
ขวัญชีวาส่ายหน้าให้กับกิริยากระดี๊กระด๊าของเบอร์นาร์ด “ถ้าแกรู้ว่าเจ้าหมอนั่นเป็นใคร แกอาจเปลี่ยนใจเลิกชอบเขาก็ได้”
“ไม่มีทาง!” เบอร์นาร์ดปฏิเสธทันที “ต่อให้เขาเป็นโจร ฉันก็ไม่สนหรอก ฉันรับได้หมด”
“เฮ้อ เป็นเอามาก” หญิงสาวส่ายหน้าด้วยความระอา ก่อนตัดบทสนทนาด้วยการหันหน้ามาสนใจเส้นทางที่จะมุ่งหน้าไปยังบ้านของลูกค้า
ใช้เวลาอีกยี่สิบนาทีเท่านั้น เบอร์นาร์ดก็จอดรถอยู่หน้ารั้วคฤหาสน์หลังงามซึ่งถูกสร้างให้ห่างออกจากตัวเมือง ความสวยงามและความหรูหราของคฤหาสน์สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับหญิงสาวเป็นอย่างมาก
“เบอร์นาร์ด นี่บ้านลูกค้าของเราจริงเหรอ?” ขวัญชีวาถามด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น เพราะนี่จะเป็นครั้งแรกที่เธอจะได้เหยียบเข้ามาในคฤหาสน์สุดหรู!
“ใช่ ที่นี่แหละ คฤหาสน์ของมาดามอิซาเบล ดูจากรั้วบ้านท่าทางจะมีงานให้เราทำเยอะน่าดู” เบอร์นาร์ดบอกด้วยเสียงเนิบๆ ก่อนนำบัตรพนักงานมาแขวนคอแล้วลงจากรถเพื่อกดกริ่ง อึดใจเดียวประตูรั้วอัลลอยแบบมีรีโมทคอนโทรลก็เปิดออกกว้าง
ขวัญชีวาซึ่งนั่งอยู่ในรถกวาดสายตาไปทั่วบริเวณด้วยความตื่นเต้น เธอเคยเห็นคฤหาสน์หลังงามจากภาพยนตร์เท่านั้น แต่เมื่อมาสัมผัสกับสถานที่จริงก็สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับเธอเป็นอย่างมาก
เพราะทั้งชีวิตเธอไม่เคยเห็นสิ่งก่อสร้างที่เรียกว่าบ้านมีขนาดใหญ่โตเท่านี้มาก่อน พอได้เห็นมันทำให้ความรู้สึกเหมือนเธอได้ย้อนเวลากลับไปอดีต
คฤหาสน์หลังใหญ่ยักษ์ตรงหน้าสร้างจากหินอ่อนสีขาวน้ำนมสไตล์ยุโรป รูปทรงสี่เหลี่ยม ไม่มีระเบียง แต่เน้นกระจกใสรอบตัวคฤหาสน์เพื่อความปลอดโปร่งและติดผ้าม่านสีเหลืองอ่อนเอาไว้ รอบๆ คฤหาสน์มีต้นสนขนาดใหญ่มากมาย
แต่ที่ดึงดูดความสนใจเธอได้มากกว่าตัวคฤหาสน์ที่หรูหรา ก็คือดอกกุหลาบสีชมพูขนาดใหญ่เท่ากำปั้นมือมากมายที่บานสะพรั่งส่งกลิ่นหอมและขดพันตามต้นเสาเป็นพุ่มสวย
