บทที่ 10 แยกย้าย
10
แยกย้าย
“เหตุผลคืออะไรครับ?”
คิมหันต์เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเย็นเฉียบ ตอนนี้อาจพูดได้ว่าเขารู้สึกหน้าแตกแบบหมอไม่รับเย็บ เหมือนวิอัณณาลากเขาไปตบหน้ากลางสี่แยกไฟแดงที่มีรถแน่นขนัด เขาคิดว่าเธอเองก็ชอบเขาพอๆกับที่เขาชอบเธอ เธอทำเหมือนว่าสนใจเขา อยากจะเล่นด้วย ไม่งั้นเธอจะให้เบอร์เขามาทำไม ที่สำคัญ…เมื่อคืนเขากับเธอเพิ่งจะมีอะไรกัน และมันคือครั้งแรกของเธอ เขาคือผู้ชายคนแรกของเธอ! ทำไมเธอถึงได้เตะตัดขาเขารุนแรงเพียงนี้!
“เหตุผลเหรอคะ? อัณณาก็เพิ่งบอกไป…ว่าอัณณาไม่คิดจะมีแฟน”
“ผมทำอะไรผิด?”
“คุณคิมไม่ผิด…”
“หรือเมื่อคืนคุณไม่ชอบ? ไม่นะ…ผมมั่นใจว่าคุณชอบ”
“อย่านะ! อย่ามารื้อฟื้นเรื่องเมื่อคืน! อัณณาบอกแล้วไงว่ามันคือความผิดพลาด! เราเมากันทั้งคู่!”
“เลิกพูดว่ามันคือความผิดพลาดสักที เมาเหรอ? ใช่…ผมดื่ม แต่ไม่ได้เมา ส่วนคุณ…ต่อให้เมาแค่ไหนก็น่าจะรู้ตัวกำลังทำอะไรอยู่”
“แล้วคุณคิมจะเอายังไงคะ? จะตื๊ออัณณาเหรอ? ยังอยากจะสานต่ออีกเหรอ…ทั้งๆที่อัณณาบอกว่าไม่คิดจะคบด้วยน่ะเหรอ?”
“ตื๊อเหรอ?” ไม่อยากจะเชื่อ เขาคือคิมหันต์…คำว่าตื๊อไม่เคยอยู่ในพจนานุกรมของเขา
“ชอบอัณณาขนาดนั้นเลยเหรอ? เราไม่รู้จักกันดีด้วยซ้ำ ทำไมคุณแค่ไม่ปล่อยผ่านเรื่องนี้ไปคะ?”
“แสดงว่าที่คุณทำเหมือนว่าสนใจผม ให้เบอร์ผม…ยั่วผม อ่อยผม ผมคิดไปเองสินะ? หรือคุณก็แค่ทำไปอย่างนั้น แค่อยากจะปั่นหัวผู้ชายเล่นไปวันๆ”
“จะมากไปแล้วนะคะ!”
“มากไปตรงไหน? เราเพิ่งเอากันมาเมื่อคืน…แค่คุณบอกว่ามันคือความผิดพลาด ทั้งๆที่ผมก็มั่นใจว่าผมเป็นผู้ชายคนแรกของคุณ!”
“หยุดพูดนะ! ฉันบอกแล้วไงว่าอย่าพูดถึงเรื่องเมื่อคืนอีก!” เวลานี้วิอัณณาได้เปลี่ยนสรรพนามที่ใช้กับคิมหันต์แล้ว
“หรือผมเอาไม่มันส์?”
เพียะ!
ยอมรับว่าวิอัณณาเองก็ผิดหวังที่ได้ยินคำพูดเหล่านี้จากปากคิมหันต์ เธอถึงได้ตบหน้าเขาอย่างแรง
“หึ! ผมคงรู้สึกดีกว่านี้…ถ้าคุณร้องหาความรับผิดชอบ พูดตรงๆเลย…ผมไม่เคยเจอผู้หญิงแบบคุณ”
“คุณเองก็เป็นพวกฟันแล้วทิ้งไม่ใช่หรือไง? น่าจะต้องโล่งอกสิ…ที่ฉันไม่เรียกร้องอะไรเลย!” จบคำนั้นวิอัณณาก็เดินออกมาจากโต๊ะอาหาร คิดในใจว่าขอให้มันจบลงที่นี่ ตรงนี้ จบในวันนี้…แล้วเธอจะลืมเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมด
หมับ!
แต่ผิดคาดคิมหันต์ไม่ปล่อยผ่านเรื่องนี้ไปง่ายๆ เขาตามมาคว้าแขนวิอัณณาเอาไว้อย่างแรง
“อ๊ะ! ทำบ้าอะไรของคุณ?!”
“ไปเอามาจากไหน? ที่บอกว่าผมเป็นพวกฟันแล้วทิ้ง!”
“สงสัยเรื่องแค่นี้เหรอ? จะเอามาจากไหนมันก็ไม่สำคัญหรอกเพราะต่อให้คุณเป็นคนดี เป็นเทพบุตรลงมาจุติบนโลก ฉันก็ไม่คิดจะสานต่อกับคุณ! เพราะฉันไม่ได้อยากมีแฟน! ถามจริงคุณพูดไม่รู้เรื่องเหรอวะ? จะมาตามตื๊อผู้หญิงที่ไม่เล่นด้วยเพื่อ?!”
“…”
“ไม่รู้จะอะไรกับฉันนักหนา! ก็แค่เอากันครั้งเดียว! แถมรู้จักกันแค่สองสามวัน!”
“นี่เหรอตัวจริงของคุณ?”
วิอัณณาผู้หญิงที่ยิ้มง่าย น่ารัก พูดจาเพราะพริ้งหายไปไหน เวลานี้คนอยู่ตรงหน้าเขาคือใครกัน เธอดูผู้หญิงห่ามๆพูดจาไม่น่าฟัง ดูเหมือนเด็กใจแตกที่แค่เล่นๆไปวันๆเท่านั้นเอง
“เออ! นี่แหละตัวจริงของฉัน! มีอะไรไหม? คิดว่าฉันจะยิ้มได้ตลอดเวลาอย่างนั้นเหรอ?! ถ้าคุณชอบฉันเพราะรอยยิ้ม…บอกเลยว่าคุณพลาดแล้วล่ะ เพราะฉันก็แค่ยิ้มไปอย่างนั้นแหละ! ยิ้มเพราะล่อให้คนมาเข้าหา! แต่สุดท้าย…พอได้ในสิ่งที่ต้องการ ฉันก็จะถีบหัวส่ง! เหมือนที่คุณกำลังเจออยู่นี่ไง!”
“แล้วคุณได้อะไรจากผมไปล่ะ?”
“…” นั่นสิ เธอได้อะไรจากเขามาล่ะ
“คนที่ได้คือผมต่างหาก…ผมได้คุณแล้ว แล้วคุณก็เสียตัวให้ผม”
“หุบปาก! ใครว่าฉันเสีย! เราต่างก็ได้กันทั้งคู่! ได้กันแล้วก็แยกย้าย! จบนะ! แล้วอย่าได้คิดจะแฉฉันด้วย…เพราะฉันจะฟ้องคุณจนหมดตัวแน่!”
“…” สุดท้ายคิมหันต์ก็จำต้องปล่อยมือจากเธอ จะยื้อไปเพื่ออะไรในเมื่อผู้หญิงเขาไม่ต้องการ ยอมรับว่าเขาผิดหวัง…เพราะเขาชอบเธอจริงๆ แต่แล้วยังไงล่ะ ในเมื่อดูเหมือนว่าเขาชอบผู้หญิงที่ไม่มีตัวตน วิอัณณาที่เขาชอบ…เป็นแค่ตัวตนที่เธอสร้างขึ้นมาเท่านั้นเอง
“ลาก่อน…จะดีมากถ้าเราไม่ต้องมาเจอกันอีก” จบคำนั้นวิอัณณาก็หันหลังให้คิมหันต์ แล้วเดินออกมา ทว่าคิมหันต์มีบางอย่างที่อยากจะแนะนำเธอเป็นครั้งสุดท้าย
“อย่าไปทำแบบนี้กับใครอีก…เพราะผู้ชายที่จะปล่อยคุณไปง่ายๆแบบนี้ไม่ได้มีเยอะนักหรอก”
พอเดินออกมาจนพ้นระยะสายตาของคิมหันต์ ร่างบางก็ทรุดตัวลงนั่ง…เธอแทบอยากจะอาเจียนออกมา ท้องไส้มันปั่นป่วน…เธอพูดออกไปมากมาย พูดทุกอย่างที่คิดว่าจะสลัดเขาให้หลุดไปได้ สายตาผิดหวังจากเขายังคงฝังอยู่ในความทรงจำ เขาคงมองเธอไม่ดีไปแล้ว แต่มันก็ห้ามไม่ได้…เพราะนั่นคือสิ่งที่เธอต้องการ เธอจะปล่อยให้ผู้ชายคนเดียวมาขัดขวางเส้นทางความฝันไม่ได้เด็ดขาด
สตูดิโอ เซอร์ราวด์
คิมหันต์มาหากึกก้องที่ออฟฟิศและเล่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นให้เพื่อนรักได้ฟัง ขณะที่เล่า…ก็กระดกดื่มเบียร์ครั้งแล้วครั้งเล่า และพอเล่าจบ…สิ่งเดียวที่ได้รับจากเพื่อนก็คือเสียงหัวเราะที่ดังลั่น
“ฮะๆๆๆ”
“ตลกมากไหมไอ้เวร?”
“มาก! ตลกฉิบหาย! ใครแม่งมาได้ยินก็คงฮาลั่นแบบกูอะ ไม่อยากจะเชื่อว่าคุณคิม อดีตเสือร้ายจากลอนดอนจะโดนผู้หญิงเทแบบนี้”
“หุบปากไปเลย! ถ้ารู้ว่ามึงจะซ้ำเติม…กูคงไม่เล่า”
“เออน่ะ…เราทุกคนแม่งต้องมีครั้งแรกด้วยกันเสมอ”
“เจ็บใจฉิบหาย! ยัยบ้านั่นแม่งบอกว่ากูเป็นพวกฟันแล้วทิ้ง…แต่กูกลับรู้สึกว่าเขานั่นแหละที่ฟันกูแล้วทิ้ง!”
“ฮะๆๆๆ หน้าแตกเลยสิมึง…ท่าจะชอบเอามาก”
“ถ้าไม่นับสิ่งที่ได้เจอวันนี้…ยอมรับว่ากูก็ชอบ แต่มันจบแล้ว วิอัณณา…ยัยบ้าเอ้ย!”
“แต่กูว่าอัณณามีเหตุผล แล้วกูก็พอจะรู้ว่าเหตุผลนั้นคืออะไร”
“เหตุผลคือยัยนั่นแค่อ่อยกูเล่นๆ แต่ดันพลาดมาเอากับกูไง”
“เรื่องนั้นก็อาจใช่…แต่เหตุผลที่ไม่ยอมคบมึงอะ…”
“มีคนที่หล่อ รวย กว่ากูรออยู่มั้ง”
“ไม่ใช่หรอก”
“แล้วมันจะมีอะไร?”
“ตอนที่เรียกอัณณามาแคส กูเคยสัมภาษณ์เขา พ่ออัณณา…ทำงานหนักเพื่อส่งให้อัณณาได้ไปเรียนการแสดง เขาป่วยแต่ไม่ยอมรักษา เพราะอยากจะเอาเงินที่หาได้ส่งเสริมความฝันของลูกกับเมีย นั่นก็คือการเป็นนักแสดง สิ่งเดียวที่พ่ออัณณาอยากเห็นคือวันที่ลูกประสบความสำเร็จ แต่มันไม่ทัน…เพราะป่วยหนัก แล้วไม่รักษา เขาเลยจากไปก่อนที่จะได้เห็นลูกอยู่ในทีวี”
“…”
“อัณณาน่ะรักพ่อมาก ที่อยากจะเป็นดาราดังให้ได้ ไม่ใช่แค่เพราะความฝันอีกแล้ว…แต่อัณณาไม่อยากให้ความตั้งใจของพ่อเสียเปล่า มึงลองคิดดูนะ…คนที่มีความฝันและความตั้งใจขนาดนั้น อัณณาคาดหลังและตั้งเป้าหมายเอาไว้สูงมาก คงไม่ยอมให้อะไรมาพังมันง่ายๆหรอก”
“การมีแฟนเป็นกู…มันจะพังความฝันยังไงวะ?”
“มีแฟนมันไม่พังความฝันหรอก แต่ในความคิดอัณณา…เขาอาจจะกลัวว่าถ้ามีแฟนแล้วมันจะทำไปการไปถึงฝันยากขึ้นหรือช้าลงก็ได้”
“มึงรู้อยู่แล้ว แล้วจะมาเชียร์ให้กูจีบเขาทำไม?”
“ก็…กูคิดว่าอัณณาเหมาะกับมึงดี”
“เหมาะเหี้ยไร? มึงดูสภาพกูตอนนี้สิ!”
