บทที่ 2 พบเจอ
บทที่ 2 พบเจอ
3 ปีต่อมา
"แม่ครูถึงเวลาที่พวกเราต้องไปแล้วหรือ"
"ข้าทำในสิ่งที่รับปากนางหมดแล้ว ไม่จำเป็นต้องรั้งอยู่ต่ออีก"
ลูกจันทร์พูดออกมาเสียงเรียบดวงตาจ้องมองไปเส้นทางป่าลึกด้านหน้า ตลอดสามปีที่ผ่านมาเธอได้อยู่ดูแลยายน้ำผึ้งเป็นอย่างดี ตามที่รับปากกับเจ้าของร่างไว้ จวบจนยายน้ำผึ้งได้ตายจากไป ทำให้เธอไม่มีเหตุผลต้องอยู่ที่นี่ต่ออีกแล้ว
ถึงเวลาที่ข้าต้องออกตามหาท่านขุนเสียที...
"สมุนของมึงเจอท่านขุนหรือยัง"
"......"
"ไอ้สิน กูถามมึงอยู่"
"ยังไม่เจอ"
"ให้พวกมันหาต่อไป หากเจอให้รีบมาบอกกู"
สินที่ได้ฟังไม่ได้ตอบอะไรเขาเพียงนำทางออกไปจากป่า ในใจรู้สึกสับสนไม่รู้ว่าสิ่งที่ทำอยู่ตอนนี้เป็นเรื่องที่ถูกหรือไม่ เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่สินผีทหารขัดคำสั่ง
มันไม่ได้ออกตามหาท่านขุนตามที่แม่ครูต้องการ..
"แม่ครู...หากตอนนี้ท่านขุนออกเรือนกับแม่หญิงอื่นไปแล้ว แม่ครูจะทำเช่นไร"
"......."
ความเงียบกลับมาปกคลุมทันที ลูกจันทร์หยุดชะงักฝีเท้า สายตามองไปเบื้องหน้าแววตาเต็มไปด้วยความเศร้าและเจ็บปวด เพราะเธอไม่ได้นึกถึงเรื่องนี้เลย หากตอนนี้ท่านขุนมีความสุขดีอยู่แล้วเธอจะทำยังไง
หลายร้อยปีที่ผ่านมาเธอตามหาท่านขุนเพื่อให้เขาได้รับความสุข แล้วหากตอนนี้ท่านขุนมีความสุขดีอยู่แล้วล่ะ...
"แม่ครู ข้าอยากให้แม่ครูมีความสุขเท่านั้น"
ลูกจันทร์ไม่ได้ตอบอะไรออกไป เธอเพียงก้าวเท้าเดินไปเบื้องหน้าตามทางต่อไป ในหัวนึกถึงสิ่งที่สินพูดออกมา ความปรารถนาของเธอตลอดหลายร้อยปีมีเพียงอยากให้ท่านขุนได้พบความสุขอย่างเช่นที่ควรจะเป็น หากตอนนี้ท่านขุนกำลังมีความสุขกับหญิงที่เขารัก ข้าคงทำได้เพียงเฝ้าดูอยู่ห่าง ๆ ไม่เข้าไปวุ่นวาย
ใช่แล้ว....ขอเพียงไม่ใช่อีรำพึงข้าก็จะไม่ยื่นมือเข้าไปยุ่ง!!
"น้องสาวหยุดก่อน"
เสียงเรียกจากทางด้านหลังทำให้ลูกจันทร์หยุดชะงักฝีเท้า ร่างบางหันไปมองทางต้นเสียง พบว่าเป็นผู้ชายวัยกลางคนสองคนในชุดชาวบ้าน กำลังยืนสายตาจับจ้องมาที่เธอด้วยรอยยิ้มแฝงความเจ้าเล่ห์
"น้องสาวกำลังจะไปไหน ทำไมพวกข้าไม่คุ้นหน้าเลย"
"กำลังจะไปที่หมู่บ้าน"
ชิดกับขามอันธพาลประจำหมู่บ้านหันไปสบตากันอย่างรู้ใจ เดิมทีวันนี้ได้ยินว่ามีกลุ่มนักท่องเที่ยวเข้ามาตั้งแคมป์ในป่า พวกเขาเลยวางแผนจะบุกเข้ามาปล้นของมีค่าและหนีไป ถึงอย่างไรทั้งสองก็ชำนาญเส้นทางเป็นอย่างดีไม่มีทางที่คนนอกพื้นที่จะตามจับตัวได้ทัน
แต่โชคดียิ่งกว่าคือได้เจอผู้หญิงสวยกลางป่าลึกแบบนี้
"พอดีเลย พวกพี่กำลังจะกลับไปที่หมู่บ้านน้องสาวร่วมเดินทางไปด้วยกันสิ"
"นั่นสิกลางป่าลึกแบบนี้ หากเดินทางคนเดียวจะลำบาก อาจจะหลงทางได้"
ลูกจันทร์มองผู้ชายแปลกหน้าทั้งสองที่กำลังย่างกายตรงเข้ามาหาเธอ แววตาของพวกมันเต็มไปด้วยความหื่นกระหาย เธอไม่ใช่คนโง่ที่ดูไม่ออกว่าพวกมันต้องการอะไร ริมฝีปากบางยกยิ้มมุมปากอย่างไม่เกรงกลัว
ไม่ว่าจะกี่ร้อยปีพวกสวะก็ยังมีอยู่สินะ..
"อยู่นี่เอง!!"
ชิดและขามที่กำลังจะใช้มือคว้าแขนของผู้หญิงแปลกหน้า ได้ยินเสียงดังจากด้านหลังก็ชะงัก พวกเขาหันไปมองทางต้นเสียง พบกลุ่มคนแปลกหน้าคาดว่าจะเป็นนักท่องเที่ยวที่พวกเขาตั้งใจมาดักปล้นยืนอยู่
"ขอโทษด้วยนะครับ มีธุระอะไรกับน้องสาวของผมหรือเปล่า"
ทิวากรพูดออกมาด้วยรอยยิ้มพลางจับกระชับปืนที่อยู่ในมือแน่น ความจริงเขาและเพื่อนอีกสองคนกำลังเดินหาที่ตั้งแคมป์ในป่า แต่บังเอิญได้ยินบทสนทนาของทั้งสามเลยหยุดดูเหตุการณ์ พอคิดว่าผู้หญิงที่ยืนอยู่อาจจะต้องการความช่วยเหลือเลยออกมาช่วย
"น้องสาวพวกคุณเหรอ พวกผมจะแน่ใจได้ยังไง"
ขามพูดออกไปเสียงแข็ง แม้คนตรงหน้าจะมีอาวุธปืนแต่เขาก็ไม่อยากปล่อยให้เหยื่อหลุดมือไป เพราะดูจากการแต่งตัวของผู้หญิงตรงหน้า ไม่มีทางที่เธอจะเป็นนักท่องเที่ยวที่มากับกลุ่มคนตรงหน้า
"เจอแล้ว..." ลูกจันทร์พึมพำกับตัวเองด้วยรอยยิ้มดวงตาคู่สวยมองทิวากรผ่านม่านน้ำตา
สวบ...
ทิวากรชะงักทันทีที่ถูกผู้หญิงแปลกหน้าวิ่งเข้ามาสวมกอดเขาโดยไม่ทันตั้งตัว ไม่รู้ว่าเพราะความกลัวหรือขอบคุณที่พวกเขาเข้ามาช่วยเธอ ทำให้ตอนนี้หญิงสาวร้องไห้อยู่ในอ้อมกอดของเขา
"เห็นแล้วใช่ไหม ถ้าไม่ใช่พี่ชายน้องเขาจะวิ่งมากอดทำไม"
ธนาที่อยู่ในกลุ่มตั้งสติได้ก่อนจึงพูดออกไป ดวงตาจ้องมองผู้หญิงแปลกหน้าที่กำลังร้องไห้อยู่ในอ้อมกอดของทิวากร แววตาเต็มไปด้วยความสงสัยและระแวง
เขาเป็นพวกมองโลกในแง่ร้ายมากกว่าดีไม่แปลกที่จะเกิดความระแวง
"เออ ชอบยุ่งเรื่องของชาวบ้านนัก ระวังตัวไว้พวกมึง"
หยกถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก เมื่อเห็นว่าชิดและขามยอมถอยออกไป แม้พวกเขาจะมีอาวุธป้องกันตัวอยู่แต่ก็ถือว่าอันตรายหากเกิดการปะทะขึ้นมาจริง ๆ
"พวกมันไปแล้ว ปล่อยเพื่อนผมได้แล้วครับ"
ธนาทนายหนุ่มพูดออกมาเสียงเย็น ดวงตาจ้องไปที่หญิงสาวแปลกหน้าอย่างไม่เป็นมิตร เขาและเพื่อนจำเป็นต้องระวังตัวเพราะไม่รู้เลยว่าผู้คนที่เข้าหาพวกเขามีจุดประสงค์อะไร
ลูกจันทร์ผละออกจากทิวากรริมฝีปากบางคลี่ยิ้มออกมาด้วยความดีใจ ไม่คิดว่าคนที่อยากเจอมาตลอดหลายร้อยปีจะอยู่ตรงหน้าตอนนี้จริง ๆ แม้ผิวเขาจะไม่ได้ดำคล้ำเช่นในอดีต แต่นางก็จดจำได้ดีว่าคนตรงหน้าของนางคือ ท่านขุนของนาง
"กูว่าที่นี่ไม่ปลอดภัยแล้ววะ กลับไปนอนโรงแรมเถอะ"
หยกหมอหนุ่มทายาทเจ้าของโรงพยาบาลชื่อดังพูดออกความคิดเห็น เพราะดูจากคำขู่ของผู้ชายสองคนที่พึ่งเดินออกไป มีแนวโน้มที่พวกมันจะย้อนกลับมาทำร้ายพวกเขาตอนกลางคืน
"ไอ้ทิกูเห็นด้วยกับไอ้หยกนะ มึงว่าไง"
ทิวากรสถาปนิกหนุ่มพยักหน้าตอบรับ พลางจ้องมองผู้หญิงแปลกหน้าที่ยืนอยู่ตรงหน้าด้วยแววตายากคาดเดา ไม่รู้ทำไมเขาถึงรู้สึกคุ้นเคยกับเธออย่างน่าประหลาด
"ผมชื่อทิวากรนะครับ ผมได้ยินว่าคุณจะไปที่หมู่บ้านถ้างั้นไปกับพวกเราไหม"
ธนามองผู้หญิงแปลกหน้าที่กำลังพยักหน้ารับคำทิวากรเพื่อนสนิทของเขาด้วยรอยยิ้ม ไม่รู้ทำไมความรู้สึกของเขาถึงบอกว่าผู้หญิงคนนี้มีอะไรน่าสงสัยมากมาย
"ผมชื่อธนา ขอถามได้ไหมทำไมผู้หญิงตัวคนเดียวแบบคุณถึงออกมาเดินกลางป่าคนเดียวแบบนี้"
ลูกจันทร์หันไปมองธนาที่กำลังมองเธอด้วยสายตาจับผิด รับรู้ได้ทันทีว่าคนตรงหน้าไม่ได้ไว้ใจเธอเลยสักนิด ใบหน้าสวยแสร้งตีหน้าเศร้าก่อนจะเอ่ยปากเล่าเรื่องตัวเอง
"ฉันชื่อลูกจันทร์ เป็นชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในป่าลึกกับยายตั้งแต่สิบขวบ พอหลังจากยายเสียฉันก็ไม่มีที่ไป คิดว่าจะหาทางออกจากป่ากลับไปหางานทำที่หมู่บ้าน แต่เพราะไม่เคยออกจากป่าเลยเกิดหลงหาทางไปที่หมู่บ้านไม่เจอ โชคดีจริง ๆ ที่เจอพวกคุณ"
"ผมจะแน่ใจได้ยังไงว่าที่คุณพูดมาเป็นเรื่องจริง"
"แล้วทำไมจันทร์ต้องเอาการตายของยายมาโกหกพวกคุณด้วย"
ธนาชะงักเมื่อเห็นว่าลูกจันทร์กำลังมองเขาแววตาเต็มไปด้วยความเศร้า เพราะตลอดมาเขาพบเจอคนมามากมาย ผู้คนที่เข้าหาเขาล้วนแต่อยากได้ผลประโยชน์เลยทำให้เขามองคนในแง่ร้ายแบบนี้
หรือครั้งนี้เป็นเขาที่คิดผิด แท้จริงคนตรงหน้าอาจเป็นเพียงผู้หญิงที่โชคร้ายจริง ๆ
"ไปที่หมู่บ้านกันเถอะค่ะ"
สินผีทหารโบราณที่กำลังเฝ้ามองเหตุการณ์อยู่ตั้งแต่แรกกำมือแน่น สายตาจ้องมองไปที่ทิวากรเต็มไปด้วยความอิจฉาและอาฆาต เพราะไม่คิดว่าในชาตินี้จะได้เจอมันจริง ๆ ทั้งที่แม่ครูกำลังจะถอดใจแล้ว
'สินไปจัดการพวกมัน อย่าให้ถึงตาย แล้วเอาพวกมันไปปล่อยไว้ที่หน้าหมู่บ้าน'
เสียงคำสั่งของลูกจันทร์ดังขึ้นทำให้สินยกยิ้มมุมปาก มันกำลังโมโหและไม่พอใจต้องการที่ระบายอารมณ์พอดี ถึงอย่างไรก็เป็นสวะต่อให้พวกมันเป็นบ้าเสียสติไปก็คงไม่เป็นอะไร
'กูต้องการให้คนในหมู่บ้านหวาดกลัวและผลักไสกู มึงเข้าใจใช่ไหม'
"ข้าจะไม่ทำให้แม่ครูผิดหวัง
