บท
ตั้งค่า

บทที่ 3

หนึ่งอาทิตย์หลังจากถูกโจรยกเค้าบ้าน ในที่สุดนายตำรวจหนุ่มเมฆาก็ได้หลักฐานชิ้นสำคัญมาอยู่ในมือ ภาพของผู้หญิงต้องสงสัยคนหนึ่งที่เข้ามาในหมู่บ้านหลายครั้ง และมักจะเดินสอดส่องด้วยท่าทางไม่น่าไว้วางใจอยู่รอบๆ บ้านของเขา นั่นทำให้ชายหนุ่มสนใจเธอเป็นพิเศษ

ก่อนที่ภาพจะตัดมายังวันเกิดเหตุ ผู้หญิงคนเดิมตรงมายังบ้านของเขาอย่างไม่ลังเล แม้จะมองไม่เห็นหน้าเลยสักมุม แต่ลักษณะท่าทางรวมไปถึงรูปร่างที่เห็น เมฆามั่นใจว่าต้องเป็นคนเดียวกันไม่ผิดแน่ และไม่นานเธอก็ปีนกำแพงเข้ามาภายในบ้านได้สำเร็จ

“ปีนกำแพงได้ซะด้วย” เสียงทุ้มเอ่ยบอกตัวเอง พร้อมจับตามองภาพที่เห็น เพราะทันทีที่เข้ามาในบ้านได้ เธอก็เริ่มทยอยตัดสายกล้องวงจรปิดทิ้ง บางตัวที่ตัดไม่ได้ก็ใช้วิธีบิดหน้ากล้องจนจับภาพอะไรไม่ได้เช่นกัน

“ดูเป็นมืออาชีพไม่น้อย คงไม่ได้ลงมือคนเดียวแน่ และคงรู้แม้กระทั่งเวลาของสายตรวจว่าจะมาประมาณกี่โมงสินะ” เมฆายกมือขึ้นกุมคางตัวเองพร้อมสันนิษฐานไปด้วย

ยิ่งได้เห็นภาพขณะโจรลงมือก่อเหตุแบบนี้ก็ยิ่งเจ็บใจจนอยากตามจับให้ได้เสียวันนี้พรุ่งนี้ แต่ทุกอย่างมันก็มีขั้นมีตอน ไม่ใช่อยากทำอะไรก็ทำได้ ต่อให้เขาเป็นถึงตำรวจก็เถอะ สายสืบที่ส่งลงพื้นที่ก็กำลังทำงานกันอย่างหนัก เพราะระยะหลังๆ บ้านนายตำรวจมักจะถูกโจรยกเค้าบ่อยขึ้น

ไหนจะงานที่สถานีตำรวจที่เขาต้องรับผิดชอบอีกหลายงาน โดยเฉพาะงานใหญ่ที่พึ่งได้รับมอบหมายจากผู้บังคับบัญชาเมื่ออาทิตย์ก่อน

“เฮ้อ!” นายตำรวจหนุ่มลอบถอนหายใจออกมาหนักๆ นั่นเพราะแต่ละงานไม่ใช่เรื่องง่าย โดยเฉพาะอย่างหลังที่ดูเหมือนจะอันตรายถึงชีวิต

เมฆานั่งทำงานจนดึกดื่นอย่างเคย ก่อนจะกลับบ้านที่ตอนนี้ดูเหมือนจะโล่งเป็นพิเศษ นั่นเพราะเครื่องใช้ไฟฟ้าที่พอจะขายได้ก็ถูกยกเค้าไปจนหมด ขนาดจะต้มมาม่ายังทำไม่ได้เพราะไม่มีไมโครเวฟ

นายตำรวจหนุ่มทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟาตัวยาวอย่างคนหมดแรง ตั้งใจจะนอนพักสายตาสักหน่อย แต่ไปๆ มาๆ กลับหลับสนิทแบบไม่รู้ตัว ก่อนจะสะดุ้งตื่นเพราะเสียงโทรศัพท์ในตอนเช้า เมฆางัวเงียคว้ามากดรับสายทั้งๆ ยังไม่ได้ลืมตาขึ้นดูหน้าจอด้วยซ้ำ แต่เสียงเรียกเข้าที่ตั้งไว้แบบเฉพาะตัวก็รู้ได้ไม่ยากว่าคือใคร

“ครับแม่”

“ตื่นหรือยังเมฆ” ผกาเอ่ยถามออกไป

“ยังครับ ว่าแต่แม่มีอะไรหรือเปล่า”

“ไม่มีอะไร แค่โทรหาลูกชายคนเดียวเพราะคิดถึง” นั่นเพราะหลายอาทิตย์มานี้ เมฆาแทบไม่ได้แวะกลับมาที่บ้านเลย ทั้งๆ ที่กรุงเทพฯ กับราชบุรีก็ไม่ได้ไกลกันขนาดนั้น

“ผมก็คิดถึงแม่ครับ พ่อด้วย”

“คิดถึงก็แวะมาหาแม่บ้าง”

“พอดีช่วงนี้ผมยุ่งๆ อยู่นะครับแม่” นายตำรวจหนุ่มรีบ แก้ต่างให้ตัวเอง แต่พักนี้เขาก็ยุ่งกับงานมากจริงๆ

“พ่อก็ยุ่ง ลูกก็ยุ่ง รู้แบบนี้แม่ไม่น่ายอมให้เราเป็นตำรวจเหมือนพ่อซะก็ดี” ผกาเอ่ยออกมาอย่างน้อยอกน้อยใจ ชีวิตเธอแต่งงานกับนายตำรวจก็พอทำใจได้เรื่องงานว่าไม่ค่อยมีเวลา ติดราชการนั่นนี่บ่อยๆ แต่พอมีลูกแทนที่จะได้อยู่ด้วยกัน กลับเลือกจะเป็นนายตำรวจเหมือนผู้เป็นพ่ออีก

“โธ่แม่ครับ”

“เอาเป็นว่าเย็นนี้แม่จะรอกินข้าว ตกลงนะ”

“เย็นนี้เลยเหรอครับแม่” คนฟังอุทานออกมาเพราะมันปุบปับเกินไปหน่อย

“ใช่จ้ะ แล้วก็อย่ามาอ้างว่าต้องไปทำงาน เพราะแม่รู้ว่าวันนี้และพรุ่งนี้คือวันหยุดลูก” ที่รู้เพราะผกานั้นโทรสอบถามกับลูกน้องของเมฆามาแล้วนั่นเอง

“แม่ดักผมซะทุกทางขนาดนี้แล้ว ไปก็ได้ครับ”

“ดีมากจ้ะ” ผกายิ้มกว้างออกมา ร้อยวันพันปีเธอไม่เคยมัดมือชกลูกชายแบบนี้สักเท่าไหร่นักหรอก แต่ครั้งนี้มันคิดถึงมากจริงๆ รวมทั้งอยากถามเรื่องที่เธอได้ไหว้วานให้เมฆาทำด้วย ว่าคืบหน้าไปถึงไหนแล้ว

เมฆาคุยโทรศัพท์กับผู้เป็นแม่อีกครู่หนึ่งก็กดวางสาย จากนั้นก็ลุกขึ้นจากเตียงด้วยความงัวเงีย แต่ไม่ได้ตรงเข้าห้องน้ำเพื่อทำธุระส่วนตัว

นายตำรวจหนุ่มเดินลงไปยังชั้นล่างเพื่อออกกำลังกายอย่างที่เคยทำ ทั้งซิทอัพ วิดพื้น ยกเวทและอื่นๆ กระทั่งผ่านไปสองชั่วโมงจึงกลับขึ้นไปอาบน้ำ แต่งตัวแล้วกลับลงมาที่ชั้นล่างอีกครั้ง เพื่อทำอาหารเช้าง่ายๆ กิน

“เอ้า! กาแฟหมด” เมฆาเอ่ยเซ็งๆ นั่นเพราะเขาติดกาแฟ หากวันไหนไม่ได้รับคาเฟอีนก็เหมือนชีวิตนั้นขาดอะไรไป อย่างเช่นในเช้านี้ที่นายตำรวจหนุ่มดูจะไม่ค่อยสดชื่นอย่างที่ควร

เมฆากินข้าวเช้าแบบลวกๆ ก่อนจะหยิบกุญแจรถบิ๊กไบค์มาถือไว้ในมือ ปิดบ้านเสร็จก็เดินตรงไปยังรถคู่ใจ ก่อนจะขี่ออกไปจากบ้านโดยเป้าหมายของวันนี้คือราชบุรี ระหว่างนั้นก็กวาดสายตาผ่านหมวกกันน็อคใบใหญ่เพื่อมองหาร้านกาแฟอยู่เป็นระยะๆ แต่ไม่มีจังหวะได้เลี้ยว

กระทั่งขี่รถออกมานอกเมือง สายตาของเมฆาก็มองเห็นป้ายร้านกาแฟอยู่ไม่ไกล คราวนี้นายตำรวจหนุ่มจึงตัดสินใจเลี้ยวรถเข้าไปจอดยังหน้าร้านอย่างไม่รีรอ เมื่อจอดรถบิ๊กไบค์เสร็จก็ถอดหมวกกันน็อคออก ก่อนจะถือติดมือเข้าไปภายในร้านด้วย

“เอสเพรสโซ่ร้อนแก้วนึงครับ”

“ได้ค่ะ” เจ้าของร้านที่เวลานี้ยืนอยู่หน้าเครื่องทำกาแฟเอ่ยรับ ก่อนจะหันมาส่งยิ้มให้ลูกค้าหนุ่มตามมารยาทที่ทำอยู่ทุกๆ วัน แล้วเดินมาคิดเงินอีกมุม

“เท่าไหร่ครับ”

“ห้าสิบห้าบาทค่ะ” มีนาเอ่ยบอกราคากาแฟที่ลูกค้าสั่งเมื่อครู่ เมฆาจึงหยิบเงินสดออกมาจากกระเป๋าสตางค์แล้วยื่นให้เธอ จากนั้นก็รอรับเงินทอน เมื่อได้ครบก็เดินมานั่งรอกาแฟที่สั่งยังโต๊ะที่ว่างอยู่ ร้านกาแฟขนาดกลางที่ตกแต่งด้วยต้นไม้ดอกไม้เสียเป็นส่วนใหญ่ มีพื้นที่เอาท์ดอร์เล็กๆ ให้ลูกค้าได้นั่งรอหรือดื่มกาแฟด้วย

ที่นี่คงเป็นมินิมอลล์เปิดใหม่เพราะเขาไม่คุ้นตาว่ามันเคยมีมาก่อน หรือเพราะเขาไม่เคยสังเกตว่ามันมีก็ไม่รู้เหมือนกัน จะว่าไปมุมที่เขานั่งสามารถมองเห็นผู้หญิงคนเมื่อครู่ได้อย่างชัดเจน

เมฆาไม่เคยรู้สึกสนใจที่จะมองขั้นตอนการชงกาแฟเท่าครั้งนี้มาก่อน ซึ่งก็ไม่รู้เหมือนกันว่าระหว่างการชงกาแฟกับคนชงอะไรน่าสนใจกว่ากัน ผู้หญิงตัวเล็กๆ ที่เพิ่มความสูงด้วยการขึ้นไปยืนบนเก้าอี้ไม้ซึ่งเวลานี้วางอยู่กับพื้น เหตุผลที่ต้องทำแบบนี้คงเพราะอยากให้ตัวเองสูงเท่ากับระดับของเครื่องทำกาแฟกระมังหรือไม่เธอก็คงถนัดกว่ายืนบนพื้น ดูไปแล้วก็ตลกและน่ารักในเวลาเดียวกัน

“เอสเพรสโซ่ร้อนได้แล้วค่ะ”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel