บท
ตั้งค่า

บทที่ 2 ปล้นคนรวยช่วยคนจน

เสียงหัวเราะครึกครื้นกับบทสนทนาโหวกเหวกประหนึ่งใครตั้งวงเหล้าดังสนั่นจนชวนหงุดหงิด

“อื้อ…หนวกหูจัง”

“เอ๋…พี่ใหญ่ ๆ มาดูเร็ว เหมือนนางจะได้สติแล้วนะขอรับ” ชายฉกรรจ์ทั้งร่างบึกบึน ตัวสูง ตัวเตี้ย ต่างมารุมล้อมเมียงมองสตรีร่างระหงที่นอนสลบไสลไร้สติอยู่บนกองฟางด้วยความสนใจใคร่รู้

เปลือกตาบางค่อย ๆ ขยับแผ่ว แพขนตาหนาระริกไหวดั่งผีเสื้อกระพือปีก อึดใจถัดมาก็แง้มเปิดแช่มช้า

“ฟื้นแล้ว นางฟื้นแล้ว”

ภาพตรงหน้าเลือนรางเป็นอย่างมาก ไม่นานก็เริ่มกระจ่างชัด หญิงสาวดีดกายผึงพร้อมสีหน้าตื่นตระหนก ริมฝีปากอ้าเผยอทว่าไร้เสียง

บรรดาชายร่างใหญ่ร่างเล็กต่างถอยกรูดแตกกระเจิงเพราะตกใจต่อท่าทีประหลาดของนาง

นัยน์ตาดอกท้อเหลือบซ้ายแลขวาพลันถอยหลังกรูดไปนั่งกอดเข่าด้วยความหวาดกลัว

โจรงั้นเหรอ แต่ชุดที่พวกเขาสวมเก่าไปหน่อยไหม ชุดโบราณ นี่ก็ชุดโบราณ คนนี้ก็ชุดโบราณ

ฟางเซี่ยนเซี่ยนกลอกตาไปมาจนรู้สึกสับสน กระทั่งชายร่างแคระสูงไม่พ้นเข่าชายกำยำเอ่ย “ดูเหมือนนางคงตกใจจนเป็นใบ้”

จู่ ๆ พวกเขาก็หัวเราะครืนด้วยความสนุกสนาน

ฟางเซี่ยนเซี่ยนตั้งสติ “พวกแกเป็นใคร”

ชายร่างสูงตอบ “คนสวยเจ้าจำไม่ได้งั้นหรือ ข้าก็เป็นเจ้าบ่าวของเจ้าอย่างไรเล่า”

ฟางเซี่ยนเซี่ยนเบิกตากว้างประหนึ่งไข่ห่าน เสียงหัวเราะขบขันก็ดังขึ้นอีกระลอก

“พอแล้ว ๆ พวกเจ้ารังแกสตรีสนุกมากนักหรือ”

ชายร่างมอมทุกคนต่างแหวกทางให้คนที่เอ่ยเมื่อครู่แทรกตัวเข้ามา ฟางเซี่ยนเซี่ยนช้อนตามองอีกฝ่ายเขม็ง

คนผู้นี้ใบหน้าหล่อเหลาไม่คล้ายพวกที่รุมล้อมตนเมื่อครู่สักนิด แม้เครื่องแต่งกายจัดว่าเก่าซีด ทว่าไม่อาจบดบังความสง่างามที่แผ่กำจายออกมาได้เลยสักเสี้ยว ขบคิดไปมาฟางเซี่ยนเซี่ยนก็ถึงขั้นสบถเสียงหลงอยู่ภายในใจ

อะไรกัน ชุดจีนโบราณ เอ๊ะ…หรือเป็นพวกคนป่า!

“อย่าเข้ามานะ พวกแกเป็นใคร ทำไมต้องจับตัวฉันมาด้วย”

“หือ…” ชายร่างสูงยอบกายนั่งขนาบข้างฟางเซี่ยนเซี่ยน มือหยาบกร้านเอื้อมไปเบื้องหน้าหมายยลโฉมอีกฝ่ายให้ชัด ๆ ทว่าหญิงสาวกลับเบี่ยงใบหน้าหนี

ชายหนุ่มยิ้มบาง “สาวน้อย เจ้าคงเสียดายมากสิท่าที่ไม่ได้เข้าวิวาห์กับเจ้าหมอนั่น ข้าได้ยินมาว่าเจ้าไม่อยากแต่งมิใช่หรือ ก็ถือว่าข้าเป็นผู้มีพระคุณ เจ้าต้องขอบคุณข้าถึงจะถูก”

ฟางเซี่ยนเซี่ยนกะพริบตางุนงง “พูดบ้าอะไรของคุณ แต่งงานอะไรมิทราบ ฉันใกล้ตายอยู่ข้างถนนดี ๆ ก็มาโผล่ที่นี่เนี่ยล่ะ”

“เห็นงดงามเรียบร้อยคิดว่าจะเชื่อฟังเสียอีก พี่ใหญ่จัดการนางเลยดีหรือไม่ ถึงอย่างไรนางก็เป็นลูกขุนนางชั่วนั่น พ่อสารเลวอย่างไร ลูกก็คงจะงามแต่รูปจูบไม่หอม”

ชายหนุ่มยกมือปราม “อาฮ่าว เจ้าใจเย็นก่อน ถามไถ่กันให้รู้ความเสียหน่อย ถึงอย่างไรก็พานางกลับมาแล้ว ทำเช่นนั้นใจจืดใจดำกับผู้หญิงตัวเล็ก ๆ เกินไปกระมัง”

ฟางเซี่ยนเซี่ยนหงุดหงิด ไม่รู้พวกเขาพล่ามอะไรเจ้า ๆ ข้า ๆ ราวกับอยู่ในซีรีส์จีนย้อนยุค

เสียงใสโพล่ง “พวกแกนี่เสียสติหรือยังไง จะบอกให้นะว่าถ้าจะจับตัวฉันมาเรียกค่าไถ่พวกแกคิดผิดแล้ว เพราะบ้านฉันจนมาก ป้าขี้งก ลุงขี้เมา จะเอาอะไรมาให้กันเล่า โธ่!”

“แม่นางน้อยนี่ช่างปากดีจริง ๆ เจ้าจะแสร้งเป็นคนจนได้อย่างไร ในเมื่อพ่อของเจ้าโกงกินบ้านเมืองจนร่ำจนรวย โกหกตาใส”

ฟางเซี่ยนเซี่ยนอ้าปากหวอ ต้องเป็นเรื่องเข้าใจผิดกันอย่างแน่นอน คนพวกนี้จะจับลูกสาวเศรษฐีแต่ดันไปลากตัวนางที่นอนแอ้งแม้งใกล้ตายข้างถนนมาเนี่ยนะ ไม่เรียกว่าโง่คงเรียกว่าประสาท

แต่แล้วเมื่อนึกมาถึงเรื่องที่ตนนอนหมดสติที่ข้างทาง ฟางเซี่ยนเซี่ยนก็รู้สึกว่ามันผิดปกติ มือเรียวยกขึ้นคลำไปยังท้ายทอยของตนเอง ทว่ากลับไร้ซึ่งความเจ็บปวด ลูบ ๆ ศีรษะตัวเองไปมาก็ยิ่งแตกตื่น เพราะไม่รู้ว่ากำลังใส่อะไรเอาไว้รุงรังไปหมด

บรรดาชายฉกรรจ์มองดูอาการประหลาดของฟางเซี่ยนเซี่ยนก็พากันขมวดคิ้วยุ่ง

“นางเป็นอันใดอีกแล้ว พี่ใหญ่ข้าว่านางตกใจจนเสียสติไปแล้วจริง ๆ”

มือเรียวยังคลำเรือนร่างตัวเองไม่หยุด กระทั่งสัมผัสโดนหน้าผากก็รู้สึกว่ามันบวมเป่งจนรู้สึกเจ็บมาก

“โอ๊ย”

ทำไมเจ็บตรงนี้ล่ะ ก็ตอนเราล้มท้ายทอยเลือดอาบเลยไม่ใช่เหรอ

ฟางเซี่ยนเซี่ยนหลุบตามองเสื้อผ้าที่ตัวเองสวมใส่ก็ลุกพรวด

“ชุดโบราณ สีแดงด้วย นะ…นี่ชุดแต่งงานสมัยโบราณนี่”

ชายฉกรรจ์ทั้งหลายถอยกรูดไปรวมกัน มองมาที่ฟางเซี่ยนเซี่ยนเป็นตาเดียวดั่งพบเจอตัวประหลาด

“นี่นาง นางผีเข้างั้นรึ”

“ข้าบอกแล้วว่านางตายแล้ว ๆ ให้ทิ้งเอาไว้พี่ใหญ่ก็ไม่เชื่อ จะช่วยนางกลับมาให้ได้ แล้วเป็นอย่างไร นางตื่นมาก็เสียสติ”

ฟางเซี่ยนเซี่ยนเซแทบล้มทั้งยืน ชายหนุ่มร่างสูงรุดเข้าหาหวังช่วยประคอง แต่สตรีตัวเล็กก็ก้าวเท้าหลบดุจดั่งลิงทโมน

“อย่าเข้ามานะ”

“ข้าไม่ได้จะทำร้ายเจ้า เจ้าก็คงได้ยินแล้วว่าข้าช่วยเจ้าเอาไว้”

ขาสูงค่อย ๆ เยื้องย่างเข้าใกล้สตรีตรงหน้าเนิบนาบ ฟางเซี่ยนเซี่ยนรู้สึกได้ว่าเขาใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ หญิงสาวจึงเร่งถอยกรูดไปไกล

เพราะเกรงว่าตนเองจะถูกทำไม่ดีไม่ร้าย นึกอะไรไม่ออกก็คว้ามั่ว ๆ ไปบนหัว ฉับพลันก็ได้ปิ่นปักผมมาอันหนึ่ง จากนั้นก็ใช้มันจี้คอตัวเองอย่างไม่ลังเล

เสียงตกใจดังอึงอล “นางรนหาที่ตายอีกแล้ว”

“พวกแกถอยไป ไม่งั้นฉันจะแทงคอตัวเองตาย แล้วสุดท้ายตำรวจต้องมาลากคอพวกแกเข้าตารางแน่นอน”

“นางพูดอะไร วาจาประหลาดยิ่งนัก พี่ใหญ่ข้าว่าเร่งจัดการนางเถอะขอรับ ดูท่าแล้วนางคงพูดไม่รู้ความ”

ฟางเซี่ยนเซี่ยนเบิกตาโพลง เพราะคิดว่าตัวเองจะถูกขืนใจ หากเป็นเช่นนั้นยอมตายเสียยังดีกว่า “เลวจริง ๆ นี่พวกแกเป็นไอ้รถคันนั้นที่ชนฉันแล้วทำเป็นหนี สุดท้ายก็วนกลับมาสินะ คนชั่ว”

“แม่นางข้าว่าเจ้าสงบสติแล้วนั่งลงคุยกันดี ๆ ก่อนเถิด” ชายหนุ่มหน้าวสันต์หันไปกำชับลูกน้อง “พวกเจ้าออกไปให้หมด”

“แต่พี่ใหญ่…”

“ข้าบอกให้ออกไป” เสียงทุ้มตัดบท

“ขอรับ” บรรดาลูกน้องต่างเดินคอตกกลับออกไป

“เอาล่ะ ตอนนี้มีเพียงเจ้ากับข้าแล้ว แม่นางเจ้าวางปิ่นลงก่อนเถิด หากเจ้าบริสุทธิ์พวกเราไม่คิดทำร้ายเจ้าแน่นอน”

ฟางเซี่ยนเซี่ยนลังเล “ฉันไม่เชื่อ เคยได้ยินมาว่าไม่มีสัจจะในหมู่โจร พวกแกเป็นโจรใช่ไหม”

ชายหนุ่มพยักหน้า “ใช่ พวกเราเป็นโจร โจรแล้วอย่างไร พวกเราก็ยังดีกว่าขุนนางเศรษฐีที่เอาแต่ขูดเลือดขูดเนื้อกับชาวบ้านตาดำ ๆ”

ฟางเซี่ยนเซี่ยนรับรู้ได้ว่าน้ำเสียงของชายหนุ่มเปลี่ยนไป เพราะกลัวว่าตัวเองจะไปกระตุกหนวดเสือเข้า จึงเลือกสงบคำลง คำพูดเมื่อครู่ของเขาทำให้หญิงสาวนึกบางอย่างขึ้นได้

หรือว่า…

“นี่อย่าบอกว่าพวกนายทำตัวเป็นโรบินฮู้ดน่ะ”

ชายหนุ่มเลิกคิ้วด้วยความฉงน “โรบินหูอะไรของเจ้า”

ฟางเซี่ยนเซี่ยนถอนหายใจ ดูเหมือนว่าหญิงสาวไม่ได้พบกับโจรธรรมดา ทว่ากลับเป็นโจรผดุงคุณธรรมเสียอย่างนั้น

เพียงแต่พวกเขาเลือกจับผิดคนแล้ว

“เอาล่ะ ฉันพอเดาได้ราง ๆ แล้ว ที่แท้พวกนายก็เลือกปล้นเงินจากคนรวยที่ได้มาอย่างผิดกฎหมายไร้ศีลธรรมเพื่อไปช่วยคนจนอย่างนั้นสินะ”

ชายหนุ่มแค่นยิ้ม ดูเหมือนอารมณ์ของเขาเริ่มดีขึ้นมาหน่อยแล้ว “แม่นาง คิดไม่ถึงว่าเจ้าก็ฉลาดอยู่บ้าง เช่นนั้นเราจะคุยกันดี ๆ ได้หรือยัง”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel