บทที่2 คนนี้ใคร???
“นิลไม่ตายกับพี่หรอกนะ! จอดรถเลยนิลไม่ไปด้วยแล้ว!” กวินท์หัวเราะในลำคอ แต่ก็ยอมผ่อนคันเร่งลง
“ก็นึกว่าหิวเราจะพาไปกินปิ้งย่างซะหน่อย...มีซุปกิมจิเพิ่มไข่สองฟองด้วย” หากฟังไม่ผิดเขาได้ยินเสียงกลืนน้ำลาย
“นิลไม่หิว...”
ก่อกกกกก
“นั่นมันเสียงวัวในฟาร์มเหรอ? เอามันใส่กระเป๋ามาด้วยหรือไง?”
ญานิตากำมือแน่นอย่างเจ็บแค้นเพราะท้องไม่รักดีทำให้เธอเสียหน้าได้! หญิงสาวหันหน้าออกนอกหน้าต่างรถ ไม่อยากจะพูดคุยกับคนที่คิดว่าหากเจอกันเราคงญาติดีต่อกันมากกว่านี้ แต่ดูสิ! แทบจะตีกันตาย!
“ไปทานข้าว แล้วเดี๋ยวค่อยมาตีกันต่อ” เธอไม่รู้ว่าที่นี่ที่ไหน ก็ได้แต่เดินตามร่างสูงที่เดินนำหน้าไป ญานิตารู้สึกว่ารองเท้ากัดจึงชะลอขยับส้นเท้าอยู่บ่อยครั้ง
“เป็นอะไร?” แค่พริบตาเดียวร่างสูงใหญ่ก็มาประชิดตัวแล้ว
“คือ...คือรองเท้า” กวินท์โน้มตัวลงและใช้ฝ่ามือจับปลีน่องด้านหลังของเธอ แรงสะดุ้งของร่างบอบบางไม่ได้ทำให้เขาหลุดโฟกัสที่หลังเท้าเธอเท่าไหร่
“รองเท้ากัดเหรอ?” ใบหน้าคมคายที่โน้มลงมาหยุดอยู่ตรงหน้า ญานิตาไม่กล้าที่จะหายใจออกมาแรง ๆ ก่อนที่เธอจะขยับถอยหลังออกมา
“เหยียบส้นเข้าร้านไปก่อนแล้วกัน แล้วเดินไหวไหมหรือจะให้อุ้ม?” ญานิตาส่ายหัวระรัว ก่อนจะเดินกะเผลกนำหน้าเขาไปทั้ง ๆ ที่ก็ไม่ได้รู้หรอกว่าร้านมันอยู่ตรงไหน เห็นป้ายหน้าร้านว่า ‘Beef’ เธอก็ดิ่งไปเลย!
ฝ่ามืออุ่นร้อนสอดเข้ามาจับประสานมือบาง และดึงร่างเล็กให้เดินตามเขาเข้าไปอีกร้านข้างกันต่างหาก ‘Yakiniku Premium Beef’
“เห่ย! ไหน...ไหน คะ...ใครวะ????” หญิงสาวเลิ่กลั่กแต่ก็ไม่ลืมยกมือไหว้สวัสดีเพราะผู้ชายตรงหน้ามีอายุมากกว่าเธอ
“ถอยไป” เสียงเข้มเอ่ยบอกเพื่อนสนิทที่เป็นเจ้าของร้านนามว่า ‘เต็นท์’ ที่เดินมามองญานิตาอย่างเสียมรรยาท
“อย่าบอกนะว่าเมียน่ะ?”
“ถ้าใช่...แล้วมึงจะเสือกอะไร?”
“!!”
