บท
ตั้งค่า

บทที่ 3 เสแสร้ง

“คุณหนูไป่เซียนโดนอีกแล้ว”

“ข้าสงสารนางนัก” ก่อนเสียงตวาดของหลิวฟู่ชุนจะดังขึ้นอีก

“ข้าบอกเจ้าแล้ว ว่าให้ดูแลเฉิงหลิงให้ดี เจ้าพานางออกไปเที่ยวเล่นไม่พอ เหตุใดนางจึงขาเจ็บกลับมาเช่นนี้” เป็นคำถามที่ไม่ว่าไป่เซียนจะตอบเช่นใด ก็มิอาจพ้นโทษไปได้ จึงยอมก้มหน้าเก็บงำความจริงไว้

“เหตุใดข้าถาม จึงไม่ตอบ!” เสียงตะคอกดังลั่น ทำให้หลิวเฉิงหนิงรีบปรับสีหน้า แล้วทำทีกล่าวห้าม

“ท่านพ่ออย่าได้โทษพี่ไป่เซียนเลยเจ้าค่ะ ข้าซุ่มซ่ามวิ่งล้มจนขาเคล็ดไปเอง” นางทำเสแสร้งยอมรับผิด เดินเข้ามาพร้อมกับมีบ่าวคอยช่วยประคองด้วยเพราะกำลังเจ็บขา

“พี่ไป่เซียนไม่ได้ตั้งใจให้ข้าเจ็บตัว แต่เป็นข้าที่ซุ่มซ่ามล้มไปเอง”

“เจ้ายังจะเข้าข้างนางอีกเช่นนั้นฤา” เสียงของหลิวฟู่ชุนผู้เป็นบิดาหันมาตะคอกนางแทน ทว่าหางตาของเฉิงหนิงลอบมองพี่สาวหนึ่งครั้งอย่างคนถือไพ่เหนือกว่า

“พี่ไป่เซียนไม่เหลือใครในชีวิตแล้วนะเจ้าคะ หลังจากท่านแม่สิ้น ก็มีเพียงข้าที่เป็นน้องสาวสายเลือดเดียวกับนาง ไม่ว่าอย่างไร ข้าก็ต้องอยู่ข้างนาง”

“เจ้าแสนดีเกินไปเฉิงหนิง แล้ววันหนึ่งเจ้าจะต้องเสียใจเพราะนาง” ชายชราพูดพลางสะบัดมือออกอย่างไม่พอใจ ก่อนจะหันกลับมาจับจ้องยังหลิวไป่เซียน

หลิวฟู่ชุนไม่ใคร่ชอบหน้านางนัก เพราะเป็นลูกติดภรรยามา ในตอนนั้นนางแบเบาะอายุได้ไม่ถึงขวบเดือน ด้วยความรักที่เขามีต่อภรรยาจึงยอมรับเป็นพ่ออย่างไร้ข้อแม้ จากนั้นสามปีหลิวฟู่ชุนก็มีลูกแท้ ๆ ของตัวเองนั่นก็คือหลิวเฉิงหนิง และนับจากนั้นนางคือแก้วตาดวงใจของเขาเสมอมา

“ข้าเคยบอกเจ้าแล้วใช่ฤาไม่ ว่าห้ามพาเฉิงหนิงออกไปเที่ยวเล่นนอกจวน แล้วเหตุใดจึงไม่เชื่อฟัง” ไป่เซียนหลุบตาต่ำลงอีกครั้ง ไม่พูดหรือแก้ตัวเช่นเดิม สายตาหวานระริกมองเพียงพื้นด้านล่าง ไร้คำตอบจากปากของนาง

“ความเงียบของเจ้านั้น ข้าเกลียดยิ่งนัก ดี! เช่นนั้นข้าจักทำโทษให้เจ้าไปยังแปลงปลูกสมุนไพร เจ้าจงสำนึกผิดที่นั่นสามวันสามคืนอย่าได้ออกมา” บทลงโทษประกาศก้องชัดเจนด้วยความโกรธ

“ท่านพ่อ เหตุใดจึงทำโทษพี่ไป่เซียนรุนแรงเช่นนั้น” มือบางคว้าไปที่มือของชายชราในทันที ก่อนเขาจะสะบัดออกอย่างไม่สนใจ

“เจ้าไม่ต้องมาห้ามข้า ที่ข้ายอมให้นางเป็นคุณหนูเทียบกับเจ้านั้น เพราะเห็นแก่แม่ของเจ้า ไม่เช่นนั้นข้าคงไล่นางออกจากจวนไปนานแล้ว” หลิวฟู่ชุนสะบัดตัวด้วยความโมโห แล้วเดินกลับเข้าไปในจวนทันที

ไป่เซียนที่ยืนเข้มแข็งอยู่เมื่อครู่ จึงค่อย ๆ ปล่อยน้ำตาออกมา ก่อนจะเลื่อนสายตามองตรงมายังน้องสาวด้วยความเจ็บปวด ทุกครั้งที่นางทำให้เฉิงหนิงไม่พอใจ นางก็จะโดนใส่ความให้ถูกทำโทษเสมอ

“ข้าบอกท่านพี่แล้วใช่ฤาไม่ ว่าอย่าขัดใจข้า มิเช่นนั้นท่านก็จะโดนท่านพ่อทำโทษ” เสียงเล็กกล่าวต่อว่า ก่อนจะสะบัดตัว หันกลับเข้าจวนไปโดยที่ไม่ต้องมีบ่าวคอยประคองเหมือนเช่นเมื่อครู่

“นับจากเด็กจนโต ข้าไม่เคยทำร้ายเจ้าเลยสักครั้ง” น้ำเสียงสั่นเครือของไป่เซียนทำให้เฉิงหนิงหันกลับมาพร้อมแสยะยิ้ม ก่อนไป่เซียนจะพูดต่อด้วยความน้อยใจ

“จริงอยู่ ที่ข้ามีเจ้าเพียงคนเดียวที่เป็นสายเลือดเดียวกัน ข้ารอเพียงแค่เจ้าจะเปลี่ยนความคิด เห็นข้าเป็นพี่สาวของเจ้าจริง ๆ สักครั้ง” เฉิงหนิงยิ้มเยาะ อย่างไม่แยแสพลันหันตัวเดินกลับเข้าจวนไป

เมื่อทุกคนหันหลังให้ ไม่เหลือแม้แต่บ่าวไพร่ที่อยู่บริเวณนั้น หลิวไป่เซียนจึงทิ้งกายลงกับพื้น พลางร้องไห้ออกมาด้วยความเจ็บปวด คำฝากฝังของมารดา เป็นเหมือนคำสาป ให้นางต้องทนอยู่ดูแลน้องสาวต่อไปอย่างไม่มีข้อแม้

“ไป่เซียนลูกรักของแม่ ข้าขอให้เจ้ารับปากได้ฤาไม่ ว่าจะดูแลอบรมสั่งสอนเฉิงหนิงให้เป็นคนดีแทนข้า” เสียงแหบพร่าของมารดาที่ป่วยไร้หนทางรักษา พูดกับนางด้วยความหวัง ในตอนนั้นไป่เซียนตั้งมั่นรับปากมารดาด้วยสัจวาจา ว่าจะดูแลอบรมสั่งสอนให้เฉิงหนิงเป็นคนดีอย่างที่ท่านแม่ฝากฝังไว้

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel