บท
ตั้งค่า

ผีสาวที่ 1(2)

“อาจารย์ งานนี้ได้มากน้อยเท่าใดขอรับ”

“ไม่มากเท่าไหร่ ข้าเรียกไปสองพันตำลึง แต่เจ้าแก่นั่นต่อรอง จึงลดให้นิดหน่อย”

พรตหนวดหนูมีชื่อว่าอี้เฟิง เค้าไหนเลยมีวิชาอาคม เพียงแค่ใช้ลูกศิษย์ให้แอบเอาเลือดหมูผสมตัวยาพิเศษชนิดหนึ่ง นำไปป้ายไว้หน้าบ้าน กลางดึกคางคาวพอบินตามกลิ่นมา ก็ชนเข้ากับประตู จึงทำให้เกิดเสียงดังราวกับคนเคาะ ใช้โอกาสเช่นนี้เองหลอกคนเพื่อหากิน

“วันนี้ไม่ต้องไปป้ายยานั่นแล้ว เจ้าเข้าตลาดไปซื้อเครื่องทำพิธีมา พรุ่งนี้เราต้องเล่นละครชุดใหญ่”

เช้าวันรุ่งขึ้น

แท่นพิธีถูกจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ หน้าคฤหาสน์ตระกูลหวังยืนเต็มไปด้วยเจ้านายและบ่าวไพร่นับร้อย อี้เฟิงสั่งให้ลูกศิษย์เทเลือดหมาดำใส่ชาม ตนเองก็ร่ายรำกระบี่ไม้ ฟันซ้ายทิ่มแทงขวา เสียบเข้าใส่แผ่นยันต์ประกบนิ้วมือชี้ไปทางปลายกระบี่ ไม่นานเปลวไฟก็พวยพุ่งขึ้นมา

“พรึบ!” ขณะไฟกำลังเผาไหม้แผ่นยันต์ที่ปลายกระบี่ อี้เฟิงพลันแทงเข้าใส่เลือดหมาดำจนมอดดับลง จากนั้นนำไปขีดเขียนป้ายชื่อตระกูลทางเข้า เลือดที่เหลือก็ใช้เขียนอักษรประหลาดใส่หุ่นฟางอีกแปดตัว มอบให้เศรษฐีหวังนำไปฝั่งไว้ในตำแหน่งแปดทิศของตัวบ้าน นับว่าเป็นอันเสร็จพิธีการ

“นายท่านหวังเพียงเอาหุ่นฟางเหล่านี้ไปฝังไว้ในตำแหน่งที่ข้าบอก วิญญาณร้ายก็ไม่สามารถทำอันตรายท่านได้แล้ว”

กล่าวจบพรตอี้ในชุดเต็มยศก็เดินสั่นกระดิ่ง นำคนทั้งหมดเข้าประตูไป ในใจก็คิดว่าตาแก่หวังผู้นี้เป็นหมูอ้วนตัวหนึ่งจริงๆ เสร็จงานนี้ตนเองคงกลับบ้านไปนอนใช้เงินสบายๆ ได้อีกหลายเดือน

หากแต่ทุกอย่างก็ไม่ได้เป็นไปอย่างที่นักต้มตุ๋นผู้นี้คิด เมื่อทั้งหมดเดินมาถึงเรือนหลัง ไม่ทราบว่าลมรุนแรงราวกับพายุพัดมาจากที่ใด กับพัดเอาเศษใบไม้ใบหญ้าตีเข้าใส่ใบหน้าผู้คนทั้งหมด แต่ยังมีเรื่องที่น่าตกใจกว่าอีก เมื่อจู่ๆ ก็มีเสียงโหยหวนของสตรีดังลั่นออกมาจากห้องชั้นใน

“ฮือ ฮือ ฮือ!” !!!!!!!!!

นักพรตหนวดหนูถึงกับผงะ กระดิ่งในมือแทบหลุดล่วงลงพื้น ในชีวิตเค้าไหนเลยเคยพบเจอภูตผีจริงๆ เมื่อพบว่าผิดท่า จึงสั่งลูกศิษย์ให้เข้าไปสำรวจดูด้านใน

“เสี่ยวหม่า เจ้าเข้าไปดูข้างในหน่อยสิ”

“ไม่! อาจารย์ท่านสิเข้าไป!” ผู้เป็นศิษย์ยิ่งย่ำแย่กว่าขาสองข้างสั่นสะท้าน เป็นตายก็ไม่ยอมย่างเท้าเข้าไปข้างในเด็ดขาด

“อู้ยย ท่านนักพรตเป็นอย่างไรจัดการได้หรือไม่ขอรับ” เศรษฐีหวังหาได้รู้เรื่องราวที่ทั้งสองเป็นนักต้นตุ๋นไม่ เค้าเพียงคิดว่าอาจารย์ผู้นี้ร้ายกาจจริงๆ เพิ่งบุกเข้ามาในบ้านวิญญาณร้ายก็ร้องไห้คร่ำครวญแล้ว

“บัดซบ! ข้าบอกให้เจ้าเข้าไปก็ต้องเข้าไปสิ!”

อี้เฟิงไม่รอช้า เค้าถีบบั้นท้ายลูกศิษย์หนุ่มอย่างแรง จนกระเด็นกระแทกประตูเข้าไปในห้อง พอเสี่ยวหม่าผู้น่าสงสารลุกขึ้นได้ กำลังตั้งท่าจะวิ่งหนีออกไป ประตูบานใหญ่ก็ปิดลงดักหน้าดังปึง

“ปึง!”

“ฮือ ฮือ ฮือ!!!!! คืนร่างข้ามา! คืนร่างข้ามา!”

“อ๊ากกก ปึง! ปึง! ปึง! ช่วยด้วย อาจารย์ช่วยด้วย!”

บนโต๊ะกลมวงใหญ่ ศีรษะหญิงสาวอาบย้อมไปด้วยเลือดวางอยู่ตรงกลาง นางร้องครวญครางขอร่างกายตนเองคืน เสี่ยวหม่าในชีวิตไหนเลยเคยพบเจอของจริงเช่นนี้ มือก็ทุบประตูร่ำร้อง ใช้หัวไหล่กระแทกจนพังออกไปได้

“ปึง! อ๊ากก ผีหลอก! ผีหลอก!”

เสี่ยวหม่าล้มลุกคลุกคลานไปกับพื้น ไม่สนใจผู้คนที่รายล้อมอยู่ วิ่งหนีตายฝ่าบ่าวไพร่ตระกูลหวังออกนอกคฤหาสน์ไป “…”

***

“นี่ๆ พวกเจ้าได้ยินเรื่องที่คฤหาสน์ตระกูลหวังถูกผีหัวขาดยึดหรือไม่ ฟังว่าเล่นงานนักพรตไปหลายสิบคนแล้ว อี๋! น่ากลัวจังเลย!”

ชาวบ้านร้านตลาดในเมืองฉางเล่อ พูดคุยข่าวดังจากหมู่บ้านข้างเคียง

หลายสิบวันมานี้เศรษฐีหวังไม่สามารถอาศัยในบ้านตนเองได้ แม้แต่นักพรตหนวดหนูก็สู้ไม่ได้ เค้าไหนเลยกล้าอยู่ ขนาดเชิญอาจารย์ที่มีวิชาแกร่งกล้าอีกหลายคนมาจัดการ ผลลัพธ์ก็ไม่ต่างกัน แต่ละคนถูกผีหัวขาดตนนั้นเล่นงาน บ้างวิ่งตกคูน้ำหลบหนี ยังมีที่กลายเป็นบ้าเสียสติ สภาพย่ำแย่ไม่ต่างจากนักพรตหนวดหนูซักคนเดียว

“อาจารย์อี้ ทำยังไงดีขอรับ หากเป็นเช่นนี้ข้าใช่ต้องเสียคฤหาสน์หลังนั้นไปหรือไม่ ฮือ ฮือ” เศรษฐีหวังคร่ำครวญใจแทบขาด บ้านหลังโตของเค้าใช้เงินเก็บทั้งชีวิตสร้างมา ตอนนี้อยู่ก็อยู่ไม่ได้ ขายก็ขายไม่ออก ไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็มีแต่มืดมน

อี้เฟิงรอบปาดเหงื่อ เค้าเพียงคิดต้มตุ๋นหมูอ้วนตัวนี้ หากแต่กับพบภูตผีเข้าจริงๆ แม้จะหวาดกลัว แต่ก็มองเห็นโอกาสทำเงินได้ จึงยังวางท่าเป็นนักพรตมากวิชาให้คำปรึกษา หลอกลวงตาแก่แซ่หวังผู้นี้ต่อไป

“เวรกรรมของท่านแท้ๆ ต้องโทษที่ข้ายังมีวิชาไม่สูงส่งพอ เอาเช่นนี้ก็แล้วกัน ข้าจะเดินทางไปตามอาจารย์ข้ามาปราบผีตนนี้ แต่เกรงว่าคงมีค่าใช้จ่ายสูงอยู่บ้าง”

เฒ่าหวังฟังว่าต้องเสียเงินอีกก็ได้แต่ทำใจ เค้าไม่สงสัยในตัวนักพรตสูงวัยผู้นี้แม้แต่น้อย หากไม่ใช่อีกฝ่ายช่วยเหลือแต่แรก ป่านนี้ตนคงตายไปแล้ว “…”

***

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel