อ้อนเอาอะไรคะ?
ช่วงเย็นของวัน
สวนริมสระว่ายน้ำหลังตึกใหญ่ในเวลา 18.00 น รามิลกับปั้นสิบกำลังช่วยกันปิ้งบาร์บีคิวในระหว่างที่คนอื่น ๆ กำลังนั่งล้อมวงพูดคุยกินดื่มกันอย่างสนุกสนาน
"ปั้น! ใจลอยอะไรอ่ะ ดูสิเกือบไหม้แล้วเห็นไหม"
"โอ๊ะ! ขอโทษ ๆ เดี๋ยวปั้นรีบเอาออกตอนนี้เลย โอ๊ย!!"
ปั้นสิบรีบหยิบบาร์บีคิวออกจากจุดที่ไฟเเรงอย่างเร่งรีบ จนเผลอไปโดนกับตะแกรงเหล็กที่กำลังร้อนฉ่า
"จุ่มน้ำเร็วเข้า เล็กไม่น่าทำให้ปั้นตกใจเลย แย่จริง ๆ"
จ๋อม~
"อย่าโทษตัวเองสิไอ้คุณเล็ก ช่วงนี้ปั้นมีเรื่องให้คิดเยอะไปหน่อย ก็เลยเผลอใจลอยไม่อยู่กับเนื้อกับตัวน่ะ"
ปั้นสิบเอ่ยตอบเพื่อนสนิทระหว่างที่กำลังแช่มือในถังน้ำแข็ง
"ปั้นมีอะไรอยากระบายกับเล็กไหม รู้ใช่ไหมว่ายังมีเล็กอยู่ตรงนี้เสมอ"
สองเพื่อนรักสบตากันอยู่พักใหญ่ก่อนที่ปั้นสิบจะเริ่มเอ่ยถามบางเรื่อง
"คุณเล็ก ตัวเองจะว่าอะไรไหมถ้าปั้นจะคบกับพี่ใหญ่?"
"เรื่องมันเกิดขึ้นนานแค่ไหนแล้ว พี่ใหญ่บังคับขืนใจปั้นรึเปล่า"
ท่าทีเรียบนิ่งไม่ตกใจของรามิลทำให้ปั้นสิบรับรู้ได้ทันทีว่า เพื่อนสนิทคงรู้เรื่องความสัมพันธ์ของตนเองกับรามแล้ว
"ไม่ใช่ พี่ใหญ่ไม่ได้บังคับปั้น จริงอยู่ที่ครั้งแรกคือความผิดพลาด แต่หลังจากนั้นก็..กะ..ก็คือความเต็มใจ"
"นานรึยังปั้น แล้วตอนนี้ปั้นรู้สึกยังไงกับพี่ใหญ่"
"เมื่อสองอาทิตย์ก่อน ก่อนจะเกิดเรื่องของคิรากร ปั้นถูกแขกที่มาเที่ยวในไนต์คลับวางยา แต่พี่ใหญ่ช่วยเอาไว้ทัน เราก็เลยพลาดมีอะไรกัน หลังจากนั้น ก็มีอีกหลายครั้งที่เราเกินเลยกัน"
"ตอนนี้ปั้นกำลังมีใจให้พี่ใหญ่ใช่ไหม เล็กไม่ได้โกรธอะไรปั้นเลยนะ เล็กดีใจซะด้วยซ้ำที่ปั้นเลือกเปิดใจให้พี่ใหญ่"
"พี่ใหญ่ขอให้เปิดใจมาซักพักแล้ว ปั้นก็อยากลองดูเหมือนกัน"
"มันต้องอย่างนี้สิเพื่อนรักของเล็ก จำไว้ว่าปั้นยังมีเล็กเคียงข้างเสมอ"
"ขอบใจมากนะคุณเล็กเพื่อนรัก ไปกันเถอะ ทุกคนรอกินบาร์บีคิวแล้ว"
จบบทสนทนารามิลกับปั้นสิบก็ถือถาดอาหารเดินกลับไปที่โต๊ะเพื่อรวมสนุกกับทุกคนที่รออยู่ คนตัวเล็กวางถาดอาหารลงกลางโต๊ะก่อนจะเดินมานั่งลงเก้าอี้ของตนเอง ที่มีรามนั่งอยู่ข้าง ๆ
มือเรียวของปั้นสิบสอดประสานเป็นหนึ่งเดียวกับมือของคนรัก ก่อนที่ใบหน้าหวานจะส่งยิ้มให้คนพี่แปลกใจปนตื่นเต้นจนรามใจเต้นระส่ำ
"อ้อนเอาอะไรคะ หนูบอกเรื่องของเราให้น้องเล็กรู้แล้วใช่ไหมถึงได้กล้าอ้อนพี่ต่อหน้าทุกคนแบบนี้"
รามดีใจจนเก็บอาการไม่อยู่ คนตัวโตโน้มตัวลงไปใกล้ ๆ ก่อนจะจุมพิตที่เรียวปากอิ่มเร็ว ๆ เพื่อไม่ให้ปั้นสิบเขินอายไปมากกว่านี้ หากตอนนี้พวกเขาอยู่ในห้องคงมิวายจะจบวันด้วยบทรักอันเร่าร้อนเหมือนเช่นเคย
จุ๊บ
"อ้อนเอาทุกอย่างครับ พี่ใหญ่ให้ปั้นไหวไหม? ปั้นยังเด็ก ยังมีแรงเหลือพอจะขย่มคนแก่ไปอีกนาน"
"พูดแบบนี้ไม่ดีเลยนะทูนหัว คืนนี้หนูคงไม่อยากนอนแล้วใช่ไหม"
"ปั้นไม่ง่วง ปั้นอยากทำอย่างอื่นมากกว่า"
พูดจบปั้นสิบก็หันไปใช้ส้อมจิ้มไส้กรอกในจานขึ้นมากินด้วยท่าทางยั่วยวนอย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน โชคดีที่คนอื่น ๆ หันไปให้ความสนใจกับบ่าวสาว จึงไม่ได้สังเกตว่าทั้งคู่พูดคุยอะไรกันอยู่
.
.
ตัดภาพมาที่วันงานแต่งของ รามิล&เหนือลม
สายตาคู่คมของปั้นสิบกำลังทอดมองไปยังเบื้องล่างบริเวณสถานที่จัดงานแต่งงานของเพื่อนสนิท ดอกไม้ที่ประดับตกแต่งล้วนเป็นสีขาวทั้งหมด สลับกับดิ้นสีทองที่ถูกแสงอาทิตย์ยามเย็นส่องสะท้อนช่างงดงามไม่ต่างจากฉากในเทพนิยายที่ผู้คนเฝ้าฝันถึง
"ทำอะไรอยู่คะ หนูไม่หนาวเหรอ"
รามเดินมากระซิบข้างหูของคนตัวเล็ก ก่อนจะโอบกอดร่างแน่งน้อยเข้าสู่อ้อมแขนที่มีเสื้อโค้ตตัวใหญ่ปกคลุมอยู่ ถึงแม้ตอนนี้จะไม่ใช่หน้าหนาวของโปรตุเกส แต่อุณหภูมิก็ยังอยู่ที่ 12-14 องศา อย่างไรก็ยังถือว่าหนาวสำหรับคนที่มาจากเมืองร้อน
"แค่พี่ใหญ่กอดปั้นก็อุ่นขึ้นมากแล้วครับ"
ปั้นสิบหลับตาพริ้มแล้วเอียงแก้มอิงซบแขนแกร่ง เขาเป็นคนติดสกินชิปไปแล้วหรือนี่ ทุกสัมผัสที่คนพี่มอบให้ทำให้ปั้นสิบรู้สึกสุขล้นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
"ปากหวานจังเลยค่ะ หนูปั้นชอบงานแต่งแบบไหนบอกพี่ได้ไหมคะ?"
"ไม่รู้เหมือนกันครับ ปั้นยังไม่กล้าพอจะคิดถึงเรื่องแต่งงาน"
ถึงปั้นสิบจะเปิดใจให้รามบ้างแล้ว แต่อีกมุมหนึ่งเรื่องการแต่งงานคนตัวเล็กก็ไม่กล้าฝันถึง ด้วยไม่รู้ว่าอนาคตข้างหน้าพวกเขาจะยังอยู่ด้วยกันรึเปล่า หรือจะเดินเคียงข้างกันไปได้ถึงวันไหน เช่นนั้นสิ่งที่ปั้นสิบทำได้ในตอนนี้ มีเพียงการเฝ้าถนอมวันเวลาดี ๆ ที่กำลังใช้อยู่ให้คุ้มค่าที่สุด
"ทำไม? พี่ดีไม่พอจนหนูไม่กล้าฝากชีวิตไว้ด้วยเลยเหรอ"
"ไม่ใช่อย่างนั้นครับ เป็นปั้นต่างหากที่ไม่เหมาะสม ไม่รู้ว่าวันข้างหน้าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง แต่ปั้นอยากบอกพี่ใหญ่ว่าปั้นมีความสุขมากทุกครั้งที่พี่ใหญ่กอดปั้นแบบนี้"
คำพูดของคนน้องทำให้รามใจกระตุกวูบ อะไรคือปั้นสิบไม่เหมาะสม สำหรับเขาแค่คนในอ้อมกอดเป็นปั้นสิบก็เพียงพอแล้ว
ฟอดด~
"หนูอย่าคิดแบบนั้น ถ้าไม่ใช่หนู พี่ก็ไม่มีวันกอดใครแบบนี้ พี่รักหนูนะปั้นสิบ รักมาก แอบรักมานาน แล้วก็หวงหนูมากด้วย"
"อะ..แอบรักเหรอครับ?"
ปั้นสิบแทบไม่อยากเชื่อหูตัวเองว่าพี่ชายของเพื่อนสนิทจะบอกว่าแอบชอบเขามานานแล้ว ทั้ง ๆ ที่ก็รู้จักกันมานานหลายปี
"ใช่ครับ แอบรัก พี่แอบรักเด็กน้อยหัวโปกที่น้องเล็กพากลับบ้านตอนเรียนปีหนึ่ง พี่หวงหนู หึงหนู แล้วก็หึงแรงมากด้วย เพราะฉะนั้นต่อไปนี้หนูห้ามให้คนอื่นถูกเนื้อต้องตัวเด็ดขาด! เข้าใจไหมคะ"
"ขะ..เข้าใจแล้วครับ"
"เข้าใจแล้วไง? ไม่คิดจะบอกรักผัวหน่อยเหรอ"
"โอ๊ะ! แขกคนอื่น ๆ มาโน้นแล้วครับ พวกเราลงไปช่วยงานข้างล่างกันเถอะ"
คนตัวโตได้แต่ยืนส่ายหัวเบา ๆ ให้กับปั้นสิบที่หาทางออกได้เร็วกว่าสิ่งอื่นใด แม้ปั้นสิบจะยังไม่พร้อมจะพูดคำว่ารัก แต่รามก็พร้อมที่จะรอ แม้ต้องใช้เวลานานแค่ไหนก็ตาม
.
.
งานแต่งของ รามิล&เหนือลม ดำเนินมาจนถึงขั้นตอนสำคัญ แขกในงานต่างจ้องมองบ่าวสาวตาไม่กะพริบ ราวกับว่าต้องมนต์สะกดที่ถูกร่ายจากคนที่ยืนอยู่บนเวที
"ต่อไปเป็นช่วงเวลาที่บ่าวสาวต้องกล่าวคำปฏิญาณที่มีต่อกันนะครับ"
"ข้าพเจ้า Nathan Cruz ยินดีรับ คุณรามิล กีรติเมธา เป็นภรรยา จะรักและซื่อสัตย์ทั้งในยามสุขและยามทุกข์ ในยามป่วยและยามสบาย จะให้เกียรติซึ่งกันและกัน ตราบเท่าลมหายใจสุดท้ายจะพรากเราไปจากกัน"
เหนือลมจ้องมองใบหน้าของคนรัก พร้อมกับกล่าวคำปฏิญาณตนออกมาอย่างเป็นธรรมชาติ น้ำเสียงทุ้มนุ่มบวกกับสายตาที่อ่อนโยนทำให้รามิลอุ่นซ่านในใจจนแทบหลอมละลาย
"ข้าพเจ้า รามิล กีรติเมธา ยินดีรับ Mr. Nathan Cruz เป็นสามี จะรักและซื่อสัตย์ทั้งในยามสุขและยามทุกข์ ในยามป่วยและยามสบาย จะให้เกียรติซึ่งกันและกัน จนกว่าความตายจะพรากเราจากกัน"
ใบหน้านวลมีหยดน้ำตาแห่งความสุขไหลออกมาจนเหนือลมอดใจไม่ไหวที่จะยื่นมือมาเช็ดออก
เมื่อถึงเวลาอันเหมาะสม ปั้นสิบรีบนำแหวนแต่งงานออกมาให้บ่าวสาวสวมให้กันและกัน ตามมาด้วยช่อดอกไม้ที่รามเป็นคนรับหน้าที่ส่งมอบให้น้องชายสุดที่รัก
แขกที่ได้ของชำร่วยเป็นกล้องโพราลอยด์ ต่างก็รีบแกะกล่องนำออกมาถ่ายรูปเก็บบันทึกความทรงจำที่อบอุ่นนี้เอาไว้
จูบเลย จูบเลย จูบเลย จูบเลย
จุ๊บ
"คุณเหนือรักคุณเล็กมากนะครับ"
"รักคุณเหนือเหมือนกันครับ คุณเหนืออาจจะยังไม่มั่นใจในความรักของคุณเล็ก แต่คุณเล็กอยากบอกคุณเหนือว่า ใจดวงนี้ตราบใดที่คุณเหนือไม่ทำร้ายมัน มันก็จะเป็นของคุณเหนือตลอดไป จุ๊บ รักนะครับ คุณสามี"
หลังจากที่บ่าวสาวแลกแหวนกันเสร็จ เสียงโห่ร้องก็ดังขึ้นจนเจ้าบ่าวไม่อาจปฏิเสธได้ เหนือลมมอบจุมพิตที่แสนหวานให้ภรรยาต่อหน้าสักขีพยานที่มาในวันนี้
ปั้นสิบกับรามต่างจ้องมองคู่บ่าวสาวด้วยรอยยิ้มแห่งความปลื้มปีติ งานวันนี้อบอวลไปด้วยความรักที่ถูกแบ่งปันแจกจ่ายให้ทุกคนสุขล้นไปด้วยกัน
หลังจากจบงานแต่งของ รามิล&เหนือลม บ่าวสาวก็ออกล่องเรือฮันนีมูนทันที ทางด้านครอบครัวของรามิลและปั้นสิบก็เดินทางกลับประเทศไทยในวันต่อมา
ทุกอย่างยังคงเป็นเช่นเดิม รามยังคงตามเฝ้าปั้นสิบอยู่ทุกวันหลังเลิกงาน ส่วนปั้นสิบหากมีเวลาว่างก็มักจะซื้อขนมและกาแฟเข้าไปฝากคนในทีมท่านประธานหนุ่มอยู่บ่อยครั้ง
ส่วนเรื่องความหึงหวงของราม บอกเลยว่าไม่เป็นรองใคร ณ ตอนนี้ต่อให้รามไม่มีเวลาไปตามเฝ้าปั้นสิบ แต่ก็มีบอดี้การ์ดของรามอีก 2 คน ที่ได้รับคำสั่งให้ตามติดคอยดูแลปั้นสิบไม่ห่าง
