บทที่ 1 สวมร่าง
บทที่ 1 สวมร่าง
หลายร้อยปีต่อมา
"แม่ครูเจอร่างที่เหมาะสมแล้ว"
สินผีทหารโบราณเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงร้อนรน หลังจากมีสมุนภูตผีของเขามารายงาน เรื่องพบเจอคนที่เหมาะสมจะให้คนตรงหน้าสิงร่าง เขาเงยหน้ามองศรีจันทร์ที่ยังก้มลงมองดอกแก้วที่อยู่ในมือแววตาเต็มไปด้วยความเศร้า
"แม่ครูครั้งนี้ต้องเจอท่านขุนแน่"
"ข้าก็หวังให้เป็นเช่นนั้น"
ศรีจันทร์พูดออกมาเสียงเศร้าราวกับคนไร้ความหวัง เหตุที่เป็นเช่นนี้ เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ศรีจันทร์เข้าไปสิงร่างของคนใกล้ตายที่มีดวงชะตาเหมาะสม เธอสิงร่างผู้อื่นเพื่อออกตามหาท่านขุน แต่ไม่ว่าจะกี่ครั้งเธอก็ไม่เคยตามหาท่านขุนเจอ
ราวกับว่าบนโลกใบนี้ ไม่มีท่านขุนของนางอีกแล้ว...
อีกด้านภายในกระท่อมทรุดโทรมตั้งอยู่กลางป่าลึก น้ำผึ้ง หญิงชราอายุเจ็ดสิบกำลังจ้องมองหลานสาวของเธอที่มีอาการป่วยนอนอยู่บนเตียงไม้ที่ทรุดโทรม
"ยายจ๋า...จันทร์ไม่เป็นอะไรจ๊ะ"
ลูกจันทร์เด็กสาววัยสิบเจ็ดที่นอนป่วยอยู่บนเตียง ฝืนยิ้มออกมาเพื่อให้ยายของเธอคลายกังวลแม้จะรู้ว่าตอนนี้ตัวเองแทบฝืนร่างกายไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว
"จันทร์เอ็งนอนพักเถอะ"
หญิงชราก้มลงมองหลานสาวของตนก่อนจะใช้มือลูบศีรษะของคนตรงหน้าเบา ๆ แววตาเต็มไปด้วยความเป็นห่วงไม่รู้ทำไมเธอถึงรู้สึกว่าวันนี้ไม่อยากปล่อยให้หลานสาวอยู่คนเดียว
"ยายจ๋า"
"ว่าไง"
"ถ้าจันทร์ไม่อยู่....ยายกลับเข้าไปอยู่ในหมู่บ้านเถอะนะจ๊ะ"
"จันทร์เอ็งต้องไม่เป็นอะไร ยายจะรีบออกไปหาสมุนไพรแล้วต้มยาแก้ไข้ให้เอ็งกินจะได้หาย"
วิญญาณของศรีจันทร์ที่ยืนเฝ้าดูเหตุการณ์อยู่ตั้งแต่แรกก็ถอนหายใจออกมา ดวงตาคู่สวยมองหญิงชราที่ก้าวเท้าเดินออกไปจากกระท่อม ใบหน้าเต็มไปด้วยความเศร้าและเสียใจ
จะให้ข้าพรากหลานสาวที่นางรักไปจากอ้อมอกของนางได้อย่างไร....
"หาร่างอื่นเถิด"
"แต่แม่ครู ร่างของนางเหมาะสมที่สุดละ....."
ศรีจันทร์ปรายตาไปมองสินนิ่ง ๆ ทำให้สินได้แต่กลืนคำพูดลงไปในคอ เธอเดินไปที่เตียงก้มลงมองหญิงสาวที่มีร่างกายซูบผอมใบหน้าซีดเซียวราวกับกระดาษขาว
"นางเป็นเช่นนี้จะให้ข้าขโมยร่างนางได้เช่นไร"
ศรีจันทร์มองลูกจันทร์ด้วยแววตาสงสาร เพราะหากนางจะสิงร่างผู้อื่นมีกฎอยู่ว่าร่างที่นางจะเข้าไปสิงต้องมีชะตาที่เหมาะสมกับนาง อีกทั้งต้องมีวิญญาณของเจ้าของร่างอยู่และต้องอยู่ในช่วงที่เจ้าของร่างอ่อนแอใกล้ถึงแก่ความตาย นางต้องฉกฉวยร่างกายนั้นมาและขับไล่วิญญาณของเจ้าของร่างออกไป หรืออีกวิธีคือเจ้าของร่างยินยอมสละให้ด้วยความเต็มใจ
แต่จะมีคนโง่ที่ไหนยินยอมสละร่างให้ภูตผีกัน..
"คุณมาแล้วเหรอคะ ไม่คิดว่าคำพูดของร่างทรงจะเป็นเรื่องจริง"
ลูกจันทร์พูดออกมาด้วยน้ำเสียงแหบพร่าดวงตาจ้องมองผู้หญิงสวมชุดไทยโบราณที่กำลังยืนจ้องมองเธออยู่ข้างเตียง แค่เพียงได้เห็นทำให้เธอได้รับรู้ทันทีว่าคำพูดของร่างทรงในหมู่บ้านเป็นเรื่องจริง
'มึง อีลูกจันทร์ มึงจะต้องตายตั้งแต่ยังเด็ก วิญญาณร้ายกำลังจ้องจะสิงร่างของมึง'
คำพูดของร่างทรงในหมู่บ้านที่พูดกับเธอตั้งแต่อายุสิบขวบยังคงย้ำเตือนอยู่ในใจของลูกจันทร์เสมอมา เพราะคำของร่างทรงทำให้คนในหมู่บ้านต่างเกรงกลัวเธอเพราะกลัวว่าวิญญาณร้ายที่ติดตามเธอจะเข้าไปสิงร่างตัวเองแทน สุดท้ายยายก็พาเธอออกมาสร้างกระท่อมอยู่กลางป่าลึกหลบหนีจากผู้คน
ในตอนแรกเธอรู้สึกเกลียดชังวิญญาณร้ายที่ทำให้ชีวิตของเธอและยายเป็นแบบนี้ แต่พอได้พบหน้าความรู้สึกเกลียดหรือหวาดกลัวก็เลือนหายไปจากใจอย่างน่าประหลาด
อาจจะเพราะผู้หญิงตรงหน้าไม่ได้มีเหมือนวิญญาณร้าย แต่เหมือนวิญญาณที่กำลังเศร้าและมีความทุกข์มากมายในใจ..
ผู้หญิงชุดโบราณที่มีกลิ่นดอกแก้วดวงตาเต็มไปด้วยความเศร้า...
"เจ้ามองเห็นข้า"??
หญิงสาวพยักหน้าพลางยิ้มออกมาทั้งน้ำตา เธอในยามนี้รู้ดีว่าร่างกายของตัวเองเป็นเช่นไรถึงแม้ผู้หญิงตรงหน้าไม่มาสิงร่างเธอ เธอก็ไม่รอดจากอาการป่วยในครั้งนี้อยู่ดี ตอนนี้สิ่งที่เธอเป็นห่วงไม่ใช่ตัวเองแต่เป็นยายที่เลี้ยงดูเธอมาหากเธอตายไปใครจะดูแลยาย...
"เจ้านอนพักเถิดข้าจะไปแล้ว เด็กน้อยขอให้เจ้าหายป่วยในเร็ววัน"
ศรีจันทร์พูดออกมาเสียงเรียบ ถึงแม้เธออยากเจอท่านขุนแค่ไหนแต่จะให้มาพรากเด็กน้อยคนนี้ไปจากครอบครัวมันคงจะเกินไป แม้ข้าจะไม่ใช่คนดีแต่ข้าก็ไม่ได้เลวทรามขนาดเมินเฉยต่อผู้อื่น
"หนูจะยกร่างให้....แต่ว่าช่วยฟังคำขอสุดท้ายของหนูได้ไหม"
"........."
"หนูรู้ว่าตัวเองกำลังจะตาย ถ้าคุณมาอยู่ในร่างนี้ช่วยดูแลยายของหนูได้ไหม ช่วยปกป้องท่านช่วยทำให้ท่านมีความสุข ช่วยทำหน้าที่เป็นหลานแทนหนูได้ไหม"
"ถ้ารักยายขนาดนั้น เจ้าก็ต้องอดทนข้าเป็นเพียงคนนอกจะทำหน้าที่ดีเท่าเจ้าได้เช่นไร"
"หนูอดทนต่อไปไม่ได้หรอก...คุณก็รู้ไม่ใช่เหรอคะว่าหนูกำลังจะตาย"
"........."
"ขอร้องล่ะ...ถ้าคุณรับปากหนู...ก็เชิญใช้ร่างของหนูได้ตามสบายเลย หนูยกให้"
ศรีจันทร์มองเด็กน้อยตรงหน้าที่กำลังร้องอ้อนวอนเธอแววตาเต็มไปด้วยความเศร้าและสิ้นหวัง หญิงสาวที่เห็นเช่นนั้นก็ถอนหายใจออกมาก่อนจะพยักหน้ารับคำ
"ยื่นมือของเจ้าออกมาสิ"
เมื่อเห็นว่าหญิงสาวยื่นมือออกมา ศรีจันทร์ก็วางดอกแก้วลงบนฝ่ามือของคนตรงหน้า ดวงตาคู่สวยจ้องมองคนป่วยด้วยความสงสารและขอบคุณ
"หากเจ้าจากไปข้าจะรับรู้และมาเข้าร่างของเจ้าเองหลับให้สบายเถิดดวงวิญญาณที่น่าสงสาร คำขอของเจ้าข้าจะทำตามเอง"
