ค่ำคืนแรก
แม่บ้านสมศรีพาอันนามาที่ห้องพัก ใบหน้าของสมศรีเต็มไปด้วยความเห็นอกเห็นใจแต่ก็ปะปนไปด้วยความไม่สบายใจ
อันนารู้สึกได้ถึงความรู้สึกที่สมศรีมีต่อเธอ แต่ก็ไม่กล้าเอ่ยถามอะไรออกไป เพราะกลัวว่าการพูดคุยมากเกินไปจะทำให้เธอต้องเจอเรื่องยุ่งยาก
"คุณหนูอันนาคะ คุณมาร์คัสสั่งให้ดิฉันเตรียมชุดสำหรับมื้อค่ำให้ค่ะ"
สมศรีพูดพลางเดินไปที่ตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ เธอดึงชุดเดรสผ้าไหมสีน้ำเงินเข้มตัวหนึ่งออกมา มันเป็นชุดที่เรียบหรู แต่เผยให้เห็นสัดส่วนของผู้สวมใส่ได้อย่างพอดิบพอดี
อันนารับชุดมาถือไว้ในมืออย่างเลื่อนลอย ชุดนี้ดูเหมือนจะแพงกว่าเสื้อผ้าทั้งหมดที่เธอเคยมีรวมกันเสียอีก
"ขอบคุณค่ะคุณป้าสมศรี" อันนาตอบเสียงแผ่วเบาเรากลับมีแต่กายหยาบแต่วิญญาณได้หลุดลอยออกไปจากร่างของเธอ
"คุณหนูแต่งตัวเถอะค่ะ เดี๋ยวใกล้เวลาอาหารเย็นดิฉันจะกลับมาตาม" สมศรีบอก ก่อนจะเดินออกจากห้องไป ทิ้งให้อันนาอยู่กับความรู้สึกสับสนและหวาดกลัว
อันนาทิ้งตัวลงนั่งบนเตียงนุ่ม พลางมองชุดเดรสในมือ เธอรู้ดีว่ามื้อค่ำนี้คงไม่ใช่แค่การทานอาหารธรรมดา แต่มันคือการเริ่มต้นของ "การทำงานใช้หนี้"
ที่มาร์คัสพูดถึง อันนาสูดหายใจลึก พยายามรวบรวมสติและเตรียมใจรับมือกับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น เธอไม่มีทางเลือกอื่นแล้วในตอนนี้
"พ่อทำไมพ่อถึงทำกับหนูแบบนี้"
อันนาน้ำตาไหลเอ่อคลอจนมันไม่อาจห้ามได้มันไหลลงอาบสองแก้มของเธออย่างเจ็บปวดทรมานแสนสาหัส พ่อของเธอติดการพนันอย่างหนักหน่วงไม่แม้แต่จะจำวันที่แม่จากไปก็เพราะตรอมใจ
อันนาหยิบชุดสวยหรูที่ป้าสมศรีเตรียมเอาไว้ให้เดินวนไปมาเธอใช้เวลาเกิดครึ่งชั่วโมงอาบน้ำและนั่งร้องไห้จนตาปูดโปนบวมแดงไปหมดต่อให้จะมีเครื่องสำอางบางๆก็ไม่อาจกลบร่องรอยการร้องไห้ของเธอได้
"ฉันจะต้องทำยังไงถึงจะหลุดพ้นจากสถานการณ์ตรงนี้" อันนาพูดกับตัวเองหน้ากระจกพลางน้ำตาก็จะไหล
เมื่อถึงเวลา สมศรีก็กลับมาที่ห้อง เธอมองอันนาที่แต่งตัวเรียบร้อยแล้วด้วยแววตาประเมิน อันนาในชุดเดรสสีน้ำเงินเข้มดูสวยสง่าขึ้นผิดหูผิดตา
ผมยาวสลวยถูกมัดรวบไว้อย่างเรียบง่าย เผยให้เห็นลำคอระหง แม้จะแต่งแต้มเครื่องสำอางเพียงเล็กน้อย แต่ความงามตามธรรมชาติของเธอก็โดดเด่นออกมา
"คุณหนูสวยมากเลยค่ะ" สมศรีเอ่ยชมอย่างจริงใจ
อันนาได้แต่ยิ้มบางๆ รู้สึกขอบคุณในคำชมนั้น แต่หัวใจกลับเต้นรัวด้วยความประหม่า
ป้าคะแล้วตอนเช้าอันนาจะต้องตื่นมาทำกับข้าวช่วยป้าด้วยไหมระหว่างทางที่ไปห้องอาหารอันนาก็พยายามผ่อนคลายด้วยการหันมาพูดคุยกับป้าแม่บ้าน
"ไม่ต้องค่ะ.! คุณอันนาเป็นแขกของนายท่าน คุณอันนามีหน้าที่ดูแลนายท่านอย่างเดียวนะคะ" คำว่าดูแลนายท่านทำให้อันนาหัวใจวูบไหวเสมอ
สมศรีพาอันนาลงมาที่ห้องอาหารขนาดใหญ่ ที่นี่ตกแต่งอย่างหรูหราอลังการ โต๊ะอาหารยาวเหยียดที่ทำจากไม้เนื้อดีถูกจัดวางด้วยจานชามและแก้วคริสตัลระยิบระยับ
มาร์คัสกำลังนั่งอยู่ตรงหัวโต๊ะ ใบหน้าคมเข้มของเขายังคงเย็นชาเช่นเคย แต่ดวงตาคมกริบกลับกวาดมองอันนาตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าด้วยสายตาที่ทำให้เธอรู้สึกร้อนผ่าวไปทั้งตัว
"มานั่งตรงนี้" มาร์คัสผายมือไปยังเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามกับเขา อันนาเดินไปนั่งอย่างว่าง่าย ท่ามกลางความเงียบที่น่าอึดอัด
"กินข้าวสิ ฉันไม่รู้ว่าเธอชอบกินอะไรอาหารพวกนี้เธอกินได้ใช่ไหม"มาร์คัสถามเสียงเรียกแต่แฝงไปด้วยความอ่อนโยน
"กินได้ค่ะคุณมาร์คส" อันนาตอบโดยที่ไม่เงยหน้าสบตามองมาคัสเลยแม้แต่นิดเดียวเพราะเธอกลัวสายตานี้เหลือเกิน
มื้อค่ำดำเนินไปอย่างเงียบเชียบ มีเพียงเสียงกระทบกันของช้อนส้อมเท่านั้นที่ดังขึ้น มาร์คัสทานอาหารอย่างสงบ
ทำไมกินน้อยจังล่ะอาหารไม่ถูกปากหรอมาคัดที่เห็นอันนานั่งทานอาหารเหมือนคนอมทุกข์ก็เอ่ยปากขึ้นเพื่อทำลายความเงียบ
"ไม่ใช่ค่ะ อันนาทานไม่เป็น" อาหารหรูสไตล์ฝรั่งเศสที่ถูกเตรียมไว้อย่างดิบดีกลับกลายเป็นว่าอันนาทานไม่ได้เพราะเธอไม่เคยทาน
"เอาไว้คราวหน้าเธอชอบทานอะไรบอกป้าสมศรีแล้วกันนะ"พูดจบมาคัดก็หันมาทานอาหารต่อ แต่ทุกการเคลื่อนไหวของเขาก็ยังคงแฝงไว้ด้วยอำนาจและบารมี
อันนาพยายามทานอาหารเท่าที่จำเป็น แต่ในใจกลับว้าวุ่น เธอไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นหลังจากนี้อันนาคิดไปไกลจนเลยเถิดเธอกลัวไปหมด
เมื่อมื้ออาหารสิ้นสุดลง มาร์คัสก็ลุกขึ้นยืน อันนาเงยหน้ามองเขาด้วยความรู้สึกประหวั่นพรั่นพรึงเหงื่อออกเต็มมือเล็กๆของเธอสีหน้าแสดงความตื่นตระหนกตกใจสั่นไปหมด
"ตามฉันมา..!" มาร์คัสพูดเสียงเรียบ ก่อนจะเดินนำออกไป อันนาไม่มีทางเลือกนอกจากต้องลุกขึ้นเดินตามเขาไปอย่างช้าๆ หัวใจของเธอเต้นระรัวจนแทบจะทะลุออกมานอกอก
"ไปไหนคะ" อันนาที่ตัวสั่นเป็นลูกนกแต่ก็ยังพยายามรวบรวมความกล้าที่จะถามออกไป
"ไม่ต้องถามมากตามฉันมาก็พอ" มาร์คัสเดินนำอันนาขึ้นไปยังชั้นบนสุดของคฤหาสน์ ไม่ใช่ห้องของเธอ
แต่เป็นห้องอีกห้องหนึ่งที่ดูโอ่อ่าและเป็นส่วนตัวมากกว่า เมื่อประตูถูกเปิดออก อันนาก็เห็นห้องนอนขนาดใหญ่ที่ตกแต่งด้วยโทนสีเข้ม มีเตียงขนาดคิงไซส์ตั้งอยู่กลางห้อง
มาร์คัสเดินเข้าไปหยุดอยู่ข้างเตียง ก่อนจะหันมามองอันนาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความต้องการที่เธอรู้จักดี
"มานี่ อันนา" เสียงทุ้มต่ำของเขาก้องในความเงียบ
