บท
ตั้งค่า

พลาดครั้งที่ 4

คนตัวเล็กมองอาหารตรงหน้าก่อนจะเหลือบมองผู้ชายที่ร่วมหลับนอนเมื่อคืนแต่จำชื่อไม่ได้แล้ว

"คุณก็ไม่ได้เป็นคนทั่วไปนิ....."

"หือ?" อเล็กซ์เลิกคิ้วเล็กน้อยก่อนจะกระตุกยิ้ม

"ผมพาคุณทานมื้อหรูๆ แบบนี้ได้ทุกวันเลยนะ.....เป็นไง พอจะถูกใจคุณบ้างรึยัง"

"อืม" เชียร์ตอบแค่สั้นๆ ก่อนจะทานอาหารเงียบๆ ไม่สนใจอีกฝ่ายทำให้คนหยิ่งผยองอย่างอเล็กซ์สนใจเชียร์อย่างมาก

"คุณไม่คิดจะคุยอะไรกับผมหน่อยหรอ"

"ฉันอยากกลับบ้าน"

"อยู่กับผมมันน่าเบื่อขนาดนั้นเชียว" เชียร์พยักหน้า

"ถ้าคุณเบื่อที่จะอยู่กับผม ทำไมเมื่อคืนกับเมื่อเช้าคุณถึง...ดูมีความสุขจังล่ะ"

แกรก

ช้อนส้อมถูกวางกระแทกจนเกิดเสียงดัง เชียร์เงยหน้ามองร่างสูงแล้วถามอย่างไม่พอใจ

"ต้องการอะไร"

"ครับ?"

"ได้แล้วก็จบ ทำไมต้องมานั่งกินข้าวนั่งคุยกันอีก นายว่างขนาดนั้นหรือต้องการอะไรจากฉัน"

"ผมก็แค่อยากเรียกร้องความสนใจจากคุณนี่นา" อเล็กซ์พูดจริงจัง เชียร์ขมวดคิ้วเล็กน้อย

"เรียกร้องความสนใจ? ทำไม?"

"ก็มันแปลกนี่...แปลกที่คุณไม่สนใจผม"

"นอกจากเรื่องบนเตียงคุณก็ไม่ได้มีอะไรน่าสนใจเท่าไหร่"

"อย่างน้อยก็ยังพอมีบ้าง" ร่างสูงยกยิ้มจนตาหยีอย่างชอบใจจนเชียร์งุนงง

"มันใช่เรื่องที่ควรดีใจหรอ"

"ผมภูมิใจจะตายเวลามีคนชมว่าผมเก่ง....คุณก็ว่างั้นใช่มั้ยล่ะ" เชียร์มองร่างสูงก่อนจะหลุดหัวเราะออกมาเบาๆ อย่างห้ามไม่ได้

"หัวเราะทำไมล่ะคุณ ผมพูดจริงนะ"

"ไม่รู้ซิ แค่รู้สึกว่ามันไม่น่าใช่เรื่องที่ควรภูมิใจแต่นายกลับยิ้มดีใจขนาดนี้ได้ยังไงกันนะ" อเล็กซ์มองคนตัวเล็กที่ยิ้มหวานออกมาก่อนจะยกมือเท้ากับคางของตัวเองและจ้องมองเชียร์ตาไม่กระพริบ

"คุณมีเสน่ห์มากเลยนะ"

"หรอ"

"ตั้งแต่เมื่อวานก่อนที่ผมเจอคุณที่ผับ ไม่รู้ซิ แค่มองแวบเดียวก็รู้ว่าไม่ใช่คนทั่วไป และคืนนั้นมันก็ทำให้ผมเห็นว่า....ผมคิดถูก คุุณน่าสนใจคุณเชียร์"

"ขอโทษนะที่ผมจำแม้แต่ชื่อคุณก็ไม่ได้" อเล็กอ้าปากค้าง

"ถามจริง"

"อือ"

"เห้อออออ ผมคงไม่อยู่ในสายตาคุณขนาดนั้นเลยซินะ สำหรับคุณผมคงเป็นแค่มดตัวเล็กๆ ไม่ซิเป็นไรฝุ่นที่ลอยไปมา..." เชียร์มองร่างสูงที่ทำหน้าเศร้าแล้วรู้สึกขำ

"เล่นละครเกินไปแล้ว"

"ผมกำลังน้อยใจอยู่จริงๆ นะเนี่ย"

"งั้นหรอ ก็แล้วแต่นายแล้วกัน"

"คุณไม่คิดจะง้อผมหน่อยหรอ"

"ง้อ? ง้ออะไร"

"ก็คุณจำชื่อผมไม่ได้ คุณทำผมน้อยใจ" เชียร์มองท่าทางเด็กๆ ของอีกฝ่ายแล้วส่ายหน้าไปมา

"ผมทำแบบนั้นไม่เป็นหรอก"

"ง้อผมมันง่ายนิดเดียวนะ" คนตัวเล็กตั้งใจฟัง ร่างสูงขยับตัวเคลื่อนมาจากอีกฝั่งของโต๊ะข้ามอาหารมากมายแล้วกระซิบข้างหูบางของเชียร์ทำให้เชียร์เผลอกลั้นหายใจเพราะความตื่นเต้น

"ไปดูหนังกับผมสักเรื่อง....เป็นไง" เชียร์ถอนหายใจพรูออกมาก่อนจะมองร่างสูงที่ทำสายตาเจ้าเล่ห์ส่งมาให้เขา

"นี่คือวิธีการเรียกร้องความสนใจของคุณหรอครับ"

"เปล่า! ผมแค่เสนอวิธีให้คุณง้อ คุณจะไปหรือไม่ไปก็ได้นี่ครับ" รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ปรากฎขึ้นเล็กน้อยกระตุกความสนใจของเชียร์ได้ดีทำให้เขาเกิดอยากจะคุยกับคนตรงหน้า อยากรู้ว่าผู้ชายคนนี้ต้องการอะไร แต่ว่า...

"ไม่ล่ะวันนี้ผมอยากกลับบ้านแล้ว" อเล็กชะงักนิ่งไปก่อนจะยิ้มกว้าง

"งั้นวันอื่นล่ะครับ"

"....."

"พรุ่งนี้คุณว่างมั้ย" เชียร์นิ่งไปเล็กน้อยไม่ได้ตอบอะไร ร่างสูงเห็นอย่างนั้นก็เปลี่ยนวิธี เขาจดเบอร์โทรศัพท์ส่วนตัวของตนเองใส่ทิชชูแผ่นเล็กของร้านอาหารแล้วยื่นให้คนตัวเล็ก

"ถ้าคุณสนใจผมเมื่อไหร่...ติดต่อกลับมานะครับ" เชียร์มองทิชชูที่มีเบอร์โทร.เขียนไว้ด้วยความชั่งใจแต่ก็ยอมเก็บมาใส่ในกระเป๋า หลังจากนั้นทั้งสองก็รับประทานอาหารกันต่อโดยที่อเล็กซ์ก็ยังพูดจ้อไม่หยุดชวนเชียร์คุยทำให้เชียร์ไม่ได้รู้สึกเบื่อเหมือนตอนแรก

เชียร์ขับรถที่ไปรับมาจากร้านหลังทานอาหารเสร็จและตรงกลับมาที่บ้านหลังใหญ่ ภายในบ้านเงียบเฉียบเหมือนไม่มีใครอยู่ ตากลมโตกวาดสายตาไปรอบๆ บ้านจนเจอกับหญิงชราที่กำลังเช็ดขัดเครื่องเงินให้ขึ้นเงา

"ป้ามะลิครับ" หญิงชราสะดุ้งตกใจก่อนจะถอนหายใจเมื่อเห็นคุณหนูของตน

"คะคุณหนู"

"คุณแม่ยังไม่กลับมาจากงานเลี้ยงเมื่อคืนหรอครับ"

"อ๋อ กลับมาแล้วค่ะ แต่วันนี้คุณผู้หญิงเดินทางไปต่างจังหวัด ไปสถานสงเคราะห์เพื่อบริจาคของให้เด็กๆ ที่ต่างจังหวัดค่ะคงอีกสองสามวันจะกลับเพราะจะไปเที่ยวพักผ่อนด้วย"

"ปกติก็ไม่อยู่บ้านแบบนี้หรอครับ" เชียร์ถาม ป้ามะลิพยักหน้า

"ค่ะคุณหนู ปกติคุณซันจะออกไปทำงานแต่เช้ากลับบ้านบ้างไม่กลับบ้าง ส่วนคุณผู้หญิงถ้าว่างก็จะทำขนมเข้าครัว แต่ส่วนใหญ่ไม่ค่อยว่างนักหรอกค่ะ คุณผู้หญิงดูแลเรื่องสังคมสงเคราะ์ จัดตั้งมูลนิธิมากมายมีงานให้ไปช่วยเหลือผู้อื่นตลอดเวลา นานๆ จะว่างพักผ่อนค่ะ" เชียร์พยักหน้า คนตัวเล็กมองไปรอบบ้านหลังใหญ่แล้วคลี่ยิ้มออกมาเศร้าๆ

"เหงาจังนะครับบ้านหลังนี้"

"คุณหนู....ไม่มีความสุขหรอคะ" คนตัวเล็กนิ่งเงียบไม่ได้ตอบอะไร แต่กลับถามคำถามกลับไปแทน

"มีอะไรให้ผมทำบ้างมั้ยครับ"

"ตายแล้ว ไม่มีหรอกค่ะ ป้าจะให้คุณหนูทำนั่นนี่ได้ยังไงคะ"

"ผมเบื่อน่ะ ตอนแรกคิดว่ามาที่นี่จะได้ทำอะไรสนุกๆ ......จริงซิ หมอนั่นอยู่มั้ยครับ"

"หมอนั่น?"

"ชื่ออะไรนะ....อืม...เขม เขมน่ะ อยู่มั้ยครับ" ป้ามะลิส่ายหน้าแล้วถอนหายใจ

"วันนี้เขมทำงานพิเศษค่ะคุณหนู คงจะกลับตอนเย็นๆ เลย" เชียร์ยกนาฬิกาขึ้นดูเวลาบ่ายโมงแล้วถอนหายใจ

"ปกติเขมทำงานตั้งแต่กี่โมงถึงกี่โมงหรอครับ แล้วทำวันไหนบ้าง"

"ทำตั้งแต่แปดโมงเช้าถึงห้าโมงเย็นเลยค่ะ แต่ถ้าวันไหนมีเรียนก็ไปทำหลังเลิกเรียน....คุณหนูสนิทกับเขมหรอคะ เมื่อวานมนบอกว่าเห็นเขมนั่งรถไปกับคุณหนู" เชียร์ส่ายหน้า

"ก็ไม่ถึงกับสนิทหรอกครับ ก็แค่....ผมไม่มีเพื่อน" หญิงชรายกยิ้มอย่างเอ็นดู

"เอาแบบนี้มั้ยคะคุณหนู ป้าอบเค้กเอาไว้อีกไม่กี่นาทีคงทันกิน...คุณหนูอยากแต่งหน้าเค้กมั้ยคะ"

"อืม ครับ"

"งั้นไปรอป้าที่เรือนกระจกก็ได้นะคะ อากาศตอนนี้กำลังเย็นสบายเหมาะกับการนั่งพักผ่อน ชมบรรยากาศต้นไม้พร้อมกับแต่งหน้าเค้กไปด้วยอาจจะทำให้คุณหนูหายเบื่อบ้าง" เชียร์พยักหน้าแล้วเดินมาที่เรือนกระจก ทั้งที่แสงแดดจ้าแต่พอเข้ามาข้างในกลับรู้สึกเย็นสบายต่างจากภายนอก เชียร์นั่งลงที่โต๊ะไม้ขนาดใหญ่ที่เดิม มองบรรยากาศ ต้นไม้ ดอกไม้มากมายอย่างเพลินตา ไม่นานหญิงชราก็ยกเค้กก้อนสี่เหลี่ยมเล็กๆ มาพร้อมกับครีมหลากสีสันและอุปกรณ์แต่งหน้าเค้กมากมาย

"นี่ค่ะคุณหนู"

"ขอบคุณครับ" เชียร์รับมาไว้ก่อนจะเปิดเพลงจากโทรศัพท์มือถือเป็นเพลงโปรดแล้วเริ่มแต่งหน้าเค้กข้ามเวลาว่าง คนตัวเล็กวาดรูปดอกมะลิที่เห็นอยู่ตามรั้วเต็มทั่วหน้าเค้กจนเต็มแล้วแต่งแต้มเติมสีสันด้วยความเพลิดเพลินจนเวลาผ่านไปถึงห้าโมงเย็น

ร่างสูงกลับมาจากทำงานพิเศษพอเข้ามาในเรือนเล็กของตัวเองก็สังเกตุเห็นเรือนกระจกที่เปิดอยู่ ด้วยความสนใจเขมจึงแอบเดินเข้ามาดู ร่างสูงมองเสี้ยวหน้าของคนตัวเล็กที่จดจ่อกับการแต่งวาดหน้าเค้กจนไม่รับรู้ถึงการมีอยู่ของเขา ใบหน้าหวาน จมูกเรียวเชิด ริมฝีปากสีพีชที่เม้มเข้าหากันเล็กน้อยไปมา บางครั้งก็เผลอยิ้มกับตัวเองและเค้กในมือ ตาเรียวคมไม่อาจละสายตาจากเชียร์ได้ไม่ต่างจากหัวใจของเขาที่เต้นสั่นไหวจนรู้สึกแปลกประหลาด

"เสร็จแล้ว" เชียร์ยกยิ้มชื่นชมกับผลงานของตัวเองก่อนจะเก็บของและเผลออุทานเสียงดังเมื่อเห็นร่างสูงโปร่งในชุดฮูดดำสนิทแอบมองเขาอยู่ข้างต้นไม้ใหญ่

"เขม!...ตกใจหมด" เขมสะดุ้งหลุดจากภวังค์ห้วงความคิด ร่างสูงเดินเข้ามาช้าๆ แล้วก้มหัวขอโทษ

"ขะ ขอโทษครับ"

"มาตั้งแต่เมื่อไหร่"

"มะ เมื่อกี้ครับ"

"แน่ใจนะ" เชียร์ถามอย่างคาดคั้นแต่เขมไม่ได้พูดอะไรต่อจนเชียร์ต้องถอนหายใจ

"ทำงานเสร็จแล้วหรอ"

"งาน...?"

"ก็งานพิเศษที่ทำไง"

"คุณหนู รู้หรอครับ" เชียร์พยักหน้า

"อืม ทำงานที่ร้านสะดวกซื้อตรงหน้าหมู่บ้านใช่มั้ยล่ะ เลิกงานแล้วหรอ"

"ครับ"

"จะทำอะไรต่อมั้ย" เขมส่ายหน้าเพราะวันนี้ไม่มีอะไรให้เขาทำแล้ว คุณผู้หญิงก็ไม่อยู่ รถก็ล้างเรียบร้อยตั้งแต่เช้ามืด พวกพี่ๆ ก็ทำความสะอาดบ้านจนสะอาดแล้ว

"งั้นไปทำพิซซ่ากัน"

"....ครับ?" เขมงุนแงง เชียร์หันมามองแล้วยกยิ้ม

"ก็เมื่อวานฉันไม่ได้ทำพิซซ่ากับนายนี่ ฉันอยากทำวันนี้ ป่ะ สอนฉันทำพิซซ่าหน่อย" ร่างสูงเม้มปากแน่นก่อนจะพยักหน้า

ระหว่างรอคุณหนูเปลี่ยนชุดสำหรับทำอาหารเขมก็จัดเตรียมส่วนผสม อุปกรณ์ต่างๆ เอาไว้จนเรียบร้อย

"มาแล้ว" ร่างสูงหันมามองตามเสียงก่อนจะเบิกตาเล็กน้อยเมื่อเห็นคนตัวเล็กในชุดเสื้อยืดสีดำตัวใหญ่โคร่งและมัดผมหน้าม้าขึ้นเป็นจุกเล็กๆ ทำให้น่ารักอย่างมาก

"เขม..."

"...."

"นายเขม!" ร่างสูงสะดุ้งโหยงก่อนจะรีบถอยห่างจากคนตัวเล็กที่ยืนชิดเขาและโบกมือไปมา

"ยื่นเหม่ออะไรเนี่ย"

"ผะ...ผม" นิ้วเรียวชี้ไปที่เส้นผมของคุณหนู

"ผม? อ๋อ ก็จะทำอาหารนี่ ผมฉันมันยาวปิดตาแล้วกลัวไม่ถนัดเลยมัดไว้ ทำไมหรอ" เขมส่ายหน้าไปมาก่อนจะหันหลังให้คนตัวเล็ก

"ทำ ทำ ทำพิซซ่ากันครับ"

"อะไรของนาย..." เชียร์พึมพำเบาๆ ก่อนจะเดินมายืนชิดร่างสูงเพื่อดูวิธีทำ แต่เขมตื่นเต้นจนต้องขยับห่าง เชียร์ก็ขยับเข้ามาใกล้ เขมก็ขยับห่างออกอีก จนคนตัวเล็กเริ่มขมวดคิ้วงุนงงแล้วหันมามองร่างสูง

"นายเป็นอะไรเนี่ย"

"คะ คุณหนูนั่นแหละครับ....เป็น อะ อะไร"

"ฉัน? ฉันเป็นอะไร?" เชียร์ชี้นิ้วมาที่ตัวเอง

"ก็คุณหนู..." เขมหันมามองแขนของเชียร์ที่ชิดกับแขนของตนแล้วพูดเสียงสั่น

"มาใกล้ผมทำไม" เชียร์เบิกตากว้างแล้วรีบถอยออกห่าง

"นี่นายจะว่าฉันโรคจิตหรอ! ฉันไม่ได้อยากเข้าไปใกล้นายนะ!"

"ก็ ก็คุณหนูขยับตามผม..."

"ก็ฉันมองไม่เห็นนี่ว่านายทำอะไร!" เชียร์พูดเสียงดังก่อนจะหันหลังให้แล้วกอดอกอย่างไม่พอใจ

"คิดว่าตัวเองเป็นใครกัน ทำไมฉันถึงอยากจะเข้าไปใกล้นายห้ะ! เป็นแค่คนรับใช้อย่ามาพูดให้เจ้านายเสียหายจะได้มั้ย" ร่างสูงชะงักกึกนิ่งไปทันทีเมื่อได้ยินคำนั้น เชียร์เองก็รู้ตัวว่าตัวเองพูดไม่ดีออกไป คนตัวเล็กค่อยๆ ลดอาการโมโหลงแล้วหันมามองเขม

"นายเขม..."

"ขอโทษครับ ผม ผมแค่ไม่สบายใจ...ขอโทษที่ทำให้คุณหนูรู้สึกโกรธครับ ผมขอโทษ" เชียร์มองเขมที่ยกมือไหว้ขอโทษเขาครั้งแล้วครั้งเล่าก่อนจะจับมือของร่างสูงเอาไว้ให้หยุด

"....."

"พอได้แล้ว"

"......"

"ฉันขอโทษที่พูดไม่ดี" คนตัวเล็กมองไปรอบๆ เพราะไม่กล้ามองร่างสูงตรงหน้า แต่ยังไงเขมก็ไม่เงยหน้ามามองเขาอยู่แล้ว เชียร์จึงมองเสี้ยวใบหน้าคมที่ไม่ได้ถูกปิดด้วยฮูดสีดำนั่นแล้วถอนหายใจ

"เรามาทำพิซซ่ากันเถอะ" เขมพยักหน้า บรรยากาศระหว่างคนทั้งสองต่างเงียบเฉียบ การสอนทำพิซซ่าที่ควรจะสนุกสนานกลับสร้างความตึงเครียดและความรู้สึกไม่สบายใจให้ทั้งสองฝ่าย เวลาในแต่ละทีเดินช้ามาในความรู้สึกของเชียร์ คนตัวเล็กเหลือบมองคนด้านข้างเสมอเพราะอยากจะเห็นว่าในเวลาแบบนี้เขมจะทำหน้ายังไงบ้างแต่เขมกลับไม่เงยหน้ามองเขาเลย เอาแต่ก้มหน้าเหมือนเดิมจนเชียร์รู้สึกอึดอัด....

ติ้ง

คนตัวเล็กเปิดฟาเครื่องอบก่อนจะจับถาดพิซซ่าออกมาแต่เพราะความร้อนรนที่จะทำให้เสร็จเร็วๆ เชียร์จึงรีบหยิบถุงมือกันความร้อน

"โอ๊ย!" คนตัวเล็กร้องลั่นแล้วรีบชักมือกลับมาเพราะความเจ็บปวด เขมรีบวิ่งมาดูพอเห็นนิ้วขาวที่ขึ้นสีแดงและมีรอยขาวจากการถูกไฟร้อนเขมก็รีบดึงมือคุณหนูไปทายาทันที

"บะ เบา..." เสียงหวานพูดตะกุกตะกักเพราะความเจ็บ หลังจากถูกยาเจลป้ายมือจนเย็นเชียร์ก็รู้สึกดีขึ้น ดวงตากลมโตเหลือบมองร่างสูงที่ค่อยๆ บรรจงมือทายาให้เขาอย่างนิ่มนวลแล้วรู้สึกผิด

"เขม"

"......"

"ฉันขอโทษ" มือหนาชะงักเล็กน้อย เพียงเสี้ยววินาทีและกลับมาทายาให้เชียร์อีกครั้ง

"แต่นายก็พูดไม่ดีกับฉันนะ ฉันไม่ได้ตั้งใจจะไปถูกเนื้อตัวนาย"

"ครับ ผมขอโทษ"

"ถือว่าเรา...หายกันได้มั้ย"

"ผมผิดเองครับ คุณหนูไม่ควรเอ่ยขอโทษผมด้วยซ้ำ ผมเป็นแค่คนรับใช้ไม่มีสิทธิ์ว่าหรือคิดไม่ดีกับคุณหนู" เชียร์เม้มปากแน่น

"ทำไมต้องประชดด้วย"

"ผม...ไม่ได้ประชดครับ"

"นายกำลังประชด"

"เปล่า"

"นายทำ"

"ผมเปล่าครับ"

"ก็ทำอยู่เห็นๆ"

"ทำไมคุณหนูดื้อจังครับ" เขมพูดออกมาอย่างไม่ทันคิด คนตัวเล็กชะงักก่อนจะนิ่งไปทบทวนสิ่งที่ได้ยิน

"ดื้อ...?...หึ" เสียงหัวเราะในลำคอเชียร์ดังเบาๆ จนกลายเป็นเสียงหัวเราะเสียงดัง เชียร์ยกมือป้องปากปิดเสียงเอาไว้แต่อดขำออกมาไม่ได้

"ดื้อหรอ ฮ่าๆ นายใช้คำได้ดีนี่"

"...ครับ?"

"ไม่เคยมีใครบอกว่าฉันดื้อมาก่อนเลยนะ" เขมงุนแงง คนตัวเล็กยังหัวเราะอยู่แบบนั้นสักพักก่อนจะค่อยๆ เงียบไป

"นายนี่...เดาไม่ได้เลยจริงๆ สรุป นายจะเป็นคนผิดให้ได้เลยใช่มั้ย"

"ครับ เรื่องนั้น....ยังไงผมก็ผิดอยู่แล้ว"

"งั้นก็ตามใจถ้านายอยากเป็นคนผิด กล้ามาว่าร้ายฉัน งั้นฉันจะลงโทษนาย" เขมพยักหน้าและรอรับคำสั่ง คนตัวเล็กมองร่างสูงที่ก้มหน้าก้มตาตรงหน้าเขาก่อนจะพูดออกมาด้วยรอยยิ้ม

"เย็นนี้ต้องมากินข้าวกับฉันนะ"

"......??" เขมเงยหน้าขึ้นมาเล็กน้อยแต่เชียร์ก็ไม่เห็นอยู่ดี

"ก็พิซซ่ามันมีตั้งสองถาด ฉันกินไม่หมดหรอก นายต้องช่วยฉันรับผิดชอบ"

"แต่ว่า..."

"ไม่มีแต่ ไม่รู้แหละ รีบเก็บของทำความสะอาดซะ ฉันจะไปรอนายหน้าห้องโถง อ๋อ...ทอดเฟรนฟรายกับยกน้ำอัดลมมาให้ฉันด้วยนะ" เชียร์สั่งแล้วเดินกึ่งกระโดดอย่างอารมณ์ดีไปที่โซฟาหน้าทีวีจอใหญ่กลางห้องโถงรับรองสำหรับดูทีวี เขมเหลือบมองคนตัวเล็กก่อนจะยกยิ้มเบาๆ ร่างสูงก้มมองมือตัวเองที่ได้สัมผัสกับมือนุ่มตอนทายาแล้วยกยิ้มออกมา

ถึงจะโดนดูถูกว่าเป็นแค่คนรับใช้ แต่ทำไมนะ..มันกลับรู้สึกดีอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนเลย

หลังจากทำความสะอาดเสร็จแล้วเขมก็ยกน้ำอัดลม เฟรนฟราย และของทอดมากมายมาที่ห้องโถงและวางไว้ที่โต๊ะกระจกระหว่างโซฟากับทีวีจอใหญ่

"นั่งซิ" เชียร์ว่า เขมพยักหน้าแล้วกำลังจะนั่งลงที่พื้นแต่เชียร์ห้ามไว้

"นี่ ไม่ต้อง....นั่งนี่ บนนี้"

"มะ ไม่ได้ครับ....มันเป็นที่ของเจ้านาย"

"ฉันสั่งให้นายนั่งตรงนี้" เขมไม่ยอมนั่งจนเชียร์ไม่รู้จะพูดยังไง

"นายจะไม่ยอมนั่งจริงๆ ใช่มั้ย" เขมพยักหน้า

"ก็ตามใจ" ร่างสูงได้ยินแบบนั้นก็นั่งลงที่พื้น มองไปที่ทีวีจอใหญ่ที่ฉายหนังเรื่องดัง

"กินซิ" เชียร์บอกขณะที่ตัวเองก็หยิบพิซซ่าที่ร่วมกันทำมากิน เขมยังคงนิ่งเพราะไม่กล้าจะกิน

"อย่าทำตามใจตัวเองมากเกินไปนะ บอกแล้วไงว่านายต้องกินช่วยฉันไม่งั้นฉันจะว่านายเอานะ"

"เข้าใจแล้วครับ" ร่างสูงรับคำก่อนจะหยิบพิซซ่ามากินหนึ่งชิ้น ปากหนากัดกินช้าๆ และมองทีวีจอใหญ่ เชียร์เหลือบมองคนที่อยู่ใต้ร่างแล้วยกยิ้มออกมา คนตัวเล็กมองแก้วน้ำอัดลมที่มีเพียงแก้วเดียวก่อนจะเดินเข้าไปในครัวโดยที่เขมไม่ทันสังเกตุและกลับมาพร้อมน้ำอัดลมอีกแก้ว

กึก

เชียร์วางน้ำอัดลมไว้หน้าร่างสูงแล้วกลับมานั่งที่เดิม

"ของนาย"

"....ของผม?"

"อื้อ เดี๋ยวก็ติดคอตายพอดี ฉันไม่ใจร้ายพอจะให้นายกินพิซซ่าหมดนี่โดยไม่ให้ดื่มน้ำหรอกนะ กินเถอะน่า...." เขมค่อยๆ เผลอคลี่ยิ้มออกมาแล้วดื่มน้ำอัดลมเล็กน้อย เชียร์เห็นแบบนั้นก็ยิ้มอย่างดีใจ เขาเปิดหนังชื่อดังด้วยทีวีจอใหญ่ เปิดเสียงจนมันดังลั่นไม่ต่างจากตอนอยู่ในโรงภาพยนต์สร้างบรรยากาศอย่างไม่รู้ตัว ทั้งสองไม่ได้มีบทสนทนาอะไรมากกว่านั้น แต่งคนต่างกินอาหารตรงหน้าพร้อมกับดูทีวีจอใหญ่ เขมนั่งกอดเข่าดูอยู่ด้านล่างอย่างลุ้นระทึก ส่วนเชียร์เองก็นั่งกอดหมอนมือข้างหนึ่งปิดตาเอาไว้ มืออีกข้างก็ถือพิซซ่าชิ้นใหญ่ที่กินตั้งนานก็ยังไม่หมด เวลาฉายหนังของภาคแรกจบลงเชียร์ก็เปิดต่อภาคสองทันทีโดยที่เขมเองก็ไม่ทันทักท้วงอะไร

เข็มนาฬิกาเดินไปเรื่อยๆ จนกระทั่งหยุดอยู่ที่เลขสิบเอ็ด ห้าทุ่มกว่าแล้วทั้งสองเริ่มไม่สนใจอาหารและหนังตรงหน้า ตาคมของเขมเริ่มปรือเพราะถึงเวลานอน เขาเริ่มควบคุมตัวเองไม่ได้จนกระทั่งเผลอวูบหลับไปกับโซฟาที่พิงอยู่ เชียร์เองก็พยายามฝืนตาเอาไว้แต่ก็ไม่เป็นผล เขาค่อยๆ หยิบหมอนแล้วล้มตัวลงนอนใกล้กับเขมที่นอนศีรษะพิงโซฟา เชียร์ขยับศีรษะพิงกับที่วางมือแล้วค่อยๆ หลับทั้งที่หนังยังคงเล่นต่อไป...

.

.

.

"กูให้มึงไปคุยงาน ไม่ได้ให้มึงไปอ่อยผู้ชาย!"

เพี๊ยะ!

"ฮึก...เปล่า....จูนเปล่า..."

"อย่าให้มีครั้งต่อไปไอ้จูน มึงก็รู้ว่ากูไม่ชอบ"

"ฮึก....."

ร่างสูงเดินเข้ามาในบ้านอย่างหงุดหงิดก่อนจะชะงักเมื่อเห็นน้องชายนอนหลับพริ้มอยู่บนโซฟาข้างกันก็มีเขมที่หลับอยู่ด้านล่าง ใบหน้าของทั้งสองห่างกันเพียงไม่ถึงคืบนิ้ว ซันขมวดคิ้วแน่น เดินไปปิดทีวีจอใหญ่ มองทั้งสองอย่างไม่ชอบใจก่อนจะอุ้มน้องชายในท่าเจ้าสาวแล้วเดินพาไปที่ห้อง

ห้องนอนใหญ่ที่ถูกตกแต่งใหม่เป็นสีเรียบเบจถูกใจเชียร์ถูกเปิดออกช้าๆ ซันวางร่างของน้องชายลงก่อนจะห่มผ้าให้ เชียร์ขยับตัวไปมาแล้วพึมพำเบาๆ

"เขม...กินให้หมด..." ซันขมวดคิ้วแน่นเมื่อได้ยินชื่อของเขมออกจากปากของเชียร์ ร่างสูงนึกถึงเมื่อวานก่อนขึ้นมา

"คุณแม่ล่ะมน"

"อ๋อ คุณผู้หญิงออกไปทำผมสำหรับงานเลี้ยงวันนี้ค่ะ"

"อืม บอกคุณแม่ด้วยว่าฉันไม่กลับบ้าน ฉันโทร.หาท่านแล้วไม่ติด"

"ได้ค่ะคุณซัน"

"แล้วเชียร์ล่ะ เด็กนั่นทำอะไรอยู่"

"คุณหนูออกไปข้างนอกค่ะ"

"ไปไหน ไปคนเดียวหรอ"

"ไปกับเขมค่ะ น่าจะไปห้างสรรพสินค้ากันนะคะเห็นว่าคุณหนูจะไปช้อปปิ้งแล้วจะพาเขมไปซื้อมือถือใหม่ด้วย ออกไปตั้งแต่ตอนเที่ยงแล้วค่ะ"

"ตั้งแต่เที่ยง? นี่มันจะหกโมงเย็นแล้วนะ"

"......."

"ช่างเถอะ ถ้าเขมได้มือถือใหม่แล้วสอนเขาใช้และกำชับว่าฉันบังคับให้พกไว้ ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นอีกจะได้ติดต่อกันได้"

"ค่ะ"

ร่างสูงหวนคิดถึงวันก่อนแล้วรู้สึกไม่สบายใจ ซันยินดีที่เขมเข้ามาอยู่ในบ้านนี้ ถึงเขมจะแปลกๆ ไปบ้างแต่ซันรู้เหตุผลดี เขมเรียนเก่ง ฉลาด เรียนรู้ไว มีฝีมือมากมายหลายอย่างและยังช่วยงานเขาได้หลายครั้งเพราะงั้นตอนที่แม่ตัดสินใจพาเขมมาอยู่ที่บ้านเขาจึงเสนอให้สร้างเรือนเล็กให้เขมเป็นการส่วนตัวเพราะรู้ว่านิสัยของเขมไม่ชอบเข้ากับผู้อื่น ซันช่วยเขมมากมายทั้งเรื่องมหาวิทยาลัยและเรื่องต่างๆ เขาเอ็นดูเขมไม่ต่างจากน้องชายคนหนึ่ง แต่ว่า...เขาเองก็ไม่สบายใจที่จะให้เชียร์อยู่ใกล้เขม นิสัยของเชียร์เป็นยังไงทำไมเขาไม่รู้ เชียร์ไม่ยุ่งเรื่องยาไม่ยุ่งเรื่องการพนันก็จริง แต่น้องชายของเขากล้าได้กล้าเสียกับเรื่องบนเตียงโดยไม่ระวังตัวเอง ซันกลัว...กลัวว่านิสัยของเขมจะไปกระตุ้นความสนใจของเชียร์ทำให้ปลุกนิสัยดิบเถื่อนในตัวเชียร์และทำอะไรพลาดไป

อย่างน้อยก็ไม่อยากให้พลาดกับคนที่ฐานะแตกต่างกันเช่นนี้....เขา คงทำใจลำบาก

ซันลูบเส้นผมเชียร์เบาๆ อย่างอ่อนโยนแล้วเดินออกจากห้อง แต่ก่อนออกจากห้องตาคมเหลือบมองถุงช้อปปิ้งมากมายอย่างเหนื่อยใจ เด็กคนนี้ยังใช้เงินไม่รู้ความจำเป็นเหมือนเดิม.....ซันคิดในใจแค่นั้นแล้วเดินออกมาจากห้องอย่างเงียบเฉียบไม่ได้คิดจะดุด่าต่อว่าอะไร

100%

#โปรดติดตามตอนต่อไป...

คอมเม้นเป็นกำลังใจให้หน่อยค้าาา เรื่องนี้จะดำเนินช้าๆ เนิบๆ นะคะ จะเดินไปด้วยกันกับไรท์มั้ยทุกคน :)

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel