บท
ตั้งค่า

บทที่ 8 สานต่อ?

8

สานต่อ?

ทันทีที่ลืมตาตื่นขึ้นมา คนแรกที่คิมหันต์ได้เจอกลับเป็นเพื่อนรักอย่างกึกก้อง ไม่ใช่วิอัณณา…หญิงสาวที่เขาเพิ่งมีอะไรด้วยเมื่อคืน ซึ่งแน่นอนว่าตอนนี้กึกก้องกำลังนั่งจ้องเขาด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความสงสัย

“มะ…มึงมาตั้งแต่เมื่อไหร่?” คนถูกจ้องเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงแหบพร่า

“ใส่กางเกงก่อนไหม?”

“อะ…เออๆ” คิมหันต์ที่เพิ่งรู้ตัวว่าตัวเองเปลือยเปล่าที่เบื้องล่าง รีบคว้ากางเกงมาสวม ก่อนจะลุกขึ้นยืนแล้วเสยผม พยายามตั้งสติ เวลาเดียวกันก็กวาดสายตามองไปทั่ว วิอัณณาหายไปไหน?

“ถือว่ามึงโชคดีนะที่วันนี้ในออฟฟิศเขาหยุดกันหมด”

“แล้ว…” เขาอยากจะถามว่าเธอคนนั้นหายไปไหน แต่จะถามออกไปได้ยังไงกัน…พูดชื่อเธอออกไป ก็เป็นเรื่องน่ะสิ

“แล้วอะไร? มีอะไรจะสารภาพกับกูไหม?”

“ไม่มี”

“อืม…แต่ตอนที่กูมาถึง กูเห็นวิอัณณารีบวิ่งออกไป สภาพเหมือนเพิ่งผ่านศึกหนักมา” มันแปลได้ง่ายๆว่ากึกก้องเห็น และเมื่อปะติดปะต่อเรื่องได้ เขาก็ได้คำตอบว่าเมื่อคืนคิมหันต์กับวิอัณณาหายไปด้วยกัน และไม่ได้หายไปไหนไกล…ที่แท้ก็บนห้องทำงานของเขานี่เอง

“เออ! เมื่อคืนกูกับอัณณา…มีอะไรกัน มึงเองไม่ใช่เหรอที่อยากให้แม่งเป็นแบบนี้?” คิมหันต์ไม่มีอะไรจะแก้ตัว ถึงได้พูดออกมาตรงๆ

“กูเหรอที่อยากให้มึงมาฟันนางเอกที่ปั้นมากับมือ?”

“ก็มึง…”

“ไอ้ห่า! กูเชียร์ให้มึงจีบเขาแบบเป็นเรื่องเป็นราว! ไม่ใช่เอากันตอนเมาทั้งคู่แบบที่มึงทำ!”

“แล้วมึงโกรธเหี้ยไร? มันก็ไม่ใช่เรื่องแปลก”

“อัณณาไม่เหมือนผู้หญิงที่ลอนดอน! มึงจะแค่มาเอากันแล้วแยกย้ายไม่ได้! อัณณากำลังจะดัง…มึงจะเล่นๆกับเขาไม่ได้ไงไอ้เหี้ยคิม!”

“แล้วใครบอกว่ากูจะแค่เล่นๆ?” คิมหันต์เลิกคิ้วถามกลับ ไม่เข้าใจว่าเพื่อนของเขากำลังคิดอะไรอยู่กันแน่

“ก็ที่ผ่านมา…มึงไม่เคยจริงจังกับใคร แล้วกับอัณณา…มึงเจอเขาแค่สองครั้ง”

“แล้วไง? เจอแค่สองครั้งแล้วจะจริงจังไม่ได้เหรอ? มึงไม่ต้องห่วงอะไรทั้งนั้น…กูแมนพอที่จะไม่ทำถ้าผู้หญิงไม่เต็มใจ แล้วทุกคนที่ผ่านมา…กูตกลงก่อนทุกครั้งว่าเอากันเสร็จแล้วจะเป็นไงต่อ”

“แล้วคนนี้มึงได้ตกลงไว้ก่อนไหม?”

“…” คิมหันต์นิ่งเงียบ เพราะเขาเองก็เพิ่งนึกได้ว่าเมื่อคืนเขาแทบไม่ได้คุยอะไรจริงจังกับวิอัณณาเลย ทุกอย่าง…อารมณ์ความต้องการนำพาล้วนๆ

“หึ! ไม่ได้คุยล่ะสิ”

“ก็บอกว่ากูจริงจังไง! กูรับผิดชอบแน่มึงไม่ต้องห่วงหรอก!” จำคำนั้นคิมหันต์ก็คว้าสูทตัวนอกแล้วเดินออกมาจากห้องทำงานของกึกก้อง โดยที่มีเสียงของเพื่อนรักตะโกนไล่หลังมา

“อย่าลืมด้วยแล้วกันว่าอัณณากำลังจะดังในอีกสองเดือนข้างหน้า! ทีหลังจะทำอะไรมึงต้องระวังกว่านี้! แล้วนี่มันก็ห้องทำงานกู! ทำไมพวกมึงไม่ไปเปิดโรงแรมกันวะไอ้ห่า!”

บ้านจีรวัฒนกุล

ร่างบางในชุดแดง สภาพผมเผ้านั้นยุ่งเหยิงไปหมด เวลานี้เธอกำลังนั่งขยำหัวตัวเองอยู่ที่ปลายเตียงนอน สายตานั้นว่อกแว่กไปมา เธอกำลังสติกระเจิง คิดทบทวนเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้น คิดมาเป็นชั่วโมง…คำตอบที่ได้ก็ออกมาเหมือนเดิมว่าเมื่อคืนเธอนอนกับคิมหันต์ด้วยความเต็มใจ เธอจำทุกอย่างได้ทั้งหมด ทุกสัมผัส ทุกความสุขที่ล้นปรี่

“ฉิบหายแน่ๆ ไอ้อัณณา…แกนอนกับผู้ชายที่เพิ่งเจอกันได้สองครั้ง! แล้วเขาก็เป็นพวกฟันแล้วทิ้ง!” เธอพูดกับตัวเอง ยังคงคิดไม่ออกว่าต่อไปจะเป็นยังไง เมื่อเช้านี้…เธอตื่นขึ้นมาพร้อมกับความตกใจ พอตั้งสติได้ก็รีบหนีออกมา คิดได้แค่ว่าต้องหนี เพราะเธอคงไม่อาจอยู่สู้หน้าเขาได้จริงๆ อาจใช่ที่เธอสมยอม อาจใช่ที่มันเป็นครั้งแรกที่ดีมาก เธอสุขสุดยอดถึงแม้จะเจ็บสุดๆ แต่ที่เธอยอมเขาง่ายๆ ก็เพราะว่าเธอเมา! และมันก็แค่เพราะว่าเธออยากลอง!

“แกเมา! แกไม่มีสติ! จริงสิ…เขาเป็นพวกฟันแล้วทิ้งนี่…แบบนั้นก็ดีสิ ได้กันครั้งเดียวก็แยกย้าย…ทำเหมือนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น”

“ใช่ๆ เราก็แค่ลืมเรื่องเมื่อคืน…”

“แต่เขาจะมาแฉฉันทีหลังไหมวะ? ถ้าฉันดังขึ้นมา…แล้วเขาเกิดอยากจะแฉ?”

“ไม่หรอกน่ะ เขาดูเหมือนคนที่จะเป็นแบบนั้นสักหน่อย เขาเองก็คงมีหน้าตาทางสังคมนี่”

วิอัณณาพูดคนเดียวแล้วลุกเดินไปมาอยู่ทั่วห้องราวกับคนสติเสีย เธอกังวลและตื่นกลัว อดคิดไม่ได้ว่าถ้ามีคนรู้เรื่องนี้ขึ้นมา เธอจะแก้ตัวว่ายังไง แต่อีกใจเธอก็คิดได้ว่าการที่ผู้หญิงมีอะไรกับผู้ชายมันเป็นเรื่องปกตินี่

“ใช่…มันเป็นเรื่องปกติ…ไม่เห็นจะเป็นไรเลย เราทุกคนต้องมีครั้งแรกด้วยกันเสมอแหละ” แล้วเธอก็พยายามปลอบใจตัวเอง

“ใจเย็นไว้อัณณา…คนเราทำพลาดกันได้ นี่ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรเลย ถ้าเราไม่พูด…เขาไม่พูด ก็ไม่มีใครรู้ ไม่สิๆ ถึงจะมีใครรู้แล้วยังไง…เซ็กซ์กับความต้องการมันเป็นเรื่องธรรมชาติ ขอแค่คุณคิมหันต์ไม่ได้ซุกลูกซุกเมียไว้ก็พอ”

ระหว่างที่วิอัณณาพยายามสงบจิตสงบใจอยู่นั้น เสียงเรียกเข้าจากโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้นมา พอเห็นว่าเป็นเบอร์แปลกเธอก็คว้ามือถือขึ้นมามองดูเบอร์

“ใครวะ? โทรมาทำไมตอนนี้…คนยิ่งกำลังเครียดอยู่” เธอบ่น แต่ก็ต้องรับสาย เพราะบางทีมันอาจเป็นเรื่องงาน “ฮัลโหล…”

[ทำไมเมื่อเช้ากลับไปโดยที่ไม่ปลุกผมครับ?]

“คุณคิมหันต์?!” แต่เพียงได้ยินเสียงเธอก็รู้แล้วว่าเขาเป็นใคร แต่นี่เขาเล่นพูดถึงเรื่องเมื่อเช้าในประโยคแรกเลย ไม่แปลกที่จะทำให้วิอัณณาตัวแข็งอีกครั้ง เขาควรจะเงียบหายไปสิ…ทำไมยังจะโทรมาอีก

[บ่ายนี้ผมไปรับที่บ้านนะ ไปกินกัน…]

“กินกัน?!”

[ผมหมายถึงไปกินอะไรอร่อยๆกันน่ะ]

“ทะ…ทำไมล่ะคะ?”

[ทำไมอะไรครับ? ผมจะไปรับคุณมากินข้าวตอนบ่ายไง…ก็คุณบอกว่าไม่กินมื้อเย็นนี่]

“อะ…อัณณาหมายถึงว่าทำไมคุณคิมถึงยังติดต่อมาอีกล่ะคะ?”

[แล้วทำไมต้องไม่ติดต่อด้วยล่ะ? ไม่งั้นผมจะขอเบอร์คุณมาทำไม?]

“มันต้องไม่ใช่แบบนี้สิ…คือว่า…เราแค่ทำเหมือนว่าไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้นแล้วแยกย้ายกันไปคนละทางไม่ได้เหรอ?”

[ทำไมต้องทำแบบนั้น?]

“ก็แล้วทำไมต้องติดต่อกันอีก? เราไม่ได้เป็นอะไรกันนี่!”

[ก็กำลังจะทำให้เป็นอยู่นี่ไง หรือต้องให้ผมพูดตรงๆว่าผมชอบคุณ…ผมไม่อยากให้เราจบกันที่เรื่องเมื่อคืนแล้วกลายเป็นคนไม่รู้จัก ผมอยากจีบคุณแบบเป็นเรื่องเป็นราว เราแค่…มาสานต่อกัน เรียนรู้กันไปสักเดือนสองเดือน จากนั้น…ก็คบกันเป็นแฟน]

“คะ?! คะ…คบเป็นแฟนเหรอ?!”

นี่ไม่ใช่สิ่งที่วิอัณณาคาดคิดมาก่อน ไหนใครว่าเขาคนนี้เป็นพวกฟันแล้วทิ้งไง? นี่เขากำลังจะสานต่อกับเธอ แถมยังบอกว่าชอบเธอ มันต้องไม่ใช่แบบนี้สิ เธอไม่คิดจะมีแฟน…เธอตั้งใจไว้แล้วว่าถ้าไม่อยู่ในจุดที่พูดได้เต็มปากว่าประสบความสำเร็จก็จะไม่คิดมีแฟนเป็นอันขาด! แล้วอย่างที่รู้กัน…เธอเพิ่งจะได้เล่นละครเรื่องแรก ถ้าประกาศว่ามีแฟน…มันก็เหมือนเอาก้อนหินใหญ่ๆมาขวางให้ทางเดินสู่ดวงดาวของเธอลำบากขึ้นน่ะสิ

ยังไงก็ไม่ได้…เธอมีแฟนไม่ได้ ต่อให้จะชอบเขาหรือไม่ก็ตาม ต่อให้เขาหล่อ จะรวย จะเป็นไฮโซหรือหน้าที่การงานที่ดีเลิศ ไม่สิ…ต่อให้เขาเป็นเทวดาลงมาเกิด เธอก็ไม่มีทางคบกับเขาเป็นอันขาด!

[ตามนั้นนะครับ บ่ายโมงเจอกันที่บ้านคุณ]

แต่ไม่ทันที่วิอัณณาจะได้โต้แย้งอะไรออกไป คิมหันต์ก็ตัดบทและวางสายไปเสียก่อน

“ให้ตายเถอะ! ทำไมเรื่องมันออกมาเป็นแบบนี้วะ?!”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel