พลั้งรัก

92.0K · จบแล้ว
ผืนแพร
52
บท
6.0K
ยอดวิว
8.0
การให้คะแนน

บทย่อ

ครั้งแรก ครั้งเดียว ลูกติด! ใครจะยอมก็ยอม แต่วิอัณณาคนนี้ไม่ยอม! เธอเกิดมาเพื่อรับบทนางเอก...แล้วจะให้รับบทแม่ได้ยังไงกัน! ให้ตายยังไงก็ไม่ยอม! พลาดครั้งเดียว...ชีวิตเปลี่ยน! ใครจะคิดว่าความอยากรู้อยากเห็นและน้ำเมาจะทำให้ชีวิตของวิอัณณาต้องพลิกผันจากหน้ามือเป็นหลัง...ได้ขนาดนี้ แค่เพราะเธอเมา ส่วนเขาน่ะหรือ? ไม่ทันได้สังเกตุ แต่ที่แน่ๆทั้งเธอและเขาพากันขึ้นเตียงแบบสมยอมด้วยกันทั้งคู่ และ...ครั้งแรก ครั้งเดียว ลูกติด! แล้วความฝันที่จะเป็นนางเอกเบอร์ต้นของประเทศล่ะ? ชีวิตเธอเพิ่งจะเริ่มแท้ๆ ไหงจะต้องมารับบทแม่ตั้งแต่เริ่มแบบนี้ล่ะ? ใครจะยอมก็ยอม แต่งานนี้วิอัณณาไม่ยอม ให้ตายยังไงก็จะไม่ยอมรับบทแม่ก่อนบนนางเอกเป็นอันขาด! "เมื่อไหร่จะเลิกทำตัวแบบนี้สักที? แล้วผมจะกล้าบอกลูกได้ยังไงว่าใครเป็นแม่เขา" "ทำตัวแบบนี้เหรอ? ทำตัวแบบฉันแล้วมันเป็นยังไง? แล้วไหนว่าห้ามฉันไปเจอลูกไง" "ลูกถามหาแม่ คิดว่าถ้าเขาไม่ถาม...ผมจะอยากบอกเองหรือไง?" "ก็บอกไปสิ ว่าแม่เขาตายไปแล้ว" "จนขนาดนี้แล้ว...ยังคิดไม่ได้อีกเหรอวิอัณณา?" "จนขนาดนี้แล้ว...ยังไม่เลิกชอบฉันเหรอคะคุณคิมหันต์?"

นิยายรักโรแมนติกผู้ชายอบอุ่นรักแรกพบวงบันเทิงพาลูกกหนีโรแมนติก18+

บทนำ

บทนำ

ลอนดอน, สหราชอาณาจักร

ว่ากันว่าคุณแม่ที่เพิ่งคลอดลูกมาหมาดๆ จะมีอารมณ์ที่อ่อนไหวเป็นพิเศษ อาจเป็นเพราะเหตุนั้นเลยทำให้วิอัณณาที่เพิ่งคลอดลูกน้อยนั้นหลั่งน้ำตาไม่ยอมหยุด เธอจ้องมองเด็กทารกที่นอนอยู่ในเปลของโรงพยาบาลด้วยแววตาที่ไม่อาจอธิบายออกมาเป็นคำพูดได้ ถามว่าเธอรักและผูกพันกับเด็กน้อยแสนน่ารักน่าทะนุถนอมคนนี้ไหม…ถามว่าเธอเสียใจกับการที่ต้องแยกจากกันไหม คำตอบนั้นมีเพียงเธอผู้เดียวที่รู้

แต่หากว่าเธอรัก หากว่าเธอเสียใจแล้วยังไง?

ในเมื่อวิอัณณาคนนี้เพิ่งจะมีอายุเพียงยี่สิบสี่ปี ชีวิตของเธอเพิ่งจะเริ่มต้น เธอมีความฝัน มีจุดมุ่งหมายที่ต้องไปให้ถึง และเธอเกิดมาเพื่อรับบทนางเอก เวลานี้…ไม่ใช่เวลาของการรับบทแม่ ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นมันคือความพลาดพลั้ง และเมื่อมันจบลง…เธอเพียงแค่ต้องลืมมันเสีย ทิ้งทุกอย่างไว้เบื้องหลัง ทำให้มันเป็นเหมือนฝันร้าย และก้าวเดินต่อไปก็เท่านั้น

มือบางรีบปาดน้ำตาทิ้งอย่างรวดเร็ว เมื่อเสียงเคาะประตูดังขึ้น ทว่าแม้เธอจะเช็ดน้ำตาจนหมดสิ้น แต่ดวงตาคู่สวยนั้นก็ยังแดงก่ำและเศร้าหมอง ใครเห็นก็มองออกได้อย่างง่ายดายว่าเธอกำลังเสียใจ

ร่างสูงในชุดสูทเดินเข้ามาหยุดที่ตรงหน้าเธอ เขาหันมองทารกตัวน้อยด้วยแววตารักใคร่เอ็นดู แต่พอหันกลับมามองหญิงสาว สายตาก็เปลี่ยนไป…จากมือเป็นหลังเท้า สายตานั้นเย็นชา…ฟันกรามนั้นขบกันแน่น ราวกับว่าเขาไม่อยากจะมองหน้าเธอเลยแม้แต่น้อย ต่อให้เธอจะสวยงามปานนางฟ้า หรือต่อให้เขาจะเคยหลงใหลมันมากก็ตาม

“นับจากวันนี้…คุณกับผมจะไม่มีอะไรข้องเกี่ยวกันอีก” คิมหันต์เอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชา

“มันก็ต้องเป็นแบบนั้นอยู่แล้ว ก็เราตกลงกันแล้ว”

“จะไม่มีคำว่าเรา จะมีแต่คำว่าคุณกับผม จะไม่มีคำว่าแม่…นับจากตอนที่ผมพาเขาออกไป…เขาจะมีแค่ผมที่เป็นพ่อเพียงคนเดียว”

“…” ได้ยินแบบนั้นวิอัณณาก็เม้มปากสนิทแน่น หากไม่ได้ผ่านการเรียนการแสดงมา เธอคงกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่ได้ ไม่มีคำว่าแม่อย่างนั้นหรือ…ใช่ มันต้องเป็นแบบนั้นอยู่แล้ว ในเมื่อเธอก็ไม่ได้อยากจะเป็นแม่คนมาตั้งแต่แรก แต่…แต่ถึงจะรู้แบบนั้นมันก็ยังเสียใจ เด็กน้อยคนนี้…เธออุ้มท้องมาตั้งเก้าเดือน แต่สุดท้าย…ทางที่เธอเลือกเดินนับจากนี้คือทางที่หันหลังให้เขาตลอดชีวิต

“ผมจะถามอีกครั้งว่าคุณตัดสินใจดีแล้วใช่ไหม? คิดดูอีกสักครั้ง…ถ้าเปลี่ยนใจ เราจะแต่งงานกันและคุณจะได้เป็นแม่ของลูก แต่ถ้า…”

“ไม่ ฉันไม่เปลี่ยนใจ เราเซ็นสัญญากันแล้วไง” ไม่ทันที่คิมหันต์จะได้พูดอะไรจบ วิอัณณาก็แทรกขึ้นมาเสียก่อน

“งั้นก็ตามนั้น อาทิตย์หน้าคุณกลับเมืองไทยได้ผมจัดการเรื่องตั๋วเครื่องบินให้แล้ว ส่วนเรื่องละคร…ไอ้ก้องมันคงจัดการออนแอร์แล้วล่ะ กลับไปเป็นนางเอกอย่างที่คุณต้องการซะ”

“…” ใช่ นั่นคือสิ่งที่เธอต้องการ ในที่สุดละครเรื่องแรกที่โดนดองมาเจ็ดเดือนก็จะได้ออนแอร์ แล้วนับจากนี้เธอก็จะกลายเป็นนางเอก เธอจะมีชื่อเสียงอย่างที่ใฝ่ฝันมาตลอด

“และอย่าได้แสดงตัวตนต่อหน้าลูกของผมเป็นอันขาด”

“ฉันไม่ทำแบบนั้นแน่”

“ก็ดี เพราะถ้าคุณเกิดเปลี่ยนใจทีหลังขึ้นมา ผมก็จะบอกไว้ตั้งแต่ตอนนี้…ว่ามันสายไปแล้ว” จบคำนั้นคิมหันต์ก็พาทารกตัวน้อยออกไปจากห้องพักฟื้นในทันที และนี่อาจเป็นครั้งสุดท้ายที่ทั้งสองจะได้เจอกัน

“ฮึก!” วิอัณณาทิ้งตัวลงนั่ง น้ำตาไหลออกมาเป็นสาย ตอนนี้เธอไม่รู้แล้วว่าตัวเองร้องไห้เรื่องอะไร…เพราะดีใจหรือเพราะเสียใจกันแน่

“อัณณา!” เสียงหนึ่งดังขึ้น ตามหลังเสียงประตูห้องที่ถูกเปิดอีกครั้ง เป็นวิมาลาผู้เป็นแม่ แม่เลี้ยงเดี่ยวที่ตามมาดูแลลูกสาวถึงลอนดอน

“ฮึก!”

“แกร้องไห้ทำไม? แล้วนี่…ลูกไปไหน?! อย่าบอกนะว่า…คุณคิมหันต์เขามาพาลูกไปแล้ว?!” วิมาลาเริ่มโวยวายเมื่อได้เห็นว่าทารกน้อยไม่ได้อยู่ในห้อง

“แม่…พอเถอะ! อัณณาอยากอยู่เดียว!”

“แม่ถาม! ว่าคุณคิมเขามาพาลูกไปแล้วเหรอ?!”

“ใช่! ก็เราตกลงกันไว้แบบนั้น!”

“อย่ามาใช้คำว่าเรานะ! เพราะแม่ไม่ได้ไปตกลงอะไรด้วย! อัณณา! แกบ้าไปแล้วหรือไง?! ยังมีความเป็นคนอยู่ไหม?! แกสติเสียใช่ไหมถึงได้กล้ายกลูกในไส้ให้เขาไปแบบนั้น! ฮึก! ฉันล่ะอยากจะตายๆ ไปให้รู้แล้วรู้รอด! แกเป็นแม่…แกทิ้งลูกตัวเองได้ยังไง! แกไม่รักเขาเลยหรือไง?! ไม่รู้สึกผูกพันกับเขาเลยสักนิดเหรอ?! แกอุ้มท้องเขามาเก้าเดือนนะ! ทำไมจิตใจแกถึงได้แข็งกระด้างแบบนี้! แม่คิดว่าตลอดเวลาที่อุ้มท้องเขามา…มันจะทำให้แกคิดอะไรได้บ้าง แต่ไม่เลยอัณณา แกคิดไม่ได้เลย!”

“แม่! จะมาซ้ำเติมอะไรอัณณาอีก?! ที่ผ่านมา…แม่ยังซ้ำเติมกันไม่พอหรือไง?! แล้วอัณณาเซ็นสัญญาไปแล้วว่าจะยกลูกให้เขา! ทุกอย่างมันก็ต้องเป็นไปตามสัญญาสิ!”

“แม่ไม่เคยสอนให้แกเป็นคนเห็นแก่ตัวแบบนี้…ทางเลือกมีตั้งเยอะ! ใช่ว่าคุณคิมหันต์เขาจะทอดทิ้งไม่รับผิดชอบแก! เขาพร้อมที่จะรับผิดชอบทุกอย่าง เขาพร้อมที่จะแต่งงานกับแก! แต่ทำไม…ทำไมแกถึงทิ้งโอกาสที่จะได้อยู่กับลูกไป!”

“ก็เพราะว่ามันคือความผิดพลาดไง! อัณณาไม่ได้อยากจะเป็นแม่คน! แม่…อัณณาอยากเป็นนักแสดง อยากเป็นดารา อัณณาอยากเป็นนางเอก! ถ้ามีลูก ถ้าแต่งงาน…ความฝันของอัณณาก็พัง! พังตั้งแต่เริ่ม! สิ่งที่ทำมาทั้งหมด ที่พยายามมาทั้งชีวิตก็ไม่มีค่าอะไรเลย! แม่ก็เคยต้องการแบบนั้นไม่ใช่หรือไง?! ฮึก! แม่เองก็อยากให้อัณณาเป็นนางเอกชื่อดังไม่ใช่เหรอ?!”

“แต่มันต้องไม่ใช่แบบนี้สิ…ต้องไม่ใช่แบบนี้…”

“ฮึก! แล้วแม่คิดว่าอัณณาอยากให้มันเป็นแบบนี้เหรอ?”

ทั้งสองรู้ดีกันอยู่แล้วว่าสิ่งที่เกิดขึ้นมันคือความผิดพลาด แต่มันผิดพลาดจากจุดไหนกัน...วิอัณณาคิดเรื่องนี้มาตลอดเจ็ดเดือน ตั้งแต่ที่รู้ว่าท้อง จุดไหนกันที่เป็นจุดเริ่มต้นของความผิดพลาดครั้งใหญ่ในชีวิตของเธอ…