ปั้นรักคืนใจราม

107.0K · จบแล้ว
ต้าซ้อ
37
บท
4.0K
ยอดวิว
7.0
การให้คะแนน

บทย่อ

ปั้นสิบ เด็กกำพร้าที่โตมาในสถานรับเลี้ยงเด็ก ด้วยสติปัญญาที่เฉลียวฉลาดทำให้ปั้นสิบสอบชิงทุนเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยชื่อดังที่มีแต่ลูกคนรวย ท่ามกลางผู้คนดูถูกดูแคลนปั้นสิบได้พบกับ รามิล ที่เป็นคนคอยช่วยเหลือ เอื้อเฟื้อและไม่ถือตัวเหมือนคนอื่น ๆ นับแต่นั้นทั้งคู่จึงเป็นเพื่อนรักกันยาวนานถึง 5 ปี กระทั่งถึงวันที่ปั้นสิบถูกลูกค้าในไนต์คลับวางยา แต่พี่ชายของรามิล "ราม" มาช่วยไว้ทัน แต่ทั้งคู่กลับเกินเลยจนมีคืนที่เร่าร้อนร่วมกันหลายต่อหลายครั้ง รามที่แอบชอบปั้นสิบมานานแล้ว พยายามยัดเยียดข่มขู่ให้ปั้นสิบรับผิดชอบตนเอง ตามเทียวไล้เทียวขื่อจนมีความสัมพันธ์กันนับครั้งไม่ถ้วน สุดท้ายปั้นสิบก็ยอมก้าวข้ามปมในใจ เปิดใจคบกับรามในฐานะคนรัก แต่เรื่องมันไม่จบสวยหรูเหมือนในเทพนิยาย ระหว่างที่ความรักของทั้งคู่กำลังดำเนินไปอย่างหวานซึ้ง ฮันน่า แฟนเก่าของรามกลับมาปั่นป่วนทำให้ทั้งคู่เกิดเรื่องบาดหมางจนมองหน้ากันไม่ติด รามที่หวงแหนปั้นสิบอยู่แล้ว ก็บ้าคลั่งขึ้นหลายเท่าเมื่อถูกฮันน่ายุแยง ตามอาละวาดเหมือนหมาบ้าไม่ฟังเหตุผลของคนรักเลยแม้แต่น้อย หลายต่อหลายอย่างที่ฮันน่าสร้างเรื่องให้ปั้นสิบต้องตกที่นั่งลำบาก จ้างคนข่มขืน จ้างคนเผาไนต์คลับ ปั้นสิบยังคงสู้สุดใจ ทว่าหลายต่อหลายเรื่องที่ประเดประดังเข้ามาไม่หยุดหย่อน ประจวบกับปั้นสิบรู้ว่าตัวเองท้อง คนตัวเล็กเรียกประชุมพนักงาน แบ่งเงินให้ลูกน้องทุกคนตามที่ควรจะได้รับแล้วหลบไปเริ่มต้นชีวิตใหม่กับลูกน้อยเพียงลำพัง ทว่า ฟ้ายังโหดร้ายกับปั้นสิบไม่เพียงพอ หลังจากปั้นสิบท้องได้ 3 เดือน หมอกลับตรวจพบว่าปั้นสิบมีเนื้องอกในสมอง ควรเข้ารับการผ่าตัดทันทีก่อนที่เนื้องอกจะขยายใหญ่จนเกิดความเสี่ยงมากกว่านี้ แต่การผ่าตัดอาจจะเกิดผลข้างเคียงกับเด็กในท้อง ทางที่ดีปั้นสิบควรยุติการตั้งครรภ์ก่อน ไม่ได้ ปั้นสิบไม่มีวันยอมทำร้ายเลือดเนื้อเชื้อไขของตนเอง เขาเกิดจากความรัก ลูกไม่มีความผิด เขาควรจะได้ลืมตาดูโลก ถึงไม่มีใครต้องการเค้า แต่แม่คนต้องการเค้า ต่อให้ปั้นสิบต้องเจ็บปวดจนตายไป ก็ไม่อาจทำร้ายลูกของตนได้

นิยายรักโรแมนติกนิยายรักดราม่าเศรษฐีฟินๆตั้งครรภ์คู่นอนคืนเดียวหลังหย่าตามง้อหนุ่มเจ้าสำราญแบดบอย

วางยา

นิยายเรื่องนี้ เป็นพาร์ทแยกมาจากนิยายเรื่อง ยอดดวงใจนายเหนือลม

"หนูปั้น ดื่มกับเสี่ยซักหน่อยได้ไหม? เสี่ยไม่ได้มาตั้งหลายวันคิดถึงหนูปั้นจะแย่"

ระหว่างที่ปั้นสิบกำลังคุยงานอยู่ที่หน้าบาร์กับลูกน้อง เสี่ยซ้งลูกค้าประจำที่ตามเทียวไร้เทียวขื่อปั้นสิบมาเป็นปีก็ยื่นแก้วเครื่องดื่มมาให้ ทั้งยังขยับมาชิดติดกันจนปั้นสิบต้องถอยร่น

"เสี่ยครับเสี่ย ผมเตรียมเด็กไว้รอที่โต๊ะแล้ว กลับโต๊ะกันดีกว่านะครับ แถวนี้คนเยอะแออัด เดี๋ยวเสี่ยจะไม่สบายตัว"

เมฆาหรือเมฆ ผู้จัดการร้านรีบเข้ามาจัดการอย่างทันท่วงทีโดยที่ผู้เป็นนายอย่างปั้นสิบไม่ต้องสั่งการให้ยุ่งยาก

"เฮ้ย ปล่อย! อั๊วไม่ไป อั๊วจะคุยกับหนูปั้น ไอขี้ครอกแบบพวกลื้อไม่ต้องมายุ่ง!"

เสี่ยพุงพลุ้ยเริ่มด่ากราดอย่างไม่ชอบใจที่ถูกขัดจังหวะจนผู้คนและแขกในร้านเริ่มหันมามอง

"ไม่เป็นไรครับพี่เมฆ เดี๋ยวปั้นจัดการเอง ยินดีที่ได้พบครับเสี่ย งั้นแก้วนี้ปั้นดื่มให้เสี่ย เสร็จแล้วปั้นจะส่งคนไปดูแลที่โต๊ะนะครับ"

ปั้นสิบจำต้องรับเครื่องดื่มในมือของเสี่ยซ้งมาดื่มเพราะไม่อยากให้เรื่องลุกลามบานปลาย แม้การกระทำเช่นนี้จะมีความเสี่ยงค่อนข้างสูง แต่ยังไงก็อยู่ในที่ของตนเอง อีกทั้งพื้นที่ส่วนตัวของปั้นสิบยังมีการ์ดคอยคุ้มกันไม่ให้คนนอกผ่านเข้าไปได้

"ได้สิจ๊ะ ขอแค่หนูปั้นให้เกียรติชนแก้วกับเสี่ย แค่นี้เสี่ยก็พอใจแล้ว"

เคร้ง~

"..."

ปั้นสิบยกแก้วเครื่องดื่มกระดกรวดเดียวหมด ก่อนจะส่งแก้วให้ลูกน้องนำไปเก็บ ส่วนเสี่ยซ้งก็มีท่าทีเหมือนจะเดินกลับไปที่โต๊ะไม่ได้ก่อเรื่องอะไรต่อ ทว่า!

"เอ่อ หนูปั้นพาเสี่ยไปส่งที่หน้าห้องน้ำหน่อยได้ไหมจ๊ะ เสี่ยอยากปล่อยเบาสักหน่อยก่อนจะรีบกลับไปหาเพื่อนที่โต๊ะ"

"เชิญทางนี้ครับ"

ปั้นสิบนำทางลูกค้าไปแต่โดยดี แต่ก่อนไปปั้นสิบไม่ลืมที่จะส่งสัญญาณให้ลูกน้องตามไปติด ๆ

เสี่ยซ้งเข้าไปในห้องน้ำและจัดการกับธุระของตัวเองไม่นานก่อนจะออกมาด้วยท่าทางปกติไม่มีพิรุจ เห็นแบบนั้นปั้นสิบจึงเดินกลับไปส่งที่โต๊ะ พร้อมกับสั่งให้ลูกน้องดูแลแขกให้ดี

"ผมขอตัวไปดูงานด้านนู้นก่อนนะครับเสี่ย เด็ก ๆ ดูแลเสี่ยให้ดีนะ"

"ค่ะ/ครับ"

เจ้าของผับตัวเล็กจ้อยกำลังเดินตรวจภายในร้านเฉกเช่นทุกวัน ทว่าเจ้าตัวกลับรู้สึกร้อนรุ่มในตัวเหงื่อเม็ดเล็กผุดพรายขึ้นตามกรอบหน้า การเต้นของหัวใจรัวเร็วอย่างไม่เคยเป็น ทั่วทั้งตัวของปั้นสิบเริ่มร้อนผ่าวจนสายตาพร่าเบลอ

"หนูปั้น ให้เสี่ยพาไปพักดีไหมจ๊ะ"

"เสี่ย! ปล่อย!"

"หึ! ปล่อยก็โง่สิว่ะ มาม๊ะอีหนู ไปมีความสุขกับเสี่ยดีกว่า"

เสี่ยซ้งคอยมองตามปั้นสิบตลอดเวลา กระทั่งเห็นปั้นสิบเดินออกมาพักตรงจุดอับที่ไม่ค่อยมีใครเดินมา เฒ่าหัวงูที่รอจังหวะนี้มานานจึงรีบเข้าจู่โจมทันที

"ปะ...ปล่อย บอกให้ปล่อย ชะ...ช่วยด้วย~"

น้ำเสียงร้องขอความช่วยเหลือแหบพร่าถูกกลบด้วยเสียงเพลงกระหึ่ม ราวกับว่าไม่มีใครพูดอะไรออกมา ในจังหวะที่ปั้นสิบกำลังจะถูกพาตัวไปที่ไหนสักแห่ง บาทาใหญ่ของใครบางคนก็กระแทกเข้ากลางลำตัวเสี่ยซ้งเข้าอย่างจัง

พลั่ก!

"เค้าบอกให้ปล่อยก็ปล่อยสิว่ะ!

"โอ๊ย มึง! อย่ามาแส่เรื่องของผัวเมียเค้าจะคุยกัน เฮ้ยพวกมึงเข้ามาจัดการมัน"

เสี่ยซ้งหันไปจ้องหน้าชายหนุ่มอย่างเอาเรื่อง พร้อมกับเรียกลูกน้องที่รอรับตัวปั้นสิบให้เข้าไปจัดการกับชายหนุ่มที่กล้ามาทำร้ายตนเอง

"พะ...พี่ใหญ่ ช่วยปั้นด้วย"

"รู้ว่าอันตรายก็ยังจะดื่ม ทิว เรียกการ์ดมาจัดการไอ้แก่นี่ซะ อ้อ บอกเมฆขึ้นบัญชีดำ อย่าให้พวกมันเข้ามาที่นี่ได้อีก"

ระหว่างที่รามกำลังไปดึงตัวปั้นสิบเข้ามาในอ้อมกอด เจ้าตัวก็สั่งงานลูกน้องใต้บังคับบัญชาให้นำคนของร้านมาจัดการเสี่ยตัณหากลับพร้อมกับลูกน้องของมันไปให้พ้นหน้า

"ครับคุณราม"

"เฮ้ย ปล่อย! ปล่อยอั๊วนะโว้ย! พวงลื้อเป็นใคร กล้าดียังไงมาจับอั๊ว มึง! ไอ้เด็กเมื่อวานซืน คิดผิดแล้วที่กล้ามาทำแบบนี้กับอั๊ว ลื้อรู้ไหมว่าอั๊วเป็นใคร รีบปล่อยอั๊วนะโว้ย ไม่งั้นบ้านลื้อโดนถล่มแน่"

ชายสูงวัยร้องลั่นอย่างไม่พอใจเมื่อถูกการ์ดของร้านเข้าควบคุมตัวอย่างไม่ไว้หน้า อย่างไรเสียเจ้าตัวก็คิดว่าบริษัทรับเหมาก่อสร้างของตนเองนั้นใหญ่โตไม่น้อยหน้าใคร หากหลุดออกจากตรงนี้ไปได้คงต้องจัดการเด็กหนุ่มปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมให้ได้

"มาดิ! ช่วยไปถล่มให้กูที พอดีอยากสร้างบ้านใหม่! คฤหาสน์ กีรติเมธา ฝากด้วยนะ ซ้งคอนสตรัคชั่น!"

น้ำเสียงเรียบนิ่งพร้อมกับรอยยิ้มที่มุมปากของเด็กหนุ่ม ทำเอาเสี่ยซ้งถึงกับเหงื่อตกเมื่อรู้ว่าตนเองมีเรื่องกับใคร  ใช่! กีรติแอคเซส บริษัทนักลงทุนยักษ์ใหญ่ที่เป็นของครอบครัว กีรติเมธา หรือจะเรียกง่าย ๆ ก็คือ กีรติเมธา เป็นเจ้านายของเจ้านายเสี่ยซ้งอีกต่อหนึ่ง

หากไม่มีเงินทุนจาก กีรติแอคเซส โครงการบ้านจัดสรรและคอนโดหลายที่คงไม่ผุดขึ้นราวดอกเห็ด และหากไม่มีโครงการเหล่านั้น บริษัทของเสี่ยซ้งคงดำเนินมาไม่ถึงจุดนี่ภายในเวลาไม่กี่ปี อย่างนี้ไม่เท่ากับเค้ากำลังแกว่งเท้าหาเสี้ยนหรอกหรือ

พรึบ

"คะ..คุณคือคุณราม ลูกชายของคุณราชันใช่ไหมครับ ผะ...ผมขอโทษ ผมมันปากสวะไม่รู้ที่ต่ำที่สูง ได้โปรดอย่าถือสาผมเลยนะครับ ส่วนเด็กนั่นถ้าคุณรามชอบผมยกให้เลย แต่อย่าให้ทุกอย่างมีผลอะไรกับงานของผมเลยนะครับ"

คำพูดของเสี่ยซ้งกลับทำให้รามโกรธจนควันออกหู ไอ้แก่นี่กล้าดียังไงมายกปั้นสิบให้ใครก็ได้ตามใจตัวเอง แล้วถ้าคืนนี้เป็นคนอื่นที่ช่วยปั้นสิบ คนตัวเล็กในอ้อมกอดของเขาไม่ต้องตกเป็นของคนอื่นอย่างนั้นหรือ

"รู้ไหม ถ้ามึงไม่พูดประโยคเมื่อกี้ มึงก็เกือบจะรอดแล้วล่ะ มึงไม่มีสิทธิ์มายกปั้นสิบให้ใครก็ได้!"

ปั่ก!

"อ๊าค! อึก"

เฒ่าหัวงูขดตัวงอลงกับพื้นใช้มือกุมเป้าตัวเองพร้อมกับส่งเสียงร้องเพียงครั้งเดียว แต่ความเจ็บปวดที่มีเกินกว่าจะบรรยายได้  ทั้งไม่รู้ว่านอนน้อยลูกรักจะสามารถใช้งานได้อีกหรือไม่ เพราะลูกเตะที่รามถวายให้มันเข้าตรงกล่องสืบพันธุ์อย่างเหมาะเจาะ

"ลากตัวมันออกไปทิ้งหน้าผับ พรุ่งนี้แจ้งไปยังโครงการให้เปลี่ยนผู้รับเหมาใหม่"

"ครับคุณราม"

ทิวสนรีบจัดการตามที่ผู้เป็นนายสั่ง ส่วนรามต้องมาคิดต่อว่าจะจัดการยังไงกับปั้นสิบที่ตัวแดงจวนจะระเบิดเต็มทีแล้ว

"เอาไงดีว่ะเนี่ย ไอ้แก่นี่มันเล่นยาแรงเลยหรอว่ะ!"

"กะ..กลับห้อง พี่ใหญ่พาปั้นกลับห้อง อื้ม  ซี๊ดด~"

"อย่าครางแบบนั้นปั้นสิบ!"

พรึบ

ร่างของปั้นสิบลอยหวือขึ้นไปอยู่ในอ้อมกอดของรามอย่างง่ายดาย แต่ดูเหมือนเจ้าตัวจะไม่มีสติรับรู้อะไรแล้ว โชคดีที่เมฆาเดินมาทันเวลาพอดี

"คุณรามสวัสดีครับ แล้วคุณปั้น..."

เมฆาจ้องมองไปที่เจ้านายตัวน้อยที่ตนเองรักไม่ต่างจากน้องชายคนหนึ่ง แต่ยังคงไว้ซึ่งความเป็นเจ้านายและลูกน้อง โชคดีที่เป็นรามที่อยู่กับปั้นสิบ ซึ่งเขาก็รู้จักและคุ้นเคยกับรามและรามิลเป็นอย่างดี จึงไม่ต้องห่วงเรื่องความปลอดภัย

"ไอ้แก่นั่นมันวางยา นำทางผมไปที่ห้องของปั้นหน่อยพี่เมฆ"

"ครับ ๆ เชิญทางนี้เลยครับ"

เมฆารีบเดินนำทางรามลัดเลาะไปตามเส้นทางที่มีเพียงพนักงานของร้านเท่านั้นที่เข้าได้ ตลอดทางเดินพนักงานในร้านหลายสิบชีวิตต่างจ้องมองเจ้านายตัวน้อยที่บิดเร่าอยู่ในอ้อมกอดของรามด้วยความเป็นห่วง อาการเช่นนี้ไม่ต้องบอกทุกคนก็พอจะรู้ว่าเจ้ปั้นของพวกเขาโดนวางยาเข้าให้แล้ว

"อยู่นิ่ง ๆ ปั้นสิบ อย่าล้วง! ซี๊ด เดี๋ยวจับกดเลยดีไหม"

ทุกย่างก้าวของรามเริ่มมีอุปสรรคเพราะมือของคนตัวเล็กที่อยู่ในอ้อมกอดเริ่มสอดแทรกเข้าไปในสาบเสื้อเชิ้ตของชายหนุ่ม เท่านั้นยังไม่พอเพราะมือเรียวเล็กไปสะดุดเข้ากับยอดอกที่แข็งเป็นไตจนอดไม่ได้ที่บีบบี้ดึงเล่นอย่างพอใจ

ทั้งสามคนเดินผ่านการ์ดที่เฝ้าอยู่ชั้นสองเพื่อเข้าสู่พื้นที่ส่วนตัวที่อยู่ชั้นสามของตึก ซึ่งรามและรามิลก็สามารถเข้าออกที่นี่ได้ตลอดเวลาที่มาหาปั้นสิบ พนักงานทุกคนในร้านต่างก็รู้จักสองคนพี่น้องในฐานะคนสำคัญของเจ้านาย

"ถึงแล้วครับคุณราม"

แอดด~

"พะ...พี่ใหญ่ช่วยปั้น ปั้นร้อน ซี๊ดด~ ช่วยปั้นหน่อย"

รามกับเมฆามองหน้ากับเลิ่กลั่ก จนเมฆารีบขอตัวออกไปทำงานต่อ

"ผมขอตัวก่อนนะครับคุณราม ฝากดูแลคุณปั้นด้วยนะครับ"

แคว่ก~

"ร้อน อ๊าาา~ ปั้นร้อน"

"ปั้นสิบ อย่าฉีก! ไปเถอะพี่เมฆ ฝากบอกผู้ช่วยกับลูกน้องของผมให้กลับก่อนได้เลย ถ้ามีอะไรเดี๋ยวผมโทรหาเอง"

รามจำต้องรีบเอาตัวบังปั้นสิบเอาไว้ เพราะตอนนี้เจ้าตัวฉีกเสื้อของตัวเองออกจนช่วงอกจนเปลือยเปล่าแล้ว

"ครับคุณราม"

กรึบ~

"เอาไงดีว่ะเนี่ย ปั้นสิบ! ปั้นสิบตั้งสติหน่อย"

เมื่อเมฆาออกจากห้องไปแล้วรามจึงวางปั้นสิบลงที่โซฟากลางห้อง ทว่าคนตัวเล็กที่กำลังตัวเองแดงกลับปลดเปลื้องเสื้อผ้าของตัวเองออกอย่างร้อนรน จนคนที่จ้องมองต้องกลืนน้ำลายอึกใหญ่

"อึก! ปั้นสิบพอแล้ว มานี่เลย หนูจะไปยืนแก้ผ้าให้คนอื่นดูแบบนี้ไม่ได้เด็ดขาด จำไว้นะ"

ร่างของปั้นสิบลอยหวืออีกครั้งเมื่อรามอุ้มคนตัวเล็กเดินเข้าไปในส่วนของห้องนอน แล้วตรงเข้าไปที่ห้องน้ำทันที

ซ่า~  ซ่า~

"นั่งนิ่ง ๆ"

รามจำต้องลงไปนั่งในอ่างเพื่อล็อกตัวปั้นสิบเอาไว้ นาทีนี้ต้องระบายความร้อนออกจากตัวของปั้นสิบให้ได้ ไม่อย่างนั้นคนตัวเล็กคงช็อกหมดสติไปเสียก่อน

"ช่วยปั้น พี่ใหญ่ช่วยปั้นหน่อย ปั้นร้อน ปั้นไม่ไหว อ๊าาา~"

คนพี่ทั้งต้องหักห้ามใจตัวเองไม่ให้เผลอรังแกเพื่อนสนิทของน้องชายที่ตนเองแอบจ้องมาเป็นปี ๆ แต่ดูเหมือนคนตัวเล็กที่ดิ้นยุ๊กยิ๊กอยู่ในอ้อมกอดจะร่ำร้องขอให้เขารังแกเหลือเกิน

"ใจเย็น ๆ ปั้นสิบ เดี๋ยวก็ดีขึ้น พี่อยู่กับหนูตรงนี้แล้ว ไม่มีใครทำอะไรหนูได้"

"ซี๊ดด~ พะ...พี่รามไม่เข้าใจ! ก็ปั้นอยากให้ทำ ถ้าพี่รามไม่ทำก็ออกไป ปั้นจะไปเรียกคนอื่นมาทำ"

คำพูดของปั้นสิบทำเอารามโกรธจนควันออกหู เขาอุตส่าห์แอบเล็งแอบเฝ้าดูปั้นสิบมาเป็นปี ๆ ทำทุกอย่างไม่ให้ใครเข้าใกล้ปั้นสิบได้  เรื่องอะไรจะปล่อยให้คนอื่นมาเสวยสุขต่อหน้าต่อตา

"หนูขอเองนะปั้นสิบ! ตื่นมาต้องรับผิดชอบพี่ด้วย ห้ามหลบหน้าพี่เด็ดขาด"

"ระ...รู้แล้ว เข้ามาซะที เข้ามาเร็ว ๆ "

พรึบ~

เสื้อผ้าของรามถูกขว้างทิ้งอย่างไม่แยแส ก่อนที่ร่างกำยำจะลุกขึ้นจากอ่างน้ำ พร้อมกับอุ้มคนตัวเล็กที่เปลือยเปล่าไปต่อที่เตียงตามคำเรียกร้อง