ฝันครั้งที่สี่
“ไม่น่าเลย! ไม่น่าพูดแบบนั้นเลยอ่ะ พี่เขาคงคิดว่าเราเป็นเด็กที่ไม่น่าคุยด้วยแน่ๆ” กัญว่าแล้วทำหน้าตายู่ยี่ไปมาเมื่อนึกถึงตอนที่พูดไปว่าถึงค่าอาหารแพง กอหญ้าของคนข้างๆ แล้วหัวเราะ
“ไม่เห็นเป็นอะไรเลย เราก็แค่พูดความจริงที่คิดนี่” กัญมองเพื่อนสาวแล้วถอนหายใจ
“นั่นซินะ...โชคดีจังที่ยังมีร้านซะดวกซื้อขายของราคาทั่วไปในนี้ แต่น่าตกใจน้า โรงเรียนก็ไม่ได้ใหญ่โตมากมายแต่มีร้านค้าในโรงเรียน แถมยังมีร้านสะดวกซื้อตั้งเยอะ” กัญว่าแล้วหยิบแซนวิชน่ากินขึ้นมาแกะพลาสติกออก
“ก็อย่างที่เราพูดในร้านนั่นไง ที่นี่มีแต่พวกคุณหนู ลูกคนรวย พวกคนมีฐานะ ทายาทตระกูลร้อยล้านพันล้าน จะให้เป็นโรงอาหารทั่วไปมันก็เสียชื่อโรงเรียนหมด” กัญพยักหน้าแล้วถอนหายใจ
“ถึงว่าตอนที่เราได้ทุน ทุกๆ คนในโรงเรียนนี่พากันมาแสดงความยินดีหมดเลย ที่แท้ก็เพราะเราได้มาอยู่ในดงคุณหนูนี่เอง” กัญว่า กอหญ้าหัวเราะเบาๆ ก่อนจะกัดแซนวิชในมือคำโต
“ก็ไม่ขนาดนั้นหรอกนะ ถึงจะเป็นคุณหนูแต่พวกเราก็ไม่ได้อยู่หรูขนาดนั้น ที่ต้องกินดีอยู่ดีก็เพื่อแสดงให้เห็นถึงหน้าตาฐานะในสังคมต่อนักเรียนคนอื่นๆ น่ะ แต่ก็มีนักเรียนบางคนไม่สนใจฐานะตัวเอง...แล้วมานั่งกินแซนวิชในร้านสะดวกซื้อแบบนี้ไง” กอหญ้าว่าแล้วโยกแซนวิชในมือไปมา กัญยิ้มอย่างดีใจ
“ขอบใจกอหญ้ามากเลยนะที่ดีกับเรา”
“ก็นะ...เราว่าปล่อยกัญอยู่ในโรงเรียนนี้คนเดียวไม่ได้แน่ๆ แล้วถ้ากัญพลาดไปอยู่กับพวกชั้นสูง ที่ในหัวมีแต่เรื่องศักดิ์ศรีนั่นอีกกัญคงอกตายแน่ๆ” กอหญ้าว่าก่อนจะกระซิบเบาๆ
“อย่างพี่คนเมื่อกี้ไง”
“หื้อ?”
“คนนั้นที่ช่วยกัญไว้เขาชื่อพี่อัฐ คนเดียวที่ได้เกรดสี่ติดต่อกันตลอดสองเทอมตอนอยู่ปีหนึ่งแล้วตอนนี้พี่อัฐอยู่ปีสองแล้วใครๆ ก็พูดว่าเขาต้องได้เกรดสี่ติดต่อกันด้วย เผลอๆ อาจจะติดต่อกันสามปีเลยนะ” กัญเบิกตากว้ง
“แต่กอหญ้าบอกว่าที่นี่เรียนยากมากไม่ใช่หรอ?” คนตัวเล็กถามอย่างสงสัย กอหญ้าพยักหน้า
“ก็ใช่ แต่พี่อัฐน่ะเรียนเก่งมาก แต่ก็มีคนบอกว่าพี่เขาใช้อำนาจของลูกผู้อำนวยการปรับคะแนนตัวเอง”
“ลูกผู้อำนวยการ!” คนตัวเล็กว่าอย่างตกใจอีกครั้ง กอหญ้าพยักหน้าแล้วหัวเราะ
“พี่อัฐเป็นลูกของผ.อ.น่ะ คนที่สร้างโรงเรียนนี้คือผ.อ.พิภพ ท่านเสียไปยี่สิบกว่าปีได้แล้วมั้ง ตอนนี้ภรรยาของผ.อ.พิภพขึ้นเป็นผู้อำนวยการแทน พวกเราก็เรียกท่านว่า ผ.อ. มาตลอด พี่อัฐก็เป็นลูกชายคนเดียวของผ.อ.พิภพกับผ.อ.คนปัจจุบัน หรือคุณหญิง ธิดานั่นแหละ” กัญถอนหายใจแล้วล้มตัวลงนอนกับสนามหน้าเทียมที่นั่งอยู่
“ดูเป็นคนใหญ่โตจัง”
“แถมพี่อัฐนะตั้งแต่เด็กจนป่านนี้เขาเรียนได้เกียรตินิยมตลอด เราเคยเรียนโรงเรียนเดียวกันกับพี่เขาตอนมอต้น ทั้งเรื่องเรียน กีฬา หน้าตา ฐานะ เรียกได้ว่าเพอร์เฟ็ก แถมยังเคยได้ถ่ายแบบ เล่นละครอีกด้วยนะ” กัญเบิกตากว้างอย่างตกใจ แล้วนึกถึงใบหน้าหล่อคมที่เขาเพิ่งเจอ
“ก็หล่อขนาดนั้นนี่นะ”
“เอ๋....รึว่ากัญชอบผู้ชายล่ะ?” คนตัวเล็กสะดุ้งโหยงแล้วมองไปทางกอหญ้าอย่างตกใจ
“เปล่านะ! ไม่ใช่ๆ คือเราไม่ได้ชอบ...”
“แต่ไม่ว่าใครๆ ก็ชอบพี่อัฐทั้งนั้นแหละ เรายังเคยชอบเลย” กอหญ้าว่าแล้วยกยิ้มก่อนจะล้มตัวลงนอนที่ข้างๆ กัญ
“เมื่อก่อนตอนมอต้นเราปลื้มพี่อัฐมากนะ...เขาเพอร์เฟ็กทุกอย่างจนเราชอบเลย...แต่สุดท้ายก็ไม่ได้สารภาพไป”
“ทำไมหรอ?” กอหญ้าหันมามองเพื่อนเล็กน้อย
“เขาเป็นพวกหัวสูงน่ะซิ”
“เอ๋?” กอหญิงหันมามองกัญแล้วจ้องอย่างจริงจัง
“กัญเลิกคิดถึงเรื่องชอบผู้ชายคนนั้นได้เลยนะ พี่อัฐน่ะเป็นพวกหัวสูง คบแต่คนรวย ที่ผ่านมาผู้หญิงที่เขาคบด้วยมีแต่พวกมีชาติตระกูล นามสกุลดังระดับประเทศ แต่พี่อัฐก็ทิ้งหมด ข่าวลือบอกว่า เป็นพวกได้แล้วทิ้ง....แถมยังเป็นคนที่ชอบดูถูกพวกคนจน คนที่ฐานะต่ำกว่าตัวเองอีก” กัญมองเพื่อนสาวที่ทำหน้าจริงจัง กอหญ้าถอนหายใจอีกครั้ง
“ข่าวลือออกมาแบบนั้น ตอนแรกเราไม่เชื่อ พี่อัฐทั้งยิ้มง่าย เข้าได้กับทุกคน.....คนแบบนี้เนี่ยนะจะดูถูกคนอื่น แต่เราเห็นเองกับตาน่ะซิ” กัญขมวดคิ้ว
“เห็นอะไรหรอ?”
“ก็ตอนสองปีก่อน เราเห็นพี่อัฐอยู่กับรุ่นพี่คนหนึ่งที่เป็นลูกสาวของนักการเมืองชื่อดัง ทั้งสองขับรถเข้าโรงแรมตอนดึก...เหอะ! ผู้ชายกับผู้หญิงเข้าโรงแรม ตอนนั้นพี่อัฐยังอยู่มอสามเองนะ! แล้วพอเราเห็นแบบนั้นเราก็เริ่มมีอคติ พอเราลองตามติดพี่อัฐเข้า ก็เห็นพี่แกชอบทำหน้าไม่พอใจเวลาที่เพื่อนๆ พากันเข้าร้านอาหารถูกๆ ถึงตัวเองจะเข้าไปกับเพื่อนๆ แต่ก็แทบไม่แตะอาหารเลย คงแบบไม่ชอบเพราะมันราคาถูกแต่ก็ไม่อยากผิดใจกับเพื่อนๆ เราเห็นแบบนี้เราเลยเลิกชอบไปเลย!” กอหญ้าว่าอย่างไม่ชอบใจ กัญเม้มปากแน่นก่อนจะพยักหน้า
“งั้นหรอ.....ไม่สนใจคนที่ฐานะต่ำกว่าตัวเองซินะ...” กัญพูดเบาๆ กอหญ้าชะงัก
“แต่มันเป็นความคิดเรานะ ถ้ากัญจะชอบหรือคุยกับพี่เขาเราก็คงไม่ห้ามหรอก แค่อยากเตือนไว้” กอหญ้าว่าท่าทางเป็นห่วง กัญส่ายหน้าไปมาก่อนจะยิ้มน้อยๆ
“ไม่หรอก เราอยากสนใจเรื่องเรียนมากกว่า ขอบใจนะที่บอกและที่เป็นห่วง กอหญ้าเป็นคนดีจัง”
“เราไม่ใช่คนดีหรอกนะ แค่รู้สึกสงสารกัญ หน้าแบบนี้โดนหลอกง่ายซะด้วย เราจะปกป้องกัญเอง” กอหญ้าทำท่าทางจริงจัง กัญชะงักก่อนจะหัวเราะ
“ให้ผู้หญิงมาพูดแบบนี้มันไม่แปลกหรอ ฮ่าๆ” กอหญ้าเองก็ชะงักก่อนจะหัวเราะ
“ลืมไปว่ากัญเป็นผู้ชาย ฮ่าๆ” ทั้งสองคนหัวเราะอย่างขบขัน โดยไม่ได้รู้เลยว่ามีใครกำลังมองดูอยู่....
“อ้าวไอ้ดีมึงมาทำอะไรตรงซอกลืบแบบนี้วะ เดี๋ยว! อย่าบอกนะว่ามึงสูบบุหรี่ ครูครับ!!!” ใจดีสะดุ้งตกใจรีบปิดปากเพื่อนชายไว้ทันที
“หยุดเลยนะมึง!”
“อื้อๆ!” เพื่อนชายพยักหน้าไปมา ใจดีถอนหายใจแล้วปล่อยมือออก
“กูแค่ล้อเล่นเองแม่งมือโคตรเค็ม!”
“กูไปฉี่มายังไม่ล้างมือเลยนะ” ใจดีแกล้ง เพื่อนรักเบิกตากว้างอย่างตกใจ
“ไอ้เหี้ยมึงมันชั่วไม่สมชื่อเลย! อ้วกกก!!”
“ฮ่าๆ!” ใจดีหัวเราะร่าเมื่อเห็นเพื่อนรักวิ่งไปทางห้องน้ำอย่างเร็ว ก่อนจะตวัดสายตามามองบุคคลสองคนที่กำลังนอนหัวเราะคุยกันคิกคักอยู่ที่สนามหญ้าเทียมตรงลานกว้าง
“กอหญ้า...เคยชอบพี่อัฐหรอวะ ทำไมกูไม่เห็นรู้เรื่องวะ...แม่งเอ้ย!” ใจดีสบถอย่างไม่พอใจก่อนจะเดินออกไปจากตรงนั้นด้วยความไม่สบอารมณ์
หลังจากพักกลางวันพวกนักเรียนก็เข้ามาเรียนคาบบ่าย ยกเว้นแต่ใจดีและพ้องเพื่อนแก๊งนักเลงนั่นแหละที่โดดเรียนตั้งแต่วันแรกทำเอาพวกอาจารย์โมโหกันใหญ่
“เป็นแบบนี้อีกแล้ว น่าเบื่อ” กอหญ้าส่ายหน้าไปมา
“อีกแล้ว....จะว่าไปกอหญ้ากับใจดีรู้จักกันมาก่อนหรอ?” กัญถาม กอหญ้าพยักหน้า
“อื้อ แม่ของพวกเราเป็นพี่น้องกัน เราสองคนเลยเป็นลูกพี่ลูกน้อง แต่ไม่ค่อยถูกกันเท่าไหร่หรอก” กัญเลิกคิ้วเล็กน้อย
“ทำไมไม่ถูกกันล่ะ”
“นายใจดีนะ ปากหมา! ชอบว่าคนอื่น ชอบแกล้ง ชอบแย่ให้คนอื่นอาย ตอนเราเด็กๆ ก็ทำใจคบเพราะแม่บอกให้ช่วยดูแล...แต่ตอนป.1 หมอนั่นดันทำเรื่องเลวร้ายกับเรานี่ซิ! เราเลยเลิกคบเลย”
“เรื่องเลวร้าย?”
“มันเปิดกระโปรงเราต่อหน้าเพื่อนในห้องอ่ะ!” กอหญ้าว่าแล้วกำหมัดแน่น
“คอยดูนะ เราจะต้องถอดกางเกงมันต่อหน้าคนอื่นให้ได้!” กัญมองเพื่อนสาวก่อนจะหัวเราะเบาๆ
“ท่าทางสนิทกันจังนะ”
“ไม่!” กอหญ้าปฏิเสธเสียงแข็งอย่างไม่พอใจ กัญทำได้แต่หัวเราะกับท่าทางของเพื่อนสาว
“พี่อิฐครับมีจดหมายมาถึง” เสียงหวานเอ่ยเรียกพี่ชายที่อยู่ในบ้าน อิฐเดินออกมาก่อนจะกอดอกพิงประตูบ้านไว้
“ทำไมวันนี้กลับเร็ว”
“วันนี้มีคุยงานกับลูกค้าข้างนอกครับ คุณดีโน่เลยให้กลับบ้านเลย ก่อนเวลางานแค่สองชั่วโมงเองแต่อายก็เอางานมาทำด้วย” คนตัวเล็กว่าแล้วส่งซองจดหมายให้ร่างสูงของพี่ชาย อิฐรับไว้ก่อนจะโยนไปในบ้านอย่างไม่สนใจ
“เอ้า! พี่อิฐทำอะไรน่ะครับ!” คนตัวเล็กรีบวิ่งไปหยิบจดหมาย แต่ถูกร่างสูงเกี่ยวเอวแล้วดึงเข้ามากอด
“มึงกลับมาเร็วก็ดีจะได้อยู่ด้วยกันนานขึ้น” อายชะงักใบหน้าแดงระเรื่อ คนตัวเล็กอมยิ้มเล็กน้อยเมื่อพี่ชายก้มลงหอมแก้มตัวเองฟอดใหญ่
“พี่อิฐ...รีบปิดประตูดีกว่าครับเดี๋ยวคนเห็น”
“หึ...” อิฐกระตุกยิ้มแล้วหัวเราะในลำคอก่อนปิดประตูแล้วกดจูบน้องชายอย่่างดุเดือด อายจับยึดบ่าแกร่งแล้วเงยหน้ารับจูบนั้นตามอารมณ์
ทั้งสองต่างสองมอบความสุขสมให้กันและกันอย่างที่ผ่านมาตลอดหลายปีจนมันกลายเป็นความเคยชิน....
หลังจากเสร็จกิจกับน้องชายในเวลาค่ำ อิฐจึงเดินออกมาจากห้องนอนและเข้าไปทำอาหารให้คนตัวเล็กที่ยังนอนหลับพริ้มอยู่ แต่สายตาก็เหลือบไปเห็นจดหมายที่ตกอยู่ที่พื้นจึงเดินไปเก็บมา
“อีกแล้วรึไง” ร่างสูงว่าแล้ววางไว้บนโต๊ะก่อนจะเดินไปทำอาหารเพื่อคนตัวเล็ก
กลิ่นหอมของสเต๊กเนื้อลอยเข้ามาในจมูกทำให้คนตัวเล็กค่อยๆ เริ่มรู้สึกตัวก่อนจะลุกออกมาจากห้อง
“อือ พี่อิฐ....” อายเดินโซเซออกมาทั้งที่ยังเปลือยกายอย่างเคยชินก่อนจะฟุบนั่งลงที่โต๊ะอาหาร อิฐหันมามองน้องชายแล้วกระตุกยิ้มก่อนจะวางจานสเต๊กน่าทานตรงหน้าแล้วเดินเข้าไปหยิบเสื้อคลุมให้อีกคน
“น่ากินจังครับ ง่ำ...” อายยิ้มกว้างเพราะรสชาติแสนอร่อย อิฐมองคนตัวเล็กนิ่งๆ ก่อนจะทานในส่วนของตัวเองบ้าง
“พี่อิฐ แล้วนี่ที่ผับเป็นยังไงบ้างครับ วันก่อนที่พี่มิรินติดต่อมาพี่ก็ไม่รับสายเขาเลย” คนตัวเล็กว่า อิฐหยักไหล่เล็กน้อย
“ผ่านมาสองเดือนแล้วก็น่าจะไม่เป็นอะไรแล้วมั้งอย่าห่วงเลย ห่วงตัวเองดีกว่า ช่วงนี้มึงทำงานเยอะเกินไปนะ เพิ่งจะมีวันนี้ที่กลับเร็ว” อิฐพูดด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ เพราะไม่ค่อยพอใจ
“ตั้งแต่คุณดีโน่มาบริหารมันก็ดีขึ้นเยอะเลย แถมบริษัทตอนนี้คุณบอสพี่ชายของคุณต้าก็ซื้อหุ้นไปเจ็ดสิบเปอร์เซ็นต์จนได้เป็นเจ้าของแล้วยิ่งทำให้มีชื่อเสียงจนทำงานกันไม่ได้พักเลย” อิฐนึกถึงคนที่ชื่อบอสที่ท่าทางมีอิทธิพลมากพอตัวถึงขนาดที่พวกตำรวจชั้นสูงยังเชื่อฟัง ทั้งที่น่าจะอายุพอๆ กับเขาแท้ๆ
“หวังว่าคงไม่ได้ไปทำโอทีที่อื่นหรอกนะ” ร่างสูงว่า อายขมวดคิ้วเงยหน้ามองคนที่นั่งตรงข้ามนิ่งๆ
“ช่วงนี้พี่อิฐพูดแบบนี้บ่อยนะครับ ตั้งแต่คุณดีโน่มาบริหาร ทำไมถึงชอบพูดจาแขวะผมอยู่เรื่อย” อิฐตวัดสายตาขึ้นมามองน้องชายก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ
“เมื่อก่อนมึงทำงานกับไอ้ป้อง กูทนได้เพราะกูรู้ว่าป้องมันรักต้า มันตามหาเมียมันมาตลอดหลายปี ยังไงป้องก็ไม่สนใจมึง...ถึงมึงจะรักมันกูก็รู้ แต่ไม่ใช่กับไอ้ดีโน่”
“พี่อิฐ...” อายเม้มปากแน่น อิฐจ้องหน้านิ่งๆ
“กูไม่ไว้ใจทั้งมึง และมัน มึงจะรักมัน หรือชอบมัน หรือพวกมึงจะรักกันกูไม่ว่า....แต่อย่าเอาร่างกายที่กูชอบของมึงไปให้ไอ้เหี้ยที่ไหนแตะ กูไม่ชอบ” อิฐว่าก่อนจะลุกขึ้นจากโต๊ะทานอาหารแล้วเดินไปหยิบซองจดหมายขึ้นมาเปิดอ่าน อย่างที่คิด ร่างสูงอ่านเนื้อหาในซองจดหมายนั่นแล้ววางลงตรงหน้าคนตัวเล็ก อายที่กำลังเหม่อสะดุ้งเล็กน้อย
“อันนี้คือที่ส่งมาวันนี้หรอครับ”
“อืม อีกเดือนหนึ่งกูจะกลับไปที่นู้น มึงคิดให้ดีไอ้อายว่ามึงจะไปกับกูหรือจะอยู่ที่นี่....ถ้ามึงเลือกที่จะอยู่ที่นี่ อย่าให้กูรู้ว่ามึงทำเรื่องเลวต่ำช้าอะไรอย่างที่แม่มึงทำล่ะ” ร่างสูงพูดแล้วเดินเข้าไปในห้อง อายมองแผ่นหลังของพี่ชายต่างแม่ก่อนจะเปิดซองจดหมายออกมาอ่าน
เรียกตัวให้ไปสอนพิเศษ
“จะว่าไปพี่อิฐจบครูภาษามานี่นะ....แต่ก็เห็นปฏิเสธทุกโรงเรียนตลอด ทำไมจู่ๆ ถึงจะไปสอนพิเศษที่โรงเรียน...เอ๊ะ นี่มัน โรงเรียนของคุณพ่อ...” อายมองชื่อโรงเรียนแล้วขมวดคิ้ว
ทำไมล่ะ ได้ยินมาว่าโรงเรียนที่คุณพ่อของเขากับพี่อิฐสร้างมาตอนนี้มีภรรยาของคุณพ่ออีกคนดูแลอยู่ แล้วพี่อิฐก็ไม่ชอบภรรยาของคุณพ่ออีกคนด้วยแล้วทำไมถึงจะตอบรับไปสอนพิเศษให้ล่ะ?
อิฐมองรูปภาพของคุณแม่ในวัยสาวแล้วยิ้มมุมปากอย่างมีความสุข..
แม่ของเขามีความสุขตลอดชั่วชีวิตจนนาทีสุดท้าย แต่ให้ถูกแย่งคนที่รัก ถูกแย่งตำแหน่งภรรยา ถูกแย่งยศฐาตำแหน่ง ถูกขับไสไล่ส่งจนแทบไม่มีที่อยู่ แม้จะเป็นภรรยาที่จดทะเบียนตามกฎหมายแต่กลับไม่ได้จัดงานแต่งงาน และไม่มีใครรู้สักคน ถูกผู้หญิงอีกคนแย่งคุณพ่อไป ถูกแย่งตำแหน่งภรรยา ตำแหน่งคุณหญิงของตระกูล แถมยังถูกผลักไสให้ไปอยู่ชนบทอีก...
แต่ถึงอย่างนั้น แม่ของเขาก็มีความสุข
แต่เขาไม่ใช่
เพราะผู้หญิงที่ชื่อธิดา เธอแย่งพ่อไปจากแม่ รังควานแม่จนแม่เสียชีวิตในงานศพของแม่ ธิดาก็ยังแต่งชุดแดงและพูดจาหยาบคายด่าทอแม่เขาว่าเป็นเมียน้อยทั้งที่แม่กับพ่อรักกันมาก่อน ทั้งที่ธิดาต่างหากที่เป็นเมียน้อย
เขารอวันที่จะกำจัดเธอทิ้งตลอด แต่วันหนึ่งกลับมารู้ว่า นอกจากธิดา คุณพ่อก็ยังมีภรรยาคนอื่นอีกสามคน..
แม่ของอาย ผู้หญิงที่ขายตัวในผับ ใช้เสน่ห์หลอกให้พ่อของอิฐมีอะไรด้วยเพื่อความสนุก แต่ดันพลาดมีอาย ลูกชายคนที่สองของตระกูล แต่แม่ของอายไม่ใช่คนที่สนใจสมบัติเขาแค่หาความสนุกให้ตัวเองจึงไม่เรียกร้องอะไรและพาอายมาอยู่ที่เกาะเล็กๆ แบบนี้
และภรรยาคนที่สี่ และ ห้าของคุณพ่อ คือ ผู้หญิงที่เป็นฝาแฝด เพราะที่บ้านกำลังล้มละลายคุณพ่อเลยช่วยไว้ แลกกับการให้พวกเธอสองคนมาเป็นภรรยา และดูเหมือนว่าตอนนี้ก็จะมีลูกชายอีกถึงสองคน ซึ่งหนึ่งในนั้นน่าจะอายุไกล้เคียงกับ อัฐ ลูกชายคนที่สามของตระกูล และเป็นลูกของภรรยาคนที่สาม ที่ใครๆ ก็คิดว่าเป็นภรรยาเพียงคนเดียวที่คุณพ่อรักมาก....คือ ธิดา ผู้หญิงร้ายกาจที่หลอกให้คุณพ่อเชื่อว่าท้อง จนงานแต่งงานเริ่มขึ้น คุณพ่อถึงรู้ว่า ธิดาไม่ได้ท้อง...แต่เพราะจัดงานแต่งไปแล้ว คุณพ่อเลยต้องรับเป็นภรรยา
“หึ...ลูกชายของธิดา อัฐ เรียนมอห้า ผลการเรียนดีมากซินะ อยากให้ฉันไปสอนเด็กนั่นเพื่อเด็กนั่นจะได้คะแนนดีมีชื่อเสียง ได้...จะสอนให้รู้ซึ้งเลย" อิฐกระตุกยิ้มก่อนจะเก็บรูปของคุณแม่ไว้ในกระเป๋าเงินแล้วล้มตัวลงนอน ไม่ได้รู้เลยว่าอายกำลังแอบฟังอยู่....
“อัฐ งั้นหรอ...เป็นลูกชายของคุณธิดาที่พี่อิฐชอบพูดถึงบ่อยๆ ซินะ...คงไม่ได้คิดจะทำเรื่องไม่ดีหรอกมั้ง พี่อิฐถึงจะดูเป็นคนเลวแต่ก็เป็นคนใจดีมาก....คงไม่ต้องตามไปดูหรอก เราควรจะทำงานที่นี่ดีกว่า” อายพูดกับตัวเองและตัดสินใจทำงานที่นี่ เพราะคิดว่าพี่ชายของตัวเองเป็นคนดีคงไม่คิดทำอะไรลูกชายอีกคนที่ชื่ออัฐหรอก...
100%
#โปรดติดตามตอนต่อไป....
กดไลค์ คอมเม้นต์ เป็นกำลังใจด้วยนะจ้า
1 คอมเม้ต์ = 1 กำลังใจ
ขอบคุณนักอ่านทุกๆ ท่านที่อ่าน สนับสนุน เด้ออออ ???
