ตอนที่ 3ไม่เป็นอย่างที่คิด
ตอนที่ 3ไม่เป็นอย่างที่คิด
มันคงจะดีกว่านี้หากความคิดของภิญญาพัชญ์เป็นดังที่นึกได้ดังใจ ใครเลยจะรู้ว่าที่นั่งของเธอนั้นจะอยู่ในโซนวีไอพีติดกับเวทีมิตติ้งชนิดที่ว่าแค่ก้าวขาลงมาก็ถึงที่นั่งเธอแล้ว ร่างบางเดินเข้าไปนั่งลงบนเก้าอี้บุนวมสีแดงด้วยใจหวาดหวั่น ผิดกลับเพื่อนสาวอีกคนที่ดูตื่นเต้นและกระดี๊กระด๊า ตื่นเต้นเสียเหลือเกิน
"ยัยขิงทำหน้าให้มันดี ๆ หน่อยสิ มาดูทรอยไม่ใช่มาดูหนังสยองขวัญ" เสียงแซะที่ดูไม่จริงจังนักออกมาจากปากของฟ้าระดา ภิญญาพัชญ์หันหน้าไปยิ้มแหยให้ก่อนจะตอบเสียงเบา
"โถ่ฟ้า ถามจริง ๆ เถอะแค่มาดูก็เสียเงินไปเป็นหมื่น ๆ แบบนี้คุ้มไหม" เหมือนได้ยินคำถามที่แปลกประหลาดที่สุดในชีวิตของฟ้าระดา หญิงสาวหันไปถลึงตาใส่เพื่อนตนเอง
"ยัยขิง!!..เธอนี่มันมนุษย์ป้าของแท้ ไม่ใช่แค่ดูเฉย ๆ นะ ได้จับมือด้วย และเมื่อกี้ฉันได้ยินทีมงานบอกว่า ครั้งนี้พิเศษมาก ทางทีมงานจะสุ่มผู้โชคดีจากเลขที่นั่งเพื่อขึ้นไปบอกความในใจกับทรอยบนเวทีด้วยนะ สาธุ ๆ ด้วยผลบุญที่ลูกช้างทำมาทั้งหมด ขอให้ลูกช้างได้มีบุญวาสนาได้ขึ้นไปบอกรักทรอยบนเวทีด้วยเถิด" ฟ้าระดายกมือไหว้ท่วมหัวสร้างความขบขันให้กับภิญญาพัชญ์เป็นอย่างมาก บอกรักเหรอเธอเองก็อยากทำอย่างนั้น
ทั้งสองนั่งคุยกันไปเพื่อรอเวลาที่ไอดอลหนุ่มจะขึ้นมาบนเวที แต่ส่วนมากแล้วก็คงจะเป็นฟ้าระดานั่นแหละกระมังที่พูดซะเป็นส่วนใหญ่
เมื่อนั่งไปได้สักพัก ไฟใน Hall ก็ดับลง ภิญญาพัชญ์ขมวดคิ้วและมองรอบ ๆ ห้อง ครั้งแรกว่าจะเอ่ยปากถามเพื่อนว่าเหตุใดเขาจึงปิดไฟ แต่เมื่อได้ยินเสียงกรี๊ดหญิงสาวจึงเงียบลง
ปิดไฟอย่างนี้คงจะไม่เห็นเธอหรอกหญิงสาวคิดในใจ เสียงกรี๊ดดังขึ้นไปทั่วโดมขนาดใหญ่ ร่างสมส่วนของไอดอลหนุ่มก็เดินขึ้นมาบนเวที พร้อมกับเสียงดนตรีที่ดังขึ้นมา
"สวัสดีครับ!!..ทุกคนสบายดีนะครับ" เหมือนผู้คนในHall จะร่วมใจเป็นหนึ่งเดียว ต่างก็กรี๊ดตอบเป็นเสียงเดียวกัน อติวิชญ์เริ่มร้องเพลงประจำวงไปเรื่อย ๆ บรรดาแฟนคลับก็ลุกขึ้นเต้นและร้องตามไปอยากสนุกสนาน
ภิญญาพัชญ์มองชายหนุ่มบนเวที แล้วน้ำตาหญิงสาวก็ไหลออกมาเธอยิ้มทั้งน้ำตา เขาไปได้ไกลกว่าที่เธอคิด อติวิชญ์วันนี้ ไม่เหมือนกับอติวิชญ์ที่ไม่เอาไหนในวันวาน หญิงสาวยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาออกจากดวงตาคู่สวย และมองตามชายหนุ่มไปบนเวที เธอพยายามจะจดจำทุกสิ่งอย่างของเขาให้ได้มากที่สุด
'ยินดีด้วยนะทรอย ทรอยไปไกลกว่าที่ขิงคิดเสียอีก'
อติวิชญ์เดินจากเวทีใหญ่เพื่อมาเอ็นเตอร์เทรนเหล่าแฟนคลับ แต่แล้วจังหวะที่เขาหันมาทางด้านซ้ายมือนั่น อติวิชญ์ก็ต้องชะงักค้าง เมื่อสายตาได้ปะทะกับดวงตาคู่หนึ่งที่คุ้นเคยพอๆกับหญิงสาวร่างบางที่กำลังมองขึ้นไปบนเวทีเช่นกัน เมื่อทั้งคู่สบตากันเหมือนประกายอะไรบางอย่างออกมาจากดวงตาของทั้งคู่ เหมือนกับว่าวิญญาณและสติสัมปชัญญะจะหลุดลอยออกไป ชายหนุ่มเผลอกำมือแน่น สายตาวูบไหวไปครู่หนึ่ง ภิญญาพัชญ์เห็นว่าไอดอลหนุ่มหยุดร้องเพลงลงเพราะเธอ เธอจึงก้มหน้าลง อติวิชญ์จึงรู้สึกตัวและเดินไปยังหน้าเวที เหล่าแฟนคลับต่างก็ไม่มีใครสัมผัสได้กับท่าทางผิดปกตินี้ จะมีตะโกนแซวอยู่บ้างว่าไอดอลหนุ่มลืมเนื้อเพลงหรือ แต่อติวิชญ์ก็แก้สถานการณ์ได้เป็นอย่างดี
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว ดำเนินมาถึงช่วงกลางของมิตติ้ง พิธีกรสาวเดินออกมาร่วมซักถามคำถามต่าง ๆ แทนเหล่าแฟนคลับ หากให้แฟนคลับได้เป็นคนถามเองนั้น คาดว่าคืนนี้ไอดอลหนุ่มก็คงจะไม่ได้ย่างกายออกจาก Hall แห่งนี้เป็นแน่
"เอาล่ะค่ะ ตอนนี้ทางทีมงานก็จะเปิดโปรแกรมสุ่มผู้โชคดีกันแล้ว ไหนขอเสียงคนที่อยากจะขึ้นมาสัมผัสกับหนุ่มทรอยบนเวทีบ้างคะ" สิ้นเสียงพิธีกรสาว เหล่าแฟนคลับหรือจะเรียกตามศัพท์วัยรุ่นยุคนี้ว่าติ่งทรอยก็ไม่ผิดนัก ทุกคนต่างก็ยกมือและกรี๊ดกันขึ้น
หน้าจอ Led ขนาดใหญ่หมุนเป็นตัวเลขขึ้นมาทุกคนต่างก็เงียบเสียงลงเพื่อลุ้น ภิญญาพัชญ์เองก็อดจะลุ้นไปด้วยไม่ได้เช่นกัน ลุ้นให้เลขหมายนั้นไม่ใช่เธอ เมื่อหน้าจอหยุดลงเสียงกรี๊ดก็ดังขึ้นอีกครั้ง วันนี้ผู้คนต่างก็ใช้เสียงกรี๊ดกันอย่างสิ้นเปลืองเป็นอย่างมาก หากออกไปแล้วคงไม่พ้นจะต้องเจ็บคอกันบ้าง
ภิญญาพัชญ์ถอนหายใจออกมา เมื่อผู้โชคดีคนแรกไม่ใช่เธอ หญิงสาวสุดเซ็กซี่ใบหน้าสวยเพราะแต่งแต้มไปด้วยสีสันของเครื่องสำอางก้าวขึ้นไปบนเวทีด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม พิธีก่อนเริ่มพูดและส่งไมค์ให้กับเธอ เสียงหญิงสาวคนนั้นสั่นเครือ ดูก็รู้ว่าคงจะตื่นเต้นเป็นอย่างมาก เธอถามคำถามกับไอดอลหนุ่ม อติวิชญ์ก็ตอบทุกคำถาม แต่เพราะคำถามนั้นกติกาจำกัดให้เพียงสามคำถามเท่านั้น เวลาจึงจบลงอย่างรวดเร็ว เมื่อเสร็จสิ้นคำถาม ไอดอลหนุ่มและหญิงสาวก็สวมกอดกันเพื่อเป็นการขอบคุณและล่ำลา
เมื่อเสร็จสิ้นจากผู้โชคดีคนแรก ก็ถึงคิวคนที่สอง สาม สี่ เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว และสนุกสนาน เสียงพิธีกรประกาศอีกครั้งว่าคนที่ห้าคือคนสุดท้ายของวันนี้ หน้าจอขนาดใหญ่หมุนตัวเลขขึ้นอีกหน ฟ้าระดาหันมาจับมือเพื่อนสาวเอาไว้ มือของภิญญาพัชญ์ก็เย็นไม่แพ้ฟ้าระดาเช่นกัน
"และแล้วก็มาถึงหมายเลขสุดท้ายกันแล้วนะคะ ผู้โชคดีคนสุดท้ายได้แก่ๆ....หมายเลขTL 0214 ค้าาา"
สิ้นเสียงพิธีกรก็แทนที่ด้วยเสียงของเหล่าแฟนคลับอีกครั้ง แต่แล้วกลับไม่มีใครที่จะลุกขึ้นเพื่อก้าวขึ้นไปบนเวที พิธีกรจึงได้เรียกอีกครั้ง ฟ้าระดาหันมามอง
"ยัยขิง!!..แอร๊ย หมายเลขของแกนี่หว่า เพื่อนหนูค่ะ เพื่อนหนู" ฟ้าระดากระตุกแขนเพื่อนสาวให้ลุกขึ้น พร้อมกับตะโกนบอกเสียงดัง
ภิญญาพัชญ์ก้มหน้าลงมองหมายเลขในบัตรอีกครั้ง เพียงแค่ครู่เดียวหญิงสาวก็เบิกตากว้างขึ้น เธอผุดลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็ว
"เอ้า ๆ วิญญาณกลับมาก่อนคร้า ดูท่าจะดีใจมากเลยใช่ไหมล่ะ แสดงว่าเป็นแฟนคลับตัวยงเลยใช่ไหมคะ มา ๆ เดินขึ้นมาเลย พี่ทรอยของน้องรออยู่แล้ว" เสียงหัวเราะชอบใจดังขึ้นมาทั้งฮอลล์
ภิญญาพัชญ์หันไปมองรอบ ๆ ก็เห็นเหล่าแฟนคลับพากันหัวเราะ และยินดีไปกับเธอ หญิงสาวก้มหัวลงก่อนจะเดินขึ้นไปยืนบนเวที
วินาทีที่ได้มายืนข้าง ๆ กัน ภิญญาพัชญ์ตอบไม่ถูกเลยว่าตัวเองควรจะรู้สึกเช่นไร ใบหน้าของอติวิชญ์ไม่เปลี่ยนไปเลย จะมีเพียงความใสของใบหน้าที่เพิ่มขึ้น หญิงสาวสูดลมหายใจเข้ากลิ่นน้ำหอมที่เขาใช้ยังเป็นกลิ่นเดิม รูปร่างชายหนุ่มดูบึกบึนเหมือนคนที่ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ นั่นก็ดีแล้ว หากยังเป็นตอนที่อยู่กับเธอ ทรอยก็จะไม่เอาอะไรเลย นอกจากนอนเล่นแต่เกม พิธีกรส่งไมค์ให้หญิงสาวหนึ่งอัน และบอกให้เธอเริ่มคำถามได้เลย
"เอ่อ...จริง ๆ ไม่ได้เตรียมคำถามมาเลยค่ะ เอ่อ..ทรอยสบายดีใช่ไหมคะ" ภิญญาพัชญ์ก้มหน้าลงเมื่อถามคำถามที่หนึ่งจบลง เป็นคำถามที่โง่มากเธอรู้ตัวดี ไม่ต้องถามก็รู้ว่าเขาสบายดีอย่างแน่นอน
"สบายดีครับ สบายกว่าเมื่อก่อนเยอะเลย แต่ต่อจากนี้ไปก็จะสบายขึ้น ๆ ไปอีก" หญิงสาวเผลอเงยหน้าสบตาที่เรียบเฉยของชายหนุ่ม คำตอบที่มีความหมายแฝงเช่นนี้เธอรู้ดีว่าหมายความว่าอย่างไร
