บท
ตั้งค่า

บทที่ ๕ - 1

“...แล้วนี่ก็บ่าใจ้เรื่องของข้า”

คำพูดประโยคนั้นเย็นเยียบและไร้ความปรานียิ่งกว่าคมมีด มันเฉือนลงมากลางใจของเหนือเมฆที่กำลังฝากความหวังสุดท้ายไว้จนแหลกสลายไม่มีชิ้นดี โลกทั้งใบของเขาพังครืนลงมาอย่างสมบูรณ์

ความหวังที่เคยก่อตัวขึ้นริบหรี่...ดับวูบลงในทันที

ชายหนุ่มนั่งค้างอยู่ท่านั้น น้ำตาที่เคยไหลพรั่งพรูออกมากลับเหือดแห้งไปดื้อๆ เหลือเพียงความว่างเปล่าและสิ้นหวังอย่างถึงที่สุด เขาไม่ได้ร้องขอหรือฟูมฟายต่อ ในเมื่อความตายไล่ต้อนเขาจากข้างหลัง และความหวังเดียวที่อยู่ตรงหน้าก็หันหลังให้...มันคงถึงเวลาที่เขาต้องยอมรับชะตากรรม

‘ไม่น่าเข้าไปเลย’ เขาได้แต่ว่าตัวเองในใจ ถ้าหากก่อนหน้านั้นเขาเชื่อคำที่หญิงสาวบอกไปตั้งแต่แรกคงจะไม่ต้องมานั่งอยู่ตรงนี้ ถึงจะคิดแบบนั้น แต่ภาพที่ได้จากที่นั่นก็สวยงามอย่างไม่มีที่ติ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะความดื้อของเขา หรือเป็นเพราะคนชั่วช้าที่จงใจให้เป็นแบบนี้กันแน่

เอื้องผึ้งซึ่งยืนมองเหตุการณ์อยู่ตลอด ทนดูต่อไปไม่ไหว เธอรีบก้าวเข้ามาคุกเข่าลงเบื้องหน้าพ่อครูน้อยแห่งเวียงสิงห์แก้ว พนมมือขึ้นไหว้อย่างนอบน้อม

“พ่อครูน้อยเจ้า...เมตตาเปิ้นเต๊อะ” น้ำเสียงของเธอสั่นเครือ

“เปิ้นเป๋นคนต่างถิ่น บ่าฮู้เรื่องฮู้ราวตี้บ้านเฮา...ตี้เปิ้นยะไปก่อเพราะความบ่าฮู้...จะปล่อยหื้อเปิ้นตาย ก่อเหมือนเฮาใจดำเกินไปแล้วเจ้า” (พ่อครูน้อยคะ...เมตตาเขาเถอะ...เขาเป็นคนต่างถิ่น ไม่รู้เรื่องรู้ราวของบ้านเรา...ที่เขาทำไปก็เพราะความไม่รู้...จะปล่อยให้เขาตาย ก็เหมือนเราใจดำเกินไปแล้วนะคะ)

สิงห์คำยังคงยืนหันหลังให้ ไม่ได้หันกลับมามอง แต่หางตาของเขาเหลือบมองไปยังร่างของเหนือเมฆที่นั่งนิ่งราวกับรูปปั้นที่ไร้วิญญาณ

“กรรมไผกรรมมัน” เขากล่าวเสียงเรียบ

“กฎมีไว้หื้อเคารพ เมื่อกล้าล้ำเส้น...ก่อต้องยอมรับผลตี้ตามมาเอง ข้าบ่ามีหน้าที่ไปแก้กรรมหื้อคนตี้สร้างมันขึ้นมาโตยมือ” (กรรมใครกรรมมัน กฎมีไว้ให้เคารพ เมื่อกล้าล้ำเส้น...ก็ต้องยอมรับผลที่ตามมาเอง ข้าไม่มีหน้าที่ไปแก้กรรมให้คนที่สร้างมันขึ้นมาด้วยมือ)

มันคือหลักการ คือสัจธรรมที่พ่ออุ๊ยของเขาสั่งสอนมาตลอด เขาไม่ใช่ผู้ที่จะยื่นมือเข้าไปแทรกแซงทุกเรื่อง การช่วยเหลือคนที่ไม่รู้จักเคารพยำเกรงสถานที่นั้น มีแต่จะนำภัยมาสู่ตัวเองและทำให้คนอื่นไม่รู้จักหลาบจำ

แต่ทว่า...วินาทีนั้นเอง สายตาของสิงห์คำที่มองผ่านความมืดออกไปนอกคุ้มก็พลันหรี่ลง เขาสัมผัสได้ถึงไออาฆาตที่รุนแรงและมุ่งร้ายผิดปกติ มันไม่ใช่แค่ดวงวิญญาณที่ผูกติดอยู่กับสถานที่ แต่เป็นพลังงานของพรายที่ถูกปลุกเสกและควบคุมด้วยอาคมอย่างชัดเจน มันวนเวียนอยู่บริเวณหน้าประตูคุ้มอย่างเกรี้ยวกราด ไม่ยอมจากไปไหน

ดวงตาคมกริบของสิงห์คำจับจ้องไปยังจุดหนึ่งบนไออาฆาตนั้น...มันคือรอยตำหนิ...เป็นรอยประทับอาคมที่บิดเบี้ยวราวกับแผลเป็นเน่าเปื่อยบนดวงวิญญาณ...ลายเส้นที่คุ้นเคยจนน่าชิงชังนั้นกระชากความทรงจำอันขมขื่นให้หวนกลับมา...ความพ่ายแพ้...และความตายของใครบางคน...ความโกรธเกรี้ยวระลอกใหม่พุ่งขึ้นมาจุกที่อก...มันไม่ใช่เรื่องบังเอิญ...นี่คือสัญลักษณ์...สัญลักษณ์ของศัตรูเก่าเพียงคนเดียวที่เขาไม่มีวันลืม...

อาจารย์ขุนพล

ความโกรธเกรี้ยวระลอกใหม่พุ่งขึ้นมาจุกที่อก...มันไม่ใช่เรื่องบังเอิญ...ความคิดนั้นแล่นปราดเข้ามาในหัวของสิงห์คำราวกับสายฟ้าฟาด เขาหันขวับไปมองร่างของช่างภาพหนุ่มที่ยังคงนั่งตัวสั่นอยู่บนม้านั่ง...ในเสี้ยววินาทีนั้น...ทุกอย่างก็กระจ่างชัด

ไอ้หนุ่มหน้าละอ่อนคนนี้ไม่ได้ไปลบลู่ผีแม่นายคำจันทร์จนโดนเล่นงาน...แต่เขาเป็นเพียงสะพานที่ศัตรูเก่าจงใจสร้างขึ้นเพื่อส่งไสยเวทดำมืดข้ามธรณีประตูคุ้ม...เป็นการลองวิชาที่มุ่งเป้ามาที่เขาโดยตรง

สิงห์คำหันกลับมา เผชิญหน้ากับเหนือเมฆอีกครั้ง ดวงตาคมกริบคู่นั้นเปลี่ยนจากความเย็นชาเป็นความจริงจังที่น่าเกรงขามยิ่งกว่าเดิม

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel