ข้อเสนอที่มิอาจปฏิเสธ
อันนาเงยหน้ามองมาร์คัส ใบหน้าคมเข้มของเขายังคงไร้ซึ่งอารมณ์ใดๆ แต่แววตาคู่คมนั้นกลับจับจ้องเธอราวกับจะทะลุปรุโปร่ง
อันนาเม้มริมฝีปากแน่น เธอกำถุงผ้าที่บรรจุเงินสามแสนบาทไว้แน่น ราวกับว่ามันเป็นสิ่งเดียวที่ยึดเหนี่ยวเธอไว้จากความกลัว
"คุณมาร์คัสคะ..." อันนาเริ่มพูดเสียงแผ่ว พยายามรวบรวมความกล้า "อันนามีเงินมาให้คุณสามแสนบาทค่ะ" เธอพยักหน้าไปที่ถุงผ้าในมือ
มาร์คัสเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย แววตาของเขาดูเหมือนจะมีความประหลาดใจเจืออยู่จางๆ "สามแสน?" เขาทวนคำ ราวกับไม่เชื่อหูตัวเอง แล้วเสียงหัวเราะในลำคอก็หลุดออกมาอย่างเย้ยหยัน
"เธอคิดว่าเงินแค่นี้จะพอสำหรับหนี้ทั้งหมดที่พ่อเธอสร้างไว้เหรอ อันนา?"
น้ำเสียงของเขานั้นเย็นชาและดูถูก ทำให้หัวใจของอันนาชาวาบ เธอรู้ดีว่ามันไม่พอ แต่เธอมีเพียงแค่นี้จริงๆ
"อันนารู้ค่ะว่ามันไม่พอ... แต่นี่คือทั้งหมดที่อันนามีในตอนนี้ค่ะ อันนาทำงานหาเงินมาได้แค่นี้จริงๆ"
อันนาพยายามอธิบาย น้ำเสียงสั่นเครือ "ส่วนที่เหลือ... อันนาจะทำงานใช้ให้คุณทุกอย่างค่ะขอเวลาให้อันนาสักนิดนะคะอันนาเหลืออีกแค่ 1 เทอม"
" อันนาจะเรียนจบแล้วหาเงินมาใช้หนี้คุณมาร์คัสนะคะอันนาสัญญา"อันนาเงยหน้าน้ำตาคลอเถอะรีบอธิบายให้กับมาร์คัสฟังเพื่อร้องขอความเมตตา
"ทุกอย่างเหรอ?" เสียงทุ้มต่ำกระซิบข้างหูเธอ กลิ่นกายของเขาที่ปะปนกับกลิ่นบุหรี่และอำนาจคละคลุ้งไปทั่ว ทำให้ลัลนาถึงกับขนลุกซู่
มาร์คัสเดินลงบันไดมาหยุดตรงหน้าอันนา ร่างสูงใหญ่ของเขาทาบทับเธอจนอันนาต้องเงยหน้าขึ้นมองคอแทบตั้ง
เขายื่นมือออกไปรับถุงเงินจากมือเธออย่างเฉยเมย ก่อนจะส่งให้บอดี้การ์ดที่ยืนอยู่ด้านหลังโดยไม่ชายตามองแม้แต่น้อย
"อันนาจะทำงานชดใช้ให้คุณมาร์คัสทุกอย่างค่ะทุกบาททุกสตางค์อันนาจะคืนให้"
รอยยิ้มเยือกเย็นผุดขึ้นบนใบหน้าของมาร์คัส เขารู้สึกสนุกกับเกมนี้ ผู้หญิงคนนี้แตกต่างจากผู้หญิงทุกคนที่เขาเคยรู้จัก เธอไม่ได้เข้ามาหาเขาเพราะเงินทองหรืออำนาจ แต่เพราะความจำเป็น
"ดี" มาร์คัสเอ่ยเพียงสั้นๆ ก่อนจะผละออกไป ร่างสูงใหญ่เดินกลับไปที่โต๊ะทำงาน หยิบปากกาขึ้นมาเซ็นเอกสารบางอย่าง
"ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เธอจะมาอยู่กับฉันที่คฤหาสน์ของฉัน"
อันนาเบิกตากว้างอย่างตกใจ "คะ?"
"หูหนวกหรือไง?" มาร์คัสเลิกคิ้วขึ้น "เธอเป็นของฉันแล้วลัลนา...จนกว่าหนี้จะหมด"
คำพูดของมาร์คัสเหมือนก้อนหินที่ทุ่มลงมากลางใจของอันนา เธอรู้ดีว่าคำว่า
"เป็นของฉัน" ของเจ้าพ่อมาเฟียอย่างเขา ไม่ได้หมายถึงแค่การทำงานใช้หนี้อย่างเดียวแน่นอน แต่ในวินาทีนั้น เธอไม่มีทางเลือกใดๆ นอกจากยอมจำนนต่อชะตากรรมที่โหดร้ายนี้
"อย่างที่ฉันบอกไปแล้ว" มาร์คัสพูดเสียงเรียบเย็น แต่เต็มไปด้วยอำนาจ "ถ้าไม่มีเงิน ก็ต้องใช้ร่างกายชดใช้"
คำพูดของเขาทำให้เลือดในกายของอันนาเย็นเฉียบไปถึงขั้วหัวใจ เธอรู้ว่าวันนี้ต้องมาถึง แต่เมื่อได้ยินมันตรงๆ จากปากเขา เธอก็ยังรู้สึกราวกับถูกตบหน้าอย่างแรง
"คุณหมายความว่ายังไงคะ?" อันนาถามเสียงสั่นเทา พยายามปฏิเสธความจริงที่กำลังจะเผชิญ
มาร์คัสยกยิ้มมุมปาก เผยให้เห็นเขี้ยวที่ซ่อนอยู่ "ก็อย่างที่เธอเข้าใจนั่นแหละ อันนา เธอจะมาเป็นของฉัน มาอยู่ในความดูแลของฉัน ตราบใดที่หนี้ยังไม่หมด และฉันจะใช้งานเธอตามที่ฉันต้องการ"
มาร์คัสพูดทุกอย่างกำกวมไปหมดมันโดยรวมคือเขาต้องกลายเป็นผู้ปกครองของอันนา 100% ทุกการตัดสินใจขึ้นอยู่กับมาร์คัสชีวิตของอันนาเป็นของมาร์คัสนับจากวันนี้
อันนาเบิกตากว้าง น้ำตาคลอเบ้าทันที
"ไม่นะคะ! อันนา...อันนาทำงานได้ทุกอย่างค่ะ จะให้ทำความสะอาดบ้าน ทำอาหาร จัดการเอกสาร ฉันทำได้หมดค่ะ"
"แต่ได้โปรดอย่าทำแบบนี้เลยนะคะ.." อันนาตาแดงก่ำน้ำตาคลอหน่วยเหมือนจะร้องไห้ เธอพยายามอ้อนวอน เสียงสะอื้นเริ่มเล็ดลอดออกมา
แต่คำอ้อนวอนของเธอไม่ได้ทำให้มาร์คัสใจอ่อนเลยแม้แต่น้อย เขาก้มลงมาใกล้จนปลายจมูกแทบจะชนกัน กลิ่นน้ำหอมราคาแพงผสมกับกลิ่นกายแบบผู้ชายดิบๆ ของเขาทำให้หัวใจของอันนาเต้นรัวอย่างบ้าคลั่ง
"เธอไม่มีสิทธิ์ต่อรอง อันนา" เสียงทุ้มต่ำของเขากระซิบชิดริมฝีปาก
"ตอนนี้เธอคือลูกหนี้ของฉัน และทุกอย่างในตัวเธอ...เป็นของฉัน"
อันนาหลับตาลงอย่างเจ็บปวด ความรู้สึกอับจนหนทางถาโถมเข้าใส่ เธอรู้ว่าเธอติดกับดักที่พ่อสร้างขึ้นมาอย่างสมบูรณ์แบบแล้ว ไม่ว่าจะพยายามดิ้นรนแค่ไหน ก็ไม่อาจหลุดพ้นจากเงื้อมมือของเจ้าพ่อมาเฟียคนนี้ได้
มาร์คัสผละออกมายืนตรง ก่อนจะหันไปทางแม่บ้านป้าสมศรีที่ยืนรออยู่
"พาเธอไปที่ห้อง แล้วเตรียมชุดให้เธอ ตอนค่ำวันนี้...เธอจะต้องมาทานข้าวกับฉันส่วนมือถือซังกะบ๊วยของเธอฉันขอยึดไว้ก่อน"
"ค่ะนายท่าน" แม่บ้านสมศรีรับคำ อันนาได้ยินเสียงถอนหายใจแผ่วเบาจากแม่บ้าน ก่อนที่แม่บ้านจะเดินเข้ามาหาเธอ
อันนาได้แต่พยักหน้าอย่างเลื่อนลอย ปล่อยให้แม่บ้านสมศรีจูงมือพาเธอเดินขึ้นบันไดใหญ่สู่ชั้นบน สู่ห้องพักที่ถูกจัดเตรียมไว้สำหรับเธอ และสู่บทบาทใหม่ที่เธอไม่เคยคิดว่าจะต้องเผชิญในชีวิตนี้
"คุณหนูอันนาคะ อยู่ที่คฤหาสน์หลังนี้ นายท่านมีกฎเหล็กไม่กี่อย่าง ข้อแรกอย่าขัดใจหรือขัดคำสั่งของนายท่านถ้าไม่อยากจะเดือดร้อน"
"ข้อที่สอง ห้องต้องห้ามคือห้องที่อยู่ข้างๆห้องของนายท่านห้ามเข้าโดยไม่ได้รับอนุญาตแม้แต่เปิดหรือแตะต้องก็ไม่ได้นี่เป็นข้อห้ามสำคัญ"
แม่บ้านที่ชื่อป้าสมศรีได้บอกกฎเหล็กที่เคร่งครัดให้กับอันนาปฏิบัติตามและเรื่องห้องต้องห้ามป้าสมศรีย้ำกับอันนาเสมอมา
อันนาตอบเสียงแผ่วเบาด้วยความเข้าใจไม่ว่าจะเป็นข้อไหนเธอก็ไม่มีสิทธิ์เลือกอยู่แล้วเพราะนับจากวันที่พ่อของเธอทิ้งหนี้ก้อนโตเอาไว้เธอก็เหมือนตายไปแล้วครึ่งนึงของชีวิต
