ระวังจะมีผัวเป็นหมา!
วันงานเปิดตัวโครงการบ้านจัดสรรที่ กีรติแอคเซส ร่วมทุนสร้างกับ พงศ์นิธิกุลเดชกรุป ทุกอย่างแทนที่จะผ่านไปได้ด้วยดี แต่กลับถูกภีรภัส คนรักเก่าของคิรากรเข้ามาป่วนจนงานพังไม่เป็นท่า สุดท้ายความสัมพันธ์ระหว่างรามิลและคิรากร ก็ดำเนินมาถึงจุดสิ้นสุดในวันนี้
สำนักข่าวต่าง ๆ ที่ถูกเชิญมาทำข่าวงานเปิดตัวบ้านจัดสรร กลับได้ข่าวฉาวระหว่างสองตระกูลกลับไปตีแผ่กันอย่างเมามัน คนที่ถูกสังคมตราหน้าเห็นทีจะเป็นภีรภัสเพราะเป็นมือที่สามของคนอื่น แต่ถึงอย่างนั้นเจ้าตัวกลับคิดว่าตนเองชนะ ที่สามารถแย่งตัวคิรากรกลับไปเป็นของตัวเองได้สำเร็จ
แต่สิ่งที่ภีรภัสไม่รู้ก็คือ ตนเองกำลังเล่นอยู่ในเกมที่รามิลวางไว้ก็เท่านั้น
[ฉากนี้อยู่ในนิยายเรื่อง ยอดดวงใจนายเหนือลม นะคะ ใครที่ยังไม่ได้อ่านต้องรีบไปอ่านน๊า จะได้ไม่งงกับความสัมพันธ์ของตัวละครที่ไรต์กล่าวถึง]
บรื้น~ เอี๊ยด
Maserati Ghibli คู่ใจของปั้นสิบจอดเทียบหน้าตึกใหญ่ในคฤหาสน์ กีรติเมธา ซึ่งมีรามิลยืนรออยู่ก่อนหน้าแล้ว วันนี้ทั้งคู่จะพากันไปตรวจที่โรงพยาบาลตามที่นัดกันไว้ ยิ่งช่วงที่เพื่อนสนิทเจอมรสุมหนักหน่วง ปั้นสิบจึงไม่อาจเพิกเฉยอยู่ได้
"รอนานไหมคุณเล็ก?"
กรึบ~
"ไม่นานหรอกปั้น ไปกันเถอะ"
"อื้อ ทำใจให้สบายนะคุณเล็ก ไม่ว่าเค้าจะเกิดอะไรขึ้น คุณเล็กยังมีปั้นอยู่เคียงข้างเสมอ"
ปั้นสิบกุมมือรามิลที่เย็นเฉียบเอาไว้ หลังจากที่อีกฝ่ายขึ้นมานั่งในรถเรียบร้อยแล้ว
"ขอบใจมากนะปั้น บอกตรง ๆ เลยว่าเล็กมืดแปดด้านจริง ๆ เล็กจะบอกคุณพ่อกับพี่ใหญ่ยังไง เล็กจะทำให้ทุกคนเสียใจอีกไหม แค่เรื่องเมื่อคืนก็ได้รับผลกระทบกันมากพอแล้ว"
เจ้าของรถทำหน้าที่เป็นสารถีที่ดี ขับรถอย่างระมัดระวังทั้งยังคอยรับฟังความทุกข์ในใจของเพื่อนสนิทไปด้วย ทว่าสายตาคู่คมกลับมองเห็นรถของเหนือลม บอดี้การ์ดคู่ใจของรามิลตามติดมาตลอดทาง แต่ปั้นสิบก็ไม่ได้กระโตกกระตากแต่อย่างใด
"อย่าเพิ่งคิดไปเองสิคุณเล็ก การมาของเด็กคนนี้อาจเป็นสิ่งที่ทุกคนเฝ้ารอก็ได้นะ เค้าอาจจะเป็นเรื่องดี ๆ ที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่เลวร้าย เชื่อเถอะว่าสุดท้ายเค้าอาจจะเป็นความสุขที่ทุกคนเฝ้ารอก็เป็นได้"
ปั้นสิบกับรามิลเป็นเพื่อนกันมา 5 ปี นับตั้งแต่ที่เจอกันในรั้วมหาลัย ปั้นสิบเป็นเพียงเด็กกำพร้าที่ได้รับทุนการศึกษาให้เข้ามาเล่าเรียนในมหาลัยชื่อดัง ท่ามกลางดงผู้รากมากดี เป็นความโชคดีของเขาที่ได้รู้จักรามิลที่มีนิสัยเอื้อเฟื้อแตกต่างจากลูกคุณหนูบางกลุ่ม ที่มีการแบ่งแยกชนชั้นอย่างชัดเจน
หลายต่อหลายครั้งที่ปั้นสิบถูกกดขี่ ดูถูกดูแคลน แต่ก็มีรามิลอยู่เคียงข้าง จากวันนั้นเป็นต้นมาปั้นสิบจึงใช้ความเจ็บปวด การถูกกดขี่ข่มเหง บลูลี่พื้นฐานชีวิตที่ด่างพร้อย หล่อหลอมให้ตัวเองเป็นคนที่แข็งแกร่งในช่วงเวลาเพียง 3 ปี ปั้นสิบรับจ้างเขียนงานทุกอย่างให้ลูกเศรษฐีมีเงินแต่ไม่มีความพยายาม ยอมทุ่มเงินไม่อั้นเพื่อให้ตัวเองมีงานส่งแลกเกรด เพราะเงินที่พวกเขาจ่ายออกไปเป็นเพียงเศษเงินที่มีอยู่เท่านั้น
ทว่าเงินก้อนนั้นกลับทำให้ปั้นสิบได้กลายเป็นเจ้าของไนต์คลับทั้งที่เพิ่งเรียนอยู่ ปี 3 และได้รับความช่วยเหลือจากครอบครัวของรามิลในบางมุมที่จำเป็นต้องใช้เส้นสาย เชื่อว่าสถานบันเทิงทุกที่ย่อมต้องมีบางเรื่อง ที่ยากจะพูดออกมาได้ แม้จะยากลำบากแต่ปั้นสิบก็สู้ไม่ถอย เหนื่อยก็ต้องทน เพราะความจนมันน่ากลัว
"เล็กก็หวังว่าอย่างนั้น แต่ถึงจะไม่มีใครต้องการเค้า เล็กก็จะเลี้ยงเค้าให้ดี"
"เลอะเทอะไปใหญ่แล้วคุณเล็ก ปั้นยังอยู่ตรงนี้ทั้งคนนะ จะไม่มีใครต้องการเค้าได้ยังไง"
ทั้งคู่ใช้เวลาขับรถไม่ถึงชั่วโมงก็มาถึงโรงพยาบาลที่เป็นเป้าหมาย หางตาของปั้นสิบยังเห็นรถของเหนือลมตามอยู่ตลอดทางทั้งที่รามิลบอกว่าจะมาเองเป็นการส่วนตัวก็ตาม เพื่อนของเขาช่างโชคดีโดยแท้ที่มีเหนือลมคอยตามดูแลอยู่ไม่ห่าง
กรึบ~ กรึบ~
"ฟืดด เฮ้อ~"
รามิลสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ เมื่อลงจากรถแล้ว ปั้นสิบเห็นแบบนั้นจึงรีบเดินมาจับมือเพื่อนแล้วพาเข้าไปด้านในตึก
"อย่ากังวลไปเลยคุณเล็ก ไปกันเถอะ"
"อื้อ"
ทั้งคู่เดินไปติดต่อที่หน้าเคาร์เตอร์ ไม่นานก็มีพยาบาลเดินนำทางให้เข้ารับการตรวจเช็กร่างกายตามจุดต่าง ๆ กระทั่งส่งตัวรามิลเข้าห้องตรวจ
ภายในโรงพยาบาลเอกชนแห่งใหญ่ ผู้คนมากมายกำลังเดินสวนกันเพื่อไปยังจุดหมายของตน หน้าห้องตรวจแผนกสูติฯ ปั้นสิบกำลังนั่งรอเพื่อนสนิทอย่างใจจดใจจ่อ เมื่ออีกฝ่ายหายเข้าไปภายในห้องตรวจนานนับ 20 นาทีแล้ว
ครืดดด
"เป็นไงบ้าง?"
ทันทีที่เห็นรามิลเดินออกมาจากห้อง ปั้นสิบรีบเดินเข้าไปหาและถามในสิ่งที่ตนรอฟังอยู่
"อื้อ"
รามิลทำเพียงพยักหน้าเบา ๆ เป็นการตอบกลับเพื่อนรัก เพียงเท่านั้นปั้นสิบก็รู้แล้วว่ากำลังมีอีกหนึ่งชีวิตอยู่ในท้องของอีกฝ่าย ทางด้านคนที่ยืนหลบมุมเสาอยู่ก็ใจกระตุกวูบเพราะพอจะคาดเดาได้ว่าเกิดอะไรขึ้น
เมื่อเช้ารามิลขอออกมาข้างนอกกับปั้นสิบ โดยไม่ยอมให้ใครตามมาด้วย แม้แต่เหนือลมก็ตาม นั่นยิ่งทำให้เหนือลมเป็นห่วงหนักเข้าไปอีก จึงเป็นเหตุให้เขาต้องมายืนหลบมุมอยู่ในตอนนี้
"ไม่เป็นไรนะ เดี๋ยวปั้นจะช่วยเลี้ยงหลานเอง คุณเล็กต้องเข้มแข็งรู้ไหม?"
"อื้อ ไปกันเถอะ"
รามิลเห็นว่าเริ่มมีคนหันมามองตนเอง พร้อมกับก้มลงมองหน้าจอโทรศัพท์ จึงพอจะรู้ได้ว่าทุกคนคงรู้จักตนผ่านข่าวใหญ่ในช่วงเช้าที่ผ่านมา
ทั้งคู่เดินออกมากำลังจะถึงรถของปั้นสิบ ทางด้านรามิลมัวแต่เหม่อลอยจนไม่ทันได้มองดูรถที่กำลังแล่นเข้ามาจนเกือบโดนรถเฉี่ยว
ปี๊กกกก~
พรึบ
"คุณเล็กระวัง!"
เหตุการณ์ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมากจนรามิลไม่ทันได้ตั้งตัว รู้ตัวอีกทีร่างกายของเขาก็อยู่ในอ้อมกอดแกร่ง เจ้าของกลิ่นกายที่คุ้นเคยแล้ว
"ฮึก คะ..คุณเหนือ เล็ก อึก เล็กท้องลูกของเค้า"
"ขึ้นรถก่อนครับ รบกวนคุณปั้นช่วยขับรถให้หน่อยนะครับ ผมขอคุณกับคุณเล็กก่อน"
"ได้ ๆ ขึ้นเลย ๆ"
ปั้นสิบไม่ตอบรับเปล่า ๆ เจ้าตัวยังรีบวิ่งไปเปิดประตูหลังให้เพื่อนรักและบอดี้การ์ดคนสนิทอีกด้วย เมื่อเสร็จเรียบร้อยก็กลับมาทำหน้าที่สารถีขับรถออกไปอย่างระมัดระวัง
เจ้าของรถพอจะดูออกว่าเหนือลมคิดยังไงกับเพื่อนของตน และปั้นสิบก็เชื่อว่าเรื่องเด็กในท้องของรามิล เหนือลมต้องรับได้อย่างแน่นอน
"หมอบอกว่ากี่เดือนแล้วครับ"
"7 สัปดาห์ เล็กจะเลี้ยงเค้าให้ดี ถึงจะไม่มีพ่อ แต่เล็กจะเลี้ยงเค้าให้ดี อึก"
"ผมเชื่อว่าคุณเล็กทำได้ แต่คุณเล็กจะรังเกียจไหมครับ ถ้าผมจะขอเป็นพ่อของลูก ขอเลี้ยงดูเค้าไปพร้อมกับคุณเล็ก"
รามิลแทบไม่อยากเชื่อหูตัวเองว่าจะได้ยินคำพูดเหล่านี้ หลังจากที่ถอนหมั้นมาเพียงหนึ่งวันก็มีคนมาขอเป็นพ่อของลูกเสียแล้ว
"มะ..หมายความว่า คุณเหนือจะเซ็นรับเป็นพ่อของลูกให้เล็กหรอ?"
"ทั้งนิตินัยและพฤตินัยครับ คุณเล็กพอจะเปิดใจให้นายเหนือลมคนนี้ได้ไหม"
มือหนาเกลี่ยหยดน้ำตาออกจากแก้มเนียนให้คนบนตัก มืออีกข้างกระชับร่างเล็กเข้าสู่อ้อมกอดจนเจ้าตัวเริ่มเขินอายจนหน้าแดงก่ำ
"คุณเหนือ~"
"ผมรู้ว่ามันเร็วไป แต่ผมไม่เร่งคุณเล็กแน่นอน ค่อยเป็นค่อยไปก็ได้ ผมขอแค่โอกาสเท่านั้น"
ความอ่อนไหวในใจของรามิลทำให้เผลอสบตาเหนือลมอยู่หลายนาที หลายปีที่รามิลใช้ชีวิตอยู่กับคิรากร ไม่เคยมีครั้งไหนที่เขารู้สึกมีความสุขได้มากเท่านี้ การถูกรักมันดีแบบนี้นี่เอง
"แฮ่ม ๆ ถ้าคุณเล็กปฏิเสธ ปั้นสิบคนนี้พร้อมต่อคิวนะครับคุณเหนือ ฮ่า ฮ่า ฮ่า"
ปั้นสิบที่ขับรถอยู่เทียวมองกระจกหลังจนนั่งแทบไม่ติด ไม่อยากคิดเลยว่าถ้ามีคนมาพูดแบบนี้กับตัวเองจะดีแค่ไหน ใจหนึ่งปั้นสิบก็อยากเปิดใจให้ราม แต่อีกใจก็กลัวว่าจะเจ็บเหมือนครั้งในอดีต พอคิดมาถึงจุดนี้ปั้นสิบจึงได้แต่ส่ายหัวเบา ๆ เพื่อไล่ความคิดของตนเอง
"ฝันไปเถอะเพื่อนปั้น คุณเหนือต้องเป็นของคุณเล็กเท่านั้น ชิ!"
"หมายความว่าคุณเล็กก็เป็นของคุณเหนือเหมือนกันใช่ไหมครับ"
"งื้ออ คุณเหนือ~ รู้แล้วยังจะมาถาม เล็กเขินนะ"
"โอ๋ ๆ นะครับคนดี ยังมีอีกหลายอย่างที่คุณเหนือต้องบอกคุณเล็ก พรุ่งนี้เราเดินทางไปบ้านคุณเหนือกันเลยนะครับ"
"อื้อ"
ตลอดการเดินทางกลับคฤหาสน์กีรติเมธา ปั้นสิบกลายเป็นอากาศธาตุไปเสียแล้ว ส่วนคู่รักคู่ใหม่ก็นั่งกันกะหนุงกะหนิงไปสุดทางกระทั่งถึงที่หมาย
ภายในห้องนั่งเล่นของคฤหาสน์
"ทำไมทำหน้าแบบนั้นล่ะลูก ตัวเล็กมีอะไรอยากจะบอกพ่อไหม?"
ราชันเอ่ยถามลูกชายคนเล็กที่กำลังเดินเข้ามาในห้องนั่งเล่นด้วยสีหน้ากังวลใจ
"คุณพ่อครับ พี่ใหญ่ คือเล็ก...เล็กท้องได้ 7 สัปดาห์แล้ว~"
น้ำเสียงแผ่วเบาปนรู้สึกผิดของรามิล กลับทำให้คนเป็นพ่อและพี่ชายใจพองโตด้วยความตื่นเต้น การมีอีกหนึ่งชีวิตเพิ่มขึ้นมา ไม่ใช่ปัญหาอะไรกับตระกูล กีรติเมธา ทุกคนมีความรักมากจนล้นเหลือที่จะมอบให้เลือดเนื้อเชื้อไขที่กำลังจะเกิดมา
"เรื่องดี เป็นเรื่องดีนะเนี่ยลูก แม่ชื่น แม่ชื่นมาหาฉันเร็วเข้า"
รามิลถึงกับหน้าเหว๋อเมื่อเห็นผู้เป็นบิดายิ้มร่าอย่างผิดคาด เดิมทีเขาคิดว่าตัวเองคงทำให้พ่อและพี่ชายผิดหวัง ถึงขึ้นอยากจะย้ายออกจากคฤหาสน์แห่งนี้ไปใช้ชีวิตอยู่กับลูกน้อยเพียงลำพังเสียด้วยซ้ำ
"มาแล้วค่ะคุณท่าน คุณท่านมีอะไรให้ชื่นรับใช้คะ"
คุณแม่บ้านใหญ่วิ่งกระหืดกระหอบออกมาหาผู้เป็นนายอย่างเร่งรีบ ก่อนจะเอ่ยถามถึงสิ่งที่ประมุขของบ้านกำลังจะมอบหมาย
"เดี๋ยวมื้อเย็นจัดอาหารชุดใหญ่ไว้เลยนะ ฉันจะเลี้ยงต้อนรับการมาของเจ้าตัวเล็ก"
"ได้ค่ะคุณท่าน"
หลังจากรับคำสั่งของผู้เป็นนายเสร็จ คุณแม่บ้านใหญ่ก็ขอตัวออกไปจัดเตรียมงานอย่างรวดเร็ว
"คุณพ่อไม่โกรธเล็กเหรอครับ เล็กท้องตอนนี้ก็กลายเป็นท้องไม่มีพ่อนะครับ"
"แฮ่ม ๆ"
เหนือลมได้ยินแบบนั้นก็รีบกระแอมไอเพื่อเตือนสติรามิล
"ไงเจ้าเหนือ อยากรับเป็นพ่อของหลานฉันรึไง ทำเป็นไอขัดจังหวะเชียวนะ หึ ๆ"
ราชันหันไปยิ้มให้กับลูกน้องในนามอย่างรู้ทัน หลายปีที่ผ่านมาเขาและลูกชายเฝ้ามองดูการกระทำของเหนือลมมาโดยตลอด การรักอยู่ฝ่ายเดียว ซ้ำยังส่งคนที่ตนรักให้ไปเป็นของคนอื่น ถือเป็นเรื่องที่เจ็บปวดพอตัว หากเป็นเขายังไม่อาจรู้ได้ว่าจะทนได้เท่าเด็กหนุ่มตรงหน้าหรือไม่
"ขออนุญาตเรียนว่า คุณเล็กตกลงแล้วครับ เผื่อท่านยังไม่ทราบ"
เหนือลมยิ้มกริ่มพร้อมกับจ้องหน้าคนที่ตนเองหลงรักและเฝ้ารอวันนี้มานาน เมื่อรามิลเป็นอิสระแล้ว เขาก็ไม่จำเป็นต้องรอช้าอีกต่อไป
"หืออ~ ยังไงกันลูก"
"คะ..คือว่า คุณเหนือขอโอกาส เล็กก็เลยตอบตกลงไปแล้วครับ คุณพ่อจะว่าเล็กใจง่ายเกินไปไหม?"
"ไม่เลย พ่อไม่ว่า พ่อเชื่อว่าเจ้าเหนือจะดูแลลูกได้ดีแน่นอน"
"จริงอย่างที่คุณพ่อว่าแหละน้องเล็ก ไอ้เหนือมันรอเรามานานมากเลยนะรู้ไหม อย่าแกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้เหมือนคนแถวนี้เลย เดี๋ยวก็ได้อยู่บนคานทองกันพอดี"
ประโยคหลังรามหันไปมองที่ปั้นสิบ คนตัวเล็กไม่รู้อีโหน่อีเหน่อะไรเพราะมัวแต่หยิบขนมตรงหน้าเข้าปาก โดยไม่พูดไม่จากับใครเลย
"แหนะ แล้วพี่ใหญ่ไปแขวะปั้นทำไมอ่ะ หรือว่าพี่ใหญ่ก็แอบชอบปั้นอยู่หรอครับ"
คำพูดของรามิลทำเอาคนที่กำลังกินขนมอยู่ถึงกับลำสักจนเกือบสู่ขิต
แค่ก ๆ ๆ ๆ
"ไอ้คุณเล็ก พูดอะไรบ้า ๆ พี่ใหญ่ดุขนาดนี้ ถ้าเอามาเฝ้าบ้านก็ว่าไปอย่าง"
"หึ ระวังมีผัวเป็นหมาโดยไม่รู้ตัวนะ ตัวเล็ก ๆ แบบนี้น้ำหนักกำลังดีเลย เวลาอุ้มเปลี่ยนท่าคงจะสนุกน่าดู"
"ไอ้พี่ใหญ่! ใครเค้าจะเอาตัวมาทำผัวไม่ทราบ เด็กในสังกัดของปั้นยาวเป็นหางว่าวเลยล่ะจะบอกให้ ชิ!"
"เยอะงั้นเหรอ มานี่เลย!"
"ปะ...ปล่อยนะพี่ใหญ่ ปล่อยปั้น"
"ไม่ปล่อย อยากมีผัวเป็นหมาไม่ใช่เหรอ เดี๋ยวจะสอนท่าหมาให้"
ปึก ปึก ปึก
"ม่าย~ ไอ้พี่ใหญ่บ้า ปล่อยปั้น"
ร่างเล็กของปั้นสิบถูกลากไปต่อหน้าต่อตาทุกคน ท่ามกลางความงุนงงว่าความสัมพันธ์ของสองคนนี้เป็นยังไงกันแน่
"เฮ้ย คุณเหนือ ทำไมพี่ใหญ่ลากปั้นสิบไปแบบนั้นล่ะ"
รามิลรีบเอ่ยถามเหนือลมที่อยู่ใกล้ที่สุด ส่วนบิดาของตนเองก็เดินตามเลขาคนสนิทไปไหนแล้วก็ไม่รู้
"ช่างเค้าเถอะครับ ไปคุยเรื่องของเรากันดีกว่า"
คิ้วของรามิลขมวดเป็นปมด้วยความสงสัย แต่ท้ายที่สุดก็หันเหมาสนใจเรื่องของตนเองเพาะคิดว่าพี่ชายคงไม่มีวันทำร้ายปั้นสิบแน่นอน
