เพื่อนสนิท
เวลาผ่านไป 1 สัปดาห์ รามยังคงไม่ได้คำตอบอะไรจากปั้นสิบ ทว่าตัวเขากลับเทียวไปเฝ้าดูแล แต่ถ้าจะพูดให้ถูกต้องเรียกว่าเทียวไปเฝ้ารังแกปั้นสิบอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน หากเวลาไหนที่เจ้าตัวต้องไปทำงานก็มอบหมายให้เป็นหน้าที่ของบอดี้การ์ดรับช่วงดูแลต่อ
ติ๊ง! ติ๊ง!
"อื้อ ใครส่งอะไรมาแต่เช้านะ พี่ใหญ่ตื่นเร็วเข้า ไหนเมื่อคืนพี่บอกเช้านี้ต้องรีบกลับบ้านไม่ใช่เหรอ"
คนตัวเล็กงัวเงียตื่นขึ้นมาก่อนจะปลุกคนพี่ที่นอนอยู่ข้างกัน แม้ปั้นสิบจะยังไม่ยอมย้ายไปพักที่เพนเฮ้าส์ที่รามเตรียมเอาไว้เพราะยังไม่ตอบตกลงในสถานะของทั้งคู่ แต่เป็นรามที่หอบผ้าหอบผ่อนมานอนเฝ้าปั้นสิบที่ไนต์คลับเสียเอง
"อื้ออ อีกเดี๋ยวเมียจ๋า ขอนอนต่ออีกนิดนึง"
คนตัวโตไม่ว่าเปล่า แต่มือของเขายังรั้งร่างของปั้นสิบจนลอยหวือเข้าไปในอ้อมกอดอย่างง่ายดาย
พอเห็นว่าเรียกไปก็ไม่เป็นผลปั้นสิบจึงกดเข้าไปดูที่การแจ้งเตือนแอปสีเขียวว่าใครส่งอะไรมาให้ดู
"เฮ้ย! นี่มันคิรากรกับภีรภัสนี่นา แล้วทำไมมันถึงแนบสนิทกันขนาดนี้ว่ะเนี่ย แล้วป่านนี้คุณเล็กจะเป็นยังไงอ่ะ"
ปั้นสิบไม่พูดเปล่า แต่มือเล็กยังจิ้มหน้าจอมือถือกดต่อสายหาเพื่อนสนิทด้วยความเป็นห่วง ไม่รู้ว่าป่านนี้รามิลจะเป็นยังไงบ้าง นับแต่วันที่เกิดเรื่องของเขากับราม ก็ยังไม่มีการติดต่ออะไรกันอีกเพราะรามิลหยุดงานไปเที่ยวต่างประเทศกับคู่หมั้น
ตื๊ด ตื๊ด
"ว่าไงปั้นสิบ"
"ไอ้คุณเล็ก เป็นไงบ้าง แกเห็นภาพคู่หมั้นแกไปนั่งพะเน้าพะนอกับแฟนเก่ารึยัง แกโอเคไหม?"
ทันทีที่รามิลรับสาย ปั้นสิบก็สาดคำถามเข้าใส่ไม่หยุดจนคนที่นอนอยู่ข้าง ๆ เผลอยิ้มออกมา ตามที่จริงเรื่องของน้องชาย เหนือลมได้แจ้งให้เขาและบิดาได้รู้ตั้งแต่ช่วงกลางดึกแล้ว
"เห็นแล้ว เห็นมากกว่ารูปพวกนั้นอีก"
"ฉิบ! แล้วแกจะเอายังไง จะสู้กับมันยังไง?"
"เล็กรู้ว่าเล็กสู้เค้าไม่ได้หรอกปั้น เล็กมันผู้รากมากดี กิริยามารยาทคุณพ่อท่านสอนสั่งมาดีปานนี้ เล็กไม่ลดตัวใฝ่ต่ำถึงขั้นต้องใช้ผู้ชายร่วมกับใครหรอก ฮะ ฮะ ฮะ"
เมื่อได้ยินเสียงหัวเราะของเพื่อนสนิท ปั้นสิบก็เบาใจขึ้นเยอะ แสดงว่ารามิลคงทำใจมาพักใหญ่แล้ว ไม่เช่นนั้นคงไม่หัวเราะออกมาได้เพียงชั่วข้ามคืน
"เออ เจ้าสำบัดสำนวนขนาดนี้แสดงว่าทำใจได้แล้วใช่ไหม ว่าแต่ที่มากกว่ารูปมันคืออะไรอ่ะ ส่งมาให้ดูหน่อยดิ อยากรู้"
"สู่รู้ อ๊ะ ๆ เดี๋ยวส่งไปให้ ถ้าว่างก็มาเจอกันที่บ้านเล็กนะ ตอนนี้เล็กอยู่พัทยา อีก 2 ชั่วโมงน่าจะถึงบ้าน แค่นี้ก่อนนะคุณเหนือรอทานข้าวอยู่"
"ตายแล้ว ขอฟังเสียงที่รักหน่อยได้ไหม"
"ไม่ได้หรอกเล็กหวง เดี๋ยวปั้นจับคุณเหนือยัดลงท้องเล็กจะทำยังไงล่ะ บายนะเพื่อนรัก แล้วเจอกัน"
"กะ...แก"
ปั้นสิบหยอกล้อกับเพื่อนสนิทและเหนือลมอย่างเช่นทุกครั้งที่เคยทำ แต่เจ้าตัวไม่รู้ว่ารามไม่ชอบเป็นที่สุด ที่ปั้นสิบจะไปเรียกคนอื่นว่าที่รัก ขนาดตัวเขาปั้นสิบยังไม่ยอมให้สถานะ ทั้งที่จ้วงแทงกันนับครั้งไม่ถ้วน
คนตัวโตลุกจากที่นอนด้วยท่าทีขึงขังไม่ชอบใจ หวังจะเรียกร้องความสนใจให้ปั้นสิบตามมาง้องอน ทว่ากลับไม่เป็นผล เพราะคนตัวเล็กคิดว่าอีกฝ่ายคงรีบไปธุระจึงไม่ได้เอ่ยรั้งไว้
พอรามอาบน้ำเสร็จ ปั้นสิบก็เข้าไปอาบน้ำทำธุระของตนเองต่อ คนขี้ใจน้อยเห็นแบบนั้นยิ่งอารมณ์เสียหนักเข้าไปอีก ก่อนจะเดินออกจากห้องและไนต์คลับของปั้นสิบโดยไม่บอกกล่าวอะไร
คฤหาสน์ กีรติเมธา
กรอดดด~
"มันอยากตายใช่ไหม! มันกล้าทำแบบนั้นกับน้องเล็กได้ยังไงครับพ่อ ผมไม่ยอมจริง ๆ นะ"
ใบหน้าหล่อเหลาขบกรามแน่นอย่างเดือดดาลเมื่อเห็นข้อมูลต่าง ๆ ที่เหนือลมให้คนส่งมาให้
"แล้วแกคิดว่าพ่อจะยอมอย่างนั้นเหรอ!"
เสียงทุ้มทรงพลังของผู้นำตระกูลเอ่ยขึ้นอย่างน่าเกรงขาม ราชันไม่เสียดายสักนิดหาจะยกเลิกการร่วมทุน หรือจะต้องเสียหายกี่สิบกี่ร้อยล้านเขาก็ไม่หวั่นหากทำให้ลูก ๆ ทั้งสองสบายใจได้
"ผมจะสั่งถอนทุนทั้งหมด ก่อนหน้านี้มันไม่ใส่ใจดูแลก็พอทน แต่ตอนนี้มันถึงขั้นพาแฟนเก่าเข้าไปนอนด้วยกันที่เตียงของน้องเล็ก เรื่องนี้ผมรับไม่ได้จริง ๆ ถ้าไม่เห็นว่าเป็นบ้านนั้นเป็นเพื่อนพ่อล่ะก็ มันไม่ได้หายใจข้ามคืนมาจนป่านนี้หรอกครับ"
"รอฟังน้องก่อนเถอะ อีกเดี๋ยวน้องก็น่าจะถึงแล้วใช่ไหม?"
"ครับ เห็นไอ้เหนือมันบอกว่าใกล้ถึงแล้ว"
"นี่ก็อีกคน เมื่อไหร่จะบอกน้องว่าเพื่อนของแกเป็นใคร มัวแต่มาเล่นบทบอดี้การ์ดแบบนี้เดี๋ยวเจ้าเล็กรู้ทีหลังก็โกรธอีก"
"ปล่อยมันเถอะครับพ่อ มันเลือกที่จะเฝ้ามอง มากกว่าการได้ครอบครองก็ปล่อยให้มันทำไปเถอะ"
ลึก ๆ แล้วราชันกลับเห็นด้วยกับการกระทำของเหนือลม ที่เลือกจะเฝ้ามองคนที่ตนเองรักอยู่ห่าง ๆ มากกว่าจะแย่งชิงเพื่อให้ได้ครอบครอง คนไร้ใจพยายามเท่าไหร่ก็ไร้ค่า เหมือนเช่นที่ลูกชายคนเล็กของเขากำลังประสบพบเจออยู่
นับแต่วันที่ราชันสูญเสียภรรยาคู่ทุกข์คู่ยากไปเมื่อ 10 ปีก่อน เขายังคงเลี้ยงลูกโดยให้ลูกเรียนรู้โลกภายนอกด้วยตัวเอง การห้ามไม่สู้ปล่อยให้เรียนรู้และเจ็บด้วยตัวเอง
การหมั้นของรามิลก็เช่นกัน จากสายตาของคนที่ผ่านโลก ผ่านร้อนผ่านหนาวมาก่อน ราชันย่อมรู้ดีว่าลูกชายคนเล็กของตนไม่อาจมีความสุขได้จากความรักครั้งนี้
"แต่ถ้าเจ้าเหนือเลือกที่จะแย่งชิง ความสัมพันธ์ของทั้งสองอาจจะไม่เป็นแบบนี้ก็ได้ ทุกอย่างคงมีเวลาของมัน"
"คุณพ่อ~ พี่ใหญ่~ งื้อออ คิดถึงจังเลยครับ"
พรึบ
ทันทีที่ลงรถได้ รามิลก็เดินตรงเข้ามาหาพ่อและพี่ชายที่นั่งรออยู่ในห้องนั่งเล่น อ้อมกอดของผู้เป็นพ่อยังคงอบอุ่นเสมอเหมือนเช่นทุกครั้งที่รามิลเจอปัญหาไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่
"ไหวไหมลูก ตัวเล็กของพ่อ ถ้าลูกอย่างร้องไห้ก็ร้องออกมาได้เต็มที่เลย"
มือหนาของผู้เป็นพ่อลูบหัวลูกชายคนเล็กอย่างทะนุถนอม ไม่ว่าจะเป็นปัญหาหาเล็กใหญ่แค่ไหนราชันก็พร้อมเผชิญทุกอย่างไปพร้อมกับลูก ๆ รามจ้องมองน้องชายที่ดูจะเข้มแข็งขึ้นมาก หากเป็นเช่นนี้คงไม่ต้องหวาดหวั่นสักเท่าไหร่
"ไม่ร้องครับ เล็กไม่ร้อง เล็กร้องมาพอแล้ว คุณพ่อกับพี่ใหญ่สบายใจได้เลยครับ เรามาวางแผนเอาคืนคนทรยศกันดีกว่า"
ราชันกับลูกชายคนโตรู้สึกแปลกใจทั้งดีใจในเวลาเดียวกัน อะไรที่ทำให้ดวงใจของพวกเขาเปลี่ยนความคิด ราวกับว่าพวกเขาได้รามิลคนเดิมกลับมา คนที่มีแต่รอยยิ้มสดใสแสนซุกซน ไม่ใช้มัวแต่อมทุกข์ จะทำอะไร จะไปไหนก็กลัวแต่คู่หมั้นจะไม่พอใจ
"พ่อได้ตัวเล็กคนเดิมกลับมาแล้วเหรอลูก ฟอดดด/ มา ๆ ขอพี่ใหญ่จุ๊บเหม่งที จุ๊บ จุ๊บ จุ๊บ"
"ฮะ ฮะ ฮะ พอแล้วพี่ใหญ่ น้ำลายเต็มหน้าเล็กเลยเห็นไหม"
"ว้ายย ที่รักครับ ปั้นคิดถึงที่รักมากเลยรู้ไหม ขอกอดทีได้ไหมครับ"
ปั้นสิบที่เพิ่งมาถึงตั้งท่าจะโผเข้ากอดเหนือลม จนรามิลต้องรีบผละออกจากอ้อมกอดของบิดาและพี่ชาย เพื่อมากั้นกลางเอาไว้อย่างหวงแหน
"ไม่ได้ ๆ อย่านะ ห้ามปั้นกอดคุณเหนือของเล็กเด็ดขาด!"
เหนือลมถูกดึงตัวให้มาหลบหลังคนตัวเล็กไปโดยปริยาย เจ้าตัวจ้องมองการกระทำของผู้เป็นเจ้านายในนามด้วยรอยยิ้ม หัวใจที่ห่อเหี่ยวมานานกลับมาพองโตจนจังหวะการเต้นกลับมารัวเร็วอีกครั้ง ส่วนสาเหตุคงหนีไม่พ้นคนที่กำลังห้ามเพื่อสนิทไม่ให้เข้ามาใกล้เขานี่เอง
"ทำม๊ะ หวงอ่อ ก็เค้าจะกอด เค้าอยากกอด"
"ไม่ได้เล็กหวง คุณเหนือก็เหมือนกัน ถ้าต่อไปนี้ปล่อยให้คนอื่นโดนตัว คุณเล็กจะโกรธจริง ๆ ด้วย ฮึ"
พูดจบรามิลก็เดินหน้างอกลับไปนั่งที่โซฟาตัวใหญ่ข้างพ่อและพี่ชายของตนเอง
พรึบ
หมับ
"งื้อ ที่รัก ขอกอดหน่อยก็ไม่ได้ หวงเนื้อหวงตัวชะมัด!"
ปั้นสิบยังคงพยายามที่จะเข้าประชิดตัวเหนือลม ทว่าคนที่สูงกว่ากลับใช้มือข้างหนึ่งดันศีรษะเพื่อนสนิทของรามิลไว้ได้อย่างทันการ
"ได้ยังไงกันครับ ผมต้องรักนวลสงวนตัวไว้ให้ว่าที่คนรักของผมสิ"
ภาพที่เห็นกลับทำให้รามิลที่กำลังนั่งหน้างอกลับมายิ้มได้อีกครั้ง ก่อนที่ราชันจะยุติสงครามระหว่างทั้งสามคน
แต่สิ่งที่ทุกคนไม่รู้คือกำลังมีใครบางคนแอบคันยุกยิกในใจจนใกล้จะเก็บอาการไม่อยู่เต็มทีแล้ว
"เอาล่ะ ๆ เลิกเล่นได้แล้วเด็ก ๆ มาคุยเรื่องสำคัญกันดีกว่า เล็กจะเอายังไงเกี่ยวกับเรื่องนี้บอกพ่อมาได้เลยลูก"
"เล็กอยากแก้แค้น แต่การแก้แค้นของเล็กอาจจะทำให้มูลค่าความเสียหายค่อนข้างสูง เงินในส่วนนี้เล็กขอเป็นคนรับผิดชอบเอง คุณพ่อหักในเงินปันผลของเล็กได้เลยครับ"
"เรื่องนั้นสำคัญที่ไหนกัน ลูกอยากทำอะไรพ่อต้องช่วยอยู่แล้วสิลูก"
รามิลจ้องมองบิดาอย่างทราบซึ้งใจ จะมีสักกี่คนที่ยอมทำตามความต้องการของลูก ๆ จนยอมสูญเสียผลประโยชน์จำนวนมหาศาล หากเป็นบางครอบครัวคงเลือกที่จะรักษาผลประโยชน์เอาไว้ แล้วปล่อยให้เรื่องของเด็กเงียบไปเอง
"อีก 2 วันข้างหน้าจะมีงานเลี้ยงเปิดโครงการใหม่ เล็กจะทำให้ภีรภัสได้แสดงตัวสมใจอยาก แต่เรื่องความสัมพันธ์ของคุณพ่อกับคุณอา..."
"ลูกไม่ต้องห่วงเรื่องนั้น พ่อรู้จักคมสันดี ถ้าลูกของมันทำผิด มันไม่เข้าข้างกันแน่นอน"
"ถ้างั้นเล็กจะเปิดโปงและถอนหมั้นในงานนั้นเลยนะครับ"
ยังไม่ทันที่ราชันจะได้ตอบรับลูกชายคนเล็ก เสียงของเหนือลมก็เอ่ยขึ้นเสียก่อน
"แต่ผมว่าคุณเล็กไม่จำเป็นต้องทำแบบนั้นหรอกครับ สู้รับบทเป็นผู้ถูกกระทำน่าจะดีกว่า"
น้ำเสียงเรียบนิ่งเอ่ยออกมาจุดประกายความสงสัย ทำให้รามิลนึกสนุกและรอฟังอย่างใจจดใจจ่อ
"ยังไงกันครับคุณเหนือ?"
"คุณเล็กยังไม่ได้ตอบกลับอะไรฝ่ายนั้นใช่ไหมครับ"
"ยัง เล็กยังไม่ได้ตอบอะไร"
"เท่าที่ผมให้คนสืบมา ภีรภัสเป็นคนทะเยอทะยานชอบการแข่งขัน ยิ่งเดิมพันสูงเท่าไหร่ เค้าก็ยิ่งทุ่มเทมากเท่านั้น"
"จริงด้วย! ขอบคุณครับคุณเหนือ เล็กรู้แล้วว่าต้องทำยังไงต่อ"
ราชัน ราม และปั้นสิบ ต่างจ้องมองรามิลและเหนือลมอย่างไม่เข้าใจ เหตุไฉนทั้งคู่พูดคุยกันแค่ไม่กี่ประโยคถึงได้เข้าใจกันทุกอย่าง
"เดี๋ยว ๆ ไม่คิดจะบอกคนอื่นเลยรึไง อยู่ ๆ มองตาก็รู้ใจกันแค่สองคน"
ใบหน้าเนียนเรียบขึ้นสีแดงเรื่อเมื่อได้ยินคำพูดเย้าแหย่ของเพื่อนสนิท ก่อนที่ปากกระจับจะค่อย ๆ บอกเล่าทุกอย่างให้ทุกคนฟัง
"เล็กจะทำให้ภีรภัสเปิดเผยความสัมพันธ์กับไอ้คนหลายใจนั่น ในงานเลี้ยงอีก 2 วันข้างหน้า ทำแบบนั้นความเสียหายก็จะไปตกที่พี่กรเต็ม ๆ ความสัมพันธ์ระหว่างคุณพ่อกับคุณอาก็ยังสามารถร่วมงานกันได้ ถ้าต้องการ"
"ทำแบบนั้นแล้วน้องเล็กจะสะใจได้ยังไงกัน!"
รามรู้สึกขัดใจไม่น้อยกับแผนการของน้องชาย ทำไมต้องให้คนมักมากพวกนั้นมาเยาะเย้ยถากถางน้องสาวของตนเอง
"ก็ถ้าเล็กเปิดเผยเอง นอกจากดูเป็นคนร้ายกาจ ยังดูเป็นคนสิ้นคิดด้วยนะสิครับพี่ใหญ่ เรื่องนี้ต้องเป็นกระแสดังไปทั่วโลกโซเชียลแน่นอน ความคิดเห็นก็จะแตกออกเป็นสองฝ่าย ทั้งเห็นใจ ทั้งสมเพช แต่ถ้าให้คนอื่นเป็นคนเปิดเผย เล็กก็ลอยตัวเหนือดราม่าได้แบบสบาย ๆ ความเสียหายต่าง ๆ ก็ไม่ต้องรับผิดชอบ ภีรภัสก็โดนจวกยับจนไร้ที่ยืน แบบนี้เล็กจะไม่สะใจได้ยังไงกัน จริงไหมครับคุณเหนือ"
รามิลพูดช้า ๆ อย่างชัดเจน น้ำเสียงใสปนความเฉียบขาดจนผู้เป็นพ่ออดภูมิใจในตัวลูกชายคนเล็กไม่ได้
"จริงครับ คุณเล็กเก่งมาก"
"ฮึย ของมันแน่อยู่แล้ว ฮะ ฮะ ฮะ"
"แล้วคุณเล็กจะกลับไปที่เพนเฮ้าส์แห่งนั้นอีกรึเปล่าครับ หรือจะให้ผมไปเก็บของออกมาให้ไหม"
"ไม่เอาล่ะคุณเหนือ ของในนั้นไม่มีอะไรน่าจดจำ เล็กไปซื้อใหม่ดีกว่า วันนี้ไปช้อปกันไหมปั้นสิบเพื่อนรัก"
"ไป ๆ ปั้นอยากไปทานข้าวกับที่รักพอดี"
ปั้นสิบยังคงเย้าแหย่เพื่อนรัก ถึงอย่างนั้นเจ้าตัวก็พอจะรู้ว่าเหนือลมคิดยังไงกับรามิล ที่พูดเย้าแหย่ไปก็เพื่อไม่ให้ทุกคนต้องเครียดบวกกับบุคลิกของปั้นสิบเป็นคนค่อนข้างแก่น ๆ ซน ๆ จึงเรียกรอยยิ้มจากทุกคนได้ง่ายขึ้น มีเพียงรามเท่านั้นที่หน้าบึ้งตึงเรียกร้องความสนใจจากปั้นสิบแต่ก็ไม่เป็นผล
"คุณพ่อ พี่ราม งั้นเล็กขอไปอาบน้ำแต่งตัวก่อนนะครับ"
"ไปเถอะลูก หลังจากจบเรื่องพวกนี้ พ่อว่าลูกควรพักจากโลกโซเชียล แล้วไปเที่ยวต่างประเทศสักหน่อยดีกว่าไหม รอให้สบายใจค่อยกลับมา ส่วนงานทางนี้เดี๋ยวพ่อกับเจ้าใหญ่จัดการเอง"
ราชันรู้ดีว่าหลังจากข่าวใหญ่กระจายออกไป คงมีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ออกมาหลากหลายแง่มุม เขาไม่อยากให้ลูกต้องมาเสียสุขภาพจิตกับเรื่องไม่เป็นเรื่องพวกนี้
"เอาแบบนั้นก็ดีเหมือนกันครับคุณพ่อ เล็กอยากไปเปิดประสบการณ์ ลองไปในที่ที่ไม่เคยไปเหมือนกัน"
"คุณเล็กลองไปเที่ยวบ้านผมดีไหมครับ รับรองว่าคุณเล็กต้องชอบแน่ ๆ "
เหนือลมเห็นว่าเป็นช่วงเวลาที่ดี ที่เขาจะได้บอกทุกอย่างให้รามิลรับรู้ว่าเขาเป็นใคร หรือมาจากไหน
"ดิลครับ"
กำปั้นเล็ก ๆ ยื่นออกไปตรงหน้าบอกดี้การ์ดด้วยความเคยชิน ส่วนอีกฝ่ายก็รีบตอบรับด้วยการชนกำปั้นกลับคืน ทว่าก็มีเหตุให้ทุกคนต้องรีบถอยมือออกจากกัน
"ดิลด้วย"
พรึบ พรึบ
"..." "..."
"โห่ ไรอ่า! มีผู้แล้วทิ้งเพื่อน"
"โอ๋ ๆ ปั้นสิบเพื่อนรัก เอาเป็นว่าเล็กจะซื้อหนมมาฝากนะ"
"ชิ งอนล้าว"
"ฮะ ฮะ ฮะ"
.
