พรากครั้งที่ 4
งานฉลองครบรอบหนึ่งปีบริษัทยักษ์ใหญ่ที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับการขนส่ง นำเข้า ผลิต อาหารทะเลกำลังดำเนินงานไปได้ด้วยดี ท่ามกลางเสียงปรบมือของเหล่านักธุรกิจมากมายที่อยู่ในงานเลี้ยงยามค่ำคืนสร้างความปลื้มปิติให้ผู้ก่อตั้งบริษัทนี้เป็นอย่างมาก
“ขอขอบคุณทุกท่านที่ร่วมมางานในวันนี้....” ป้องกล่าวคำขอบคุณด้วยใบหน้าเรียบนิ่งที่เป็นเอกลักษณ์ บรรดาเหล่าแขกยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ เมื่อกล่าวจบก็ได้เวลาเริ่มงานเลี้ยงฉลอง
ฟิ้วววว....ปุ้งงงง~
พุดอกไม้หลากสีสันถูกฉีดขึ้นฟ้าสร้างความหรรษาให้กับเหล่านักธุรกิจและแขกทุกคน แสงแฟรชจากกล้องของนักข่าวกระพริบวิบวับไม่หยุดจนทุกคนต่างก็เริ่มปวดตาแต่ถึงอย่างนั้นก็ยังคงยิ้มอย่างสนุกสนาน
ป้องอุ้มลูกชายวัยหกขวบแน่นแล้วเดินไปโซนอาหารเจ้าหนูปลายรักตาลุกวาวดีดดิ้นพล่านลงจากอ้อมแขนพอจนคนเป็นพ่อต้องปล่อยลงให้ลูกชายวิ่งไปหาขนมที่ตั้งอยู่ข้างหน้า
“พ่อฮะๆ ปลายรักกินอันนี้ได้มั้ย??” เจ้าหนูยกขนมคุกกี้จานใหญ่ขึ้นมา ป้องพยักหน้าแล้วลูบศีรษะลูกน้อยเบาๆ
“แต่ถ้ากินเยอะแล้วอ้วกพ่อตีแน่” ป้องพูดด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งปกติแต่ทำเอาลูกชายชะงัก ปากเล็กค่อยๆ ยู่จนปากจู๋แล้วคนตัวเล็กก็กอดอกมองพ่อนิ่งๆ
“ปลายรักไม่อ้วกหรอก เพราะปลายรักรู้ว่าคุณพ่อตีเจ็บ” ป้องอมยิ้มเล็กน้อย
“ดี” ป้องว่าแล้วหยิบแก้วแชมเปญขึ้นมาจิบเล็กน้อย ในช่วงที่บรรดาแขกมากมายต่างเดินเข้ามาทักทายเจ้าของบริษัท เจ้าของงานเลี้ยงนี้ หญิงสาวคนหนึ่งที่เป็นที่หมายปองของบรรดาหนุ่มนักธุรกิจรุ่นใหม่ไฟแรงเองก็เดินมาคุยกับชายร่างสูงเจ้าของบริษัทเช่นกัน
“ว่าไงคุณหนูปลายรัก” เสียงหวานเย้ายวนอารมณ์เอ่ยทักเจ้าหนูตัวเล็กอย่างสนิทสนมก่อนจะเดินมาหยุดที่หน้าพ่อของเด็กน้อยและ...
จุ๊บ...
เธอเขย่งตัวจูบซับที่แก้มป้องจนเป็นลอยลิปสติกจางๆ เรียกเสียงฮือฮาและแสงแฟรชกล้องได้ดี ป้องขมวดคิ้วไม่ชอบใจก่อนจะเช็ดลิปติกออก
“ไม่ได้เจอกันนานเลยนะคะป้อง” หญิงสาวว่า ป้องพยักหน้า
“เลิกทาปากแดงสักที...หน้าผมไม่ได้ด้านเหมือนคน” คนปากร้ายว่าออกไปด้วยเบาหน้าเรียบนิ่งทำเอาหญิงสาวชะงักก่อนจะหัวเราะคิกคัก
“แหม หยอกแรงไม่เปลี่ยนเลยนะคะสุดหล่อ” ป้องกรอกตาไปมาก่อนจะจิบแชมเปญในมือ แต่หญิงสาวแย่งแก้วไปและกระดกมันรวดเดียว
“นี่....” ป้องส่งเสียงห้ามแต่ไม่ทันเมื่อน้ำสีอัมพันไหลลงคอร่างบางจนหมด
“ฉันว่ามันเบาไปนะคะ ปกติคุณไม่ได้ดื่มอะไรเบาๆ แบบนี้” หญิงสาวว่าก่อนจะโอบลำคอแกร่งของป้องแล้วโน้มตัวลงกระซิบแต่พูดเสียงดังไม่มากทำให้คนรอบๆ ได้ยิน..
“เพราะปกติเวลาคุณ
กินกับฉัน
คุณมักจะกินแบบ
แรงๆ
ตลอดเลย”
เสียงฮือฮาดังขึ้นอีกครั้งเมื่อเหล่านักข่าวมากมายหลายคนได้ยินประโยคเด็ด ป้องขมวดคิ้วมองหญิงสาวอย่างไม่ชอบใจ แต่ยังไม่ทันพูดอะไรนักข่าวก็พากันรุมถาม
“คุณป้องคะ คุณกับคุณ
เลเซล
เป็นอะไรกันคะ!”
“ใช่ค่ะๆ! ได้ยินว่าคุณเลเซลมีถ่ายแบบที่ฮอลลีวูด แต่ทำไมมาอยู่นี่ได้คะ”
“ตกลงความสัมพันธ์พวกคุณเป็นเพื่อนสนิทหรือมากกว่านั้นคะ แล้วทางสังกัดว่ายังไงคะ”
คำถามมากมายจากบรรดาพวกกระหายข่าวทำให้ป้องถอนหายใจอย่างเหนื่อยๆ ต่างจากหญิงสาวที่ได้ชื่อว่าเป็น
เพื่อนสนิท
ของตนที่ยิ้มระรื่นกับผลงานครั้งนี้....
“เธอนี่มัน...เรียกกระแสได้ทุกเวลา!” ป้องว่าอย่างเหลืออดมองเพื่อนสนิทอย่างเยือกเย็น แต่ถามว่าอีกฝ่ายกลัวหรือไม่...หึ
“โอ๊ยอีป้อง! มึงจะอะไรกันนักหนา แค่กูหอมนิดจูบหน่อย ก็เล่นตัวไปได้ เชอะ! ถ้ากูมีผัวเป็นตัวเป็นตนเมื่อไหร่กูไม่มาอ่อยมึงต่อหน้านักข่าวแบบนี้หรอกอีบ้า!”
นี่แหละ...ธาตุแท้ของหญิงสาวที่ใครๆ ก็หลงรัก ป้องถอนหายใจก่อนจะมองปลายรักที่เอาแต่กินขนม ส่วนเขาเองก็แอบหลบมาคุยกับเลเซลที่มุมห้องโถง ทั้งๆ ที่เพื่อนสนิทตนเองพูดจาขวานผ่าซากแบบนั้น แต่ปากยังคงยิ้มหวานเพื่อไม่ให้ใครรู้...
“แล้วไหนเธอบอกว่าต้องไปถ่ายแบบฮอลลีวูด”
“กูถ่ายเสร็จตั้งแต่สองวันก่อนแล้ว อีกอย่าง กูก็ต้องวางแผนมาเซอร์ไพรส์มึงแบบเนียนๆ แล้วให้สัมภาษณ์กับนักข่าวว่า...อ๋อ...พอดีเสร็จงานเร็วน่ะค่ะ ไม่คิดเหมือนกันว่าจะได้มีโอกาสมา ต้องขอบคุณคุณป้องมากเลยนะคะที่เมื่อคืนชวนมา แล้วนักข่าวก็จะสงสัยว่า เมื่อคืนกูกับมึงคุยกัน เจอกันหรือเปล่า แล้วกูกับมึงก็จะเริ่มเป็นข่าว...เห้อออ แผนที่กูเตรียมไว้มันเป็นไปได้สวย..”
หญิงสาวว่าอย่างเพ้อฝัน ป้องส่ายหน้า
“เธออยากมีแฟน แต่เธอมามีข่าวกับฉันแล้วเมื่อไหร่จะมีแฟน?” เลเซลชะงักก่อนจะกรอกตามองบนอย่างคนเบื่อหน่าย
“ก่อนกูจะหาผัวกูก็ต้องหาตังค์ก่อนป้ะ?? กูไม่ได้ฉลาดแบบมึงที่จะได้เปิดธุรกิจนะ งานของกู ยิ่งมีข่าว กูก็ยิ่งดัง มีคนจ้างงานเยอะขึ้น แล้วกูวางตัวเป็นผู้หญิงเรียบร้อยด้วยไม่มีใครคิดหรอกว่ากูหวังสร้างข่าวน่ะ....พอกูมีตังค์เป็นมหาเศรษฐีมากกว่ามึงเมื่อไหร่ ตอนนั้นกูค่อยหาผัว ส่วนมึง ทำตัวโสดๆ เป็นพ่อเลี้ยงเดี่ยวไว้แบบนี้แหละ อย่าเพิ่งมีเมียนะ เดี๋ยวข่าวกูหาย” ป้องส่ายหน้าก่อนจะตอบรับว่าอืมเบาๆ แล้วตั้งท่าจะเดินออกมาจากเพื่อนสนิท แต่สายตาคมก็เหลือบไปเห็นลูกชายตัวเล็กที่กำลังคุยกับใครสักคน....
“พ่อของหนูเป็นเจ้าของบริษัทนี้งั้นหรอ?” ต้าถามพร้อมรอยยิ้ม ปลายรักพยักหน้าก่อนจะยิ้มกว้าง
“คุณพ่อเก่งมากๆ แต่ก็ทำงานหนักด้วย พี่ชายเป็นแขกของคุณพ่อใช่มั้ย??” ต้าพยักหน้า
“ครับ พี่ชายมาที่นี่เพื่อมากล่าวคำขอบคุณกับคุณพ่อของหนูน่ะ” ปลายรักยิ้มกว้างก่อนจะชี้มาทางร่างสูงที่กำลังเดินมาพอดี..
“นั่นไง คุณพ่อของปลายรักมาแล้ว” ปลายรักว่าเสียงแจว ต้าชะงักก่อนจะกระตุกยิ้มร้าย มือเรียวหยิบหน้ากากขนนกสีขาวขึ้นมาใส่ก่อนจะยืดตัวตรงหันไปมองร่างสูงของเจ้าของงาน...
ป้องชะงักกึกมองคนตัวเล็กที่สวมหน้ากากสีขาว คิ้วเรียวขมวดแน่นอย่างสงสัย ทั้งที่งานค่ำคืนนี้ไม่มีใครใส่หน้ากากมา...แต่คนๆ นี้...
“สวัสดีครับ” เสียงทุ้มดังขึ้นจากข้างกายทำให้ป้องต้องหันไปดู ชายต่างชาติร่างสูงใหญ่พอๆ กับเขายิ้มหวานอย่างคนเป็นมิตร
“ผม มาเบิล” ป้องขมวดคิ้วแน่นไม่รู้จักคนตรงหน้า แต่ก็จับมือทักทายอีกฝ่าย
“ผม...”
“คุณ ป้อง” ยังไม่ทันที่จะแนะนำตัว คนตรงหน้าที่สวมหน้ากากก็พูดขึ้น ป้องพยักหน้าก่อนจะยื่นมาไปข้างหน้า แต่อีกฝ่ายไม่สนใจร่างสูงเลยชักมือกลับ
“ผมไม่แน่ใจว่าเคยเห็นพวกคุณที่ไหนหรือเปล่า” ร่างสูงว่าตาคมก็จ้องมองไปยังแววตาที่โผล่มาจากหน้ากากของคนตัวเล็ก แต่ก็ไม่เป็นผล
“เราไม่รู้จักกันหรอกครับ ไม่เคยรู้จักกัน” ต้าพูดเสียงสั่นๆ ก่อนจะหันหลังและ...
แปะๆ....
เสียงปรบมือจากคนตัวเล็กเรียกสายตาจากทุกคนในงานเลี้ยง ความงุนงงและสับสนกล่างกลายเข้ามาเมื่อแขกทุกคนเห็นชายตัวเล็กสวมหน้ากากขนนกหรูสีขาว..
“ไม่ทราบว่าคุณจะเปิดโอกาให้ผมได้คุยกับทุกท่านหรือเปล่า” ต้าหันมาถาม ป้องขมวดคิ้วไม่รู้อีกฝ่ายจะทำอะไรแต่ยอมพยักหน้า เมื่อป้องตกลง ต้าก็กระตุกยิ้มแล้วพูดเสียงดัง
“ทุกท่าน...ได้โปรดฟัง...ชายคนนี้มีเรื่องจะบอกกับทุกคน...” มือเล็กพายมือไปยังร่างสูงของมาเบิล คนถูกเรียกตัวถอนหายใจก่อนจะพูดยิ้มๆ
“ผม...มาเบิล...หลายคนคงจะรู้จักผม ผมเป็นนักธุรกิจที่มีกิจการมากมายอยู่ทั่วโลกในเครือมาเบิล...และล่าสุด ผมเองก็มาทำการเปิดธุรกิจ กิจการอยู่ที่ประเทศไทยแห่งนี้...”
ทุกคนมองหน้ากันอย่างงงๆ มาเบิลหันไปมองคนตัวเล็กที่สวมหน้ากากก่อนจะยิ้มอย่างสนุก...
“นั่นคือ ธุรกิจส่งออก นำเข้าอาหารทะเลรูปแบบใหม่...บริษัทที่จะก้าวขึ้นเรื่องการส่งออกอาหารทะเลเป็นที่หนึ่งของประเทศไทยในหลังจากนี้....ทีแอนด์เอ กรุ๊ป!!”
เสียงฮือฮาดังขึ้นหลังจากร่่างสูงประกาศออกไป ต้ากระตุกยิ้มร้ายก่อนจะหันมามองป้องที่ชะงักไป...
“ไหนๆ เราก็ทำธุรกิจรูปแบบเดียวกันแล้ว...มาแข่งกันไม่ดีกว่าหรอครับ...ว่าใครจะอยู่ ใครจะ
ตาย
” ป้องชะงักคิ้วเรียวขมวดแน่นมองรอยยิ้มมุมปากของคนตรงหน้า
“ต้องการอะไร ทำไมถึงได้มาประกาศแบบนี้ในงานเลี้ยงของผม” ร่างสูงถามด้วยความเยือกเย็น ต้ายักไหล่..
“ผมก็แค่..
พอใจ
แค่นั้น” พูดจบ ต้าก็เดินนำออกไปและตามด้วยมาเบิลกับลูกน้องหลายสิบคน ป้องยืนนิ่งปล่อยให้แสงแฟรชระหน่ำสาดเข้ามาไม่หยุด
“นี่...เขาเป็นใครน่ะ ทำไมมาพูดแบบนี้ในงานของมึง งานฉลองครบรอบหนึ่งปี บริษัทมึงแท้ๆ แต่เขาก็มาพูดว่าจะตั้งบริษัทใหม่แบบมึง แถมยังพูดว่าจะเป็นที่หนึ่งอีก อย่างนี้มันหักหน้าและหาเรื่องกันชัดๆ!” เลเซลพูดไปหงุดหงิดไป ป้องขบกัดฟันแน่น...
“คอยดูต่อไป....”
100%
#โปรดติดตามตอนต่อไป...
