ตอนที่4
เขมิกาได้กลับมาเรียนต่อถามที่ปรารถนาไว้ ขุดนักเรียนมัธยมปลายเข้ากับสัดส่วนรูปร่างของหญิงสาวที่อยู่ในวัยกำลังเจริญเติบโตเป็นอย่างดี คนตัวเล็กที่กำลังเห่อชุดนักเรียนใหม่มัวแต่ยืนหมุนตัวอยู่หน้ากระจกไปมาด้วยความดีใจ
"นังเขม! แกจะบิดหมุนอะไรนักหนาเวียนหัวจะตาย" เสียงตะคอกของแม่ทำให้เขมิกาหยุดชะงักการกระทำทันที
"ก็หนูดีใจนี่จ๊ะที่จะได้เรียนต่อ"
"กะอีแค่เรียนต่อจะตื่นเต้นอะไรนักหนา จบมาก็ต้องเป็นคนใช้อยู่ดี" คำพูดของผู้เป็นแม่ทำเอาเขมิกาหน้าเจื่อนลง
"อย่างน้อยหนูก็ได้เรียนนะจ๊ะแม่"
"เรื่องของแกเถอะ จะทำอะไรก็ทำแต่ต้องช่วยฉันทำงานที่นี่ด้วยล่ะรู้ไหม"
"จ้ะแม่" เขมิกาตอบรับอย่างว่าง่ายไม่มีอิดออด ตอนนี้ในสายตาของเธอไม่ใช่แค่แม่ที่มีพระคุณกับเธอเท่านั้น แต่ยังมีคุณท่านที่รับเธอเข้ามาอยู่ที่นี่อีกทั้งส่งเสียเธอให้ได้เรียนต่อ
"นี่นังเขม แกเห็นลูกชายคุณผู้หญิงไหม" จู่ๆ แขไขก็เอ่ยถามลูกสาวขึ้นมา
"เห็นจ้ะ คนที่นั่งอยู่ในห้องเมื่อวันก่อนนู้นใช่ไหมจ๊ะ"
"เออน่ะสิ แล้วได้เห็นหน้าไหม"
"เห็นอยู่นะจ๊ะ"
"แล้วเป็นไง"
"แม่ถามทำไมจ๊ะ" เขมิกาไม่ได้ตอบคำถามของแม่ แต่กลับสงสัยว่าแม่จะอยากรู้ไปทำไม เพราะตั้งแต่วันนั้นที่บังเอิญสบตากับเขาเข้าเธอก็ไม่เห็นหน้าเขาอีกเลย รู้แค่เพียงว่าเป็นหลานชายของคุณท่าน
"ก็แค่อยากรู้ว่าเอ็งรู้สึกยังไงตอนเห็นหน้าเขา"
"ไม่ได้รู้สึกอะไรนี่จ๊ะ เขาก็หล่อดีนะ ดูผู้ดีมากๆ เลยจ้ะ ก็เขาเป็นผู้ดีนี่เนอะ แหะๆ" คำตอบแสนซื่อของหญิงสาววัยสิบห้าที่ไม่ได้มีความรู้สึกอื่นใดนอกจากมองเขาเป็นเจ้านาย
"เอ็งนี่มันซื่อหรือโง่กันแน่เนี่ย" แขไขมองหน้าลูกสาวที่อยู่ในวัยเดียวกับเธอตอนมีแฟนคนแรก เธอเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวก็เพราะว่าพลาดท้องกับแฟนตั้งแต่สมัยมัธยม ซึ่งตอนที่เธอท้องก็อายุรุ่นราวคราวเดียวกับเขมิกาตอนนี้
"แม่ว่าหนูเหรอ?"
"จะไปไหนก็ไป ไปให้พ้นหน้าฉันเลยไป เห็นหน้าแกแล้วหงุดหงิดจริงๆ" แขไขไล่ลูกสาวให้ออกจากห้องพักไป เขมิกาทั้งซื่อบื้อแถมยังไม่ทันคนเธอชักเป็นห่วงว่าชาตินี้ลูกสาวจะหาสามีไม่ได้ แต่คงจะดีไม่น้อยถ้าลูกได้เป็นสะใภ้บ้านคนรวยเธอจะได้สบายไปด้วย
"งั้นหนูไปช่วยงานป้าดวงในครัวนะจ๊ะ"
"เออๆ แล้วถ้าพี่ดวงถามบอกว่าฉันปวดหัวนะ"
"จ้ะแม่"
เขมิกาออกจากห้องพักมาช่วยงานแม่บ้านคนอื่นๆ ในครัว เธอไม่อยากอยู่เฉยกลายเป็นตัวภาระอย่างที่ญาติพี่น้องเคยว่าเอาไว้ และถึงแม้จะไม่ใช่หน้าที่ของเธอแต่ก็ยังช่วยเหลือเท่าที่จะทำได้
"เขม ไปตำพริกไทยให้ป้าหน่อยสิไป"
"จ้ะป้า" คนตัวเล็กรับหน้าที่ก่อนจะทำตามที่ดวงดาวสั่ง
"แล้วแม่เอ็งไปไหนเขม"
"แม่ปวดหัวจ้ะ น่าจะไม่สบาย"
"งั้นเรอะ หาหยูกหายาให้แม่เอ็งหรือยังล่ะ"
"หาแล้วจ้ะ" เขมิกาโป้ปดคำโต เพราะแม่ของเธอไม่ได้เป็นอะไรเพียงแค่ไปพักเอนหลังให้หายปวดเมื่อยเท่านั้น
"อืมๆ ก็ดีแล้ว ดูแลแม่เอ็งด้วยล่ะ แล้วเรื่องโรงเรียนพรุ่งนี้ไปถูกใช่ไหม"
"น่าจะถูกนะจ๊ะ แหะๆ" หญิงสาวเกาหัวแกรกๆ ด้วยความไม่มั่นใจ เธอต้องไปโรงเรียนพรุ่งนี้แต่ยังไม่รู้ว่าโรงเรียนอยู่ที่ไหน
"เฮ้อ! เอ็งนี่มันซื่อบื้อจริงๆ เดี๋ยวพรุ่งนี้ป้าไปส่งละกัน แล้ววันต่อไปก็ไปเองล่ะเข้าใจไหม" ดวงดาวส่ายหน้าน้อยๆ กับความแสนซื่อของเขมิกา แต่ก็อดเอ็นดูไม่ได้
เขมิกากลายเป็นคนที่อายุน้อยที่สุดในบรรดาแม่บ้าน เธอได้รับความเอ็นดูจากคนอายุมากกว่าเพราะไม่ว่าจะเรียกใช้อะไรเขมิกาก็ตอบรับอย่างดีไม่มีปฏิเสธ ผิดกับแขไขที่พอได้รับงานมาก็จะโยนต่อให้ลูกสาว
วันไปโรงเรียนวันแรก เขมิกาในชุดนักเรียนมัธยมปลาย ผมเผ้าถูกมัดรวบเข้าที่เรียบร้อยอย่างดี เสื้อสีขาวสะอาดสะอ้านกับกระโปรงที่จับจีบสวยด้วยความประณีต รองเท้าหนังสีดำถูกขัดเงาวับไม่มีรอยถลอกแม้แต่นิดเดียว
"แต่งตัวเสร็จแล้วเหรอ"
"จ้ะป้าดวง" เขมิกายืนคอยดวงดาวที่อาสาจะไปส่งวันแรกรีบคว้ากระเป๋าถือเตรียมพร้อมไปโรงเรียน
"โทษทีนะเขม เอ็งต้องไปคนเดียวแล้วแหละ เมื่อกี้คุณผู้หญิงเรียกให้ป้าขึ้นไปหาน่ะสิ น่าจะนานอยู่" ดวงดาววิ่งมาหาเขมิกาด้วยท่าทีรีบร้อน ร้อยวันพันปีคุณชนิดาไม่เคยเรียกหาเธอ แต่มาประจวบเหมาะเรียกในวันนี้เสียได้
"ไม่เป็นไรจ้ะ เดี๋ยวเขมไปเองก็ได้ ป้าบอกทางมาก็พอจ้ะ" เขมิกาแยกแยะได้ว่าอะไรควรหรือไม่ควร เธอเป็นแค่ลูกสาวคนรับใช้ไม่ริอาจทำตัวงี่เง่าได้
"งั้นเอ็งจำดีๆ นะ ออกจากซอยไปแล้วเลี้ยวขวาสองที จากนั้นเดินตรงไปจะมีท่ารถเมล์ ขึ้นรถสาย..." ดวงดาวอธิบายเส้นทางละเอียดยิบให้เขมิกาเข้าใจ แต่ทว่าถนนหนทางในเมืองหลวงนั้นซับซ้อนเกินกว่าที่เขมิกาจะเข้าใจได้
"ป้าต้องไปแล้ว เอ็งไปดีๆ ล่ะ"
"ดะ...เดี๋ยวก่อนจ้ะป้า" คนตัวเล็กจะเรียกแต่ไม่ทันเสียแล้ว ดวงดาววิ่งเข้าบ้านหลังใหญ่ไปเป็นที่เรียบร้อยปล่อยทิ้งให้เขมิกายืนเกาหัวแกรกๆ อยู่คนเดียว
"เอาน่า ไม่น่ายาก ไม่ได้ก็ค่อยถามทางเอาแล้วกัน"
เขมิการวบรวมความกล้าแล้วมุ่งหน้าออกจากรั้วบ้านหลังใหญ่ สองขาเรียวก้าวไปตามเส้นทางที่พอจะจำได้คร่าวๆ จากที่ฟังดวงดาวเมื่อครู่นี้
"เลี้ยวขวาอีกสองครั้ง ใช่ไหมนะ?" เมื่อมีทางแยกสองทาง เขมิกาเริ่มคุยกับตัวเองด้วยความไม่แน่ใจ
บรื้น~ เสียงรถจากทางด้านหลังที่แล่นมาแต่ไกลทำให้เขมิการีบหลบเข้าข้างทาง แต่ทว่ารถที่ควรจะแล่นผ่านไปกลับจอดตรงหน้าเธอ
"จะไปโรงเรียนใช่ไหม" กระจกด้านฝั่งคนขับถูกเลื่อนลงปรากฏใบหน้าหล่อคมคายของผู้เป็นเจ้านาย
"คุณผู้ชาย"
"เรียกฉันว่าคุณกรก็พอ คุณผู้ชายเอาไว้เรียกพ่อฉัน" ชลากรสั่งให้เธอเรียกเขาเหมือนอย่างคนอื่นๆ เพื่อไม่ให้สับสนกับพ่อของเขา
"ค่ะคุณกร"
"แล้วที่ฉันถามล่ะ"
"อ๋อค่ะ กำลังจะไปโรงเรียนค่ะ" เขมิกาตอบไปตามความจริงพร้อมกับใบหน้าที่ดูละล้าละลังว่าควรถามเขาดีหรือเปล่า
"มีอะไรจะถามก็ว่ามา"
"คือว่า...โรงเรียนของเขมต้องไปทางไหนเหรอคะ" คนตัวเล็กชี้ไปที่ชื่อย่อโรงเรียนบนเสื้อนักเรียนของตนเองให้เขาเห็นอย่างซื่อๆ
"เฮ้อ! ขึ้นรถมา" ชลากรกุมขมับไม่คิดว่าลูกสาวแม่บ้านคนใหม่ที่ย่าส่งเสียให้เรียนต่อจะซื่อบื้อได้ขนาดนี้
"ไม่เป็นไรค่ะ แค่บอกทางก็พอค่ะ"
"บอกให้ขึ้นมา ฉันจะไปส่ง" ชลากรไม่ใจร้ายทิ้งให้เด็กตาดำๆ อย่างเธอไปคนเดียวได้
"ขอบคุณค่ะคุณกร" เขมิกาก้าวขึ้นรถคันหรูด้วยความเกรงใจ หญิงสาวนั่งตัวเกร็งไม่กล้าขยับตัว
"คาดเข็มขัดด้วย"
"คะ? อ๋อค่ะ" เธอรีบคว้าเข็มขัดนิรภัยทว่าเด็กบ้านนอกอย่างเธอที่เพิ่งเคยนั่งรถหรูเป็นครั้งแรกทำอะไรก็ดูเก้ๆ กังๆ ไปเสียหมด
"นั่งเฉยๆ เลยเดี๋ยวรถฉันพังหมด" ชายหนุ่มวัยยี่สิบสามทนเห็นความเงอะงะของเธอไม่ไหว เขาออกคำสั่งให้เธอนั่งเฉยๆ แล้วจัดการคาดเข็มขัดให้เธอด้วยตนเอง
