บท
ตั้งค่า

บทที่ 1 กองดองที่ยังไม่ทลาย

ถนนสายหลักในเมืองหลวงเต็มไปด้วยรถราคลาคล่ำ ร้านไก่ทอดรสเลิศตั้งอยู่ตรงทำเลทองเข้าพอดีจึงทำให้ลูกค้าแวะเวียนเข้ามาไม่ขาดสาย

“ขอบพระคุณที่แวะมาอุดหนุนนะคะ โอกาสหน้าเชิญใหม่ค่ะ”

เข็มนาฬิกายามค่ำคืนเดินไปหยุดที่เลขเก้าและเลขสิบสอง บ่งบอกว่าถึงเวลาปิดร้านแล้ว ทันทีที่ลูกค้าคนสุดท้ายก้าวเท้าพ้นธรณีประตู หญิงสาวก็รีบถลาเข้าพลิกป้ายหน้าร้านเป็นปิดทำการอย่างรวดเร็ว

กริ้ง

เสียงกระดิ่งแขวนหน้าประตูดังขึ้นตามแรงขยับ

“แหม…เซี่ยนเซี่ยน พรุ่งนี้หยุดก็รีบเลยเชียว”

ฟางเซี่ยนเซี่ยนปัดมือไปมาพลางฉีกยิ้มกว้างจนดวงตายิบหยีเป็นครึ่งจันทร์เสี้ยว “แน่นอนอยู่แล้ว พรุ่งนี้เป็นวันหยุดยาวก่อนสิ้นปีนี่นา คอยดูเถอะจะกลับห้องไปอ่านนิยายให้ฉ่ำ”

เผิงซินยวี่เพื่อนสาวต่างคณะส่ายศีรษะไปมาทว่าริมฝีปากกลับประดับไปด้วยรอยยิ้มเอ็นดู “คนอื่นเขามีแต่อยากรีบกลับไปเค้าต์ดาวน์พร้อมแฟนหรือครอบครัว ก็มีแต่เธอนี่แหละที่อยากไปอ่านนิยายข้ามปี”

ฟางเซี่ยนเซี่ยนหัวเราะคิกคัก จากนั้นเดินไปเท้าคางหน้าเค้าน์เตอร์ที่เพื่อนสาวกำลังนับเงินปิดบัญชี “แน่นอนอยู่แล้ว เธอก็รู้ว่าครอบครัวเราเป็นยังไง อีกอย่างเราก็ไม่มีแฟน ไม่เหมือนใครบางคน”

เผิงซินยวี่ตัวร้อนฉ่าเร่งก้มหน้างุด “พูดอะไรของเธอ”

“ฮั่นแน่…ทำเป็นเขิน” มือเรียวยื่นไปด้านหน้าจากนั้นประคองปลายคางเพื่อนสาวเพื่อเย้าแหย่ “เสี่ยวยวี่พี่รักเจ้า”

เผิงซินยวี่หน้าแดงก่ำดั่งลูกตำลึงสุก เร่งปัดมือเพื่อนรักออกเบา ๆ “กะ…กลับไปเลยนะ เดี๋ยวเราจัดการปิดร้านเอง”

ฟางเซี่ยนเซี่ยนตาโต “โอ้โห เพื่อนรักของเราน้ำใจงามจริง ๆ ปกติบอกว่ากลัวผีไม่กล้าอยู่คนเดียวแล้วทำไมวันนี้…”

เปลือกตาบางหรี่ลงจนแคบ กระทั่งมองไปหน้าร้านก็พบชายหนุ่มร่างสูงหน้าตาหล่อเหลากำลังโบกไม้โบกมือให้ตนอยู่จึงเข้าใจทันที “ที่แท้ก็มีคนมาช่วยนี่เอง”

“บ้าหรือไง ไปเลยไม่ต้องมายืนเกะกะ เห็นบอกซื้อนิยายเล่มใหม่มาเพิ่งอ่านแค่บทนำไปไม่ใช่เหรอ”

“จริงด้วย เสี่ยวยวี่เพื่อนรัก เธอนี่ช่างดีจริง ๆ ไว้จะซื้อขนมมาฝากนะ” พูดจบฟางเซี่ยนเซี่ยนก็เร่งร้อนจากไปประหนึ่งพายุ ไม่ลืมโบกมือทักทายแฟนหนุ่มของเพื่อนสาวก่อนจะเร่งปั่นจักรยานออกมาด้วยสีเปื้อนความสุข

ฟางเซี่ยนเซี่ยนเป็นนักศึกษาคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ปีที่สาม หากจบไปแล้วเธออยากจะทำอาชีพสถาปนิก เพราะหญิงสาวเฝ้าฝันมาตลอดว่าสักวันจะมีบ้านเป็นของตัวเองทั้งยังมาจากความคิดและการออกแบบของเธอ ฉุกนึกไปแล้วก็รู้สึกภาคภูมิใจมาก ถึงแม้ยังเป็นแค่ความใฝ่ฝัน

ที่ฟางเซี่ยนเซี่ยนดิ้นรนมาได้ถึงทุกวันนี้ก็เพราะเธอทำการกู้เรียน อีกทั้งยังทำงานพาร์ตไทม์เพื่อเลี้ยงชีพ ส่วนครอบครัวน่ะหรือ ฟางเซี่ยนเซี่ยนไม่อยากจะพูด เธอกำพร้าพ่อแม่ตั้งแต่ห้าขวบพ่อแม่จากไปด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์พร้อมกัน หญิงสาวจึงต้องอาศัยอยู่กับลุงตัวร้ายและป้าจอมวีน

นาน ๆ ครั้งฟางเซี่ยนเซี่ยนจะโผล่กลับบ้านไปให้คนทั้งสองเห็นหน้า หากไม่จำเป็นเธอไม่มีทางกลับไปบ้านโกโรโกโสนั่นเด็ดขาด ไม่สู้นอนอ่านนิยายอยู่หอยังดีซะกว่า ขืนกลับไปมีหวังสวรรค์ของเธอจะต้องถล่มเป็นแน่ เพราะต้องฟังเสียงแหลม ๆ ของป้าบ่นแว้ด ๆ ว่ายัยเด็กไม่มีพ่อแม่จนหูชาตลอดทั้งวัน

เท้าเรียวเร่งปั่นจักรยานต่อไปเรื่อย ๆ แต่เพราะเป็นช่วงสิ้นปีทำให้หิมะเริ่มลงหนาบดบังทัศนียภาพของเส้นทางไปเสียหมด

ฟางเซี่ยนเซี่ยนพยายามประคองแฮนด์จักรยานให้มั่นคง ภายในใจก็นึกถึงนิยายที่ซื้อดองเอาไว้เพื่อเป็นแรงขับเคลื่อน แต่แล้วเธอกลับมองเห็นบางอย่างกระโดดโหยงเหยงไปมาที่ด้านหน้า

“เอ๊ะ…นั่นตัวอะไร”

ดูเหมือนว่าเจ้าตัวข้างหน้าจะเป็นสิ่งมีชีวิตตัวน้อย ฟางเซี่ยนเซี่ยนเกรงว่ามันจะถูกรถชนเอาได้จึงเร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้น

ไม่ทันได้เข้าใกล้มันด้วยซ้ำก็มีแสงจากรถยนต์คันหนึ่งสาดเข้าดวงตาจนคล้ายคนบอดสนิท ฟางเซี่ยนเซี่ยนหลับตาลงแน่นพลางร้องเสียงหลง เพราะหิมะทั้งลื่นทั้งเย็น หนำซ้ำยังโดนอีกฝ่ายเปิดไฟสูงใส่หน้า

“เหวอ เหวอ”

มือที่บังคับแฮนด์จักรยานสั่นผับผับ ดูเหมือนเธอจะทรงตัวไม่อยู่แล้ว เสียงล้อรถครูดพื้นถนนดังสนั่นหวั่นไหว

เอี๊ยด…

ฟางเซี่ยนเซี่ยนตวัดจักรยานหลบไปอีกทางทำให้ล้อไถลลงข้างถนน

โครม…

ปึก!

“โอ๊ย!”

โชคไม่ดีเอาซะเลยเพราะศีรษะของเธอคล้ายกระแทกเข้ากับของแข็งจนชาหนึบ ของเหลวอุ่น ๆ ไหลลงต้นคอจนรู้สึกได้ ฟางเซี่ยนเซี่ยนได้ยินเสียงเร่งเครื่องยนต์ ไม่นานเสียงนั้นก็ห่างออกไป

เกิดเรื่องแล้วหนีเหรอ คนเลว!

ฟางเซี่ยนเซี่ยนพยายามดันร่างตัวเองขึ้นมาแต่กลับรู้สึกว่าตัวมันแข็งไปหมด ศีรษะที่ได้รับกระทบกระเทือนเมื่อครู่ทำให้เธอเริ่มอ่อนแรงไร้ซึ่งกำลัง

ฟางเซี่ยนเซี่ยนพยายามคว้าอากาศเข้าเต็มปอด ทั้งหนาวทั้งเจ็บ แต่จนแล้วจนรอดก็ลุกไม่ขึ้น

แม้แต่ปากก็ขยับไม่ได้ จึงได้แต่ร้องตะโกนภายในใจ

ฮื่อ…ไม่ทันได้อ่านนิยายเรื่องใหม่ก็ต้องตายแล้วเหรอ ไม่เอาหนูไม่ยอม จะตายก็ขอตายศพสวย ๆ พร้อมกับนิยายไม่ได้หรือไง ทำไมต้องมานอนอนาถาตรงนี้ด้วย สวรรค์ช่วยหนูทีฮื่อ…

ฟางเซี่ยนเซี่ยนได้แต่ตีอกชกตัวอยู่ในใจ ชีวิตนี้หากจะตายไปก็อยากตายอย่างมีความสุข อย่างน้อย ๆ ให้เธอทลายกองดองครบทุกเล่มก่อนสิ ทำแบบนี้ใจร้ายเกินไปหน่อยแล้ว

ระหว่างพร่ำเพ้อจนใกล้หมดสติ เจ้าตัวปัญหาก็กระโดดหย็อง ๆ ทิ้งตัวนั่งแหมะทับอกของเธอ ฟางเซี่ยนเซี่ยนสะดุ้งแทบกระอัก

หน็อย…เจ้าตัวเล็ก เป็นเพราะแกฉันถึงมีสภาพแบบนี้

ฟางเซี่ยนเซี่ยนพยายามใช้แรงเฮือกสุดท้ายเขม้นมองอาฆาตสัตว์โลกผู้เปรียบดั่งพยายมราชมากระชากวิญญาณอย่างเคียดแค้น กระทั่งเห็นหูสองข้างที่ตั้งขึ้น กับแววตาแดงระเรื่อพร้อมใบหน้าน้อย ๆ แสนน่ารักที่กำลังเมียงมองมาที่ตัวเธอด้วยความสงสัย ฟางเซี่ยนเซี่ยนก็โกรธไม่ลง

ใครใช้ให้เธอรักสัตว์กันเล่า

ที่แท้ก็เป็นกระต่ายน้อย โธ่…

ฟางเซี่ยนเซี่ยนจ้องตากับเจ้ากระต่ายน้อยที่ดูท่าว่ามันจะไม่ยอมขยับไปไหน เธอเองก็ไม่สามารถขยับปากขยับตัวได้เหมือนกัน

แต่แล้วจู่ ๆ ดวงตาสีแดงของกระต่ายน้อยก็เปล่งแสงวูบวาบสองสามครั้งอย่างกับเอ็กซ์เม็น ฟางเซี่ยนเซี่ยนจ้องมากเข้าก็ปวดหัวหนึบจนต้องหลับตาแน่น พริบตาสติของเธอก็ปลิวหายไปดั่งหิมะต้องสายลม

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel