ตอนที่ 13
EP13
เด็กเหลือขอแบบนั้นหรอ คำนี้มันจุกตำใจ จนหยาดนํ้าตาสีใสมันไหลออกมาอาบพวงแก้ม มือเล็กบีบเข้าหากันแน่น เขาไม่รักษาคำพูด แถมยังทำกับคนที่เธอรักแบบนี้อีก
"เด็กเหลือขอ ใช่ค่ะ หนูมันก็แค่เด็กเหลือขอ" เธอได้แต่กัดฟันแล้วตอบกลับออกไปแบบนั้น พลันท่อนบนก็เปลือยเปล่า คาวิลที่กำลังไซร้ลำคอระหงอยู่ก็ผละออก
"หึ ยอมรับความจริงก็ดี แล้วก็ช่วยไปทำให้ร่างกายของตนเองสะอาดด้วย ฉันไม่ชอบอะไรสกปรกๆ"
"…" ปิ่นโตไม่ได้ตอบอะไรกลับไป เธอเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวพร้อมกับชุดคลุมแล้วเดินหายเข้าไปในห้องน้ำ พอได้เข้ามาอยู่คนเดียวก็ปล่อยโฮออกมาอย่างอดกลั้นไม่ได้ จะทำยังไงถึงจะตามหายายกับแม่เจอ ไหนจะเรื่องบ้าบออีกหลายเรื่องที่เกิดขึ้น สมองคิดมือก็เอื้อมไปเปิดนํ้าให้ไหลชโลมตามร่างกายตนเอง โดยไม่สนใจเลยว่าชุดนักเรียนท่อนล่างของตนเองจะเปียก
ยี่สิบนาทีผ่านไปคนตัวเล็กก็เดินออกมาจากห้องน้ำด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง ใบหน้าเนียนใสเกราะไปด้วยหยดน้ำเกราะกราย ปากอมชมพูระเรื่อ ผิวเนียนนุ่มราวกับผิวเด็กทารก คาวิลเพ่งสายตามองเธอก่อนจะยกยิ้มมุมปากอย่างพอใจ
"มานี้สิ"
"…" ปิ่นโตได้แต่จิกมือลงบนชุดคลุมสีขาว แล้วเดินไปล้มตัวลงนอนบนเตียงด้วยสีหน้าเรียบนิ่งไร้อารมณ์
"นอนแข็งทื่อเป็นท่อนไม้แบบนี้ คิดว่าจะทำให้ฉันมีอารมณ์ได้หรอ" ปากถามออกไปมือก็เริ่มปลดกระดุมเสื้อของตนเอง สายตาก็ไล่มองเรือนร่างของคนตัวเล็ก
"คุณจะทำอะไรก็รีบทำเถอะค่ะ"
"ไม่มีอารมณ์ก็คงทำไม่ได้"
"งั้นก็ไม่ต้องทำ"
"แน่ใจ? เป็นงี้เธอก็ต้องอยู่กับฉันนานมากขึ้นนะ ถ้ายังดื้อไม่ยอมทำหน้าที่ของตัวเองแบบนี้ ตอนที่ฉันอยากให้ทำก็ควรทำ เพราะถ้าฉันเบื่อเธอขึ้นมาวันไหน วิธีใช้หนี้ของเธอมันคงไม่ง่าย ร้อยสามสิบล้าน คิดว่ามันง่ายแบบนั้นหรอ?"
ปิ่นโตหลับตาแน่น เธอกลั้นใจลุกขึ้นแล้วดึงสายชุดคลุมออกทำให้ร่างกายขาวนวลเปลือยเปล่ากระทบกับเเสงสลัวภายในห้อง แขนเรียวยกขึ้นแล้วคล้องลำคอหนาก่อนจะโน้มลงมาจูบ มืออีกข้างก็ช่วยเขาถอดกระดุมเสื้อที่เหลือออก การกระทำของคนบนตักทำให้คาวิลพอใจพึงพอใจไม่น้อย มือหนาสอดเข้าใต้ศีรษะทุยแล้วโน้มลงมา อีกข้างลูบไล้ตามเรือนร่างเนียนนุ่ม
"อื้อ!" เสียงหวานครางงึมงำในลำคอ เธออ้าปากรับจูบอันป่าเถื่อนจากคนตรงหน้า มือก็คล้องลำคอหนาพยุงตัวเองเอาไว้ เสียงจูบกันดูดดื่มดังระงมทั่วห้อง คาวิลผละจูบออกแล้วเลื่อนริมฝีปากมาดูดยอดประทุมถันแทน ทำให้ปิ่นโตกัดปากตนเองแน่นมากขึ้นกว่าเดิม ความเสียวซ่านเริ่มวิ่งพล่านทั่วร่างกาย แล้วบทสวาทอันร้อนแรงก็เริ่มขึ้นทั้งคืนนับต่อจากนี้…
•••
[ปิ่นโต]
ปึก! ปึก! ปึก! ปึก!!
ปึกกก!! ปึกกก!! ปึกก!!
"อ่ะ กรี๊ดดดดดด!!" ฉันกรีดร้องออกมาด้วยความจุกก่อนจะทิ้งตัวนอนฟุบหน้าลงกับหมอน ร่างของเขาก็ทับตามลงมาเหมือนกัน คุณคาวิลทั้งปล่อยนอกและปล่อยในจนเตียงของเขามันเลอะไปด้วยคราบนํ้ากามไปหมดแล้ว และคราวนี้มันก็คงจะมีเลือดไหลออกมาปะปนออกมาเหมือนกันเพราะมันเจ็บและจุกมากจนนํ้าตามันไหลออกมา เขาทำตั้งแต่ตอนนั้นจนถึงตอนนี้ มีเวลาได้พักแค่ยี่สิบนาทีเขาก็ขืนร่างกายฉันใหม่อยู่อย่างนั้นไม่รู้กี่รอบต่อกี่รอบ จนเรี่ยวแรงแทบจะหมดอยู่แล้ว
"กินแรงฉันสุดๆ ไปเลย" นํ้าเสียงแหบพร่ากระซิบบอกที่ข้างหู ก่อนที่เขาจะค่อยๆ ถอนแก่นกายตนเองออกอย่างช้าๆ ทำให้ร่างกายของฉันโล่งมากขึ้นกว่าเดิมมาก
"พอรึยังคะ หนูไม่ไหวแล้ว"
"อย่าพึ่งสลบในห้องฉันล่ะ ออกไปห้องของเธอ สกปรก"
"ห้องหนู…อยู่ไหน" นํ้าเสียงอ่อนแรงถามออกไป เปลือกตาของฉันแทบจะปิดอยู่ตลอดเวลา
"ข้างล่าง ห้องสุดท้าย"
"ค่ะ" ไม่ได้ถามอะไรต่อฉันก็พาร่างกายอ่อนแรงบอบชํ้าของตนเองลุกขึ้นจากเตียงนอนสภาพยับเยิน แค่ลุกขึ้นหัวก็หนักอึ้ง มองหน้าจอโทรศัพท์ที่แจ้งเตือนข้อความขึ้นพอดีก็ขึ้นเวลาเป็นตีสองแล้ว ขาแตะลงบนพื้นก็เริ่มสั่น จนต้องใช้แขนพยุงขอบเตียงเอาไว้ ฉันกัดปากแน่นแล้วพยายามลุกแต่มันก็อ่อนแรงมากจนทรุดลงกับพื้นอีกครั้ง
"ไม่ไหวก็คลานไป" น้ำเสียงเรียบนิ่งพร้อมกับแววตาเย็นชาที่ตวัดมองมา คุณคาวิลเดินออกมาจากห้องน้ำพอดี แล้วเขาก็ใช้เท้าเขี่ยชุดนักเรียนมาใกล้ๆ ฉันด้วยท่าทางนึกรังเกียจ
"ไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ หนูไปแน่ๆ" ฉันตอบแค่นั้นก็หยิบชุดนักเรียนขึ้นมาสวมอย่างเชื่องช้าพอลวกๆ ทำทุกอย่างเสร็จสับ ก็คลานไปที่ประตูห้อง แล้วเกาะลูกบิดประตูพยุงร่างกายตนเองลุกขึ้น ต่อจากนี้คงมีอะไรให้ทรงตัวพอเดินได้บ้าง
"ไหวมั้ยครับ" แต่พอจะเดินลงไปยังบันได เสียงของใครบางคนก็ดังขึ้นฉันมองไปก็เห็นเป็นร่างของผู้ชายสวมชุดนอนเดินออกมาจากห้องฝั่งที่ห่างออกไปอีกสามห้อง เขามองมาที่ฉันด้วยแววตานึกสงสาร
"ไหวค่ะ" ฉันตอบออกไปด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา แล้วเขาก็เดินเข้ามาใกล้
"แต่ผมดูแล้วไม่น่าจะไหว ผมช่วย"
"ค่ะ"
"คุ้นหน้าผมบ้างมั้ย ผมธิงส์นะ เป็นเลขาของบอส"
"…" ฉันพยักหน้าตอบแล้วปล่อยให้เขาพยุง ก็คุ้นหน้าเขาอยู่บ้างเพราะอยู่กับคุณคาวิลบ่อย
"รู้เรื่องบ้านแล้วใช่ไหม"
"รู้แล้วค่ะ"
"ผมขอโทษนะ คำสั่งบอส"
"หนูไม่ไดัโทษคุณหรอกค่ะ"
"ครับ" คุณธิงส์ขานตอบแค่นั้นเขาก็ค่อยๆ พยุงฉันลงมาถึงชั้นล่างของบ้าน ก่อนจะเดินมาถึงอยู่ห้องสุดท้ายของตัวบ้านซึ่งมันติดอยู่กับห้องเก็บของ เหมือนจะเป็นห้องเล็กๆ ด้วย
"นี้ห้องของคุณครับ"
"คุณธิงส์อยู่ที่นี้หรอคะ"
"ผมมาค้างแค่บางวันหน่ะ วันที่ต้องทำงานสำคัญเลยต้องค้าง"
"งานสำคัญ?"
"ใช่ครับ"
"เอ่อ หนูขอถามอะไรหน่อยได้มั้ยคะ"
"ได้สิครับ"
"คุณพอจะรู้มั้ย ว่าเขาปล่อยแม่กับยายหนูไว้ไหน"
"เลขาผมเป็นคนจัดการครับ ในกรุงเทพนี้แหละ ไม่ใช่ที่ไหนไกลหรอก ไม่ต้องห่วงนะ ไม่มีอันตรายหรอกครับ สบายใจได้"
"ค่ะ" ฉันพยักหน้าตอบก่อนจะหันหลังให้เพื่อที่จะเข้าไปในห้อง
"เอายามั้ย"
"ยา ยาอะไรหรอคะ?"
"ยาแก้ปวด กับยาแก้อักเสบ"
"ขอบคุณนะคะ"
"เดี๋ยวผมเอามาวางไว้หน้าห้อง จัดการธุระส่วนตัวเองเสร็จก็ค่อยออกมาเอานะ จะได้ไม่รบกวนคุณด้วย"
"ขอบคุณนะคะ" ฉันขานรับแล้วส่งยิ้มให้เขา ก่อนที่ร่างหนาจะหันหลังแล้วเดินห่างออกไป ฉันจึงหมุนตัวกลับเข้ามาในห้อง มันเป็นห้องเล็กๆ ที่ดูดัดแปลงมาจากห้องเก็บของอีกห้องมากกว่า ข้าวของของฉันถูกจัดไว้ คงเป็นป้าแม่บ้านที่จัดไว้ให้ ภายในห้องมีพวกตู้ เตียง และกระจกแค่นั้น แต่ทุกอย่างล้วนเป็นของเก่าหมด บ้านใหญ่โตแต่เขากลับให้ฉันมาอยู่แบบนี้ นี่มันจงใจกลั่นแกล้งกันชัดๆ แต่ก็อย่างว่าก็มาอยู่แค่ไหนฐานะลูกหนี้ ที่จริงห้องแบบนี้ก็ไม่ได้ลำบากอะไรหรอก คิดแบบนั้นฉันก็ล้มตัวลงนอนเตรียมเจออะไรบ้างกับพรุ่งนี้
••••
วันต่อมา…
ครืดดดด~ ครืดดดดด~
เสียงของเครื่องมือสื่อสารสั่นเครือข้างหัวเตียงทำให้คนตัวเล็กที่กำลังนอนหลับใหลอยู่รู้สึกตัวขึ้นมา ปิ่นโตพยายามพาตัวเองลุกขึ้นจากความง่วงแล้วบิดขี้เกียจ ก่อนจะหายเข้าไปในห้องน้ำและแต่งตัวออกมาจากห้อง พอเดินออกมาเธอก็เจอเข้ากับป้าแม่บ้านของที่นี้
"กำลังออกไปเรียนหรอจ้ะหนู"
"ใช่ค่ะ"
"ไปกินข้าวในครัวกับป้ามั้ย"
"เอ่อ หนูกินข้าวที่นี้ได้หรอคะ"
"ป้าทำแล้วมันเหลือหน่ะ คุณวิลกับคุณธิงส์คงไม่กินเยอะขนาดนั้น"
"อืมมมม งั้นก็ได้ค่ะ" ปิ่นโตตอบรับแล้วเดินตามร่างของป้านินป้าแม่บ้านของที่นี้ไปที่ห้องครัว การเจอกันครั้งแรกของปิ่นโตและป้านินทำให้เธอแอบอุ่นใจขึ้นมาบ้างที่อย่างน้อยบ้านนี้ยังมีผู้ใหญ่ใจดี
"นั่งก่อนสิหนู"
"ให้หนูช่วยไหมคะ"
"หนูดูเหนื่อยๆ เดี๋ยวป้าทำเองจ้ะ ดื่มนมสดสักหน่อยคงจะดีขึ้นนะกำลังเป็นสาวเลย ว่าแต่หนูสวยนะเนี่ย" ป้านินชวนคุยในขณะที่กำลังรินนมสดใส่แก้วให้ปิ่นโต
"ขอบคุณนะคะป้า"
"หนูรุ่นราวคราวเดียวกับคุณหนูแพรหลานคุณวิลรึป่าวนะ"
"ใช่ค่ะ ตอนมัธยมปลายเรียนที่เดียวกัน แต่หนูจบไม่พร้อมเพื่อนเลยต้องเรียนซ้ำอีกปี" เธอตอบ มือเรียวก็หยิบแก้วนมขึ้นมาจรดริมฝีปาก หลังจากนั้นบทสนทนาของทั้งสองก็ดำเนินเรื่อยๆ จนกระทั่งถึงเวลาที่ปิ่นโตต้องไปเรียน
"ทำอะไรกันอยู่หรอครับ" ในขณะที่ปิ่นโตกำลังจะลุกจากเก้าอี้เพื่อจะไปเรียนเสียงของธิงส์ก็แทรกเข้ามา ชายหนุ่มเดินเข้ามาในห้องครัวพร้อมชุดที่กำลังจะออกไปทำงาน
"กินข้าวพึ่งเสร็จค่ะคุณธิงส์" เป็นป้านินที่เอ่ยตอบ
"แล้วปิ่นกำลังจะไปเรียนหรอ"
"ใช่ค่ะ"
"ผมจะออกไปทำธุระพอดีไปพร้อมกันไหมครับ"
"วันนี้ไม่ได้ออกไปพร้อมกับคุณวิลหรอคะ" ป้านินถาม
"บอสไปบอเลยครับ ส่วนผมต้องแวะทำธุระก่อนเลยต้องแยกคันกันไป"
"เอ่อ…" ปิ่นโตอํ้าอึ้ง
"ทางผ่านพอดี จะสายแล้วด้วย ไปด้วยกันไหม"
"ไปเถอะหนูปิ่น กว่าจะต่อรถเมล์สายพอดี"
"ก็ได้ค่ะ"
"งั้นเราไปกันเลยดีกว่าครับ เดี๋ยวสาย"
"หนูไปเรียนก่อนนะคะป้านิน" ปิ่นโตบอกแค่นั้นก็ยกมือไหว้ป้านิน ก่อนจะเดินตามร่างของธิงส์ออกจากห้องครัวไป แต่พอเดินออกมาก็เจอร่างของคาวิลนั่งกอดอกจ้องสองคนที่โซฟาด้วยแววตาเรียบนิ่ง แต่แววตานั้นมันกลับทำให้ปิ่นโตขนลุกซู่
"บอสยังไม่ไปทำงานหรอครับ"
"ยัง"
"งั้นผมขอตัวก่อนนะครับ"
"เดี๋ยว"
"ครับ?"
"ไปคนเดียว" คำสั่งของคาวิลทำให้ธิงส์หันมามองปิ่นโต
"ครับบอส ขอโทษด้วยนะ"
"ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวหนูไปรถเมล์เอา" ปิ่นโตบอกแค่นั้นธิงส์ก็รีบเดินออกไปทันที
"ลูกน้องฉันก็ไม่เว้นหรอ" ขาเรียวที่กำลังจะก้าวเดินหยุดชะงักเมื่อได้ยินคำถามของคาวิล
"คะ?"
หมับ!
"คุณวิล!" คาวิลออกแรงลากคนตัวเล็กมาทุ่มลงบนโซฟาแล้วกดทับร่างเธอแน่น
"ฉันถาม"
"หนูไม่รู้เรื่องว่าคุณพูดอะไร"
"เมื่อคืนฉันเห็นว่าเธออ่อยธิงส์"
"อ่อยบ้าอะไรของคุณ"
"ก็ที่สำออยให้มันไปส่งหน้าห้องไง"
"ตลกแล้วค่ะ"
"อย่ายุ่งกับธิงส์ ฉันเตือนเธอแล้วนะ" เขาพูดข่มขู่คนตัวเล็กแล้วออกแรงบิดแขนเล็กแน่น จนใบหน้าหวานเริ่มเบ้ด้วยความเจ็บ
"ก็แล้วแต่จะคิดเธอค่ะ"
"ถ้าอยากท้าทายก็เชิญ" ทิ้งท้ายไว้แค่นั้นก็ยอมปล่อยมือออกจากเด็กสาว มือหนาจัดเนกไทของตนเองให้เข้าที่ก่อนจะหมุนตัวเดินหันหลังให้เธอแล้วจากไป ทิ้งให้ปิ่นโตยังอยู่กับความสงสัยและไม่เข้าใจว่าคาวิลเป็นอะไรของเขา?
•••
หมาหวงก้างค่าาาาาาาา บรู้วววววว
