ผีสาวที่ 2(1)
ท่อนล่าง
บนเส้นทางสายไหมขึ้นเหนือ รถม้าของศิษย์และอาจารย์ปราบผีปลอมๆ แล่นไปด้วยความรวดเร็ว อี้เฟิงได้เงินในการเดินทางกว่าพันตำลึง จำนวนเพียงเท่านี้ก็มากพอให้เค้านำไปเลี้ยงครอบครัวได้หลายเดือนแล้ว
“อาจารย์ พวกเราจะกลับไปอีกมั้ยขอรับ ตาเฒ่านั่นดูท่าจะหลอกง่ายจริงๆ”
“ถุย! กลับไปหาบิดาเจ้าสิ กว่าจะได้เงินก้อนนี้มาลืมแล้วหรือต้องเจอกับอะไรบ้าง”
อี้เฟิงอายุเกือบหกสิบ หากินต้มตุ๋นคนมาเกือบสี่สิบปี นี่เป็นครั้งแรกที่ได้เจอผีจริงๆ เพียงแค่คิดก็หวาดกลัวแทบตายแล้ว วิชาอาคมอะไรตนก็ไม่มี หากไม่ใช่เพราะประสบการณ์สูง มีหรือยังจะหลอกเงินค่าเดินทางก้อนนี้มาได้
“เจ้าไม่ต้องพูดถึงเรื่องนี้แล้ว พวกเราพักซักสองเดือน เดี๋ยวข้าจะพาออกนอกด่านตุ๋นเงินพวกชนเผ่าทุ่งหญ้าเหล่านั้น”
***
เดือนต่อมา เมืองฉางเล่อ
“ฮือ ฮือ ฮือ! เอาร่างข้าคืนมา! เอาร่างข้าคืนมา!”
ลานกว้างหน้าห้องที่ผีหัวขาดสิงอยู่ เฒ่าหวังยืนลุ้นสุดชีวิต วันนี้มีนักพรตน้อยผู้หนึ่งอาสาขอปราบวิญญาณร้ายให้ ทั้งยังบอกว่าหากจัดการไม่ได้จะไม่คิดเงิน
“ปึง! ปัง! ปึง! เช้ง!”
“นางผีชั่ว เจ้าร้ายกาจนักนะ ฝากไว้ก่อนเถอะ!”
พรตน้อยเก็บกระบี่ไม้เข้าฝัก พุ่งตัวออกจากห้องในสภาพโชกเลือด บอกเศรษฐีหวังว่าผีหัวขาดตัวนี้ร้ายกาจเกินไป ตนเองยังมือไม่ถึง กำจัดผู้เดียวไม่ได้ จึงขอตัวกลับก่อน
“นายท่านผู้เฒ่า ข้าน้อยไร้ความสามารถ ขอตัวก่อน ไว้เก่งกว่านี้จะมาจัดการนาง” กล่าวจบประสานมือคารวะ หมุนตัวสะบัดชายเสื้อชุดพรตอย่างสง่างาม
“ช้าก่อนอาจารย์น้อยๆ!”
เฒ่าหวังที่ผ่านมาไม่เคยเจอนักพรตคนใดสู้ได้นานขนาดนี้ ทั้งพรตน้อยยังไม่มีทีท่าหวาดกลัวเหมือนคนอื่นๆ ดังนั้นจึงสอบถามความเป็นมา ถึงได้รู้ว่าเค้าเป็นพรตฝึกหัดของสำนักตันติ้ง ตอนนี้ลงจากเขามาหาประสบการณ์ เดินทางท่องยุทธภพไปทั่วแผ่นดิน
เศรษฐีหวังเมื่อทราบความเป็นมาก็รู้สึกเลื่อมใสนัก เค้าสอบถามพรตน้อยจนได้ที่อยู่แน่ชัด หมายมั่นปั่นมือว่าจะไปเชิญอาจารย์ของอีกฝ่ายมาปราบผีหัวขาดตนนี้ให้จงได้
***
สำนักตันติ้ง
“อาจารย์ๆ เศรษฐีหวังกำลังเดินทางขึ้นเขามาแล้วขอรับ!” ศิษย์รุ่นเล็กในสำนักผู้หนึ่งวิ่งพรวดเข้ามาในห้อง เค้าไม่ทันเคาะประตูก็ผลักพุ่งเข้าด้านใน พอกล่าวจบค่อยพบว่า อาจารย์กำลังล่วงเกินร่างที่ไม่มีหัวของพี่รั่วรั่วอยู่ ต้องรีบยกมือขึ้นปิดหน้า พึมพำกับตนเองว่าคงเป็นตากุ้งยิงแล้ว “ไอ้หยา! อาจารย์ท่านทำไมไม่ล็อกประตูไว้”
บนโต๊ะจิบชากลางห้อง หรงเสียนนั่งอยู่บนเก้าอี้วงกลม ที่ตักยังมีร่างไร้ศีรษะของสาวน้อย เต้านมเท่าชามข้าวไม่ใหญ่มากข้างหนึ่งกำลังถูกบดขยี้อย่างรุนแรง
“เจ้าไปบอกพี่น้องทั้งหลายให้เตรียมพร้อม เล่นละครให้ดี อย่าให้ถูกจับได้” ขณะสั่งงานลูกศิษย์ เค้าไม่ได้รู้สึกอับอายอะไร ยังคงใช้มือฟอนเฟ้นหน้าอกเล็กๆ เล่น มืออีกข้างก็สอดเข้าไปควักล้วงใต้กระโปรง
ศิษย์สำนักตันติ้งรวมกันมีเกือบร้อย เมื่อเฒ่าหวังเดินขึ้นเขามาพร้อมคนรับใช้ เค้าพบว่าหลายคนกำลังฝึกร่ายรำกระบี่ บางคนฝึกเสกยันต์กระดาษให้กลายเป็นนก ยังมีที่น่าตกใจกว่านั้น ถึงกับเหาะเหินไปบนหลังคา
“สุดยอดไปเลยนายท่าน ข้าเกิดมายังไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้เลย!” บ่าวไพร่ที่ติดตามมาต่างก็ส่งเสียงชื่นชมไม่ขาดปาก เฒ่าหวังก็ไม่ต่างกัน เค้าก็ไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้
“หยุดก่อน! อาจารย์เก็บตัวอยู่ในถ้ำหลังเขาบอกว่าไม่ต้องการให้ท่านเข้าพบ เชิญท่านลงจากสำนักไปเถอะ” นักพรตเครายาวผู้หนึ่งเห็นแขกผู้มาใหม่ก็เดินเข้าไปขวาง กล่าวคำพูดที่เตรียมการไว้แต่แรก ไล่ชายแก่พร้อมผู้ติดตามให้กลับลงเขาไป “…”
ภายในห้องพักเจ้าสำนัก
“อาจารย์ ตาแก่นั่นกลับไปแล้วขอรับ”
เพราะได้รับการเตือนจากศิษย์น้องมาก่อน ผู้มาใหม่จึงไม่ได้พรวดพราดเข้าห้อง เพียงยืนอยู่หน้าประตู รายงานความเคลื่อนไหวของเศรษฐีหวังให้เจ้าสำนักฟัง
“เจ้าให้คนสะกดรอยตามไปโรงเตี๊ยม ที่ตาเฒ่านั่นพักอยู่ คืนนี้ข้าจะส่งรั่วรั่วออกไป ให้แสร้งเป็นช่วยเหลือมันแบบหวุดหวิดพอดี”
ภายในห้อง หรงเสียนสั่งการราวกับไม่มีเรื่องราวใด เค้ายังคงนั่งแยกขาอยู่บนโต๊ะไม้ โดยมีผีสาวหัวขาดนั่งคุกเข่าอยู่ตรงกึ่งกลาง ใช้มือเรียวน้อยๆ ของนางรูดแกนกายท่อนเท่าแขนขึ้นๆ ลงๆ
