บท
ตั้งค่า

บทที่ 4

“ขอบคุณครับ” เสียงทุ้มเอ่ยรับ จากนั้นเจ้าของร้านร่างเล็กก็เดินกลับไปเตรียมออเดอร์อื่นๆ ให้ลูกค้า กลิ่นกาแฟสดหอมๆ ที่โชยมาแตะจมูกทำให้เมฆาสดชื่นเป็นพิเศษ ก่อนจะถือแก้วกาแฟขึ้นเพื่อจะได้ดมกลิ่นใกล้ๆ พร้อมกับจิบทันที ทันใดนั้นคาเฟอีนก็วิ่งพล่านไปทั่วร่างกายของคนที่เสพติดการดื่มกาแฟเป็นชีวิตจิตใจ

“รสชาติใช้ได้” เมฆาเอ่ยชมรสช่าติของกาแฟสดในแก้ว เพราะมันหอมและอร่อยกว่าที่คิด ซึ่งจังหวะนั้นก็มองคนชงไปด้วย เพราะเวลานี้เหมือนมีลูกค้าประจำเข้ามาภายในร้าน เธอมาพร้อมเด็กชายตัวเล็กๆ ซึ่งทันทีที่เห็นเจ้าของร้านก็ถึงกับโผเข้าไปกอด

“พี่มีน” เสียงสดใสของเด็กชายเอ่ยทักขึ้น ก่อนที่เจ้าของชื่อซึ่งก็น่าจะเป็นเจ้าของร้านขานรับด้วยโทนเสียงสดใสไม่แพ้กัน

“ว่าไงครับน้องพัตเตอร์”

“คิดถึงครับ”

“คิดถึงพี่มีนหรือว่าคิดถึงโกโก้เย็นกันแน่พัตเตอร์” รวีเอ่ยแซวลูกชาย ที่วันนี้รบเร้าให้เธอพามาหามีนาตั้งแต่เช้า พัตเตอร์แม้จะยังเด็กแต่ก็รู้ว่าควรจะพูดเอาใจผู้ใหญ่อย่างไรรีบเอ่ยขึ้น

“ทั้งสองฮะ”

“โกโก้ปั่นแก้วหนึ่งจ้ะมีน” เอ่ยสั่งเสร็จรวีก็ส่งยิ้มให้มีนา ที่ถูกชะตากันตั้งแต่เห็นครั้งแรก จึงแวะเวียนมาอุดหนุนมีนาอยู่บ่อยๆ ตั้งแต่ก่อนท้องแล้วเว้นช่วงท้องแก่ไปเพราะไปไหนมาไหนไม่สะดวก กระทั่งคลอดก็ยังพาลูกชายมาที่นี่

“ได้ค่ะ”

“เอาเค้กด้วยครับแม่” พัตเตอร์ดึงชายเสื้อผู้เป็นแม่เบาๆ พร้อมกับเอ่ยขึ้น

“นั่นไง แม่ว่าแล้วเชียวว่าต้องขอกินเค้กอีก พุงก็กลมเป็นแตงโมขนาดนี้แล้วนะลูก”

“แต่พัตเตอร์ยังเด็กอยู่ เป็นเด็กก็ต้องกินเยอะๆ นะถูกแล้ว จะได้โตเร็วๆ” คำพูดของลูกชายทำเอาคนเป็นแม่อย่างรวีถึงกับแย้งไม่ออก

“ฮึ...ตั้งแต่ไปโรงเรียนนี่รู้สึกจะสรรหาคำพูดคำจามาพูดได้มากขึ้นนะพ่อลูกชาย นี่ไปเรียนอนุบาลหนึ่งจริงปะเนี่ย”

“นะฮะแม่ ชิ้นเดียวเอง” พัตเตอร์ชูนิ้วชี้ป้อมๆ ขึ้นให้แม่ได้ดู ว่าตนนั้นขอกินเค้กแค่ชิ้นเดียวจริงๆ

“ชิ้นเดียวก็ชิ้นเดียวค่ะ”

“ไชโย” เสียงดีอกดีใจของพัตเตอร์ดังขึ้นเมื่อได้ยินผู้เป็นแม่อนุญาต มีนาจึงหันมายิ้มให้แล้วเอ่ยขึ้น

“มาค่ะ เดี๋ยวพี่มีนอุ้มไปเลือกเค้ก”

“ครับ” เอ่ยรับเสร็จก็ชูแขนขึ้นเพื่อให้มีนาอุ้มไปเลือกเค้ก สองคนแต่ต่างวัยตรงไปเลือกเค้กหน้าตาน่าทานในตู้โชว์ ซึ่งกว่าที่พัตเตอร์จะเลือกได้ก็กินเวลานานพอตัว

จากนั้นมีนาก็อุ้มพัตเตอร์ด้วยมือข้างหนึ่ง ส่วนอีกข้างถือจานที่มีเค้กวางอยู่บนนั้น แล้วก้าวตรงมายังโต๊ะที่รวีนั่งรออยู่

“วางลูกหมูพัตเตอร์ลงเถอะมีน อุ้มแบบนี้หนักแย่” รวีเกรงใจเพราะพัตเตอร์นั้นตัวหนักเอาเรื่อง นี่ถ้าเธอไม่ท้องอ่อนๆ อยู่ก็คงพอจะอุ้มลูกชายได้ แต่ทว่าตอนนี้ถูกคุณหมอห้ามไว้

“ค่ะ...อุ๊ย!” ขณะที่กำลังวางพัตเตอร์ลงนั่งบนเก้าอี้ จู่ๆ สร้อยคอที่มีนาสวมติดตัวมาหลายปีก็ขาด คงเพราะถูกมือของเด็กชายพัตเตอร์เกี่ยวเมื่อครู่

ตัวสร้อยยังคงค้างติดอยู่ตรงเสื้อที่มีนาสวม แต่ทว่าจี้ที่เป็นทรงกลมเมื่อหล่นกระทบกับพื้นปูนเรียบๆ ก็กลิ้งไปทันที และจุดที่มันหยุดคือบริเวณเท้าของเมฆาอย่างพอดิบพอดี

นายตำรวจหนุ่มที่มองทั้งสามคนอยู่ตลอดเวลารีบเอื้อมมือไปคว้าจี้ขึ้นมาไว้ในมือทันที แต่ทว่าสิ่งที่เห็นกลับทำให้เขาคิ้วขมวดอย่างสงสัย

“ทำไมจี้อันนี้ถึงได้เหมือนกับของที่แม่ฝากเราไว้” เมฆาพึมพำออกมา พร้อมพลิกหน้าพลิกหลังของจี้เพื่อดูให้ชัดๆ ว่าเขาไม่ได้ตาฝาดอย่างรวดเร็ว หากจะบอกว่าจี้แบบนี้มีขายทั่วไปก็คงไม่ใช่ เพราะแม่เขาบอกเองว่าเป็นคนสั่งผลิตขึ้นมาโดยเฉพาะ

นอกจากจะสลักอักษรตัวเอ็มภาษาอังกฤษไว้แล้ว ยังได้ทำสัญลักษณ์เป็นรูปหัวใจดวงเล็กๆ ไว้มุมล่างของจี้อีก ซึ่งจี้ที่อยู่ในมือเขาก็มีครบทุกอย่าง หรือว่าเธอจะเป็นอะไรกับแก๊งโจรในคืนนั้น ซึ่งถ้าใช่โจรที่ไหนจะใส่ของกลางล่อตาตำรวจขนาดนี้ มันต้องมีอะไรแน่ๆ

“ขอโทษนะคะ นั่นจี้ของฉันค่ะ”

“อ้อ...นี่ครับ” นายตำรวจหนุ่มรีบส่งจี้ในมือคืนให้หญิงสาวไป ก่อนจะปรับเปลี่ยนท่าทีให้เป็นปกติ

“ขอบคุณค่ะ”

“จี้คุณสวยดีนะครับ”

“ค่ะ” มีนาเอ่ยรับแค่นั้น ไม่ได้เก็บคำชมของชายหนุ่ม มาใส่ใจสักเท่าไหร่ ก่อนจะเดินกลับไปประจำเคาน์เตอร์เพราะมีลูกค้าเดินเข้าร้านมาสั่งกาแฟ

เมฆานั่งจิบกาแฟพร้อมกับแอบชำเลืองมองเจ้าของร้านเป็นระยะๆ กระทั่งหมดแก้วก็ลุกขึ้นเพื่อจะได้ออกไปจากร้าน แต่จังหวะที่กำลังเดินลงบันไดไปนั้น ก็มีรถบังคับคันหนึ่งพุ่งออกมาโซนนั่งเล่นนอกร้าน ก่อนที่รถบังคับคันนั้นจะลงไปนอนกองอยู่กับพื้นด้านล่าง

เด็กชายเจ้าของรถบังคับยืนตัวแข็งทื่อ คงเพราะกลัว ผู้เป็นแม่ที่เวลานี้นั่งมองตาเขียวปั๊ดดุเอา ก่อนที่เด็กชายคนดังกล่าวจะส่งยิ้มหวานมาหาแม่เพื่อขอโทษ

“ไปเก็บมาลูก แล้วขอโทษคุณอาคนนั้นด้วยนะคะ” รวีเอ่ยบอก เพราะเมื่อครู่รถบังคับของลูกชายเกือบชนเข้ากับผู้ชายคนนั้นเข้าให้

“ฮะ” เด็กชายพัตเตอร์ขานรับคำผู้เป็นแม่ จากนั้นก็เดินออกไปจากร้านกาแฟ ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกันกับที่เมฆาก้มไปหยิบรถบังคับคันดังกล่าวมาถือไว้ในมือ

“ของเราหรือเปล่า”

“ใช่ครับ”

“ชื่ออะไรครับ”

“พัตเตอร์ครับ” พัตเตอร์เอ่ยบอก อันที่จริงก็ไม่อยากบอกชื่อตัวเองกับคนแปลกหน้าสักเท่าไหร่ แต่เพราะต้องการของคืนจึงจำเป็นต้องบอกออกไปอย่างขัดไม่ได้

“ชอบรถบังคับเหรอเราน่ะ”

“ครับ”

“งั้นถ้าอยากได้คืนก็ต้องตอบคำถามอามาก่อน” เมฆาเริ่มใช้ลูกล่อลูกชนกับเด็ก

“คำถามอะไรฮะ”

“พี่สาวคนนั้นชื่ออะไร คนที่อุ้มพัตเตอร์ไปเลือกเค้กนะครับ”

“อ๋อ...พี่มีนฮะ คุณอาถามทำไม”

“อาแค่อยากรู้ งั้นขออีกหนึ่งคำถาม รู้ไหมว่าบ้านพี่มีนอยู่ที่ไหน”

“ไม่รู้ฮะ”

“โอเค ขอบคุณมากครับพัตเตอร์” เอ่ยจบเมฆาก็ยื่นรถบังคับคืนให้เด็กชายไป ซึ่งทันทีที่ได้รับพัตเตอร์ก็วิ่งปรู๊ดเข้าร้านกาแฟไปชนิดไม่เหลียวหลัง

“เราคงได้รู้จักกันมากกว่านี้แน่...มีน” นายตำรวจหนุ่มจ้องมองไปยังมีนา เซ้นต์บางอย่างบอกเขาว่าเธอน่าสงสัย หลังจากนี้คงต้องแวะมาสืบข่าวแถวนี้บ่อยขึ้น

ความที่กระจกรอบๆ ร้านเป็นแบบใสทำให้มองเห็นทุกอย่างได้โดยง่าย สิ่งที่มีนาเห็นตอนนี้คือภาพของลูกค้าหนุ่มที่เข้ามาสั่งเอสเพรสโซ่ร้อนเมื่อครู่ กำลังสวมหมวกกันน็อคใบใหญ่และก่อนที่จะปิดด้านหน้าลงจู่ๆ เขาก็มองเข้ามาในร้าน และนั่นทำให้ทั้งสองคนได้สบตากัน

มีนาสะตั้นไปชั่วขณะ พอๆ กับเมฆาที่รู้สึกอะไรบางอย่างในใจขึ้นมาเช่นกัน ก่อนที่เขาจะสตาร์ทรถแล้วขี่ออกไป นั่นดึงสติของมีนาให้กลับมาเช่นกัน แต่ทว่าหัวใจดวงน้อยกลับเต้นโครมครามจนยากจะห้าม

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel