บท
ตั้งค่า

ผีสาวที่ 3(2)

“บาปกรรม บาปกรรม!”

หรงเสียนนักขัดสมาธิอยู่บนอาสนะ เค้างอนิ้วนับทำท่าคำนวณดวงชะตา เมื่อเงยหน้าขึ้นสบตากับเศรษฐีหวัง ต้องแสร้งเป็นส่ายหน้า จากนั้นหลับตาลงเป็นเชิงว่าไม่ต้องการแพร่งพรายความลับสวรรค์ออกไป

“ท่านนักพรต เป็นยังไงบ้างขอรับ บอกข้ามาตรงๆ เถอะ ดวงข้าเป็นเช่นไร”

เฒ่าหวังคราแรกพบเจ้าสำนักหรงเค้าตกใจไม่น้อย ไหนว่าอายุเกือบร้อยปี แต่คนตรงหน้ากับดูอ่อนกว่าตนตั้งมาก เพียงมีจรผมดอกเลาเท่านั้นเอง

“นายท่านหวัง ไม่ใช่ข้าไม่อยากบอก แต่กลัวท่านจะทำใจยอมรับไม่ได้ สู่ไม่รู้จะดีกว่า”

โถงอารามสำนักตันติ้ง หรงเสียนนั่งอยู่ในตำแหน่งกึ่งกลาง รอบข้างเป็นคนตระกูลหวังสีหน้าซีดเซียว บ่งบอกว่าเมื่อคืนพบเจอเหตุการณ์สยองขวัญมากน้อยเพียงใด

“ฮือ ฮือ ท่านนักพรตบอกความจริงข้ามาเถอะ มีทางแก้ไขหรือไม่ขอรับ”

ฟังเพียงเท่านี้เฒ่าหวังก็ทราบแล้วว่าไม่ใช่เรื่องดี จึงคุกเข่าอ้อนวอน ต่อให้ร้ายแรงถึงชีวิต ตนก็ต้องรู้ก่อนตายให้ได้

“ศีรษะ ผีตนนั้นอยู่ที่บ้านท่านใช่หรือไม่”

ชายชราผงะถอยหลัง เจ้าสำนักผู้นี้รู้ได้ยังไง ตนยังไม่ได้บอกเรื่องราวทางบ้านแม้แต่น้อย ยามนั้นรู้สึกราวกับมีความหวังปลายอุโมงค์ ตอบกลับไปว่าใช่ จากนั้นเล่าเรื่องต่างๆ ที่พบเจอมาในระยะเวลาสองเดือน “…”

“ไม่ผิดจริงๆ คราเคราะห์ครั้งนี้ของท่านต้องโทษเรื่องในชาติก่อน อืม บาปกรรม บาปกรรม” หรงเสียนขณะพูดสีหน้าก็ราวกับโพธิสัตว์มาโปรด บอกไม่อยากเปิดเผยความลับสวรรค์ แต่ปากก็ยังกล่าวเล่าสาธยายยืดยาว

หรงเสียนเล่าว่า อดีตชาติของเศรษฐีหวังเคยเป็นนายอำเภอมือสะอาด รับราชการสามสิบกว่าปีไม่เคยมีซักครั้งที่ตัดสินคดีผิดพลาด แต่มีอยู่ครั้งหนึ่งบ้านเมืองเกิดกบฏ ตอนนั้นฮ่องเต้มีบัญชาให้ประหารเก้าชั่วโคตรขุนนางที่มีส่วนร่วม

“ท่านนักพรตอย่าบอกนะ ว่าข้าเป็นผู้สั่งประหารนักโทษเหล่านั้น!” เฒ่าหวังเชื่อเป็นตุเป็นตะ แสดงอารมณ์ร่วมอย่างเต็มที่ราวกับตนเองเคยเป็นนายอำเภอมาก่อนจริงๆ “...”

“อืม ใช่แล้ว เพียงแต่เด็กสาวผู้นั้นไม่ได้เป็นผู้มีส่วนร่วมหรือรู้เห็นกับการกบฏแม้แต่น้อย เมื่อท่านสั่งตัดคอ นางย่อมผูกใจเจ็บ สุดท้ายจึงกลายเป็นวิญญาณพยาบาท ตามอาฆาตท่านตอนนี้ยังไงละ”

เศรษฐีหวังพอได้รู้เรื่องราวก็แทบเป็นลมล้มฟุบ เค้าไม่มีตรงไหนที่ไม่เชื่อ เพราะตลอดสองเดือนที่ผ่านมาอะไรที่ไม่เคยเห็นก็เห็นมากับตาแล้ว โดยเฉพาะเมื่อคืนผ่านช่วงเวลาเป็นตาย ต่อให้บอกว่าบิดาท่านเป็นมังกรเหินอยู่บนฟ้า ตนก็จะถามว่าเหินอยู่สูงเพียงใดแล้ว

“ฮือ ฮือ ฮือ อาจารย์หรงท่านต้องช่วยเหลือข้าน้อยนะขอรับ ในเมื่อท่านรู้ถึงอดีตข้า ท่านย่อมมีทางแก้ไขใช่หรือไม่!” เฒ่าหวังคลานเข้าไปโขกศีรษะเบื้องหน้าหรงเสียน ร่ำร้องจะเป็นจะตาย บอกว่าหากไม่ช่วยตนจะไม่ยอมก้าวเท้าออกจากอารามพรตแห่งนี้ “…”

***

ภูเขาหลังสำนักตันติ้ง

กระท่อมหลังน้อยและแปลงผักผืนงาม รอบข้างยังมีน้ำตกสายหนึ่ง สถานที่นี้เป็นเขตหวงห้าม นั่นเพราะเจ้าสำนักหรงมอบให้เป็นที่อยู่อาศัยของเผิงรั่วรั่วเอง

“ดึ๋ง..ดึ๋ง..ดึ๋ง”

เพิ่งเหยียบย่างเข้ามาในรั้ว หรงเสียนก็มองเห็นร่างไร้ศีรษะของผีสาวกระโดดโลดเต้น นางไล่จับเจ้ากระต่ายน้อยสีขาวที่เลี้ยงไว้ไปทั่ว เหยียบย่ำจนแปลงผักที่เพิ่งปลูกราบเป็นหน้ากลอง

“เพี๊ยะ! ซนนักนะ ตามข้ามา!” นักพรตหรงอดไม่ได้ที่จะฟาดบั้นทายนางหนึ่งฝ่ามือ จากนั้นจูงผีสาวให้เดินตามเข้ากระท่อม

“ถอกกางเกงในออก!”

เพิ่งจะเข้าประตูมาเผิงรั่วรั่วก็ได้รับคำสั่งใหม่ นางรีบก้มตัวลงไปรูดเอากางเกงชั้นในออกจากกระโปรงหรู่ฉวิน จากนั้นยืนนิ่งรอรับคำสั่งต่อไป

เสียงสวบสาบเสื้อผ้าดังขึ้น หรงเสียนถอดชุดพรตขาวดำตนเองออกจนหมด จากนั้นใช้กำมือชักแท่งเนื้อตนเองไม่กี่ครั้งก็ตั้งตรง ค่อยหันกลับมาทางร่างผีสาว จับนางอุ้มขึ้นสูง ให้สองขารัดเอวสอบไว้ มือน้อยๆ ก็ชักนำมาให้โอบรอบคอ

“เสร็จเรื่องแล้วเจ้ารีบไปรออยู่ที่บ้านผู้แซ่หวังนั่น อาละวาดซักหน่อย ข้าจะตามไปทีหลัง”

หรงเสียนใช้มือควานหาแท่งเนื้อ แต่พอจะสอดใส่ก็พบว่ายากอยู่บ้าง งัดๆ เสยๆ อยู่นานก็ยังไม่เข้า จนผีสาวเจ้าของร่างต้องเป็นฝ่ายเอื้อมมือมาจับใส่ด้วยตัวเอง

“สวบ! พั่บ พั่บ พั่บ”

ไม่จำเป็นต้องเล้าโลมให้มาก กาบหอยคับแคบของรั่วรั่วอ้ากว้างได้ดี ลำเอ็นเจ้าสำนักมีเท่าไหร่ก็ห่อหุ้มไว้ หมด ทั้งยังหลั่งน้ำหล่อลื่นออกมาได้ตามใจต้องการ

เสียงกระทบกันของเนื้อหนังดังขึ้น พื้นไม้ลั่นเอี้ยดอ๊าด เผิงรั่วรั่วไม่มีปากให้ร้องครางจึงได้แต่เกร็งบั้นท้ายไว้ ท่านเจ้าสำนักเสยขึ้นมาแต่ละครั้ง แม้อยากจะครวญครางแต่ก็ทำแบบนั้นไม่ได้

“อืมม นังผีร่าน ชอบแบบนี้หรือไม่”

หรงเสียนอุ้มนางเดินไปทั่วห้อง ครั้นรู้สึกว่ายังสะใจไม่พอ จึงจับนางพาดกับขอบหน้าต่าง มือถ่างสองขาเรียวออก กระแทกเน้นๆ ใส่จุดที่ลึกที่สุดของนาง “…”

***

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel