บท
ตั้งค่า

๓ พ่อของหนู (๒)

ชัชชนในตอนนั้นจึงยอมอ่อนข้อทำตามคำขอของคนรักไม่มีบิดพลิ้ว เรียกว่าเธอชี้นกเป็นนกชี้ไม้เป็นไม้ ใครจะคิดว่าหนุ่มนักเลงของโรงเรียนจะลงให้เด็กเรียนของห้องมากขนาดนี้

เพราะรักยังไงล่ะ...

“โห เจ๋ง!” ยกนิ้วให้พลางเอ่ยชมจากใจ พอดีกับที่อาหารทยอยออกมาเสิร์ฟคนเป็นแม่จึงรีบปรามลูกชายของตัวเอง ส่ายหน้ากับความไม่รู้จักโตของคนที่ใกล้จะอายุสามสิบ ค่อยหันมาบอกเด็กหญิงที่ทำตาโตยามเห็นอาหารวางตรงหน้า

“ชัช ไปสอนอะไรหลานแบบนั้น...อย่าเอาอย่างอาเขานะบัว ต้องตั้งใจเรียนเหมือนแม่โตขึ้นจะได้เป็นเจ้าคนนายคน” หญิงสาวเดินตามหลังออกมาแล้วคดข้าวใส่จานให้แต่ละคน วางตรงหน้าชัชชนที่ทำเหมือนไม่สนใจกัน

ไม่น่าเชื่อว่าแค่รถเสียจะทำให้เราได้กลับมาร่วมโต๊ะกันอีกครั้ง เธอนั่งลงที่เก้าอี้ฝั่งตรงข้ามเขา โดยมีลูกสาวตัวเล็กนั่งข้างกัน หยิบช้อนส้อมเตรียมพร้อมสำหรับรับประทานอาหารมื้อเย็นเป็นที่เรียบร้อย เธอเห็นอย่างนั้นก็อมยิ้มเอ็นดู ยิ่งได้ยินคำตอบของอีกฝ่ายก็ทำให้หลุดยิ้ม

ช่างเป็นคำตอบที่คุ้นเสียเหลือเกิน จนอดไม่ได้จะเผลอมองคนนั่งฝั่งตรงข้าม ไม่รู้ว่าเขายังจะจำได้หรือเปล่า...

“ไม่เห็นอยากเป็นเลย เจ้าคนนายคนเหนื่อยแย่ เป็นคนธรรมดาดีกว่าไม่เหนื่อยดี” พูดจบก็กินข้าวอย่างรวดเร็ว มีเพียงร่างสูงที่ชะงักค้างเหมือนคนที่กำลังใช้ความคิด

ทำไมคำตอบของเด็กหญิงจึงคล้ายเขาเสียเหลือเกิน...

ตอนเรียนมอปลายแล้วถูกมารดาสอนให้ตั้งใจเรียนจะได้เป็นเจ้าคนนายคน เขาก็ตอบแบบนี้เช่นเดียวกัน อดไม่ได้ที่จะมองมะลิพลางนึกสงสัยว่าหล่อนเป็นคนชี้นำให้ลูกตอบหรือเปล่า

กลับต้องปัดความคิดนั้นทิ้งรวดเร็ว ไม่มีทางที่คนขยันเรียนจะบอกเช่นนั้นแน่

แล้วเด็กน้อยไปเอาความคิดเช่นนี้มาจากไหนกัน...

“แล้วหัวหน้าห้องทำอะไรบ้าง” เริ่มลงมือรับประทานอาหาร ระหว่างนี้ก็ชวนหนูน้อยคุยไปด้วย เหมือนว่าการได้คุยกับจงกลณีจะทำให้เขาหายเครียดไปได้พอสมควร

“บอกทำความเคารพ เอาการบ้านเพื่อนไปส่งแล้วก็คอยดูแลเพื่อนในห้องให้เป็นระเบียบค่ะ” บอกด้วยวาจาฉะฉานทำให้คนฟังยิ้มตามไปด้วย เอื้อมตักอาหารใส่จานให้เด็กหญิงโดยไม่ได้สนใจมะลิที่นั่งตรงกันข้าม

ความจริงเขาก็พยายามจะไม่สนใจหล่อนมากกว่า แม้บางครั้งสายตามักไปวนเวียนใกล้หล่อนก็ตาม พยายามสั่งตัวเองไม่ให้มองก็ไม่อาจทำตามสมองได้เพราะใจคอยแต่โผบินไปใกล้หล่อนเสมอ ทั้งที่หญิงสาวเป็นคนทำให้เจ็บแต่เหมือนเขาไม่ยอมจำสักที

“กินเยอะๆ” เด็กหญิงยิ้มตาปิดแล้วพยักหน้าขึ้นลง รับประทานอาหารเย็นร่วมกันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา โดยที่ร่างบางพยายามซ่อนรอยยิ้มของตัวเองเอาไว้ อยากให้ภาพตรงหน้าเป็นนิรันดร์ไม่ใช่แค่ชั่วครั้งชั่วคราว

แต่ก็รู้ดีว่าไม่อาจเป็นเช่นนั้นได้ ในใจของเขาคงมีแต่ความโกรธและเกลียดให้กัน...

“ยายทำพะแนงอร่อย มากินทุกวันเลยได้ไหมคะ” กินข้าวไปก็เตะขากลางอากาศบ่งบอกถึงความสุขมากล้น ทั้งยังเอ่ยอ้อนจนนางอุบลถึงกับหัวเราะร่ามีความสุข กินข้าวกับลูกชายสองคนก็เหงา มีคนมาเพิ่มยิ่งดีจึงพยักหน้ารวดเร็ว

“ฮ่าๆ เอาสิลูก มาทุกวันเลยนะเดี๋ยวยายทำไว้รอ”

“ไม่เป็นไรหรอกค่ะแม่” เธอเรียกท่านว่าแม่จนชินไปแล้ว แต่เมื่อชัชชนได้ฟังก็นึกหงุดหงิดขึ้นมาทันที ยังคงจำได้ดีว่าหญิงสาวตัดรอนกันอย่างไร ความเจ็บปวดยังติดตรึงใจมาถึงทุกวันนี้สลัดไม่หลุด ยิ่งได้กลับมาพบกันอีกครั้งก็ยิ่งหวนนึกถึงวันวานทั้งที่หลายปีมานี้แทบไม่คิดถึงแล้ว

การมีเธอเข้ามาป้วนเปี้ยนยิ่งทำให้เขาลืมอดีตไม่ลง...

“มากินทุกวันนั่นแหละ เห็นชัชบอกว่าอีกตั้งหลายวันกว่ารถจะซ่อมเสร็จไม่ใช่เหรอ ระหว่างนี้ก็มากินข้าวบ้านแม่สิ กินสองคนเหงาจะตาย มีเพื่อนร่วมโต๊ะเยอะๆ จะได้คุยไปกินไปเจริญอาหาร” พยายามหว่านล้อมสุดความสามารถ เอ็นดูหญิงสาวตรงหน้าจนอยาให้คนทั้งสองกลับมาคบกันอีกครั้ง

ดูจากแววตาแล้วคงไม่ยากที่ถ่านไฟเก่าจะลุกโชนอีกครั้ง ด้วยวัยของคนทั้งคู่ก็เหมาะในการมีครอบครัวแล้ว อีกทั้งมีหลานตัวน้อยแสนน่ารักให้พูดคุยพอคลายความเหงา นางถึงได้พยายามจะให้คนทั้งคู่กลับมาสานสัมพันธ์กันอีกครั้ง

หวังว่าคราวนี้จะลงเอยด้วยความสุข ไม่ใช่ความทุกข์อย่างครั้งอดีต

“หนูมาๆๆ” รีบตอบรับรวดเร็ว คนชวนได้ยินอย่างนั้นก็ยิ้มกริ่มมีความสุข รวบรัดโดยเร็วกลัวว่ามะลิจะปฏิเสธ ทำเอาเธอถึงกับพูดไม่ออกทำได้แค่กระพริบตาปริบกินข้าวอย่างเดียว ชัชชนก็เช่นเดียวกันไม่อาจเอ่ยค้านอะไรได้

“ตกลงตามนี้นะลูก” นางอุบลแย้มยิ้มมีความสุข ก่อนนึกถึงเรื่องรถยนต์ของหญิงสาวที่ต้องจอดซ่อมหลายวัน คงลำบากในการทำงานพอสมควรจึงมีความคิดบางอย่างเกิดขึ้น

“แล้วระหว่างนี้จะใช้รถอะไรล่ะ” หล่อนวางช้อนส้อมแล้วเคี้ยวข้าวก่อนกลืนลงคอรวดเร็ว ค่อยตอบคำถามของคนมากด้วยวัย

“คงต้องขี่มอ’ไซค์ไปก่อนค่ะ”

“อ้าว เวลาส่งผักล่ะ”

“ก็...” ยังไม่ทันได้ตอบก็ถูกขัดเสียก่อนจากคนถาม นางแสดงความคิดเห็นที่ดูเหมือนว่าจะบังคับลูกชายกรายๆ ทำให้ร่างสูงไม่อาจปฏิเสธความต้องการของมารดาได้ ใบหน้าหวานแสดงถึงความกังวลอย่างเห็นได้ชัด เธอคิดจะปฏิเสธความใจดีของอีกฝ่ายกลับต้องชะงักกับคำตอบของอดีตแฟนหนุ่ม

“เอาอย่างนี้สิ เอารถชัชไปขับก่อนก็ได้ ยังไงก็จอดไว้บ้านไม่มีใครใช้อยู่แล้ว ไว้รถซ่อมเสร็จค่อยเอามาคืน ได้ไหมชัช”

“ครับ” เขาตอบรับไม่ได้แสดงอารมณ์อื่นใดนอกเหนือจากนั้น ทำให้เธอเผลอมองดวงหน้าคมนานกว่าปกติ จนอีกฝ่ายเงยหน้าจากจานอาหารแล้วจ้องหล่อนตอบ จึงเป็นฝ่ายหลบเสียเองก่อนหันไปคุยกับนางอุบลที่ยังคงยิ้มกว้างมีความสุข

“หนูเกรงใจค่ะแม่” ไม่ได้ไปมาหาสู่กันนาน เจออีกทีก็ได้รับความช่วยเหลือมากมายทั้งที่เราสองคนยังไม่ได้เคลียร์ใจกันด้วยซ้ำ กลัวว่าจะทำให้อึดอัดซะเปล่า

ความจริงเขาก็คงไม่อยากให้เธอยืมหรอก เพียงแค่ขัดคนเป็นแม่ไม่ได้เท่านั้นเอง

“เกรงใจอะไรคนกันเองทั้งนั้น เอาไปใช้ก่อนนั่นแหละ ไม่อย่างนั้นวันนี้จะกลับบ้านยังไง” เหมือนว่านางจะโน้มน้าวไม่เลิกจนร่างสูงถอนหายใจเสียงเบา เป็นฝ่ายพูดขึ้นมาเองเพราะนึกสงสารหนูน้อยหากให้นั่งมอเตอร์ไซค์มาโรงเรียน

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel