ปรารถนารักข้ามมิติ

50.0K · จบแล้ว
เทียนสื่อ
21
บท
983
ยอดวิว
9.0
การให้คะแนน

บทย่อ

ฟางเซี่ยนเซี่ยนประสบอุบัติเหตุรถตกไหล่ถนน เพราะใจนึกถึงแต่นิยายที่ค้าง จิตวิญญาณเลยข้ามมิติเข้าไปในนิยายที่เพิ่งอ่านได้แค่บทนำ มิหนำซ้ำยังกลายมาเป็นเจ้าสาวในยุคจีนโบราณที่ถูกกลุ่มโจรดักปล้นขบวนเกี้ยว!

นิยายรักโรแมนติกนิยายจีนโบราณนักวรยุทธข้ามมิติจีนโบราณโรแมนติกเกิดใหม่ในนิยายผู้ชายอบอุ่นคนในใจการแต่งงาน

บทนำ ขบวนเจ้าสาวโดนปล้น

หญิงสาวร่างระหงนั่งมองเงาสะท้อนของตนผ่านคันฉ่องสีอำพัน เครื่องหัวและอาภรณ์วันนี้งดงามอย่างมาก ทว่าแววตาของผู้สวมใส่กลับแฝงไปด้วยความเศร้าหมอง

“ท่านแม่ลูกต้องแต่งจริงหรือเจ้าคะ แต่เดิมลูกกับท่านพี่ซ่งติดต่อกันน้อยมาก เขาเพิ่งกลับมารับตำแหน่งราชครูไม่นานอยู่ ๆ ก็ต้องออกเรือนเสียแล้ว ทำเช่นนี้ไม่เท่ากับมัดมือชกกันหรือ”

มือเรียวของมารดาบีบไหล่แคบของบุตรสาวแผ่วเบา “ลูกรักแต่แม่ได้ยินมาว่าเหวยซูส่งจดหมายมาหาลูกทุกเดือนไม่ใช่หรือ สิบปีมานี้จะถือว่าห่างเหินกันได้อย่างไร”

คิ้วสวยเคลื่อนเข้าหากัน “หา…ท่านแม่ทราบได้อย่างไรว่าท่านพี่ซ่งส่งมาทุกเดือน ข้ายัง…”

“เจ้ายังอะไร เรื่องเช่นนี้ต้องอายพ่อแม่ด้วยหรือ เลิกปิดบังได้แล้ว ตอนนี้อายุของเจ้าก็มิใช่น้อยไยจึงงอแงเป็นเด็กไม่รู้จักโต”

กลีบปากสีกุหลาบอ้าเผยอพลางกะพริบเปลือกตาถี่ ไม่ทันกล่าวประโยคสนทนาต่อก็ต้องกลืนน้ำลายลงคอเดี๋ยวนั้น

“ท่านแม่ ขบวนเกี้ยวเจ้าสาวมารอแล้วเจ้าค่ะ”

ผู้เป็นแม่เหลียวไปยังต้นเสียงพลางส่งยิ้มให้บุตรสาวบุญธรรม “ได้…เจ้าดูสิพี่สาวของเจ้างดงามหรือไม่”

น้องสาวหน้าตาจิ้มลิ้มยกริมฝีปากเป็นรอยยิ้ม มือที่กอบกุมบริเวณเข็มขัดผ้าบีบกันไว้แน่นกระทั่งเล็บจิกเข้าเนื้อจนรู้สึกเจ็บ “งดงามมากเจ้าค่ะ ไม่ว่าพี่หญิงจะสวมอาภรณ์ตัวใดก็ล้วนงดงามทั้งสิ้น”

“นั่นสินะ วันนี้เป็นงานมงคลของพี่เจ้า อีกไม่นานก็จะต้องถึงคราวเจ้าบ้าง มาเถิดมาช่วยแม่ประคองพี่ของเจ้าไปขึ้นเกี้ยวกัน”

“เจ้าค่ะ”

ขบวนเกี้ยวเจ้าสาวเคลื่อนตัวออกจากเรือนขุนนางใหญ่สกุลฟางแล้ว เจ้าสาวที่นั่งด้านในแอบหวั่นใจอยู่บ้าง มารดาของนางบอกว่าเขาส่งจดหมายมาให้นางตลอด แล้วเหตุใดจึงไม่เคยเห็นจดหมายที่ว่าสักแผ่น หรือว่าซ่งเหวยซูกุเรื่องโกหกเพื่อเข้าทางพ่อแม่ให้นางต้องเร่งแต่งงานกับเขา

ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกปวดขมับ หญิงสาวโยนความสงสัยทิ้งไว้เบื้องหลัง ถึงอย่างไรนางและเขาก็เป็นคู่หมั้นกันตั้งแต่ยังเยาว์ ต่อให้น้อยเนื้อต่ำใจก็มิอาจมีสิทธิ์มีเสียงต่อต้าน เป็นสตรียุคนี้ช่างดูด้อยค่ากว่าบุรุษยิ่งนัก

“พี่หญิงดูเหมือนว่าข้าจะลืม อย่างไรข้าขอตัวกลับไปครู่หนึ่งได้หรือไม่”

หญิงสาวที่นั่งอยู่ด้านในตอบกลับ “ได้สิ เช่นนั้นเจ้าพาองครักษ์อิงฮ่าวไปด้วยก็แล้วกัน”

องครักษ์หน้าซีด “แต่นายท่านให้ข้าคุ้มกันขบวนเจ้าสาวไปอย่างปลอดภัยนะขอรับ”

“นั่นสิพี่หญิง หากท่านองครักษ์ตามข้าไปด้วยจะดีหรือ ผ่านป่าไผ่กลับไปไม่กี่ลี้ [1] เท่านั้น ข้าจะรีบไปรีบกลับเจ้าค่ะ”

เสียงใสเอ่ยลอดเกี้ยว “นั่นยิ่งไม่ได้ ขบวนเจ้าสาวมีคนคุ้มกันตั้งมาก แต่เจ้ากลับไปเพียงลำพัง ท่านองครักษ์ถือว่าทำเพื่อข้าเถิด”

องครักษ์ทอดถอนใจ เขาเหลียวมองเกี้ยวและหญิงสาวใบหน้าจิ้มลิ้มสลับไปมา ยามนี้เดินทางออกมาจากจวนสกุลฟางไม่ไกลมากนัก หากเขาเร่งพานางควบม้ากลับไปไม่กี่อึดใจก็คงไม่เป็นอันใด

“ขอรับ เช่นนั้นข้าจะรีบไปรีบกลับ”

ทั้งสองควบม้าจากไปแล้ว ขบวนเจ้าสาวยังคงมุ่งหน้าต่อไปเรื่อย ๆ ตามเส้นทางอันเงียบสงัด

ครึก

ครึก

จู่ ๆ เกี้ยวเจ้าสาวก็โคลงเคลงผิดปกติ มือเรียวเลิกแพรผืนหนาที่กั้นประตูเกี้ยวออก “เกิดอะไรขึ้น!?”

“โจรขอรับ มีโจรดักปล้นขบวนเจ้าสาว!”

นัยน์ตาดอกท้อเบิกกว้างตะลึงลาน “โจรปล้นรึ!”

เชิงอรรถ

1. ^มาตราวัดระยะทางของจีน 1 ลี้ ยาวประมาณครึ่งกิโลเมตร.