ตอนที่5
บนรถปกคลุมไปด้วยความเงียบสงัด เขมิกานั่งหลังตรงแด่วแทบไม่ติดเบาะสายตาพยายามจดจำเส้นทางการไปโรงเรียนให้ขึ้นใจ จนกระทั่งรถคันหรูขับทะยานออกนอกถนนใหญ่ที่มีรถพลุกพล่านในช่วงเวลาเร่งรีบ
"แล้วรู้หรือเปล่าว่าต้องขึ้นรถอะไร"
"ค่ะ ป้าดวงบอกแล้วค่ะ"
"บอกแล้ว แต่ก็ยังไปไม่ถูกเนี่ยนะ"
"หนูเพิ่งเคยไปครั้งแรกนี่คะ" เขมิกาเผลอแทนตัวเองว่าหนูอย่างลืมตัว ใบหน้าสวยก้มงุดไม่กล้าเงยหน้ามองเขาเพราะกลัวชลากรจะเอ็ดเธออีก
"ตั้งแต่พรุ่งนี้ฉันไม่มาส่งเธอแบบนี้แล้วนะ"
"ค่ะ" เธอก็ไม่อยากรบกวนเขาอีก แค่นี้ก็เกรงใจจนไม่รู้จะเกรงใจอย่างไรแล้ว
เขมิกาแอบลอบมองคนข้างๆ ที่มักจะใส่เสื้อสีดำอยู่ตลอด ตั้งแต่วันแรกที่เจอกันเขาก็ใส่แต่เสื้อสีดำหรือไม่ก็สีขาวแต่ด้วยฐานะที่เป็นแค่คนรับใช้เธอจึงไม่กล้านึกสงสัยอะไรเกี่ยวกับเจ้านาย
"มองอะไร?" เสียงทุ้มเอ่ยถามเมื่อรู้สึกถึงสายตาที่กำลังจับจ้องเขาอยู่
"ปะ...เปล่าค่ะ"
"อย่าแม้แต่จะคิดนะ"
"คิดอะไรคะ?" เขมิกาทำหน้างงคิ้วขมวดเป็นปมใหญ่ไม่เข้าใจว่าเขาหมายถึงอะไร
"ก็คิดว่าที่ฉันใจดีไปส่งก็เพราะฉันชอบเธอ"
"คะ? เขมไม่ได้คิดแบบนั้นเลยนะคะ!" คนตัวเล็กรีบโบกมือปฏิเสธพัลวัน เธอจะไปคิดแบบนั้นได้อย่างไร
"รู้ไว้ด้วยว่าเด็กน้อยแบบเธอฉันไม่สนใจหรอก อย่าทำตัวแก่แดดให้มันมาก"
"เขมไม่ได้คิดอย่างที่คุณคิดจริงๆ นะคะ" เธอพยายามจะอธิบายให้เขาเข้าใจ เธอรู้ฐานะของตนเองดีและอายุของเธอก็ยังไม่ถึงวัยคิดเรื่องแบบนั้น
"ไม่ต้องเถียง ถึงแล้วรีบลงไป" ชลากรเอ่ยปากไล่ให้เธอลงเมื่อถึงหน้าโรงเรียน เขมิกายกมือไหว้เป็นการขอบคุณอย่างไม่มีเสียงก่อนจะลงจากรถไป
"อะไรของเขา เราไม่ได้คิดอะไรแบบนั้นสักหน่อย" ร่างเล็กยังมึนงงกับคำพูดของเขาไม่หาย อะไรดลใจทำให้เขาคิดแบบนั้นออกมาได้
การกระทำและคำพูดของชลากรในวันนี้ทำให้เขมิกามองเขาเปลี่ยนไป จากที่เคยมองว่าเขามีน้ำใจอาสามาส่งเธอถึงโรงเรียน แต่ตอนนี้หากเลือกได้เธอขอเลี่ยงการเจอหน้าเขาอีกจะดีกว่า ไม่เช่นนั้นเขาคงได้พ่นคำพูดคำจากล่าวหาเธอแบบวันนี้อีกเป็นแน่
หลังจากเหตุการณ์ครั้งนั้นเขมิกาหลีกเลี่ยงการเจอหน้าชลากรอยู่ทุกวัน เธอไม่เข้าไปในบ้านหลังใหญ่หากไม่มีความจำเป็น ส่วนใหญ่เขมิกาจะอยู่ช่วยแม่และคนอื่นๆ อยู่ในครัว ทว่าคุณหญิงสุพัชชากลับชอบเรียกเธอให้ไปนวดอยู่บ่อยครั้งและเธอก็ปฏิเสธผู้มีพระคุณไม่ได้เสียด้วย
"นวดดีเหมือนกันนะเนี่ยเรา"
"หนูเคยนวดให้แม่อยู่บ่อยๆ น่ะค่ะ" เสียงหวานเอ่ยอย่างสดใสเมื่อรู้ว่าวันนี้ชลากรไม่อยู่บ้าน
"ฉันให้ดวงมานวดก็ไม่ถูกใจ รายนั้นอายุมากไม่ค่อยจะมีแรงบีบ เธอนี่แหละน้ำหนักมือดีฉันชอบ" คุณหญิงสุพิชชาหญิงวัยใกล้เจ็ดสิบหลับตาเคลิ้มไปกับการนวดของสาววัยแรกรุ่นอย่างเขมิกา
"ถ้าหนูนวดแรงไปบอกได้นะคะ"
"อืม ตรงปลายเท้าน่ะแรงๆ ได้เลย"
"ค่ะคุณท่าน" คนตัวเล็กก้มหน้าก้มตานวดอย่างตั้งอกตั้งใจไม่มีบ่นแม้แต่คำเดียว
"แล้วที่โรงเรียนเป็นยังไงบ้าง คุ้นชินหรือยัง"
"เริ่มชินแล้วค่ะคุณท่าน แต่เขมยังเรียนตามเพื่อนๆ ไม่ค่อยทันค่ะ"
"ทำไมล่ะ โรงเรียนเก่าเธอเขาไม่สอนหลักสูตรเดียวกันหรือไง" คุณหญิงสุพิชชาลืมตาขึ้นมาถามคนตรงหน้าด้วยความข้องใจ
"โรงเรียนเก่าของเขมเป็นโรงเรียนในชนบทค่ะ ครูหนึ่งคนสอนทุกวิชา บางวิชาก็ไม่ได้สอนเท่าไหร่ค่ะ"
"แบบนั้นเองหรือ อย่างนี้ก็แย่น่ะสิแล้วเธอจะตามเพื่อนๆ เขาทันไหม"
"ทันค่ะ เขมให้เพื่อนช่วยติวให้ค่ะ คุณท่านไม่ต้องห่วงนะคะ" เขมิกาตอบอย่างมั่นใจจะไม่ทำให้ท่านผิดหวังอย่างแน่นอน
"ดูท่าจะตั้งใจเรียนจังเลยนะ อย่าให้เสียแรงที่ฉันส่งเธอเรียนล่ะ"
"ค่ะคุณท่าน เขมจะตั้งใจเรียนค่ะ" คุณหญิงสุพิชชายิ้มเอ็นดูเด็กที่ขยันขันแข็ง ในใจเผลอคิดว่าหากตนมีหลานสาวอีกคนก็คงอายุอานามเท่าเด็กคนนี้
"ดีๆ ฉันชอบนะเด็กขยัน อย่าให้ผิดหวังแล้วกัน" เขมิกาส่งยิ้มกว้างให้ผู้มีพระคุณตรงหน้าที่ใจดีกับเธอโดยที่ไม่มองเธอเป็นแค่ลูกคนรับใช้
คนตัวเล็กก้มหน้าบีบนวดให้คุณท่านคลายปวดเมื่อยอยู่นานหลายนาทีไม่มีท่าทีอิดออด ไม่นานร่างสูงของคนที่เธอต้องการเลี่ยงการพบเจอก็เดินเข้ามาในห้องนั่งเล่นใหญ่ที่มีเขมิกากำลังนั่งนวดขาให้คุณหญิงสุพิชชา
"มีอะไรหรือเปล่าลูก"
"เปล่าครับคุณย่า" ชลากรตอบผู้เป็นย่าพลางส่งสายตามองไปทางหญิงสาวที่กำลังหลบหน้าเขา
"แล้วเราเดินทางวันไหนล่ะ เตรียมตัวพร้อมหมดแล้วใช่ไหมลูก" ผู้เป็นย่าเอ่ยถามหลานชายด้วยความเป็นห่วงเพราะอีกไม่กี่วันชลากรต้องไปอยู่ไกลหูไกลตา
"ครับคุณย่า พร้อมหมดทุกอย่างแล้วครับ"
"ดีจ้ะ แล้วอย่าลืมคิดถึงย่าบ้างล่ะรู้ไหม"
"ครับ ต้องคิดถึงสิครับ"
เขมิกานั่งฟังสองย่าหลานคุยกันโดยไม่ได้ตั้งใจที่จะแอบฟัง เธอเพิ่งมาอยู่ที่บ้านหลังนี้ได้ไม่นานเลยไม่รู้ว่าขลากรกำลังไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ แต่เธอก็ไม่ใช่คนที่จะต้องใคร่รู้ไปหมดทุกเรื่องจึงไม่ได้นึกสงสัยแต่อย่างใด
"เขม"
"คะคุณท่าน" เสียงหวานขานรับทันทีเมื่อถูกเรียกชื่อ
"เดี๋ยวไปบอกให้คนในครัวเตรียมมื้อเย็นเร็วหน่อยนะวันนี้ ฉันอยากพักผ่อนน่ะ"
"ได้ค่ะคุณท่าน" เขมิกาพยักหน้ารับรู้ แต่สายตายังไม่กล้าหันไปมองคนด้านข้างที่เคยพูดกล่าวหาเธอเมื่อครั้งก่อน
"รู้จักหรือยังตากร เขมลูกสาวแม่บ้านคนใหม่"
"ครับเคยเจอแล้วครับ" ชลากรตอบอย่างไม่ปิดบัง แต่หลังจากตอนนั้นก็ไม่มีเรื่องให้คุยกันอีกเลย แถมเธอยังหลบหน้าเขาราวกับเขาเป็นยักษ์เป็นมารที่ไม่กล้าสบตาด้วย
"พอแล้วแหละ ฉันหายเมื่อยแล้วเธอไปบอกในครัวซะไป" คุณหญิงสุพิชชาเอ่ยบอกกับเขมิกาให้หยุดนวดแล้วไปทำงานที่ตนสั่ง
คนตัวเล็กรีบคลานเข่าผ่านหน้าชลากรไปโดยไม่แม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมอง เธอกลัวว่าการมองของเธอจะทำให้เขาเข้าใจผิดไปอีกว่าเธอรู้สึกอะไรกับเขาทั้งที่ความจริงเขมิกาไม่ได้คิดอะไรเลย รู้แค่เพียงว่าเขาเป็นเจ้านายของตน
"แม่ของหลานไปไหนล่ะ วันนี้ย่ายังไม่เห็นเลย"
"คุณแม่ไปทำเล็บกับเพื่อนๆ น่ะครับ น่าจะกลับช่วงเย็นๆ"
"แม่ชนิดานี่รักสวยรักงามไม่เคยเปลี่ยน จนลูกชายโตขนาดนี้แล้ว"
"ท่านคงชอบน่ะครับคุณย่า"
"กร"
"ครับคุณย่า"
"เรื่องหนูอรย่ารู้ว่าหลานทำใจยาก แต่หลานต้องอย่าปิดกั้นตัวเองนะรู้ไหม ย่ายังรออุ้มเหลนอยู่นะ" คุณหญิงสุพิชชาไม่อยากให้หลานปิดกั้นตนเอง ชลากรยังอายุไม่เยอะเขาควรที่จะมีครอบครัว มีลูกเหมือนอย่างคนอื่นๆ
