บท
ตั้งค่า

ep 8

บาโบ เลี้ยงฟ้างุ่มมาแต่เล็ก เป็นข้าเลี้ยงมาพร้อมบาคุ้มฝีมือการสู้รบได้มาจากคนบนแพ ที่ขึ้นฝั่งเมื่อใด ก็ต้องฝึกปรืออยู่มิขาด บาโบชำนาญการล่าสัตว์ทุกชนิด แต่ถ้าต้องใช้กลการศึกต้องบาคุ้ม

“ตะวันเพิ่งจะเกาะขอบฟ้าแล้ว พวกเจ้าเตรียมตัว เหมือนกับจะเร่งรีบ ประตูวงจักเปิดเมื่อใด”

ปู่อิน ไถ่ถาม ยาเส้นมวนคับไว้ปลายมือ

“บ่ได้กำหนดเวลาเข้าเฝ้าดอก ตรัสแต่เพียงว่าให้เฝ้าก่อนตะวันตรงหัว”

“นั่นข้ารู้แล้ว แต่พวกเอ็ง จะเร่งเดินทางแต่หัวรุ่งเพื่อการใด”

“วันนี้มีตลาดพ่อค้าเร่ ที่ตลาดปสานข้างกำแพงนครด้านใต้ เราจักเดินชมก่อนเข้าวัง”

ฟ้างุ่มตอบเสียเอง พลางกระชับเชือกหนังที่รั้งแผ่นรองบาทให้รัดกุม

“ไปเดินตลาดกันหรอกหรือ ก็ดี บัวคำรู้หรือยังล่ะว่า พวกเจ้าจะไปตลาดกัน”

“พี่บัวคำ เตรียมอาหารอยู่ในครัว แต่จักตามไปภายหลัง พ่อค้าเร่พวกนี้ ทหารยามมันบอกว่า มาแต่โพ้นทะเลตะวันออก แลตะวันตก คงมากมี และมีสินค้าหลากหลาย”

“อัฐเรามีไม่มาก ยังบ่ต้องหาซื้อหากบ่จำเป็น” ปู่อินรำพึง

ฟ้างุ่ม เม้มปาก สะบัดหน้า สินค้าถูกใจหรือไม่อย่าได้ซื้อ อัฐมีจำกัด เถอะ สักวันเราจะมีอัฐ แลจักซื้อทุกสิ่งที่ต้องการ

บาโบและบาคุ้มวิ่งตามฟ้างุ่มที่เดินดุ่มออกไปอย่างรวดเร็ว บาจิ่นชะเง้อจนคอแทบหัก อยากไปด้วยแต่ปู่อินส่งสายตากำราบไว้ ชั่วครู่จึงค่อยคลานออกไปจากเพิงพักชั่วคราว

“พ่อ” เสียงเรียกเบาอยู่ด้านหลัง

“อัฐเรามิได้ขัดสนปานนั้น หากฟ้างุ่มอยากสิ่งใดได้ บัวคำจักซื้อให้”

ปู่อิน นิ่งเงียบ ได้แต่พ่นควันกลิ่นฉุนออกมาอย่างอัดอั้น สิ่งใดที่ฟ้างุ่มอยากได้ งั้นรึ ไม่พ้นอาวุธที่ต้องหลบซ่อนซื้อขาย ตลาดพ่อค้าเร่ มิได้มีวันนี้วันเดียว หากซื้อแต่วันแรก ย่อมถูกจับตามอง ยามนี้ทำสิ่งใดต้องระวังตัว อาวุธติดตัวที่ฟ้างุ้มมีเพียงพอแล้ว สำหรับป้องกันตัว

.........................

ตลาดปสานคึกคักด้วยผู้คน พ่อค้าเร่ต่างเมืองบรรทุกสินค้าด้วยล่อ ลา แลม้ามาจากเรือ ไม่ก็บรรทุกเกวียนมาหลายเล่ม เมื่อรวมกับบรรดาพ่อค้า แม่ขายของเมืองพระนครที่นำสินค้ามาแลกเปลี่ยน ซื้อขาย ก็ดูละลานตาไปหมด

ฟ้างุ่มยืนมองตลาดปสานที่อยู่ตรงหน้า มิได้ย่างเท้าไปเฉียดใกล้ บาโบคะยั้นคะยอ แต่ใบหน้าที่เรียบเฉยนั้น ทำให้บาคุ้มส่ายหน้าให้กับบาโบ นัยว่า อย่ายุ่ง!

“ไปเถิดฟ้างุ่ม อัฐของข้าพอมี” บาโบเอ่ยชวน

บาคุ้มเลิกคิ้ว ยิ้มอยู่ในหน้า ประเดี๋ยวบาโบก็เจอดี

ฟ้างุ่มเม้มปากแน่น บ่งบอกอารมณ์ขัดใจ สายตากรุ่นโกรธ

“ข้าบ่ได้มีปัญหากับอัฐเหล่านั้น”

“อ้าว”

“ปู่อินเตือนไว้ ถูกต้องแล้ว หากข้าซื้อของที่ข้าอยากได้เมื่อแรกย่างเข้าเวียงวัง ย่อมต้องถูกจับตามอง เช่นนี้แล้วข้าจึงต้องเก็บความอยากมี อยากได้เอาไว้”

“อ้าว แล้วใยปู่อิน จึงบอกดังนั้น อัฐเรามีน้อย” บาโบข้องใจ

“ความนัยปู่อิน ใยบาโบบ่รู้ เสียแรงฝึกทั้งอาวุธแลปัญญามาร่วมกับข้า”

ฟ้างุ่มฮึดฮัดขัดใจ บาคุ้มได้แต่ก้มหน้ายิ้ม จนถูกบาโบกระทุ้งสีข้าง ฮึมฮัมว่าไม่ยอมบอกเตือน

“ปัญญาเฉพาะหน้า บ่มีใครเตือนใคร ต้องสังเกตแลหัดรู้เอง”

ฟ้างุ่ม เดินนำหน้าเข้าไปในตลาดปสาน ทำให้ข้าเลี้ยงหยุดฮึมฮั่มใส่กันแล้วรีบย่างเท้าตาม

ชีวิตสัตว์ป่าน้อยใหญ่ที่ฟ้างุ่มเคยคุ้นวางกองอยู่แทบเท้า บางตัวตายแล้ว แต่บางตัวถูกมัดรวมกัน ดิ้นอย่างไรก็ไม่หลุด เสียงคนขายชี้ชวนให้ซื้อ หรือมีสิ่งใดแลกเปลี่ยนก็สามารถทำได้ ส่วนสินค้าพื้นเมืองอันเป็นไม้หอม เครื่องเทศ เรียงรายอยู่เป็นสัดส่วนภายในตลาด จัดเป็นช่องเป็นแถว ดูเรียบร้อย และแยกออกจากสินค้าของพ่อค้าเร่ที่อยู่อีกฝั่งหนึ่ง ดูราวกับว่า ตลาดที่นี่มีการแลกเปลี่ยนสินค้าจนคุ้นเคยกัน เพราะไต่ถามได้ว่า สินค้าใด อยู่บริเวณใด

ฟ้างุ่มเดินชมตลาดอยู่ชั่วครู่ ก็รู้สึกราวกับว่า มีสิ่งผิดแปลกออกไป แม้ดูเหมือนว่าทุกอย่างยังคงดำเนินไปอย่างปกติ แต่สำหรับฟ้างุ่ม ไม่ปกติ

“มีสิ่งใด”

ฟ้างุ่มกระซิบถาม บาคุ้ม ข้าเลี้ยง

“น่าจักเป็นเชื้อพระวงศ์บางองค์เสด็จ”

“มิน่า ข้าเห็นคนเดินตลาดแปลกตานัก”

“เป็นทหารที่แทรกซึมอยู่ คงบ่อยากให้ชาวบ้านแตกตื่น”

ฟ้างุ่มพยักหน้ารับ แลเหลียวมาทางบาคุ้มก็อดยิ้มมิได้ บาโบก็ยังคงเป็นบาโบ มิได้สังเกตรอบข้าง ดีแต่อยู่ในป่า เข้าเมืองมาสัญชาตญาณป่าหายหมด

มินานขบวนของเชื้อพระวงศ์ก็เดินกรายมา ทหารติดตาม เพียงแค่ 4 คน พี่เลี้ยงอีก 2 แม่นม 1 เป็นขบวนเล็ก ๆ ที่ดูไม่สลักสำคัญ แต่น่าแปลกที่มีทหารแทรกซึมอยู่ทุกที่ในตลาด คงมิใช่แค่อารักขา เชื้อพระวงศ์พระองค์นั้น

ฟ้างุ่มเดินดุ่มเข้าไปหลบอยู่ในร้านขายเครื่องปั้น ใช้โอ่งใบใหญ่บังตนไว้ แล้วลอบมอง

ร่างเล็กแบบบาง แต่งกายทะมัดทะแมง ผิวพรรณวรรณะแตกต่างสิ้นเชิงกับชาวบ้านร้านตลาดแถวนี้ ฟ้างุ่มจ้องมองอยู่นาน ราวติดใจกับท่วงท่าอันงาม คงเป็นพระโอรสองค์ใดกระมัง

พระโอรสพระองค์นั้น เดินอยู่ไม่เท่าไหร่ มหาดเล็กที่เดินตามต้องหอบข้าวของเต็มสองมือ บาคุ้มที่ลอบมองอยู่ไม่ห่างลอบยิ้ม เมื่อเห็นว่า ทหารที่แทรกซึมอยู่ตามจุดต่าง ๆ แสร้งทำเป็นไม่เห็นเมื่อทหารมหาดเล็กขอความช่วยเหลือ เพื่อถือข้าวของที่ล้นมืออยู่

มินานนัก ขบวนของเชื้อพระวงศ์ก็เดินเข้ามาในร้านเครื่องปั้น ฟ้างุ่มทำทีสนใจแจกันหันหลังให้ แต่ลอบมองฝีเท้าทุกย่างก้าว

“เครื่องถ้วยของจีน ชุดนี้ น่ารัก ขายให้เราได้เท่าใด”

น้ำเสียงหวานใสที่เอ่ยถามชาวจีนสูงวัยที่กำลังเช็ดทำความสะอาดเครื่องปั้นอยู่ใกล้อย่างพินอบพิเทา ทำให้ฟ้างุ่มถึงกับต้องหันหลังกลับมาแล้วจ้องมองเจ้าของเสียงอย่างลืมตัว

เจ้าของเสียงเล็กปานระฆังใส่ รีบยกผ้าผืนเล็กซ่อนใบหน้างามนั้นไว้อย่างระวัง มีเพียงดวงตากลมโตจ้องมองอย่างตระหนก พลันหัวใจก็เต้นไหวระรัว จนผงะถอยหลัง พี่เลี้ยงแลแม่นม เข้ากั้นทันที

“เจ้าเป็นใครกัน”

“อีเป็นลูกค้าของอั้วเอง เข้ามาดูสินค้า มิได้มีอันใดดอก”

ชาวจีนรีบตอบ มิอยากมีเรื่องในร้าน ผิดพลาดขึ้นมา ถ้ายชามเครื่องปั้น จักเสียหาย

“เจ้ารู้จักมันดอกรึ” แม่นม ถามเสียงแข็ง มิพอใจ เมื่อยังเห็นบุรุษตรงหน้า ยังจ้องพระพักตร์เจ้านายของตัวมิวางตา

ฟ้างุ่มราวรู้ตัว ก้มหน้าลง แต่สายตาก็ยังจบต้องอยู่ที่เนื้อตัวของเจ้านายองค์น้อย งามนัก

“แม่นม ช่างเถิด เราแค่ตกใจ” เชื้อพระวงศ์เอ่ยห้าม

“จ้องหน้าองค์หญิงเยี่ยงนี้ น่าจับให้ทหารควักนัยน์ตา มันมิมีสิทธิ์มอง”

“ช่างเถิดน่า เราก็แค่เจ้านายปลายแถว มิได้สำคัญอันใดต้องใช้กฎนั้นดอก อย่าทำเรื่องเล็กเป็นเรื่องใหญ่เลย”

“ปลายแถวเช่นใดกัน เหนือหัวโปรดยิ่งกว่าใคร หากทรงรู้”

“ก็อย่าให้รู้ มีใครรู้บ้างล่ะ”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel