ตอนที่2
ชลากรยังคงเก็บจดหมายลาของเอมอรเอาไว้ไม่ยอมเปิดอ่าน เขายังทำใจไม่ได้ที่จะต้องอ่านจดหมายลาของคนรัก แต่สุดท้ายด้วยความสงสัยและแคลงใจเขาก็ต้องจำใจเปิดจดหมายที่เอมอรทิ้งเอาไว้
'พี่กร...ขอบคุณนะคะที่รออรมาตลอด อรขอโทษนะที่ไม่เคยเป็นคนรักที่ดีให้พี่ได้เลย อรตัดสินใจดีแล้วค่ะที่ทำแบบนี้ พี่อย่าโทษตัวเองเลยนะคะ อรเหนื่อยที่ต้องอยู่กับความกดดันของแม่แล้ว อรอยากมีอิสระเป็นของตัวเอง ต่อจากนี้ขอให้พี่กรโชคดีนะคะ...ขอให้พี่ได้เจอคนที่เขารักพี่ และพี่รักเขาเข้ามาในชีวิต"
"อร..." ชลากรเริ่มเข้าใจทุกอย่างผ่านจดหมายที่เธอทิ้งไว้
"อะเอาไป ฉันว่าแกน่าจะต้องรู้" จู่ๆ เพื่อนสนิทซี่งเป็นญาติห่างๆ ของเอมอรก็ยื่นกระดาษแผ่นหนึ่งให้กับชลากร
"อะไร?" เขารับกระดาษแผ่นนั้นจากมือเพื่อนมาด้วยความมึนงง
"ประวัติการรักษาโรคซึมเศร้าของอร"
"??" ชลากรหันขวับมองหน้าเพื่อนสนิทอย่างไม่เชื่อ เขาไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าเอมอรเป็นโรคซึมเศร้า เธอไม่เคยบอกอะไรเขาเลย
"อรรักษาตัวมาหลายปีแล้ว ที่ฉันรู้ก็เพราะอรเคยมาเล่าให้ฟังเกี่ยวกับแม่ของตัวเอง แต่อรสั่งไม่ให้ฉันบอกแก" กรัณหรือกายเพื่อนสนิทของชลากรและยังเป็นญาติที่เอมอรสามารถพูดคุยได้ทุกเรื่อง
"ไม่ใช่ความผิดของแกหรอกนะกร อรทนรับความกดดันของที่บ้านไม่ไหว และแม่ของอรก็ไม่เคยเชื่อว่าอรเป็นโรคซึมเศร้า"
"ทำไมอรถึงไม่เคยบอกฉัน"
"อรไม่อยากให้แกเป็นห่วง เธอรู้ว่าแกมีเรื่องต้องทำเยอะ อรก็เลยให้ฉันรับปากว่าจะไม่พูดกับแกเรื่องนี้ ฉันขอโทษนะที่ไม่ได้บอกแกตั้งแต่แรก" กรัณเองก็รู้สึกผิดที่ไม่ได้บอกเพื่อนเรื่องการรักษาตัวของเอมอร เขาก็มีส่วนทำให้เอมอรจากไป
"มันเป็นความต้องการของอรนี่ ฉันไม่โกรธแกหรอกไอ้กาย"
"แล้วแกจะเอายังไงต่อ" กรัณเอ่ยถามเพื่อนสนิทที่เรียนมาด้วยกันตั้งแต่ประถมจนถึงมหาวิทยาลัย เขาอดเป็นห่วงเพื่อนไม่ได้เพราะรู้ว่าชลากรหวังเรื่องการแต่งงานกับเอมอรมากแค่ไหน
"ฉันว่าจะไปเรียนต่อโทที่อเมริกา"
"คิดดีแล้วเหรอ"
"อืม คิดดีแล้ว" ชลากรจำเป็นต้องไปเรียนต่อที่ต่างประเทศเพื่อให้ตัวเองลืมความเจ็บปวดที่มีตอนนี้ ชีวิตของเขายังต้องดำเนินต่อไปแม้จะสูญเสียเอมอรไปก็ตาม
"ถ้าอยากให้ฉันช่วยอะไรก็บอกแล้วกัน" กรัณตบบ่าเพื่อนสนิทเป็นการปลอบใจ เขาไม่รู้ว่าควรพูดอย่างไรให้ชลากรหายเศร้าสลดอย่างที่เป็นตอนนี้ ในฐานะเพื่อนสนิทเขาคงทำได้แค่ให้กำลังใจและคอยสนับสนุนเพื่อนในทุกๆ เรื่อง
"ขอบใจนะ"
"ไอ้กร ฉันรู้ว่าแกรู้สึกผิดกับอร ฉันเองก็เหมือนกัน แต่แกอย่าปิดกั้นตัวเองจากใครนะ อรคงอยากเห็นแกมีความสุข"
"ฉันไม่อยากมีใจให้ใครอีกแล้ว" ชลากรตั้งใจจะไม่ชอบหรือรักใครอีก เขาไม่อยากต้องเจ็บปวดหากต้องจากลาหรือสูญเสียเหมือนเช่นตอนนี้ที่เขากำลังเป็นอยู่
เถ้ากระดูกที่ถูกเผาจนกลายเป็นผุยผงถูกโรยลงแม่น้ำกว้างเพื่อเป็นการทำให้เอมอรได้มีอิสระอย่างที่เธอต้องการ ชลากรยกมือขึ้นปาดน้ำตาออกลวกๆ ไม่ให้ใครได้เห็น ส่วนแม่ของเอมอรพอลูกสาวเพียงคนเดียวจากไปโดยไม่ร่ำลาก็กลายเป็นคนที่ซึมสลดไม่พูดไม่จากับใคร เพราะรู้สึกผิดกับทุกสิ่งที่เคยทำกับลูก
เอมอรถูกบังคับและกดดันให้ทำตามที่ผู้เป็นแม่ขีดเส้นไว้ให้ แม้แต่การเรียนเธอก็ยังไม่มีสิทธิ์ที่จะเลือกเอง หรือกระทั่งคนรักเธอก็ยังถูกแม่กดดันให้คบกับชลากรซึ่งเขาใจดีกับเธอมากๆ จนเธอรู้สึกละอายใจที่ไม่ได้เป็นคนรักที่ดีให้กับเขา ทว่าตอนนี้เอมอรได้เป็นอิสระในแบบที่เธอต้องการแล้ว
"ตัดสินใจดีแล้วเหรอลูก" น้ำเสียงกังวลของคนเป็นแม่พร้อมกับสีหน้าที่ไม่ค่อยเห็นด้วยเมื่อลูกชายบอกว่าจะไปเรียนต่อที่อเมริกา
"ครับแม่ ผมจะไปเรียนต่อโทที่อเมริกาครับ" ชลากรตอบอย่างมั่นอกมั่นใจด้วยน้ำเสียงหนักแน่น แม้ว่าใบหน้าของชายหนุ่มยังคงเศร้าสลดไม่หาย
"เรียนที่ไทยก็ได้นี่ลูก มหาวิทยาลัยดังๆ มีชื่อเสียงมีถมเถไป ไม่เห็นต้องไปไกลเลยลูก"
"แต่ดีกรีมหาวิทยาลัยของต่างประเทศย่อมดีกว่านี่ครับแม่ อีกอย่างผมอยากไปหาประสบการณ์ที่นั่นด้วยครับ"
"แต่ว่า..."
"ให้ตากรไปเถอะแม่ชนิดา" จู่ๆ ผู้เป็นย่าก็เอ่ยขึ้นมาทันทีที่เห็นลูกสะใภ้ทำท่าจะปฏิเสธความปรารถนาของชลากร
"แต่คุณแม่คะ นี่เพิ่งจะผ่านงานของหนูอรมาเองนะคะ เฌอกลัวตากรจะอยู่คนเดียวไม่ได้" คุณชนิดาแม่ของชลากรทำหน้าเครียดตอบแม่สามีที่ยอมให้ลูกชายของเธอไปต่างประเทศ
"ผมอยู่ได้ครับแม่ กายก็ไปด้วยครับแม่ไม่ต้องห่วง"
"กรัณก็ไปด้วยหรือเนี่ย" ผู้เป็นย่าอมยิ้มน้อยๆ ตอนที่ได้ยินชื่อเพื่อนสนิทของหลานชาย รายนั้นมักจะตัวติดอยู่กับชลากรมาแต่ไหนแต่ไร
"ครับคุณย่า กายจะไปด้วยแต่ว่าไปพักผ่อนช่วงครึ่งปีแรกน่ะครับ ไม่ได้ไปเรียนต่อ"
"งั้นเหรอ ถ้างั้นก็ยิ่งดีสิกรจะได้มีเพื่อนอยู่ด้วย ไปเถอะลูกย่าอนุญาต"
"คุณแม่คะ" คุณชนิดาอยากจะเถียงแต่เธอไม่อาจเถียงสู้แม่ของสามีได้ สุดท้ายก็ต้องจำยอมให้ลูกชายไปไกลหูไกลตาจนได้
"ขอบคุณครับคุณย่า ฟอด" ชลากรโผกอดย่าก่อนจะหอมแก้มซ้ายทีขวาทีเป็นการเอาใจ เขาเป็นหลานคนเดียวของบ้านไม่แปลกที่ย่าจะรักและตามใจเขาทุกอย่าง
"ถ้าขาดเหลืออะไรก็บอกย่านะลูก ไปอยู่ที่นั่นก็ตั้งใจเรียนล่ะรู้ไหม"
"ครับคุณย่า"
"แล้วก็นะตากร เรื่องของหนูอรหลานไม่ต้องรู้สึกผิดกับตัวเองนะลูก ตอนนี้น้องไปสบายแล้วหลานต้องใช้ชีวิตของตัวเองต่อไปนะ"
"ผมทราบครับ คุณย่าไม่ต้องห่วงนะครับผมจะเป็นคนใหม่ให้ดูครับ" ชลากรเสียใจที่เอมอรจากไป แต่เขาต้องเดินต่อไปเพื่ออนาคตของตนเอง
ชลากรคิดเริ่มต้นการเป็นคนใหม่ เขาจะไม่เปิดใจรับใครเข้ามาอีกแล้ว เขาไม่อาจทนอยู่กับความรู้สึกเช่นนี้ได้อีก ไม่ว่าจะจากเป็นหรือจากตายเขาก็ไม่ต้องการให้มันเกิดขึ้นอีกแล้ว นี่จะเป็นครั้งสุดท้ายที่เขาจะร้องไห้กับความรัก
ชายหนุ่มเก็บของใช้ที่จำเป็นเตรียมตัวเดินทางไปอยู่ในที่ที่เขาได้เลือกแล้ว สถานที่แห่งความอิสระเสรีจะทำให้เขาได้เปลี่ยนตัวเองจากชลากรคนเดิมให้เป็นคนใหม่ในไม่ช้า
