บท
ตั้งค่า

บทที่ 9 เราอย่ามาเจอกันอีกเลย

9

เราอย่ามาเจอกันอีกเลย

วิอัณณาลงมาที่ชั้นล่างของบ้าน แน่นอนว่าเธอยังคงคิดเรื่องที่เกิดขึ้นไม่ตก ยังไม่รู้ว่าจะหาทางออกกับเรื่องนี้ยังไง ทำไมผู้ชายที่ได้ชื่อว่าเป็นพวกฟันแล้วทิ้งอย่างคิมหันต์ถึงอยากจะสานต่อกับเธอ เพราะเขาสนใจเธองั้นเหรอ? ต้องใช่สิ…เพราะเขาเพิ่งบอกว่าอยากจะคบหาดูใจกับเธอ แต่แล้วเธอล่ะ? เธออยากจะคบกับเขาหรือเปล่า?

คำตอบต้องออกมาเป็นทางตรงกันข้ามอยู่แล้ว เธอไม่เคยคิดเรื่องแฟนในหัวสมอง ต้องดัง ต้องหาเงินให้ได้เยอะๆ ต้องประสบความสำเร็จก่อนเท่านั้นเธอถึงจะคิดเรื่องแฟน เห็นมานักต่อนักแล้ว…พวกที่มีแฟนแล้วชีวิตพัง เธอไม่เอาแบบนั้นแน่ แต่แล้วเธอจะปฏิเสธเขายังไง? นี่คือปัญหาที่ต้องหาทางแก้สินะ…

“หิวเหรอ? ถึงต้องกินเล็บตัวเอง?” เวลาที่มีเรื่องให้ต้องคิด วิอัณณาจะชอบกัดเล็บตัวเอง ซึ่งน่านฟ้าที่เป็นเพื่อนรักรู้ดี

“ไอ้ฟ้า?” ว่าที่นางเอกสาวหันไปเห็นเพื่อนรักเดินถือปิ่นโตเข้ามาในบ้าน

“แม่ฉันทำแกงเขียวหวาน ฉันตักข้าวมาเผื่อด้วยเพราะรู้ว่าแกคงไม่ได้หุงข้าวแน่ๆ”

“ฝากขอบคุณแม่แกด้วย”

“แล้วนี่แม่แกไปไหน ไม่เห็นหลายวันแล้ว”

“เชียงใหม่”

“ดูที่ดินสินะ?”

“อืม” วิมาลาผู้เป็นแม่นั้นเป็นนายหน้าขายที่ดิน เลยทำให้ต้องออกต่างจังหวัดบ่อยๆเวลาที่มีคนต้องการจะเสนอขายที่ดินกับนายทุน

“ตกลงว่าแกมีเรื่องอะไร?” น่านฟ้าหรี่ตามองเพื่อนด้วยแววตาสงสัย

“เรื่องอะไร?”

“แกจะกัดเล็บทุกครั้งที่เจอกับเรื่องรับมือยาก บอกมา…เพื่อนคนนี้จะช่วยแกเอง”

“ไม่มี” วิอัณณารีบปฏิเสธ

“ถามจริงนะ ตั้งแต่ที่รู้จักกันมา…แกเคยปิดบังอะไรฉันได้ไหม?”

“ไม่มีอะไรจริงๆ”

“ทุกครั้งแกก็จะบอกว่าไม่มีๆ แต่สุดท้ายพอแก้ปัญหาไม่ได้…ฉันก็จะได้รู้อยู่ดี เพราะงั้น…ฉันจะรอจนกว่าแกจะแก้ปัญหาไม่ได้ก็แล้วกัน”

“แกจะไม่ได้รู้หรอก เพราะฉันต้องแก้ปัญหานี้ได้แน่” วิอัณณาตอบด้วยน้ำเสียงหนักแน่น

“หึ! ไหนบอกว่าไม่มีอะไรไง?”

“ก็…”

“อีหนู…คิดจะโกหกพี่ ต้องไปเรียนมาใหม่นะจ๊ะ” น่านฟ้ายกยิ้ม พลางยื่นมาไปลูบผมวิอัณณา เวลานั้นถึงได้สังเกตอะไรบางอย่างในตัวเพื่อนสาว

“อะไร?” พอเห็นเพื่อนมองมาด้วยสายตาแปลกๆ วิอัณณาจำต้องถาม

“แกดูแปลกๆนะ เหมือนสวยขึ้น…”

“ฉันสวยทุกวัน”

“ไม่ๆ วันนี้ดู…แบบว่า…สวยอะ ดูฉ่ำน้ำ ดูเป็นสาวสะพรั่ง…”

“ฉ่ำน้ำอะไรของแกวะ ฉันก็แค่แต่งหน้าแต่งตัวเพราะต้องออกไปข้างนอก”

“ไปไหน?”

“เอ่อ…”

ในตอนที่วิอัณณากำลังอ้ำอึ้งเพราะไม่รู้จะตอบว่าอะไร รถยนต์คันหรูก็วิ่งเข้ามาจอดที่หน้าบ้านเธอในเวลาบ่ายโมงตรงพอดีเป๊ะ พอได้ยินเสียงน่านฟ้าก็ชะโงกหน้าออกไปมองผ่านหน้าต่าง

“ใครมา? นั่นมัน…รถที่เคยขับมาส่งแกนี่ งั้นก็ต้องเป็นคนที่แกให้เบอร์ไปน่ะสิ เขาโทรมาแล้วเหรอ? แล้วเขามารับแกทำไม? จะไปไหนกัน?”

“ฉันต้องไปแล้ว ฝากปิดบ้านด้วย” ว่าแล้ววิอัณณาก็รีบทำท่าออกจากออกบ้าน เพราะไม่อยากรอช้าให้น่านฟ้าตั้งคำถามเพิ่ม เวลานี้เธอเพิ่งรู้ว่าการมีเพื่อนรักเป็นเพื่อนบ้านนั้นก็มีข้อเสียอยู่ไม่ได้ โดยเฉพาะถ้าหากว่าเพื่อนรักนั้นมีดีกรีความเผือกมากกว่าคนปกติ

“เดี๋ยว! ไอ้อัณณา…ไหนแกบอกว่าจะมีคบใครก่อนจะดังไง?!”

คิมหันต์ลงจากรถ เตรียมจะเดินมาเปิดประตูรถให้วิอัณณา เป็นเวลาเดียวกับที่วิอัณณากึ่งวิ่งกึ่งเดินออกมาจากบ้าน เธอไม่พูดไม่จา…ไม่มองหน้าผู้ชายที่เพิ่งหลับนอนด้วย ตรงไปเปิดประตูรถด้วยตัวเองแล้วขึ้นไปนั่งอย่างรวดเร็ว ทำเอาชายหนุ่มถึงกับแปลกใจ คิดในใจว่าตอนแรกทำเหมือนไม่อยากออกไปกับเขา แต่กลับวิ่งขึ้นรถไม่รอใครแบบนี้…ช่างน่าสนใจมากขึ้นเรื่อยๆเลย ทำให้เขาประหลาดใจได้ตลอดเลยผู้หญิงคนนี้

“ผมจองร้านประจำไว้…แต่ถ้าคุณอยากกินอะไรเป็นพิเศษ เราจะเปลี่ยนร้านก็ได้” ชายหนุ่มเอ่ยกับหญิงสาวเมื่อเขากลับขึ้นมานั่งในรถ สายตามองเธอ…มันบ่งบอกว่าเขารู้สึกดีกับเธออยู่ไม่น้อย

“ออกรถค่ะ ไปร้านไหนก็ได้ตามใจคุณเลย เพราะอัณณาคงกินอะไรไม่ลง” ผิดกับหญิงสาวที่ไม่แม้แต่จะมองหน้าชายหนุ่มเลยสักนิด

“…”

“ออกรถสิคะ!” แล้วเธอก็ขึ้นเสียงเมื่อเห็นว่าน่านฟ้าเดินตามออกมาดู

“ครับ”

อิ่ม

ไม่นานคิมหันต์ก็ได้พาวิอัณณามาที่ร้านประจำของเขา เป็นร้านอาหารไทยชื่อดังซึ่งตั้งอยู่ใจกลางเมือง บรรยากาศร้านนั้นเงียบสงบ ให้ความรู้สึกคล้ายกับการกินข้าวที่บ้านสวนของคุณยาย พอมาถึงอาหารมากมายก็ถูกจัดเตรียมเอาไว้เรียบร้อยแล้ว

“ผมสั่งอาหารพวกนี้เอาไว้ ส่วนใหญ่เป็นอาหารแนะนำของที่ร้าน แต่ถ้าคุณอยากกินอะไรเพิ่ม…ผมจะสั่งให้” คิมหันต์เอ่ยพร้อมใบหน้าเรียบนิ่ง เขายังคงดูเคร่งขรึม แต่ที่ต่างออกไปคือสายตาที่เขามองวิอัณณา

“…”

“ลองกินนี่ดูครับ…อร่อยนะ” คิมหันต์ตักแกงพะแนงเนื้อให้วิอัณณา ขณะที่เธอเริ่มกัดเล็บตัวเองอีกครั้ง เธอมีเรื่องที่ต้องพูดกับเขา แต่ไม่รู้ว่าจะเริ่มจากตรงไหน

“คุณคิมหันต์…”

“ครับ?”

“อัณณาจะไม่อ้อมค้อมนะคะ”

“ก็ดีครับ…ผมชอบอะไรที่มันตรงไปตรงมา”

“เราอย่ามาเจอกันอีกเลยค่ะ!”

“…”

ผิดจากที่คาดเอาไว้

คิมหันต์ไม่ได้คาดการณ์ไว้ล่วงหน้าว่าเขาจะต้องมาเจอคำพูดนี้ แน่นอนว่าคนอย่างเขา…อัตราการถูกผู้หญิงปฏิเสธนั้นมีค่าเท่ากับศูนย์ ยิ่งเป็นคนที่เขามีอะไรด้วยแล้ว…ยิ่งเป็นไปไม่ได้ที่อีกฝ่ายจะปฏิเสธไม่สานต่อกับเขา

“เรื่องเมื่อคืน…ทำเหมือนว่ามันไม่เคยเกิดขึ้นเถอะนะคะ เพราะมันก็เป็นแค่ความผิดพลาด”

“ผิดพลาดเหรอ?” เขาถามย้ำ ไม่อยากเชื่อว่าจะได้ยินคำนี้ เขาเสียเซลฟ์…นี่เธอไม่ติดใจเขาเลยงั้นหรือ? หรือว่ามันแย่มาก…จนเธอรับไม่ได้ แต่เขากลับรู้สึกตรงกันข้าม เขาคิดว่าเมื่อคืนเขาก็ทำได้ดีไม่ได้…และเธอก็ดูจะชอบมัน

“ค่ะ มันคือความผิดพลาด…เพราะงั้น…เราจบมันซะตั้งแต่ตอนนี้เถอะนะคะ อัณณาไม่คิดจะสานต่ออะไรทั้งนั้น และอัณณาก็ไม่คิดจะคบกับคุณคิมด้วยค่ะ” วิอัณณาไม่อ้อมค้อมเลยแม้แต่น้อย…พอได้พูดออกไป เธอก็พอจะเริ่มเห็นทางออกของเรื่องนี้แล้ว ไกลๆนั้น…มีแสงสว่างส่องมาถึงเธอแล้ว…

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel