ผู้(ผัว)ปกครอง ตอนที่ 5
"พ่อ! ปล่อยพี่ปลายนะ...อย่าทำพี่ปลายเลย...ฮึกก!"
ต้นน้ำยื้อแย่งตัวฉันกับมือพ่อที่จิกผมฉันอยู่จนฉันหลุดออกมาได้ พอพ่อทำท่าจะเข้ามาตีน้องชายฉันอีก ฉันเลยกลั้นใจหันไปผลักจนเขาล้มก้นจ้ำเบ้ากับพื้น ฉันรู้อยู่แล้วว่าเขาต้องล้ม ลำพังแค่ยืนก็เซซ้ายเซขวาไม่ไหวแล้วค่ะ
"ไป! ไปทางหลังบ้าน" ฉันรีบพาน้องชายวิ่งออกประตูหน้าบ้านแล้วอ้อมไปทางหลังบ้านอีกที จากนั้นก็เปิดหน้าต่างห้องแล้วพากันปีนเข้าไป
ปึง! ปึง! ปึง!
"อีลูกเวร! นี่ถ้าแม่มึงไม่ป่วยตาย สงสัยจะโดนส้นตีนกูตายแทน บอกให้เอาอีเด็กเวรอย่างพวกมึงออก เสือกปล่อยให้เกิดมาผลาญเงินกูอีก! กูต้องแบ่งค่าเหล้าค่ายาไปให้พวกมึงแดกข้าวแดกนม เป็นมารขวางความสุขกูจริงๆ เลยเว่ย!!"
ฉันกับต้นน้ำยืนพิงประตูห้องฟังคำพูดที่ทำร้ายจิตใจนั่น แต่ไม่ต้องห่วงค่ะ พ่อไม่มีทางเข้าห้องฉันได้ ถึงบ้านฉันจะเก่าทรุดโทรม แต่ฉันก็ปกป้องตัวเองโดยการหาไม้หาตะปูมาตอกทำที่ล็อคไว้อย่างแน่นหนา ถ้าไม่บ้าเอาขวานมาทุบผนังห้องก็ไม่มีทางเข้ามาได้ค่ะ
"เกิดอะไรขึ้น ทำไมปล่อยให้พ่อตี" ปกติแล้วต้นน้ำจะหนีเข้าห้อง ไม่นั่งให้พ่อเตะต่อยอยู่อย่างนั้น ประเด็นคือปกติแล้วพ่อฉันจะไม่ค่อยอยู่บ้าน รับจ้างรายวันเสร็จก็ไปขลุกอยู่ที่บ่อน หมดตัวก็เอาเศษเงินไปซื้อเหล้า กินเมาก็นอนเรี่ยราดตามใต้ต้นไม้ ตื่นมาก็ไปรับจ้างต่อ
"พ่อบังคับให้ผมโทรเรียกพี่ปลายกลับมา"
"แล้วทำไมไม่โทรบอกพี่?"
"ผมรู้ว่าพ่อจะเอาเงิน เลยไม่อยากให้พี่เอาเงินที่ทำงานเหนื่อยๆ มาให้พ่อไปเล่นการพนัน...ฮึกก!"
ฉันยื่นมือไปเช็ดน้ำตาที่ไหลอาบแก้มนวล น้องฉันเป็นคนขาว ผิวใส ทั้งเนียนทั้งนุ่มไม่ต่างอะไรจากฉัน ทั้งนี้คงเพราะได้แม่มาค่ะ ฉันซึ่งเป็นผู้หญิงจึงไม่แปลกอะไร แต่ต้นน้ำเป็นผู้ชายไง มันเลยดูน่าทนุถนอม แม้มันจะสูงกว่าฉันก็เถอะ แต่หุ่นมันก็ค่อนข้างจะผอมไปนิด แม้ฉันจะป้อนข้าวให้มันกินอิ่มหนำสำราญมาตั้งแต่เด็กก็เถอะ คงเพราะไม่ได้เข้าฟิตเนสเหมือนพวกคนรวยมั้งคะ มันเลยดูไม่มีกล้ามเนื้อ
แต่เรื่องหน้าตาต้องบอกเลยว่ามันหน้าหวานมาก จับใส่วิคคงเหมือนผู้หญิง แต่ก็นั่นแหละค่ะ มันไม่ได้อยากเป็นผู้หญิง น้องชายฉันเป็นผู้ชายทั้งกายและใจ เพียงแค่มันเองก็ชอบผู้ชายด้วยกันเท่านั้นเอง ที่ฉันรู้ก็เพราะมันคือน้องชายฉัน ฉันเลยรู้จิตใจและความคิดมันดี แต่ถึงอย่างนั้นน้องฉันก็ยังไม่เคยมีแฟนนะคะ คงเพราะไม่อยากให้ใครรู้ว่าตัวเองเป็นแบบนี้ อีกอย่างมันก็ตั้งใจเรียนด้วย
ถึงอายุฉันจะน้อยหรืออาจดูเด็กเกินไป แต่ความคิดฉันก็ไม่ได้แตกต่างจากคนที่มีอายุยี่สิบปลายๆ เลยค่ะ เพราะสภาพแวดล้อมที่ฉันเติบโตมามันบังคับให้ฉันต้องเรียนรู้หลายๆ สิ่งมากกว่าเด็กวัยเดียวกัน เด็กที่อายุสิบกว่าๆ อาจจะได้เล่นหรือได้ไปในที่ที่สนุกสนานสมวัย แต่ฉันทำมาหากินมาตั้งแต่จำความได้ ห้าหกขวบฉันก็ตามแม่ไปขายขนมในตลาดแล้ว ไม่เคยได้เล่นสนุกๆ เหมือนเด็กคนอื่นหรอกค่ะ
พอแม่เสีย ฉันเองก็ต้องรับหน้าที่หาเงินเข้าบ้านคนเดียวเลย เพราะพ่อเอาแต่กินเหล้าเมา ตอนแม่อยู่ก็ชอบหาเรื่องทะเลาะเป็นงานประจำ ไม่เมาก็มาไถเงินแม่ไปเข้าบ่อน โชคดีที่ตอนแม่เสียฉันอายุได้สิบเอ็ดขวบ ทำขนมไทยเป็นหลายอย่าง เลยทำไปขายในตลาดได้
ฉันขายของจนมีเงินส่งเสียตัวเองเรียนจนจบมอหก และเหมือนทุกอย่างจะไปได้ดี แต่ก็นะ พ่อฉันดันไปติดเงินบ่อนเถื่อนไว้ พวกมันส่งนักเลงมาทวงเงินพ่อ พังร้านฉัน ขู่จะเอาฉันไปขาย ฉันเลยต้องเลิกขายของแล้วอยู่แบบหลบๆ ซ่อนๆ กับน้อง โชคดีที่มีคนแถวบ้านคนนึงรู้จักกับพี่อิมเลยฝากฉันเข้าไปทำงานที่ Smild one PUB จนเป็นปลายฟ้าอายุยี่สิบปีในตอนนี้
"เฮ่ยไอ้แก่! เอาเงินมาจ่ายดอกสิวะ!!"
ฉันกับน้องชายหันไปมองที่ประตูเมื่อได้ยินเสียงคนตะโกนเข้ามาในบ้าน
ปึง! ปึง! ปึง! ปึง!
"อีปลาย!! เอาเงินมาให้กูสิวะอีเด็กเวร!!!" เสียงพ่อทุบประตูห้องฉันรัวๆ น้ำเสียงตื่นกลัวแบบนั้นคงเป็นเจ้าหนี้สินะที่ตะโกนมาเมื่อกี้
ไม่ค่ะ! ฉันไม่ให้ ฉันจะเก็บเป็นเงินก้อนแล้วไปโปะทีเดียวทั้งต้นทั้งดอก ฉันจะไม่จ่ายยิบย่อยแบบนี้อีกเพราะมันไม่มีทางหมด
"เอายังไงดีพี่ปลาย!"
"พี่ไม่ให้ ให้ไปก็เหมือนคราวก่อน ไม่ว่าจะจ่ายเยอะแค่ไหนคนพวกนั้นก็เอาไปหักดอกไม่ยอมหักเงินต้น"
"แต่ว่าพ่อ..."
"พวกมันไม่ฆ่าพ่อหรอก ถ้ามันฆ่ามันก็ไม่ได้เงินคืน ครั้งนี้ก็คง...สะ..สั่งสอนพ่อเหมือนที่ผ่านมา" ฉันพยายามกะพริบตาหลายครั้งเพื่อไม่ให้น้ำตามันคลอออกมา ฉันรู้ค่ะว่าพ่อจะโดนอะไร และนี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรก และพ่อฉันก็ไม่เคยจำ หาเงินได้ก็เข้าบ่อนกินเหล้า ไม่เคยคิดจะเอาไปจ่ายดอกเพื่อหลบมือหลบเท้าพวกมันเลย
"อีปลาย!!! อะ..เอ่อ...เงินอยู่กับลูกสาวผมครับ เดี๋ยวผมจะไปเอามาให้" เสียงพ่อฉันเริ่มดังห่างออกไปหลังจากที่แหกปากเรียกชื่อฉันเหมือนฉันเป็นความหวังสุดท้าย
"มึงพูดแบบนี้มากี่ครั้งแล้ว!"
ตุบ! ตุบ!
"โอ๊ยย!! เดี๋ยว..โอ๊ย!..เดี๋ยวผมหาให้...อั่ก!..ครับ"
ฉันกับน้องชายยืนพิงประตูฟังเสียงพ่อโดนเจ้าหนี้กระทืบ เราทั้งคู่มองหน้ากันแล้วร้องไห้ออกมา ฉันเลยเอื้อมมือไปลูบหัวต้นน้ำแล้วปัดเศษฝุ่นออกจากเสื้อนักเรียนสีขาว เราทั้งคู่ไม่มีใครให้พึ่งพา ฉันที่เป็นพี่คนโตเลยต้องเป็นที่พึ่งพิงให้กับน้องชาย และฉันก็ต้องพึ่งตัวเอง
(The end Plaifah talk)
อีกด้าน
"เรียบร้อยดีไหม" เสียงเข้มทรงอำนาจเอ่ยถามลูกน้องขณะพ่นควันบุหรี่ขาวคละคลุ้งไปทั่วบริเวณสนามหญ้าหน้าบริษัท
หลังจากที่ปลดปล่อยตัวเองกับผู้หญิงไร้ประสบการณ์และลีลาอย่างปลายฟ้าแล้ว วิลด์ก็ลงมารับอากาศบริสุทธิ์ในยามราตรีเพื่อสงบสติอารมณ์ ถือโอกาสมองสถานที่เก่าๆ ที่เคยวิ่งเล่นกับน้องชาย ทุกอย่างยังคงเหมือนเดิม ต้นไม้ใบหญ้ายังคงไม่เปลี่ยนตำแหน่งเพราะเขาสั่งคนให้ดูแลมันเป็นอย่างดี แต่ก็คงไม่ทั้งหมดที่จะอยู่ถูกที่ถูกทาง เพราะมันก็หลายปีผ่านมาแล้ว
"ส่งถึงบ้านเรียบร้อยดีครับ แต่ว่าเอ่อ..."
"มีอะไร" วิลด์หันไปถามลูกน้องที่ยืนก้มหน้า
"เธอขอกลับไปที่ผับตลอดทางเลยครับ พอถึงบ้านก็เหมือนว่าครอบครัวจะมีปัญหา ได้ยินเสียงทะเลาะกันดังมาถึงในรถเลยครับ"
"หึ.." มุมปากหนาแสยะยิ้มขึ้นอย่างรู้ทัน ปลายฟ้าคงจะรีบแจ้นไปบอกผู้จัดการสาวเรื่องที่เขาขู่จะไล่ออกสินะ
และสาเหตุที่เขาให้คนไปสืบที่อยู่ของผู้หญิงคนนั้นจนได้ข้อมูลมาภายในสิบนาทีก็เพราะวิลด์รู้สึกว่าปลายฟ้าอาจมีอิทธิพลต่อร่างกายเขา เขาอาจจะต้องการเธออีก เพราะร่างกายขาวอมชมพูของเธอมันติดตาเขาจนสลัดทิ้งไปไม่ได้ เขาถึงได้ไล่เธอไปซ้ำแล้วซ้ำเล่า
เพราะคนอย่างวิลด์...ไม่ต้องการให้มีสิ่งใดมาควบคุมความรู้สึกของร่างกาย นอกจากตัวเขาเอง
"อืม"
บอดี้การ์ดคนสนิทค้อมหัวให้วิลด์เล็กน้อย ก่อนจะถอยออกไปยืนคุ้มกันเจ้านายหนุ่มอยู่กับเพื่อนร่วมงานอีกสี่ห้าคนที่อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลกัน
วิลด์หันกลับมาสูบบุหรี่ต่อ ชายหนุ่มไม่คิดจะใส่ใจเรื่องที่ได้ฟังเมื่อครู่เพราะมันไม่ใช่ปัญหาของเขา มีเรื่องเดียวที่เขาจะสนใจปลายฟ้านั่นก็คือเรื่องเซ็กซ์ เมื่อไหร่ที่เขามีความต้องการ เขาอาจจะเรียกเธอมาสนองความใคร่เมื่อไหร่ก็ได้
และเธอก็ไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธ!
เพราะคนอย่างวิลด์ บาราซ อยากได้อะไรต้องได้ทุกอย่าง!
