6 กล้าดีอย่างไรมาเห็นใจนาง
กองทัพสกุลเฉายิ่งใหญ่เกรียงไกร เส้นทางฉลองชัยชนะ ถูกกำหนดมาตั้งแต่แรกแล้วว่าต้องเป็นเส้นทางใดบ้าง หนีไม่พ้นก็คงเป็นการจัดการของท่านน้าของเขา ผ่านพ้นตลาดไปแล้ว ก็เป็นพื้นที่อยู่อาศัยของชนชั้นสูงและขุนนาง ชายหนุ่มนั่งอยู่บนอาชาสีดำสนิท มิได้แสดงสีหน้าอื่นใดนอกจากความเฉยชา นอกจากขบวนทัพของเขาแล้ว ด้านหลังของเขา ยังมีกรงเหล็กที่มีผู้ถูกคุมขังอยู่ในนั้น
เชลยศึกที่เขานำมาในวันนี้ คือองค์ชายพิการแห่งชางอู่ พวกเขามีข้อเสนอแลกเปลี่ยน ยินยอมส่งองค์ชายมาเป็นตัวประกัน แลกกับการที่ทั้งสองแคว้นสงบศึกต่อกัน ชางอู่นั้นเป็นดินแดนที่มีขนาดเล็กกว่าอวิ๋นโจวหลายเท่า จู่ ๆ ก็เคลื่อนไหวกำลังพลโดยพลการ เป็นเหตุให้เขาต้องจับดาบ สวมเกราะ เดินทัพข่มขวัญ
การเจรจาจบลงโดย ไม่มีผู้ใดต้องสละชีพ แต่ฝ่ายนั้นเสียหายหนักเพราะต้องส่งเชลยศึกมาเป็นตัวประกัน การที่จับมู่หรงเจียเหอใส่กรงขัง แล้วเดินแห่รอบเมืองหลวงก็นับเป็นการข่มขวัญชางอู่เช่นเดียวกัน นอกจากให้ชางอู่เลิกคิดแข็งข้อกับอวิ๋นโจวแล้ว ยังเป็นการป่าวประกาศให้แผ่นดินอื่น ๆ รับรู้โดยทั่วกันว่า หากพวกเขาเหิมเกริมขึ้นมาเมื่อใด ก็จะเป็นดั่งเช่นชางอู่
ขบวนทัพเคลื่อนตัวไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งถึงถนนที่เป็นบ้านเรือนของชนชั้นสูงในอวิ๋นโจว ขบวนทัพเคลื่อนตัวช้าลงอีกเล็กน้อย ผู้ที่อยู่บนอาชาพลันได้ยินเสียงคล้ายกับคนทะเลาะกันดังออกมาจากที่ไหนสักแห่ง ดังคล้ายกับการถูกข่มเหงรังแก สตรีตัวเล็กน่าสงสารนั่งคุกเข่าน้ำตาไหลริน อยู่ต่อหน้าสตรีที่สวมอาภรณ์สีม่วง เมื่อเงยหน้าขึ้นจึงได้รู้ว่าที่นี่คือจวนโหว
เฉาเสวียนอวี้ได้ยินมาว่า เฮ่อโหวมีบุตรธิดาสามคน แต่ละคนนั้นล้วนแต่งดงามบริสุทธิ์ ข่าวลือเรื่องนิสัยย่ำแย่ของหนึ่งในพวกนางเขาเองก็เคยได้ยินเช่นกัน
เมื่อผ่านไปเห็นความอยุติธรรม จึงกระโดดลงมาจากหลังม้า ตรงดิ่งสอดมือเข้าไปยุ่ง
“เกิดอะไรขึ้นงั้นเหรอ”
น้ำเสียงทุ้มต่ำฟังแล้ว ให้ความรู้สึกสุภาพเรียบร้อย มีความสุขุมและสง่างาม ชวนให้คนฟังหลงใหล ดังแว่วมาจากส่วนที่เป็นถนน สตรีที่อยู่ในบริเวณนั้นทั้งหมด หันกลับไปมองกันเป็นตาเดียวกัน
เฮ่อฟู่หลิงเองก็เช่นกัน เมื่อเห็นเฉาเสวียนอวี้ตรงมาพูดคุยกับพวกนาง ผู้เป็นคุณหนูใหญ่แห่งจวนโหวรีบตรงดิ่งเข้าไปหาเขาอย่างรวดเร็ว
“คารวะแม่ทัพเฉา” ร่างเล็กยิ้มรับทักทายอีกฝ่ายด้วยน้ำเสียงอ่อนหวานนุ่มนวล อ่อนหวาน กิริยามารยาทที่นางฝึกฝนมาทั้งชีวิตก็เพื่อการนี้
สามีของนางต้องเป็นเขาเท่านั้น ผู้ที่ช่วยให้นางแก้แค้นคนพวกนี้ได้ ก็มีแต่เพียงเขา ขอแค่เพียงเขาสนใจในตัวนางเท่านั้น ทุกอย่างก็จะบรรลุผล นางร่ำเรียนทุกอย่าง ฝึกตนให้เพียบพร้อมก็เพื่อสิ่งนี้เท่านั้น
เฉาเสวียนอวี้มองสตรีที่เดินนำออกมา นางสวมชุดผ้าไหมหรูหรา เครื่องประดับล้วนแล้วแต่เป็นของที่มีมูลค่าราคาแพง เขาเดาว่านางจะต้องเป็นเฮ่อฟู่หลิง คุณหนูใหญ่อย่างแน่นอน ส่วนที่นั่งคุกเข่าร้องไห้อย่างน่าเวทนานั้น... เห็นจะเป็นเฮ่อหยวนฮวา
คนตัวสูงมองนางด้วยหางตา จากนั้นจึงเดินผ่านนางไปยังคุณหนูรองที่คุกเข่าร้องไห้ ใบหน้าเปียกปอนไปด้วยคราบน้ำตาอย่างน่าสงสารตรงนั้น โดยมิได้สนใจว่าเฮ่อฟู่หลิงจะแสดงสีหน้าเช่นไร
“คุณหนู เกิดเรื่องอะไรขึ้นงั้นหรือ เหตุใดจึงร้องไห้เช่นนี้” เฉาเสวียนอวี้กล่าวกับเฮ่อหยวนฮวาอย่างมีไมตรี พร้อมกันนั้นยังประคองนางให้ลุกขึ้นมายืน
พริบตาเดียวกันนั้น เฮ่อหยวนฮวาก็เป็นลมล้มพับไป โชคดีที่แม่ทัพหนุ่มคว้าตัวนางเอาไว้ได้ทัน เขาประคองนางขึ้นแนบอกและอุ้มนางกลับเข้าไปส่งในบ้าน
ผู้คนที่ยืนเงียบสงบรอดูเหตุการณ์กลับมาซุบซิบนินทาอีกครั้ง
เฮ่อฟู่หลิงที่ถูกเมินยืนตัวแข็งทื่อ ใบหน้างดงามบิดเบี้ยวเพราะความรู้สึกคับแค้นใจ ดวงตากลมโตคู่สวยกวาดสายตามองไปโดยรอบ สีหน้าท่าทางของผู้คนในเวลานี้ล้วนแล้วแต่มองนางอย่างดูแคลน แล้วจึงไปสะดุดตากับดวงตาสีดำสนิทงดงามราวกับท้องนภายามค่ำคืน
เจ้าของดวงตาคู่นั้นเป็นบุรุษหนุ่มที่ถูกขังอยู่ในกรงเหล็ก สองมือสองแขนมีโซ่ตรวน ท่าทางของเขากำลังเศร้าสร้อยและดูหวาดกลัว ได้ยินว่ากองทัพสกุลเฉานำพาเชลยศึกกลับมาด้วยหนึ่งคน คนที่อยู่บนรถลากที่มีกรงเหล็กตั้งอยู่ คงจะเป็นคนที่ทุกคนกล่าวถึง
คนผู้นั้นจ้องมองมาที่นางอย่างขอความเห็นใจ ไม่สิ...เขาไม่ได้ขอความเห็นใจจากนาง แต่เขากำลังเห็นใจนางที่เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น ถึงจะเป็นองค์ชาย แต่ในเวลานี้นั้นเขาก็อยู่ในสถานะเชลยศึกเท่านั้น ตนเองยังเอาตัวไม่รอด กล้าดีอย่างไรจึงมานึกเห็นใจนาง กล้าดีอย่างไรจึงกล้าแสดงออกว่าเห็นใจนาง
เฮ่อฟู่หลิงหยิบข้าวของที่อยู่ใกล้มือ เขวี้ยงไปที่รถลากที่มีเชลยศึกอยู่บนนั้น โดยไม่สนใจว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเขาบ้าง
ชุนเหลียนรู้ดีว่าเจ้านายของนางกำลังคิดอะไรอยู่ ทั้งที่สามารถห้ามได้ในทันที ป้องกันไม่ให้เกิดเรื่องไม่ดีขึ้น แต่นางก็ทิ้งระยะเวลาเอาไว้สักนิด รอเวลาให้ของชิ้นแรกถูกเขวี้ยงออกจากมือ
“คุณหนู ทำเช่นนั้นไม่ได้นะเจ้าคะ”
“อย่ามาห้ามข้านะ” เฮ่อฟู่หลิงโวยวายเสียงดัง ทั้งชาวบ้านและทหารที่เพิ่งกลับมาจากชายแดนต่างก็มองนางด้วยสายตาเอือมระอา
“คุณหนูอย่าทำเช่นนั้นเจ้าค่ะ ทำเช่นนั้นไม่ได้” หญิงรับใช้หลายสิบคนต้องรีบช่วยกันห้าม ถึงแม้ว่าบุรุษที่น่าสงสารที่อยู่ในกรงเหล็กจะเป็นเชลยศึก แต่กระนั้นก็ไม่อาจกระทำการบุ่มบ่ามเช่นนี้ได้ อย่างไรเขาก็เป็นเชื้อพระวงศ์แห่งชางอู่
ชุนเหลียนมองชายที่อยู่บนรถอย่างรู้สึกสงสาร การถูกแห่ประจานไปทั่วอวิ๋นโจวก็น่าสงสารมากพอแล้ว ยังจะมาถูกคุณหนูของนางทำร้ายอีก
“อย่ามาห้ามข้านะ” เฮ่อฟู่หลิงปาถ้วยชาเข้าไปด้านใน ถ้วยแรกไม่โดน จึงหยิบขึ้นอีกถ้วยและคราวนี้มันไม่พลาด ถ้วยกระเบื้องโดนศีรษะของคนบนรถ ทำให้ขมับข้างขวาของบุรุษผู้นั้นมีโลหิตไหลซึมออกมา
หญิงสาวนิ่งไป หยุดชะงักเล็กน้อย นางก็แค่อยากจะระบายอารมณ์เท่านั้น ไม่ได้คิดจะทำให้เขาเลือดตกยางออกเช่นนี้ สุดท้ายแล้วก็เหนื่อย ยอมถอยหลังกลับเข้าไปในจวนแต่โดยดี
